แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1210 เกรงว่าพวกเขาจะดูถูกเขาแล้วล่ะ



บทที่ 1210 เกรงว่าพวกเขาจะดูถูกเขาแล้วล่ะ

ดวงตาบุริศร์มีความเย็นชาและการเยาะเย้ย

“ฉันยังมีทางเลือกไหม?”

ประโยคนี้ทําให้ดวงตาพฤกษ์มีความเสียใจเล็กน้อยทันใด

“ประธานบริศร์ ผมฟังคุณทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง ผมก็ทำตามคุณ ไม่เสียใจภายหลังแน่นอน”

สีหน้าแววตาพฤกษ์เด็ดเดี่ยวอย่างมาก ชีวิตนี้ของเขานั้นบุริศร์เป็นคนแย่งมันกลับมาจากมือพญายม ตอนนี้คืนให้กับเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดทั้งหมด

แต่บุริศร์กลับตบบ่าเขาแล้วพูดขึ้น “อย่าพูดคำโง่ๆ แบบนี้ พฤกษ์ ตอนนี้นายก็ถือว่ามีคนในครอบครัวแล้ว ดูคมทิพย์สิ คิดถึงอนาคตของพวกนาย สิ่งที่นายควรทำหลังจากนี้ คนที่นาย ต้องปกป้องในอนาคตก็คือเธอ”

“แต่ประธานบริศร์ ผมก็ต้องปกป้องคุณเหมือนกัน” ดวงตาพฤกษ์เปียกชื้นเล็กน้อย

ถ้าไม่มีบุริศร์ จะมีเขาที่มีชีวิตและการแต่งงานที่มีความสุขเช่น นี้ได้อย่างไร?

บุริศร์ส่ายหน้าพูดขึ้น “ไม่มีใครปกป้องฉันได้ตลอดชีวิตจริงๆ คนที่ปกป้องฉันได้มีแค่ภรรยาและลูกๆ ของฉันเท่านั้น ดังนั้นพฤกษ์ หลังจากเรื่องครั้งนี้ นายก็ออกไปซะ ทรัพย์สินครอบครัว ในตัวนายตอนนี้มากพอสำหรับชีวิตในอนาคตของนายกับคน ทิพย์แล้ว ฉันรู้ความรักระหว่างคมทิพย์กับนรมน แต่ถ้าเรา จัดการธุระของเราไม่สำเร็จ จะไม่ติดต่อพวกนายชั่วคราว บริษัท ผลิตภาพยนตร์ของนรมนฉันจะให้พริมาบริหาร ไม่ต้องเป็นห่วง อนาคตของคนทิพย์ สำหรับเรื่องอื่นๆ พวกนาย ใช้ชีวิตของตัว เองให้ดี ก็เป็นการช่วยเหลือฉันกับนรมนมากที่สุดแล้ว

ดวงตาพฤกษ์แดงจนน้ำตาเกือบไหลทันที

“ประธานบุริศร์ ตอนนี้คุณรีบออกจากเมืองชลธีแบบนี้ เอา อุตสาหกรรมทุกอย่างของตัวเองมอบให้ชัยยศทั้งหมด จะต้อง เจอเรื่องใหญ่ที่แก้อะไรไม่ได้แน่เลย ถ้าพฤกษ์อย่างผมทิ้งไม่ สนใจคุณ ในเวลาแบบนี้ ผมถือว่าเป็นคนไหมครับ?”

บุริศร์จับมือเขาแน่น พูดขึ้นเสียงทุ้ม “นี่ฉันก็ใช้คอนเน็กชั่นข องนายไม่ใช่เหรอ? เอาสิทธิทั้งครอบครัวเราส่งมอบออกไปโดย ใช้ช่องทางของนาย

“แต่ผมต้องปกป้องพวกคุณ”

“ฉันบอกแล้ว คนที่นายต้องปกป้องในอนาคตก็คือเมทิพย์ พฤกษ์ นายเป็นผู้ชาย ผู้ชายต้องปกป้องผู้หญิงของตัวเองให้ดี ไม่ต้องคิดเหมือนฉัน ให้ผู้หญิงที่ฉันรักน้อยใจและทุกข์ยากมาก ขนาดนี้ คมทิพย์เป็นผู้หญิงที่ดี และเป็นเพื่อนที่นรมน ใส่ใจ ดังนั้น นายฟังฉันให้ดีนะ ต้องดีกับเธอ และพวกนายเที่ยวฮันนีมูนกับ พวกเรา สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เหมาะ นายไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ถ้าการเรียบร้อยแล้ว ฉันจะโทรหานาย ถึงตอนออกฉันไม่ยอมด้วย”

