แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1031 ภรรยาหึงหวงแล้ว



บทที่ 1031 ภรรยาหึงหวงแล้ว

“เดี๋ยวผมให้ชัยยศไปตรวจเช็กเรื่องนี้ดูสักหน่อย” แล้วบุริศร์ก็รีบโทรศัพท์ให้ชัยยศ

“ไปเก็บตัวอย่างเลือดของเนตรา แล้วก็คิดหาวิธีไปเก็บเลือด ของสามีภรรยางามพลในคุกมา ใช้ระยะเวลาที่สั้นที่สุดเอาไป ตรวจดีเอ็นเอ แล้วส่งผลมาให้ฉัน

“ได้ครับ”

ตอนที่บุริศร์โทรศัพท์อยู่นั้น นรมนเองก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ ในหัว สมองของเธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงคุณป้าใหญ่คนนั้นที่คุณท่านตน วรเคยพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้

เรื่องมันคงจะไม่บังเอิญขนาดนี้หรอกมั้ง?

“บุริศร์คะ คุณว่าถ้าเป็นฝาแฝดชายหญิงที่เกิดจากไข่ใบ เดียวกัน เปอร์เซ็นต์ความแม่นยำของดีเอ็นเอน่าจะเหมือนกัน มากหรือเปล่า?”

“ถ้าพูดตามหลักแล้วก็เป็นไปได้ ทำไมถึงได้ถามอันนี้ล่ะ?”
บุรีศรีรู้สึกไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย

นรมนบอกเรื่องคุณป้าใหญ่ของตัวเองให้บริศร์ฟัง

หลังจากที่บุริศร์ฟังจบแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น

“คุณสงสัยว่าแม่ของราเชนคือคุณป้าคนนั้นที่หายตัวไปตั้งแต่ เด็กของคุณเหรอ?”

“ฉันเดาว่าเป็นอย่างนั้นค่ะ ในเมื่อฉันก็เคยทำการตรวจ ดีเอ็นเอกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แล้วก็เคยทำการตรวจกับแม่ ของฉันแล้ว ฉันจะไปเป็นน้องสาวของราเชนได้ยังไงกัน? เขาเป็น ใครฉันยังไม่รู้จักเลย”

คำพูดของนรมนทำให้บริศร์ต้องครุ่นคิดขึ้นเล็กน้อย

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ? ฉันพูดผิดเหรอคะ?”

นรมนรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย

บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้น “ตอนนั้นตอนที่คุณตรวจดีเอ็นเอกับคิม และตรวจดีเอ็นเอกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดานั้นล้วนเป็นเพราะว่า ต้องการให้สถานะใหม่กับคุณ ในเมื่อห้าก่อนคุณก็ได้ตายไปแล้ว ถ้าอยากจะมีทะเบียนบ้านใหม่อีกครั้ง ก็จําเป็นจะต้องมีสถานะใหม่ และการตรวจดีเอ็นเอ ในตอนนั้นตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาก็เป็นฝ่ายเอาไปตรวจเอง”

นรมนเข้าใจว่าบริศร์อยากจะพูดอะไรขึ้นมาทันที

“เพราะฉะนั้นคุณคิดว่า เพื่อต้องการให้สถานะกับฉันอันหนึ่ง แล้ว ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ทำอะไรกับผลตรวจดีเอ็นเอไปเห รอ? เป้าหมายที่พวกเขาทําแบบนี้คืออะไรคะ? อยู่ดี ๆ จะให้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีลูกเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง? จำเป็นด้วยเหรอ”

คําพูดของนรมนไม่ได้ไร้เหตุผล

บริศ พูดอย่างทอดถอนใจขึ้นมาเล็กน้อยว่า “คุณพูดถูกแล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่คิดกันแล้ว เอาไว้ต่อไปถ้าไปเมืองแล้ว ไป เยี่ยมแม่ของราเชนแล้วค่อยว่ากัน ถ้าเกิดว่าเป็นคุณป้าใหญ่ของ คุณจริง ๆ ก็น่าจะหน้าตาเหมือนกับแม่ของคุณเปี๊ยบ พอถึงตอน นั้นก็น่าจะพออธิบายได้แล้ว แต่ว่าคุณอย่าเพิ่งให้ความสัมพันธ์ ของคุณกับราเซนถูกเปิดเผยไปนะ”

“เพราะอะไรคะ?”

นรมนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ

บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ราเชนเป็นองค์ชายรองของประเทศ ช่วงนี้ประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีของพวกเขากำลังมีความขัดแย้งกันเป็นอย่างมาก เกี่ยว กับปัญหาเรื่องผู้สืบทอดตอนนี้ภายในประเทศได้แบ่งออกเป็น สองฝ่ายแล้ว การแก่งแย่งชิงดีกันในตอนนี้ก็มาถึงขั้นที่ดุเดือด ที่สุดแล้ว ตั้งแต่แรกแม่ของราเชนนั้นก็เป็นเพียงแค่เมียคนที่ห้า ของประธานาธิบดี หลังจากที่ได้รับความรักและเอาใจใส่อยู่ไม่กี่ ปีก็ได้เสียชีวิตลง แล้วทิ้งราเชนไว้ให้ถูกรังแกอยู่ภายในนั้นคน เดียว และเพื่อต้องการลดจำนวนผู้มีสิทธิ์เป็นผู้สืบทอดลงแล้ว เขาถึงกับต้องโดนลอบทำร้ายหลายครั้ง ที่สามารถมีชีวิตอยู่รอด มาจนถึงวันนี้ได้ก็ไม่ง่ายแล้ว และเพื่อความอยู่รอดเขาจึงเลือก มาเข้าวงการบันเทิง และด้วยเหตุนี้คนพวกนั้นถึงได้เปิดทางให้ เขาด้านหนึ่ง แต่ว่าความทะเยอทะยานของราเชนนั้นก็มีไม่น้อย เขาอาจจะมีเหตุผลอย่างอื่นด้วย จึงได้แอบสะสมกองกำลังไว้เอง บางส่วน ตอนแรกกะว่าเอาไว้ใช้ป้องกันตัวเอง แต่ว่าตอนนี้ซินดี้ ได้ตายไปแล้ว เขาก็เลยบ้าไปเลย และตอนนี้ก็ได้กลับไปเปิดศึก อย่างเป็นทางการกับองค์ชายสามแล้ว”

“ถ้าเบื้องหลังความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนวุ่นวายนี้มาเกี่ยวข้องกับ คุณเข้าอีก ก็จะไม่เป็นผลดีเลย คุณลองคิดดูนะ เบื้องหลังของคุณ มีตระกูลพรโสภณและตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยู่ ซึ่งต่างก็เป็น กําลังทางทหาร แล้วรวมผมเข้าไปอีก ถ้าราเชนอยากจะดึงความเป็นญาติเข้ามาเกี่ยวข้อง แน่นอนว่าองค์ชายสามก็จะต้อง เกรงกลัว พอถึงตอนนั้นไม่แน่อาจจะนำพาอันตรายถึงแก่ชีวิตมา ให้คุณก็ได้ นรมน และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมไม่อยากจะให้ คุณรู้เรื่องตั้งแต่แรก ผมแค่ต้องการให้คุณมีชีวิตอยู่อย่างมีความ สุขและเรียบง่าย

หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น

เธอรู้ว่าสิ่งที่บริศ พูดมานั้นล้วนเป็นความจริง แต่ว่าคุณป้า ใหญ่ก็เป็นแก้วตาดวงใจในจิตใจของคุณตาด้วยเหมือนกัน

ถ้าเกิดสามารถแน่ใจได้ว่าแม่ของราเชนคือคุณป้าใหญ่จริง ๆ ละก็ ก็ถือได้ว่าสามารถทำให้คุณตารู้ข่าวคราวลูกสาวคนโตของ ตัวเองได้แล้ว

“ทําไมราเชนถึงได้เชื่อมั่นว่าฉันกับเขามีความเกี่ยวข้องกัน เป็นพี่น้องล่ะ?”

“ผมรู้สึกว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้จะต้องไม่ใช่ง่าย ๆ แน่ หลายปี มานี้ราเชนอยู่ในวงการบันเทิงมาตลอด แต่เรื่องในประเทศกลับ ไม่มีเรื่องไหนที่เขาไม่รู้ นี่เพียงพอให้สามารถพูดได้แล้วว่าเขามี หน่วยข่าวกรองของตัวเองอยู่ และเขาสามารถเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอของคุณไปตรวจได้อย่างไม่มีซุ้มเสียง เรื่องนี้เป็นความ ลับมากตั้งแต่แรก แต่ว่าทําไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้มาโดนกันยการเรื่องเข้าได้ล่ะ? แล้ว แฟนของกันยกาก็เป็นคนของกล้าณรงค์ด้วย แล้วกล้าณรงค์กับ องค์ชายสามก็เป็นพวกเดียวกัน คุณไม่รู้สึกว่าเรื่องพวกนี้มันช่าง บังเอิญเกินไปเหรอ? ถ้าเกิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่วางแผนมา หมดแล้ว ใครจะรับประกันได้ว่าผลตรวจดีเอ็นเอนั่นไม่ได้โดนคน ทําอะไรใส่ล่ะ? และที่สำคัญทำไมอยู่ ๆ ราเชนถึงรู้ว่าคุณมีตัวตน อยู่ด้วยล่ะ”

