แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 431 คุณย่าเป็นแบบนี้มันทำให้หนู กลัวนะคะ



บทที่ 431 คุณย่าเป็นแบบนี้มันทำให้หนู กลัวนะคะ

ยิ่งคุณนายทวีทรัพย์ธาดามองก็ยิ่ง ถูกใจ

เด็กดี! เธอต้องมารับความไม่เป็นธรรม แล้ว! เดิมทีย่าคิดว่าการให้เธอได้เข้ามาอยู่ใน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะทำให้เธอโชคดี แต่ พอเธอเข้ามาอยู่จริงกลับต้องโดนคนรังแกอยู่ ตลอด เป็นเพราะย่าที่ไร้ความสามารถ จึง ปกป้องเธอไม่ได้ วันนี้ต่อให้พวกเราทั้งสองคน ต้องตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่อาจปล่อยให้พวกคน ทรามก่อกรรมชั่วได้

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาพูดจบก็ถลึงตา จ้องมองไปยังนรมน

นรมนมองเห็นการของพวกเขา แล้ว ก็ยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน

“ความรักระหว่างย่าหลานช่างลึกซึ้งเสีย จริง แต่เธอไม่จําเป็นต้องท่าตัวเสแสร้งต่อ หน้าฉันหรอกนะดุลยา เธอเป็นคนยังไง ฉันรู้ดี ยิ่งกว่าใคร ถ้าวันนี้เธออยากจะฝังศพตัวเองอยู่ ที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ฉันจะช่วยทำให้สำเร็จ เอง

นรมนกล่าวพลางทำท่าโบกมือ ทันใดนั้น ใช้ร่างใหญ่สี่ห้าคนในชุดสีดำก็เดินเข้ามา

“ครับคุณนาย! ”

“โยนสองคนนี้ออกไป จำไว้ว่าอย่าให้ พวกเธอกัดลิ้นฆ่าตัวตายได้ เดี๋ยวจะเป็นการ ใส่ร้ายป้ายสีพวกเราเสียเปล่าๆ

“ครับ!”

ขณะที่ชายในชุดนํากำลังมองและก้าว เข้ามา ดุลยาก็ตื่นดลอดเป็นอย่างมาก

“บริศร คุณจะยืนมองแล้วปล่อยให้นรมน ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายแบบนี้จริงๆ อย่างนั้น เหรอ เธอเป็นสะใภ้ของตระกูลโตเล็ก ถ้าหาก เรื่องนี้แดงขันมาละก็ ตระกูลโตเล็กก็ต้องเข้า มาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน คุณลองคิดถึง รากฐานอันยาวนานของตระกูลโตเล็กส์ แล้ว ก็ยังมีแม่ของคุณอีก รวมไปถึงพวกเด็กๆ อนาคตของพวกเขาจะเป็นยังไง คุณจะปล่อย ให้ความใจร้อนชั่ววูบของนางบ้านั่นทำลายทุก ” อย่างจนหมดเลยเหรอคะ

ดุลยาคิดว่าบุริศร์บ้าไปแล้ว

นโมนทำเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ ทว่าเขา กลับยังเอาแต่ยืนมองอยู่ด้านข้างโดยไม่แย้ง อะไรออกมาสักนํา หรือว่าเขาอยากจะเห็น ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาถูกทำลายด้วยน้ำมือ ของนรมนจริงๆ

บริศร์กลับยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “นรมนเป็น ภรรยาของฉัน เธออยากจะทำอะไรก็ทำได้ทั้ง นั้น ในฐานะที่ฉันเป็นสามีของเธอ ก็พร้อมที่จะ ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเธออย่างเต็ม ที่ อย่าว่าแต่ตระกูลโตเล็กเลย เพราะต่อให้ ภรรยาของฉันอยากจะได้ดวงดาวบนท้องฟ้า ฉันก็จะหาวิธีไปเก็บลงมา หนำซ้ำยังเป็นแค่ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตระกูลเล็กๆ หากวันนี้ เธออยากจะทําราบให้สงบลง ก็ไม่นับว่าเป็น อะไร”

คำพูดที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและ ถือดีเช่นนี้เกือบจะทำให้คุณนายทวีทรัพย์ ธาดาหน้ามืดตาลาย