มุมปากบริศ ยกขึ้นเล็กน้อย ท่าทางมั่นใจนั้นทำให้ในใจ พฤกษ์วิตกกังวลมาก

ยิ่งอันตรายแค่ไหน บุริศร์ยิ่งสงบ เรื่องเขารู้

เขาอยากเดินไปหน้ากับบุริศร์จริงแต่เขาเข้าใจ ตัดสินใจอะไรบางอย่างไม่ว่าใคร

พฤกษ์หน้า อารมณ์รู้สึกแย่มาก

นรมนคมทิพย์กันเจื้อยแจ้วในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ได้ยิน ริศร์และพฤกษ์พึมพำอะไรกันอยู่ข้างหลังเลย

อัลบั้มเธอฉันฟังแล้วนะ มันดีมากจริงๆ ริชาร์ดได้ไหม

อัลบั้มถัดไปออกเมื่อไร?

นรมนเห็นคนทิพย์สวยมีเสน่ห์ยิ่งเพราะเข้าวงการบันเทิง ยิ่งตัวเอง

นักออกแบบมืออาชีพทำได้ทุกทิพย์ได้ไม่ว่าสามารถทำได้ทุก

ในใจคมทิพย์ตื่นเต้นมากเช่นกัน ได้ความสำเร็จเช่นนี้

เองคาดไม่ถึงเลย “ริชาร์ดเคยบอกว่าหน้าจะเริ่มเขียนเพลงใหม่ ฉันรักษาคอให้”
“งั้นเธอต้องสู้ๆ เดี๋ยวฉันต้องออกไปอวดว่าฉันคือเพื่อนรักของ คมทิพย์นักร้องมีชื่อเสียง พระเจ้า คิดแล้วรู้สึกดีมาก!

นรมนและคมทิพย์หัวเราะด้วยกันทันที

ทันใดนั้นบุริศร์ก็เปล่งเสียงพูด “นรมน ฟังนะ วันนี้พฤกษ์กับ นรมนขึ้นเรื่อง เราจะออกไปเที่ยวกัน ไม่แสดงออกก็ไม่ได้ใช่ ไหม? ฉันว่าตอนนี้บริษัทผลิตภาพยนตร์ของคุณพัฒนาได้ไม่เลว ไม่งั้นเอาเป็นของขวัญแสดงความยินดีให้คมทิพย์ไหม

นรมนและคมทิพย์ตกตะลึงเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ไม่ได้ ฉันไม่เอา นั่นเลือดเนื้อนรมน”

คมทิพย์ปฏิเสธทันที

นรมนประหลาดใจนิดหน่อย

น้อยครั้งมากที่บุริศร์เข้ามายุ่งเรื่องตน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอา บริษัทตน ให้คนอื่น

ถ้าจะให้ของขวัญแสดงความยินดีกับพฤกษ์และคมทิพย์ ตระกูลโตเล็กสามารถเอาของที่มีค่ามากกว่าบริษัทผลิต ภาพยนตร์ออกมาได้ แล้วทำไมบุริศร์ถึงทำแบบนี้ล่ะ?

ในนี้มีความหมายอะไรลึกซึ้งหรือเปล่า? แต่ความคิดเช่นนี้ก็เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง

นรมนรีบยิ้มขณะพูดขึ้น “ได้สิ ตอนแรกที่สร้างบริษัทผลิต ภาพยนตร์ก็เพื่อคมทิพย์ ตอนนี้คมทิพย์ก็ถือเป็นคนในวงการบันเทิงแล้ว มีบริษัทผลิตภาพยนตร์ของตัวเองก็จะดีขึ้นหน่อย วงการบันเทิงนี้มันดังและพังภายในข้ามคืนได้ พฤกษ์จะคุ้มกัน เธอได้อย่างแท้จริง ยังต้องใช้เวลาสักพัก พอดีเลย พริมาเป็นคน ของบุริศร์ ให้หล่อนควบคุมบริษัทผลิตภาพยนตร์ให้เธอ เธอจะ ได้เหนื่อยน้อยลง และตอนแรกที่สร้างบริษัทผลิตภาพยนตร์ก็ เพื่อเธออยู่แล้ว ในวันนี้เธอสามารถประสบความสำเร็จได้ ความ คิดฉันก็ถือว่าไม่เสียเปล่าแล้ว และพูดตามตรงนะ ฉันไม่ค่อยเก่ง เรื่องธุรกิจเท่าไร ตั้งใจจะหยิบพู่กันมาออกแบบอีกครั้ง เธอถือว่า ช่วยฉันหน่อยนะ ช่วยรับความยุ่งเหยิงไปหน่อยได้ไหม?

พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าคมทิพย์ฟังไม่ออกถึงความยืนกรานของ นรมนอีก เธอทคบกับนรมนมาตั้งหลายปีก็เสียเปล่าแล้ว แต่ใน ดวงตาก็มีหมอกชั้นหนึ่งลอยขึ้นมา

“นรมน เธอพูดจาน่าฟังให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันเองก็รู้ เธอทำ บริษัทผลิตภาพยนตร์มาก็เพื่อฉัน ตอนนี้เอาบริษัทผลิต ภาพยนตร์ให้ฉัน เธอจงใจอยากให้ฉันรู้สึกติดหนี้เธอไปทั้งชีวิต ใช่ไหม?”

“ฉันพูดจริง ฉันไม่ได้คิดแบบนี้จริงๆ”

นรมนรีบยื่นมือออกไป เช็ดน้ำตาที่ขอบตาคมทิพย์จนแห้ง หมดแล้ว จากนั้นก็กอดเธอ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เราเป็นพี่น้องที่ดีไป ตลอดชีวิต อะไรที่ฉันให้เธอก็รับไว้ ที่ฉันกับบริศร์ออกไปครั้งนี้ ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ไหม ถ้ากลับไม่ได้ ของของฉันก็ถือให้เธอ ช่วยฉันดูแล รอลูกๆ ฉันเติบโต เธอก็มอบให้พวกเขาก็พอ โอเค ไหม?”
เสียงเธอไม่ดัง ได้ยินชัดกันแค่สองคนเท่านั้น ทำให้สีหน้าคม ทิพย์เปลี่ยนไปทันที

“นรมน เธอหมายความว่าไง?

” ไม่ต้องถาม และไม่ต้องสนใจด้วย คมทิพย์ ฉันกับบุริศร์มี เส้นทางที่ต้องเดินเป็นของตัวเอง บ้างเรื่องพูดกับเธอแค่นิด หน่อยก็ไม่รู้เรื่องหรอก แต่ฉันหวังว่าไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน เธอก็ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ในวันนี้ได้เห็นเธอแต่งงาน กับพฤกษ์แล้ว รู้ว่าเขานิสัยเป็นยังไง ฉันก็วางใจแล้ว สัญญากับ ฉันนะ ชีวิตที่เหลือนั้นใช้ให้ดี ไม่ว่าฉันจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็ต้องใช้ ชีวิตของตัวเองให้ดี ถ้าเป็นไปได้ เอาความสุขของฉันไปด้วย

ขณะที่นรมนยิ้ม ในดวงตาก็มีน้ำตา

เธอรู้สึกได้ว่าการเดินทางครั้งนี้มันผิดปกติอย่างมาก และรู้สึก ได้ว่าบุริศร์เหมือนมีบางเรื่องปกปิดเธออยู่ ยิ่งรู้สึกได้ถึงกระแส คลื่นโหดซัดซ่อนอยู่รอบๆ ตัว

แต่ทุกอย่างมันแค่คาดเดา จนกระทั่งบุริศร์บอกว่าเอาบริษัท ผลิตภาพยนตร์มอบให้คมทิพย์เธอถึงตระหนักได้ว่า การออก จากเมืองชลธีครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

นี่บุริศร์คงเตรียมของนอกกายไว้ให้เธอ

คิดเรื่องนี้เข้าใจแล้ว หัวใจนรมนูที่แขวนไว้ก็ปล่อยวางลง ตราบใดที่อยู่กับบริศร์ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เธอก็ไม่กลัว
ถึงแม้คมทิพย์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนรมนและบริศร์ และไม่ ได้ยินข่าวลืออะไรด้วย แต่ตอนนี้ได้ยินนรมนพูดเรื่องพวกนี้ ใน ขณะที่หัวใจเธอก็มีความไม่สบายใจเอ่อขึ้นมา ก็เข้าใจเหตุผล หนึ่ง แค่มีความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเอง ถึงจะยื่นมือออกไป ช่วยเหลือตอนที่นรมนต้องการเธอได้

การร้องไห้ไม่เต็มใจเหล่านั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรสักนิด สําหรับนรมนมันใช้การไม่ได้

เมื่อก่อนเธอไม่เข้าใจเลยที่นรมนแต่งงานกับใครสักคน ทำไม จะต้องเข้าไปพัวพันหลายเรื่องขนาดนั้นด้วย จนกระทั่งตัวเอง ผ่านเรื่องราวบางอย่างมา หลังจากพัฒนาในวงการบันเทิงเธอถึง ได้เข้าใจ คนรวยไม่ได้มีความสุขสดใสอย่างที่คนจนเห็นเสมอ

ความมั่งคั่งก็หมายถึงการโดนเล่นงาน หมายความว่า อันตรายที่ไม่รู้จัก ต้องรอบคอบทุกย่างก้าว

ตอนนี้เธอยังเป็นมือขวาของนรมนไม่ได้ แต่เธอมั่นใจว่า สามารถพยายามตามทันได้ ถ้าอนาคตนรมนถูกกำหนดให้มี อุปสรรคขวากหนามตลอดทาง ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะสวมชุดเกราะ เพื่อเธอ เป็นผู้นำทางเลยเป็นไง?