พอฟังคำพูดของบุริศร์แล้ว นรมนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที คนพวกนี้วัน ๆ เอาแต่หลอกลวงกันไปมา เหนื่อยกันบ้างไหม

“ถ้าเกิดว่าผลตรวจดีเอ็นเอโดนคนทำอะไรใส่ละก็ แล้วถ้าแม่ ของราเชนไม่ได้เป็นคุณป้าใหญ่ของฉันจริง ๆ แต่ว่าอีกฝ่ายกลับ ต้องการให้ราเชนเข้าใจว่าฉันเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา แล้ว เป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังนี้คืออะไรล่ะ?”

ดวงตาของบุริศร์หรี่ลงมา แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คิดว่าคง อยากจะใช้สงครามภายในของประเทศมากําจัดคุณกับผม”

“คุณหมายความว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นกลลวงเหรอคะ? แกล้งสร้างเรื่องขึ้นมาว่าฉันกับราเชนมีความเกี่ยวข้องกัน ๆ พวกเขาก็โยนเรื่องนี้ออกมาในเวลาแบบนี้ และอยากจะใช้ สงครามแย่งอำนาจภายในของประเทศ มากําจัดพวกเราทิ้ง พวกเขาไม่กลัวว่าพวกเราจะค้นหาความจริงเจอเหรอ? ยังไงซะ กระดาษก็ห่อไฟไว้ไม่อยู่ เรื่องโกหกก็ต้องเป็นเรื่องโกหก

“เพราะฉะนั้นคุณกับราเชนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้อง กัน”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปทันที

“หมายความว่าไงคะ?”

“ความหมายก็คือมีความเป็นไปได้สูงมากที่ราเชนจะเป็น ลูกชายของคุณป้าใหญ่ของคุณ และคุณกับราเชนก็เป็นลูกพี่ลูก น้องกัน แต่ว่าทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นเพียงแค่การคาดเดา ต้องรอให้ เราให้ไปเจอแม่ของราเชนก่อนถึงจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างที่ พวกเราคาดเดากันหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าเรื่องราวเป็นอย่างที่เรา เดากันละก็ ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังคนนี้ก็จะต้องรู้เรื่องที่ ลูกสาวคนโตของตระกูลพรโสภณหายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน เรื่องนี้ถึงแม้ว่าตอนนั้นอยู่ในเมืองชลธีจะโด่งดังเป็นอย่างมาก แต่ว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็นึกว่าลูกสาวคนโตของตระกูลพรโสภณ ถูกผู้ก่อการร้ายฆ่าตายไปแล้ว ต่อมาเรื่องที่ลูกสาวของตระกูลพร โสภณหายตัวไปก็มีคนรู้เรื่องน้อยมากแล้ว แต่ว่าคนคนนี้กลับรู้เรื่องนี้ ก็มากพอที่จะบอกได้แล้วว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลพร โสภณเป็นอย่างมาก หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือใกล้ชิดกันมาก เพราะฉะนั้นการมีตัวตนอยู่ของคนคนนี้ถึงจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว ที่สุด”

บุรีศร้ค่อย ๆ พูดเรื่องราวทีละขั้นทีละขั้นอย่างละเอียดกับนร มนรอบหนึ่ง

แล้วนรมนก็รู้สึกหงุดหงิดแทบตายขึ้นมาทันที

เธอมักจะรู้สึกว่าพอคู่แข่งคนหนึ่งโดนขจัดไปแล้ว และพอได้ อยู่อย่างสงบสุขได้เพียงไม่กี่วัน ก็มีคนร้ายอีกคนมารอตัวเอง แล้ว

วันเวลาแบบนี้เมื่อไหร่จะสิ้นสุดลงสักที

“อ้ายหยา ไม่คิดแล้ว เซลล์สมองตายไปตั้งเยอะแล้ว ช่างเถอะ ว่าเขาจะเป็นใคร ปล่อยไปตามสถานการณ์อะไรมาก็รับมือกับสิ่ง นั้น ตอนนี้ฉันแค่อยากจะมีชีวิตสงบสุขอยู่กับคุณ ทางที่ดีที่สุดคน พวกนั้นอย่างมารบกวนพวกเราในตอนนี้ ไม่งั้นละก็ ฉันจะไม่สน หรอกว่าเขาเป็นใคร จะฆ่าทิ้งให้หมดทั้งนั้น!