เธอไอติดต่อกันหลายครั้ง ดุลยาจึงรีบ เข้าไปปลอบเธอทันที

“คุณย่าคะ อย่าโกรธไปเลยนะ คุณย่า เป็นแบบนี้มันทําให้หนูกลัวนะคะ”

ดวงตาของดุลยาแดงก่ำ ราวกับว่าเธอ สามารถที่จะร้องไห้ได้ทุกที่ทุกเวลา

เมื่อเห็นบริศร์ปกป้องตัวเองแบบนี้ นรมน ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านในใจ หลังจากมอง เขาด้วยแววตารักใคร่ลึกซึ้งก็หันไปพูดกับ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาว่า “ฉันจะพูดอีกรอบ คืนลูกของฉันมา ถ้าได้ตัวเด็กมาแล้วฉันจะไป ทันที ตั้งแต่นี้ไปต่อให้มีผู้อาวุโสในตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาดายฉันก็จะไม่กลับมา และสาบาน เลยว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับที่นี่อีก

“ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร แต่การที่ เธอพาคนเข้ามาสร้างความวุ่นวายในตระกูล ทวีทรัพย์ธาดาแบบนี้ แล้วยังปล่อยให้ผู้ชาย ของตัวเองลงมือกับกิจการของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาแบบนี้ เพราะคิดว่าจะสามารถปิด ท้องฟ้าด้วยมือเดียวได้อย่างนั้นเหรอ ฉันไม่ เชื่อเด็ดขาด ถ้าหากวันนี้เราสองคนย่าหลาน ต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ คิดว่าเธอกับตระกูลโต เล็กจะสามารถหนีรอดไปได้อย่างนั้นเหรอ”

ครั้งนี้คุณนายทวีทรัพย์ธาดายอมเทหมด หน้าตักแล้ว

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็ไม่มีวันยอม ให้นรมนได้มีชีวิตดีๆ

นโมนเห็นคุณนายทวีทรัพย์ธาดายืน หยัดขนาดนี้ก็ลังเลไปพักหนึ่ง

หรือว่าจําต้องบุกเข้าไปอย่างไม่สนใจ อะไรแล้วจริงๆ

แต่ถ้าไม่เข้าไป ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่า ดอน กมลเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

ในตอนนั้นเองบุริศร์ก็มายืนอยู่ข้างหลัง แล้วใช้แขนโอบเอวบางของเธอเอาไว้ ก่อนจะ พูดเสียงเรียกว่า “ถ้าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาคิด จะฆ่าตัวตายจริงๆ พวกเราก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่วันนี้พวกเราต้องหาตัวคนที่เราต้องการให้ พบ จึงต้องขออภัยด้วยจริงๆ พวกนายบุก เข้าไปค้นได้แล้ว”

“เธอกล้าเหรอ!”

สิ่งที่คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาให้ ความสําคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่อะไรอื่น แต่ เป็นศักดิ์ศรีของตระกูล

ถ้าหากเธอปล่อยให้คนของบุรีศรีบุกเข้า มาในตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ละก็ แบบนั้น แล้วชื่อเสียงตลอดหลายปีมานี้ของตระกูลยัง จะต้องการอีกไหม ขณะพี่ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีใครได้ขยับตัว

ธรณีก็กลับมาพอดี

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บุริศร์ นรมน ทุก คนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น มีอะไรก็ พูดคุยกันดีๆ สิ จะทำแบบนี้ไปทำไมกัน

การกลับมาของธรณีทำให้คุณนายทวี ทรัพย์ธาดาได้พบกับที่ยึดเหนี่ยวของตัวเอง แล้ว

“ธรณี พวกเขาจะบังคับให้แม่ตาย แล้ว ยังคิดจะบุกเข้าไปในบ้านของเราอีก! ดูเสียสิ นี่เป็นหลานสาวที่ลูกคอยปกป้องมาตลอด อย่างนั้นเหรอ! ลูกเอาแต่พูดว่าเธอใจดีมี เมตตา บอกว่าเธอไม่มีทางที่จะทำเรื่องพวก นั้นได้ แล้วตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ บอก มาสิว่าลูกจะอธิบายยังไงที่เธอวิ่งมาบีบบังคับ ให้แม่ตายถึงหน้าประตูบ้านของพวกเรา

