แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 93 คุณเป็นคนสร้างสถานการณ์ทั้งหมดใช่



บทที่ 93 คุณเป็นคนสร้างสถานการณ์ทั้งหมดใช่

ไหม? บุริศร์ใช้มือลูบๆ ของเหลวสีแดงสดทำให้เขาทำตัวไม่ถูก

นิดหน่อย

เขารีบลุกขึ้นยืน แล้วไปเข้าห้องน้ำ ล้างน้ำเย็นด้วยความ

รุ่นแรง

ในตอนนี้ พฤกษ์ก็เคาะประตูเข้ามาพอดี

“คุณบุริศร์ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาฝั่งนั้น….”

“ออกไป”

บุริศร์เสียงเย็นชา เสียงที่ฉุนเฉียวอย่างนั้นทำให้พฤกษ์ ตกใจ

“คุณบุริศร์?”

น้อยครั้งมากที่พฤกษ์จะได้เห็นท่าทางของบุริศร์ที่แสดง อารมณ์อย่างนี้ จึงอยากจะเข้าไปดูในห้องน้ำสักหน่อย ก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้นมา: “ตอนนี้นายรีบออกไปก่อนจะดี ที่สุด! ถ้าดวงตามองสะเปะสะปะไปทั่ว เห็นอะไรที่ไม่ควร เห็นขึ้นมา ฉันจะควักดวงตาทั้งคู่ของนาย!”

คำพูดนี้ทำให้พฤกษ์ไม่กล้าเดินเข้าไปแล้ว เขาอยากจะดู มากๆว่ารอบๆมีอะไรที่ตนไม่ควรมอง แต่เขาไม่กล้า รีบ รับปากแล้วถอยออกไปจากห้องทำงานทันที

ได้ยินเสียงประตูห้องทำงานปิดลงแล้ว บุริศร์ก็เป่าปากอย่างผ่อนคลาย

เขาไม่กล้าอยู่ในห้องน้ำนานเกินไป หลังจากเอาน้ำเย็น ปะทะหน้าเสร็จแล้วก็รีบออกมาจากห้องน้ำทันที

ในวีดีโอนรมนก้มตัวลงบนโต๊ะเริ่มวาดรูปแล้ว

แต่ก่อนบุริศร์ไม่รู้เลยว่านรมนชอบวาดรูปขนาดนั้น วันนี้ เขาเพิ่งจะพบว่าตนเองเข้าใจนรมนน้อยเกินไปจริงๆ

ล้วนแต่พูดกันว่าผู้หญิงสวยที่สุดก็ตอนที่ตั้งใจจริงจัง

นรมนในตอนนี้ตกอยู่ในห้วงความคิดท่ามกลางแสงไฟที่ อ่อนโยน บุริศร์มองท่าทางที่ตั้งใจอย่างนั้นด้วยหัวใจที่เต้น แรงมากขึ้น อดไม่ได้ที่จะจูบลงบนหน้าจอที่กั้นเอาไว้

เขาโทรหานรมนอย่างไม่ได้ตั้งใจ

นรมนได้ยินเสียงโทรศัพท์ ด้วยจิตใต้สำนึกก็มองดูครั้ง

หนึ่ง

บุริศร์เห็นตอนที่นรมนดูเบอร์โทรศัพท์อย่างชัดเจนขมวด

คิ้วขึ้นเล็กน้อย

นั่นคือการปฏิเสธ!

ไม่นึกว่าเธอจะปฏิเสธสายของเขา!

ดูแล้วเธอคงอดไม่ได้ที่จะปฏิเสธคนอย่างเขา รวมไปถึง สำหรับทุกอย่างที่เป็นของเขาเธอก็จะกำจัดออกไปให้หมด

แต่เป็นเพราะอะไรล่ะ?

เธอเคยรักตนขนาดนั้น นี่ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ?

บุริศร์รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เขาดื้อรั้นโทรหาเธอไม่หยุด

นรมนเห็นโทรศัพท์ส่องแสงออกมาไม่หยุด เพราะกลัวว่า จะกระทบต่อกานต์ที่หลับไปแล้ว เธอจึงเริ่มปิดเสียง แต่ หน้าจอที่ส่องแสงไม่หยุดอย่างนั้นกลับทำให้เธอ กระวนกระวายใจ

ผู้ชายคนนี้จะทำอะไรกันแน่?

นรมนถือโอกาสคว่ำโทรศัพท์ลง ถือเสียว่าแค่ไม่เห็นก็ ไม่มีอะไรแล้ว

บุริศร์มองจากฝั่งนั้นอย่างชัดเจน

แต่แรกเขาก็แค่อยากจะได้ยินเสียงของเธอก็เท่านั้น แต่ ตอนนี้เห็นท่าทางของเธอที่ทำกับเขาแล้ว ความโมโหก็วน เวียนอยู่ในอก อย่างไรก็ไม่หายไป

บุริศร์โทรหานรมนอย่างอดทน

นรมนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงรับโทรศัพท์ขึ้นมา “คุณบุริศร์ ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรหรือ?”

“ไม่มีเรื่องโทรคุณไม่ได้หรือ? หรือจะบอกว่าคุณไม่อยาก รับโทรศัพท์ฉัน? ฉันช่วยคุณจัดการสถานการณ์ที่ยากจะ แก้ไขได้ คุณก็เลยทำอย่างนี้กับฉันหรือ?”