นรมนพูดขึ้นอย่างวางอำนาจ และทำปากเหมือนอย่างกับ เด็ก จนทำให้บริศร์หัวเราะขึ้นมาทันที
“อืม ไม่ว่าเป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังของคนคนนั้นจะคืออะไร พวกเราก็รอดูต่อไปก็พอแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น ถ้า เกิดคุณยังไม่วางใจอีก ก็สามารถทำการตรวจดีเอ็นเอกับตระกูล ทวีทรัพย์ธาดาอีกครั้งได้ ส่วนตัวผมรู้สึกว่า คุณเป็นลูกหลานของ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลพรโสภณแน่ และไม่ได้เกิดมา จากแม่ท้องเดียวกันกับราเชนหรอก”

“ฉันเองก็คิดแบบนี้ แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ราเซนจะ เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน พอคิดแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเก็บเกี่ยวอะไร ไม่ได้เลย อย่างน้อยเรื่องของคุณป้าใหญ่ก็พอมีทิศทางขึ้นมา บ้างแล้ว ถ้าคุณตารู้เรื่องเข้าละก็ จะต้องดีใจมากแน่ ๆ

นรมนพูดขึ้นอย่างดีใจ

แล้วบุริศร์เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเหมือนตัวเองจะลืมบอกเรื่อง อะไรอย่างหนึ่งกับนรมนไป

“นรมน เหมือนกับว่าผมจะลืมบอกคุณไป ว่าแม่ของราเชนเสีย

ชีวิตไปแล้ว”

ทั้งตัวนรมนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

เธอทบทวนคำพูดที่สนทนากับบริศร์เมื่อขึ้นรอบหนึ่ง แล้วถึง พบว่าตอนที่บุริศร์พูดถึงราเชนนั้น เคยพูดว่าแม่ของราเชน แต่งงานได้ไม่กี่ปี เสียชีวิตไปแล้ว

และก็หมายความว่า ราเชนอยากให้พวกเขาไปเจอก็คือป้าย หลุมศพของแม่เขาเหรอ?

ใจของนรมนรู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที

“ยังดีที่ยังไม่ได้บอกกับคุณตา ไม่งั้นก็จะต้องผิดหวังอีกแล้ว ฉันรู้สึกว่าสวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับคุณตาเลย ลูกสาวทั้งสองคน ต่างก็จากไปก่อนท่าน คนผมหงอกต้องมาส่งคนผมดำ ทำให้ ท่านต้องมาทนรับกับความสะเทือนใจ บุริศร์ คุณจะต้องรับปาก กับฉันนะ ในอนาคตถ้าแก่แล้วคุณจะต้องตายหลังฉันนะ จะต้อง รอให้ฉันตายแล้วคุณค่อยตายนะ ฉันไม่อยากจะเห็นคุณจากโลก นี้ไปกับตา ฉันต้องทนไม่ไหวแน่ ๆ

อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา “ยัยโง่ ตายไม่ตายอะไรกัน พวกเราจะต้องมีชีวิตอยู่ดี ๆ เอา ล่ะ ผมจะไปทํากับข้าวแล้ว อยากกินอะไร?”

“ฉันอยากจะกินคน ได้ไหมคะ?”

นรมนกะพริบตาปริบ ๆ อยู่

หว่างขาของบริศ รู้สึกร้อนขึ้นมา แต่ว่าพอคิดถึงการผ่าตัด เล็กเมื่อเช้า เขาก็กระแอมไอขึ้นมาที่หนึ่ง “คนมีพิษอยู่ กินไม่ได้ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเถอะ”

นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที

“คิดอะไรน่ะ กินอะไรก็ได้ไปดูว่าลูกสาวของคุณอยากจะกิน อะไรก็กินอันนั้นเถอะ อ๋อ ใช่แล้ว กมลล่ะ?”

นรมนถึงเพิ่งจะนึกถึงกมลขึ้นมาได้ แค่ไปล้างผลไม้ทำไมถึงได้ หายตัวไปเลย?