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาร้องไห้ฟูมฟาย ออกมา ไม่มีศักดิ์ศรีของผู้อาวุโสอีกแล้ว ธรณีถูกน้ำตานี้ของเธอทำให้ปวดใจไม่ น้อย กล่าวเสียงเบาว่า “แม่ครับ แม่อย่าร้องไห้ สครับ อาจมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันก็ได้

“ไม่ได้มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรอกค่ะ คุณอา นรมนพาคนบุกเข้ามาแบบนี้ ทั้งยัง พูดจาดูถูกฐานะของวงตระกูลพวกเราต่างๆ นานา ยังบอกว่าจะต้องบุกเข้ามาค้นให้ได้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกเราจะปล่อยให้ คนอื่นบุกเข้ามารื้อค้นง่ายๆ ได้ยังไง ตอนนี้ เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย มีกฎของ กษัตริย์เสียที่ไหน”

ดุลยาราดน้ำมันลงบนกองไฟ ทั้งยังเพิ่ม เติมความอิจฉาริษยาเข้าไปอีกหลายส่วน

นรมนกับบริศ กลับไม่ได้เอ่ยแย้งสักคำ ตั้งใจดูการแสดงของพวกเธออย่างเงียบๆ

เมื่อธรณีเห็นบริศร์กับนรมนทำท่าทีแบบ นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงไป

“นรมน บุริศร์ วันนี้พวกเธอคิดจะทำอะไร กันแน่ ถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คงไม่ได้เพื่อที่จะ มาพบแม่ของฉันหรอกใช่ไหม”

คิดจะทำอะไรคุณชายธรณ์ไม่รู้อย่างนั้น เหรอ”

นรมนเปลี่ยนคำเรียกชื่อของเขาทันที

เป็นธรรมดาที่ธรณีจะรับรู้ได้ถึงการ เปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนนี้ ทั้งยังสัมผัสได้ ถึงความเป็นปฏิปักษ์ของนรมน

เธอกำลังเป็นปฏิปักษ์ต่อตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา!

ความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ธรณีขมวดคิ้วแน่นจนแทบจะรวมเป็น ก้อนเดียวกัน

“ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น และหวัง ว่าเธอจะบอกกันสักหน่อย ถ้าหากเป็นความ ผิดของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริงๆ ฉันก็จะไม่ ปกป้องคนผิดอย่างแน่นอน คำพูดของธรณีทำให้นรมนตกตะลึงไป ชั่วขณะ

บริศ กล่าวเสียงต่ำ “ในเมื่อคุณชายธรณี พูดแบบนี้แล้ว พวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อคุณสัก ครั้ง เย็นวันนี้กมลลูกสาวของพวกเราถูกคน ลักพาตัวไปจากข้างถนน รถที่คนพวกนั้นขับก็ ล้วนแต่เป็นรถหรู ทั้งยังเชี่ยวชาญจนแม้แต่คน ของตระกูลโตเล็กก็ยังสู้ไม่ได้ ลองถามดูสิว่า ในเมืองชลธีแห่งนี้ นอกจากจะเป็นคนของ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้ว ยังมีใครอื่นที่ สามารถทำแบบนี้ได้อีกอย่างนั้นเหรอ นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดา เคยไปเยือนคฤหาสน์ของพวกเรามาก่อนเพื่อ โน้มน้าวให้ผมกับภรรยาหย่ากัน แล้วมา แต่งงานกับดุลยาแทน ทั้งสองตระกูลต่าง วุ่นวายเป็นอย่างมาก ภรรยาของผมไม่ยอม ตกลง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณก็เลย เริ่มออกลายเล่นลูกไม้ชั่วช้าแล้วใช่ไหม ลักพาตัวเด็กอายุ ขวบไปเพื่อข่มขู่พวกเรา ต้อง แชมที่ตระกูลของพวกคุณกล้าทําออก มาได้จริงๆ ”