มิตรภาพทั้งสองคนในชาตินี้อย่างไรแล้วก็แยกไม่ได้ การแยก กันในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เพื่อการอยู่ร่วมกันที่ดียิ่งขึ้น

ในใจคมทิพย์มีความคิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากกอดนร มนไว้แน่นก็ปล่อย

เธอยิ้มขณะพูดขึ้น “ไม่ต้องเป็นห่วง บริษัทผลิตภาพยนตร์ของขวัญแสดงความยินดีชิ้นนี้ฉันจะรับมันไว้

“โอเค”

นรมนอยากช่วยคมทิพย์ตลอดเวลา แต่รู้ความหยิ่งยโสของ คมทิพย์ ในขณะนี้คมทิพย์ถือว่ามีแผนในใจแล้ว ได้แต่งงานกับ สามีอุดมคติ ทุกอย่างของปัญญ์ก็อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง คนที่ เธอเป็นห่วงก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว

ทั้งสองคนคุยกันเรื่องอื่นอีกครั้ง เสียงหัวเราะระหว่างสาวน้อย ก็เต็มไปทั่วทั้งรถทันที ทำให้บรรยากาศในรถมีความกลมกลืน และอ่อนโยนอย่างมาก

ดวงตาบุริศร์จ้องมองนรมนตลอดเวลา

ผู้หญิงของเขามีท่าทางฮึกเหิม เหมือนสุนทรพจน์ครั้งนั้นช่วง เรียนมหาวิทยาลัยเลย

บุริศร์ไม่เคยบอกนรมนมาก่อน ช่วงมหาวิทยาลัยนรมนเคย เข้าร่วมการแข่งขันสุนทรพจน์ครั้งไหน เขาก็จะไปฟังทั้งหมด แต่ ด้วยความรีบร้อย มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็น

นรมน ในครั้งนั้นก็เหมือนตอนนี้ ฮึกเหิมเหมือนดวงดาวที่สว่าง ที่สุดบนท้องฟ้า น่าสะดุดตาและทำให้หัวใจสั่นไหว

พฤกษ์ไม่ได้รบกวนพวกเขา นั่งอยู่ข้างๆ เงียบๆ หยิบโทรศัพท์ ออกมาเพื่อเตรียมการอะไรบางอย่าง

โทรศัพท์บุริศร่งขึ้น
ป้องส่งวีแซทมา

“ไปหรือยัง?”

“ยัง”

บุริศร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ป้องค่อนข้างกังวลทันที

“ทางทะเล ทางบก ทางอากาศถูกจำกัด มีคนไปหานายที่ ตระกูลโตเล็กและตระกูลพรโสภณ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โทรศัพท์ นายอาจจะถูกตรวจสอบ หลังจากส่งข้อความนี้เสร็จ โทรศัพท์ นายจะหยุดชั่วคราว นายก็รู้ ถ้าจำเป็นต้องติดต่อฉัน ไม่มี โทรศัพท์ก็ทำได้”

“รู้แล้ว”

ดวงตาบุริศร์เย็นซาเล็กน้อย

ความเร็วนี้มันค่อนข้างเร็ว

ทางทะเล ทางบก ทางอากาศถูกจํากัดแล้วเหรอ?

ฮาๆ!

เกรงว่าพวกเขาจะดูถูกเขาแล้วล่ะ

ราชาไร้มงกุฎแห่งเมืองชลธีผู้มีเกียรติอย่างเขา จะปล่อยให้ พวกเขาปู้ยี่ปู้ยำได้จริงๆ งั้นเหรอ?

ก่อนหน้านี้กังวลเกี่ยวกับสถานะและการปฏิบัติตามกฎระเบียบอื่นๆ ในตัว อย่างไรแล้วมันเพราะเขายอมกังวลเอง ใน ขณะนี้คริขณะถูกตรวจสอบ เขาไม่มีคนที่ต้องกังวลแล้ว คนพวก นั้นมีสิทธิอะไรมาคิดว่าเขาจะเชื่อฟังพวกเขาเป็นอย่างดี?

ไม่ว่าจะให้ความร่วมมือในการสอบสวนก็ดี กระตุ้นให้เขา กลับไปปราบปรามเรื่องหมู่บ้านดารายน ในตอนนั้นก็ดี บริศร์ อย่างเขาไม่สนใจทั้งนั้น

คิดถึงตรงนี้ มุมปากบุริศร์ก็ยกยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา เกิดเสียง “ปัง” ก็โยนโทรศัพท์ออกไปนอกหน้าต่างทันที

รถด้านหลังหลบไม่ทัน เหยียบโทรศัพท์โดยตรง โทรศัพท์ แตกละเอียดทันที แตกจนไม่รู้จะแตกอย่างไรแล้ว……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