เธอรีบลุกขึ้นยืนทันที แล้วเดินไปทางห้องครัว

บริศ เดินตามมาอยู่ข้างหลัง

พอทั้งสองคนมาถึงห้องครัวแล้ว ถึงพบว่ากผลกำลังอุ้มถุงผล ไม้ไว้ถุงหนึ่งแล้วนั่งกินเงียบ ๆ อยู่ในห้องครัว ท่าทางแบบนั้น เหมือนกับว่าหิวไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้วยังไงอย่างงั้น

มุมปากของนรมนกระตุกไปหลายที

“กมล หนูบอกหม่ามมาได้ไหม ว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่?

“กินผลไม้อยู่ค่ะ”

มุมปากของกมลเปื้อนน้ำสีแดงของแก้วมังกรอยู่ อยู่ ๆ มองไป ยังทำให้คนตกใจอยู่บ้าง
“แต๊ดดี้ของหนูซื้อมากลูก? หนูกินเป็นกองขนาดนี้เลยเหรอ? หนูไม่กลัวว่าจะท้องเสียกลางดึกเหรอ?”

“แต่ว่ามันอร่อยมากเลยค่ะ

กมลขยับกรามไป พูดไปด้วยแล้วก็ยัดใส่ปากไปด้วย เพราะ กลัวว่านรมนจะมาแย่งเอาไป

บุริศร์จ้องมองสองแม่ลูกไปอย่างรู้สึกว่า แล้วก็แย่งแก้วมังกร ออกมาจากมือของกมล “ของสิ่งนี้กินเยอะแล้วท้องไส้จะรับไม่ไหวนะ เด็กดี ไปล้างมือ

ล้างหน้าสักหน่อยนะ เดี๋ยวแด๊ดดี้ทำปีกไก่ต้มโค้กให้หนูกิน

“ได้ค่ะ รักแด๊ดดี้ที่สุดเลย ม๊วฟ!!

พอกผลได้ยินว่ามีของอร่อยกิน ก็ลุกขึ้นมาทันทีแล้วไปหอม แก้มบุริศร์ที่หนึ่ง แล้วก็หอมเป็นรูปรอยปากแดงพอดี จากนั้นก็ หัวเราะแหะ ๆ แล้วก็วิ่งออกไปเลย

นรมนพูดขึ้นอย่างรู้สึกหมดคำพูดว่า “คุณดูซิ เป็นเด็กผู้หญิง คนหนึ่ง วัน ๆ รู้จักแต่กิน นี่ถ้าอนาคตแต่งไม่ออกนี้จะทำยังไง ล่ะ?”

“แต่งไม่ออกผมก็เลี้ยงเอง ลูกสาวผมของเอง ผมยังจะเลี้ยง ไม่ไหวเลยเหรอ?”
บุริศร์พูดได้อย่างไม่อาย อยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงสายตาที่เย็นเฉียบ เหมือนมืดของนรมนมองมาทางตัวเอง

เขาถามขึ้นอย่างเหมือนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ “ทำไมเหรอ? ผมพูด อะไรผิดเหรอ?”

“หึ! เพื่อคนรักตัวเล็กของคุณแล้ว อะไรก็สามารถทำให้ได้จริง ๆ บุริศร์ ฉันจะบอกอะไรคุณนะ เงินพวกนั้นของคุณมันเป็นของ ฉันทั้งหมดของฉัน! คุณกล้าเอาเงินของฉันไปเลี้ยงคนรักตัวเล็ก ของคุณ คุณมันคนโลเล คุณมันคนลืมบุญคุณคน คุณมัน……….

นรมน โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงหมุนตัวแล้วก็จากไป

บุริศร์รู้สึกมึนงงไปทั้งหน้า

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

คนรักตัวเล็กของเขาคือกลมเหรอ? กมลไม่ใช่ลูกสาวของเธอ กับนรมนหรอกเหรอ? ทำไมถึงได้เป็นคนโลเล ทำไมถึงได้กลาย เป็นคนลืมบุญคุณคนไปได้ล่ะ?

บริศ คิดไปประมาณเกือบห้านาที ในที่สุดก็รู้สึกถึงปัญหา อย่างหนึ่ง

ภรรยาของเขาหึงหวงแล้ว!
งยังเป็นลูกสาวของตัวเองอีก

บริศร์รู้สึกไม่รู้จะทำยังไงอยู่บ้าง นี่มันคือจะต้องให้เขา โอ้เหรอ?

ทำไมแค่ไม่เจอกันไม่กี่วัน ภรรยาของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งจะเป็นเจ้า หญิงน้อยที่เอาแต่ใจแล้วเหรอ?

บุริศร์ยิ้มจาง ๆ ขึ้น แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดัง ขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