หลังจากธรณีฟังบุรีศร์พูดจบก็ตะลึงไป

“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน

ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ คนของผมเห็นกับ ตาว่ารถคันนั้นขับเข้ามาในพื้นที่ของตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา ถ้าหากคุณชายธรณีไม่เชื่อละก็ สามารถเข้าไปดูได้เลยว่าล้อของรถคันนั้นยัง เปื้อนโคลนจากหน้าประตูบ้านพวกเราอยู่หรือ เปล่า”

คำพูดของบุรีศร์ทำให้สีหน้าของธรณี เริ่มไม่ค่อยจะน่ามอง

ทันใดนั้นเขาก็หันกลับไปมองจ้อง คุณนายทวีทรัพย์ธาดากับดุลยา แล้วพูดออก มาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกแม่ทำอย่าง นั้นเหรอ”

“พวกเขากำลังใส่ร้ายเราอยู่ต่างหาก! พวกเราไม่ได้รู้เรื่องลักพาตัวอะไรนี่เลยสักนิด เลยนะคะ!” ดุลยารีบพูดออกมา แต่กลับถูกธรณี ต่อว่าเสียงดัง

หุบปาก! ฉันไม่ได้ถามเธอ! แม่ครับ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราได้ทำเรื่องพวกนี้ หรือเปล่าครับ”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเห็นธรณีถามตัว เองแบบนี้ต่อหน้าทุกคนก็โมโหจนตัวสั่น

แกถามแม่ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาท่า หรือเปล่าอย่างนั้นเหรอ”

ธรณีไม่สนใจเลยสักนิดว่าตอนนี้คุณนาย ทวีทรัพย์ธาดาจะพูดอะไร

เขากลัว !

เขากลัวว่าแม่ตนเองจะสติเลอะเลือนจน ทําเรื่องชั่วช้าพวกนี้ลงไปจริงๆ สร้างความ วุ่นวายจนไม่อาจซ่อมแซมความสัมพันธ์กับ ตระกูลโตเล็กได้อีกแล้ว

อาจจะเป็นเพราะแววตาของธรณีเย็น เยียบเกินไป หรืออาจเป็นเพราะรู้สึกว่าตนเอง ใครจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ คุณนาย ทวีทรัพย์ธาดาจึงพูดออกมาอย่างไม่สบ อารมณ์ว่า “พวกเราไม่ได้ทํา จะให้พวกเขา พูดอะไรก็ถูกไปหมดแบบนี้ไม่ได้นะ! หรือถ้า ต่อให้บอกว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวก เราฆ่าคนแล้ววางเพลิง พวกเราก็ต้องยอมรับ อย่างนั้นเหรอ”

นรมนโกรธมากจนอยากพูดอะไรบาง อย่าง แต่ถูกบุริศร์หยุดไว้

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นซาว่า “คุณนาย ทวีทรัพย์ธาดา พูดไปก็เท่านั้น ถ้าหากคุณไม่ ได้แอบซ่อนอะไรเอาไว้จริงๆ ทางที่ดีที่สุดก็ให้ พวกเราเข้าไปตรวจดู ผมบอกแล้วไงว่าคน ของผมเห็นรถคันนั้นขับเข้ามาในเขตของ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ถ้าหากที่สวนด้านหลัง ของพวกคุณไม่มีรถคันนั้นอยู่จริงๆ วันนี้ผมก็จะ ยอมรับผิด คุณจะว่ายังไงก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้ามีรถ

คันนั้นอยู่ละก็ หวังว่าคุณชายธรณีจะช่วยพูด ให้พวกเราสองสามีภรรยา ลูกสาวของผมพึ่ง เข้ารับการผ่าตัดมาไม่นาน ร่างกายยังคง อ่อนแออยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่าหาว่าผมไม่ เกรงใจ! ต่อให้ต้องวุ่นวายใหญ่โตไปจนเรื่อง ถึงเมืองหลวง พวกเราก็ไม่หวาดกลัวตระกูล ทวีทรัพย์ธาดา!”

เมื่อบุรีศร์พูดออกมา ธรณีก็สั่นสะท้านไป ในทันที

เขารู้ดียิ่งกว่าใครว่าเด็กๆ มีความหมาย ต่อบริศร์และนรมนมากแค่ไหน

ครั้งก่อนนรมนยอมเสียลูกไปคนหนึ่ง เพื่อยารักษาของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ถ้า หากครั้ง คนของเขาเป็นฝ่ายลักพาตัวกมลไป จริงละก็ เช่นนั้นตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของ พวกเขาคงต้องจบสิ้นจริงๆ แล้ว

เพียงแต่ธรณียังไม่ทันได้พูดอะไรออก มา คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ไม่ยินดีเลยสักนิด แล้ว

“พวกเธอเห็นว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เป็นอะไร คิดจะค้นก็ค้นได้อย่างนั้นเหรอ ยิ่งไป กว่านั้นจะว่ายังไงตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของ พวกเราก็เป็นตระกูลของวีรบุรุษ ไม่มีทางที่จะ ปล่อยให้พวกเธอทําตามอำเภอใจแบบนี้ได้ หรอกนะ!

“ฉันยอมให้พวกเธอเข้าไปตรวจค้น!

ธรณีตรงไปเปิดประตูโดยไม่สนใจ คุณนายทวีทรัพย์ธาดา

คุณนายทวีทรัพย์ธาดามองลูกชายตัว เองอย่างตกตะลึง ก่อนจะตะโกนออกมาว่า แกมันไอ้ลูกไม่รักดี หน้ามืดตามัวไปหมด แล้ว! แกรู้ไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมาฮะ ! รู้ตัวบ้างไหม!”

เธอใช้ไม้เท้าที่ถืออยู่ข้างตัวฟาดลงบน ร่างกายของธรณี

ดุลยารู้สึกจิตใจไม่ค่อยสงบ จึงรีบพูด ออกมาว่า “คุณลุงคะ พวกเราให้คนของเรา เข้าไปค้นดูเองก็ได้นี่คะ ปล่อยให้ตระกูลโต เล็กเข้ามาแบบนี้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของ พวกเราจะกลายเป็นอะไรไปแล้ว ถึงยังไง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราก็เป็นตระกูลของ วีรบุรุษ ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปละก็ ตระกูลของพวกเราจะยังมีหน้ามีตาอยู่ได้ยังไง ใครเขาจะพูดกันเอาว่าพวกเรากลัวตระกูลโต เล็กน่ะสิคะ”

“ได้ยินแล้วหรือยัง กระทั่งดุลยาก็ยังรู้ เรื่องนี้ดี แต่แกที่เป็นถึงผู้นำตระกูลกับไม่ เข้าใจอะไรเลย ธรณี แกถูกผีห่าบังตาไปแล้ว หรือยังไง”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาแทบจะใช้ไม้เท้า เปิดหัวสมองของธรณีออกมาดูว่าข้างในมี อะไรอยู่

ธรณีมองพวกเธอด้วยสายตาเย็นชาแล้ว กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ในเมื่อเรื่องนี้ไม่

เกี่ยวข้องกับพวกแม่จริงๆ ถ้าอย่างนั้นจะกังวล ไปทําไมกัน ถ้าหากมีข่าวลือแพร่ออกไป ก็มา จากปากคนของพวกเราทั้งนั้น พวกแม่ยังจะ กลัวอะไรอีกอย่างนั้นเหรอครับ หรือจะบอกว่า เป็นอย่างที่พวกนรมนเชื่อว่า พวกแม่ลักพาตัว ลูกของเธอไปจริงๆ

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาถูกประโยคย้อน ถามนี้ของธรณีทำให้ตะลึงไปชั่วขณะ

“พูดบ้าอะไรของแกนะ พวกเราจะไป ลักพาตัวเด็กมาได้ยังไง แล้วก็ไม่ใช่ว่าแกจะ ไม่รู้ว่า แม่เพิ่งจะได้ฟื้นขึ้นมาเมื่อกี้นี้เอง แกคิด ว่าแม่ของแกเป็นเทพเซียนหรือยังไง จะได้ ถอดวิญญาณออกไปลักพาตัวเด็กได้น่ะ”

“แล้วเธอล่ะ”

สายตาของธรณีพุ่งตรงไปยังตุลยา ทำให้เธออดหนาวสั่นไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