บุริศร์กลับไม่ได้อยากทำให้นรมนซาบซึ้งใจอะไรหรอก แต่ตอนนี้เห็นเธอปฏิเสธตนอย่างนั้น เขาก็ไม่สบายใจ แต่เขาไม่สบายใจแล้ว เขาก็ไม่อยากทำให้นรมนไม่สบายใจ ไปด้วย

ผู้หญิงคนนี้เคยให้เขาเป็นคนสำคัญที่สุด รักเขายิ่งกว่า สิ่งใดทั้งหมด ตอนนี้กลับหลบหลีกเขาราวกับคนใจร้าย อยากจะซ่อนตัวให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เหลือเกิน

บุริศร์รับไม่ได้กับค่าตอบแทนที่แตกต่างจากที่คิดเอาไว้ มากอย่างนี้

เขาไม่พูดให้ดีกว่านี้สักหน่อย ฟังบุริศร์พูดอย่างนี้ นรมน ก็ยิ้มเย็นชาขึ้นมาทันที

“นี่คุณบุริศร์กำลังแสดงตัวเป็นผู้มีพระคุณใช่ไหม? แต่ ฉันจำได้ว่าก็ไม่ได้ขอให้คุณบุริศร์มาแก้ปัญหาแทนฉัน ไม่ใช่หรือคะ? เพียงแค่คุณบุริศร์บอกมาคำเดียว พรุ่งนี้ก็ จะกลับไปจัดการด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้คุณบุริศร์สิ้นเปลือง แรงแล้ว”

พูดเสร็จ นรมนก็วางสายไปทันที

ก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีกับเขาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้เพราะ เรื่องของคุณย่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เธอก็ยิ่ง สะอิดสะเอียน บุริศร์อย่างถึงที่สุด

ผู้ชายจอมปลอม!

หลังจากนรมนตัดสายโทรศัพท์ ไม่ปิดบังอารมณ์ของตน ที่มีต่อบุริศร์เลยสักนิด

บุริศร์เห็นการเหยียดหยามของนรมนจากทางหน้าจอ ก็ ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ค่อยปกติ

ท่าทางที่นรมนปฏิบัติต่อเขากับตอนที่เรื่องเมื่อครู่เพิ่งเกิด ขึ้นท่าทางไม่เหมือนกัน

มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?

บุริศร์คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

เขาเห็นนรมนทิ้งรูปที่วาดไว้ข้างๆทันที เตะโต๊ะอย่าง รุนแรง แต่ก็ในตอนนี้ กานต์พลิกตัว แล้วเตะผ้าห่มตกลงไป

ท่าทางของนรมนเปลี่ยนเป็นคุณแม่ที่มีเมตตาทันที

สายตาที่อบอุ่นอย่างนั้นทำให้ทุกคนต่างก็อิจฉาจริงๆ บุริศร์รู้สึกว่าตนเองบ้าไปแล้ว!

ไม่นึกว่าเขาจะอิจฉาลูกชายของตนเองขึ้นมาได้! แต่นรมนดีกับกานต์มากจริงๆ

เธอเดินมาถึงข้างเตียงอย่างนุ่มนวล ห่มผ้าให้กานต์ใหม่ อีกครั้งอย่างเบามือ จากนั้นก็จูบลงบนหน้าผากของกานต์ สายตานั้นราวกับน้ำที่อบอุ่นจนจะทำให้คนจมน้ำตายได้ เลย

จู่ๆบุริศร์ก็มีความปรารถนาที่พุ่งสูงขึ้น

เขาอยากเจอนรมน

ไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ชอบที่จะต้องเจอเขา ไม่ว่าเธอจะ มีท่าทางอย่างไร เขาคิดถึงเธอ!

เขาก็อยากจะรู้สึกถึงความรู้สึกที่มีนรมนอยู่ข้างกายจริงๆ

บุริศร์ลุกขึ้นทันที ปิดวิดีโอแล้ว ก้าวเท้าออกไปจากห้อง

ทำงาน

พฤกษ์รออยู่ด้านนอกตลอด แค่เห็นบุริศร์เดินออกมา ก็ รีบเข้าไปต้อนรับทันที

“คุณบุริศร์ครับคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาฟื้นแล้ว คุณอยากไปดูสักหน่อยไหมครับ?”

ฝีเท้าของบุริศร์หยุดลงทันที

ทำไมบังเอิญขนาดนี้?

เขาเพิ่งอยากจะไปหานรมน คุณย่าตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาก็ฟื้นแล้ว?

พฤกษ์คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะหยุดอย่างฉับพลัน เบรกเอาไว้ ไม่อยู่ ชนเข้ากับด้านหลังของบุริศร์ทันที เจ็บจมูกที่ชนเข้า อย่างจัง แต่ก็ไม่ใส่ใจ ถอยหลังแล้วพูดขึ้น: “ขอโทษครับ คุณบุริศร์”

“เตรียมรถ ไปโรงพยาบาล!”

ตอนนี้แม้ว่าเขาจะอยากเจอนรมนมาก แต่คุณนาย ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาฝั่งนี้ก็ประมาทไม่ได้ หลังจากใช้ ดุลพินิจดูแล้ว บุริศร์จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลก่อน พฤกษ์ไม่กล้าชักช้า รีบไปเตรียมรถทันที

ตอนที่บุริศร์ถึงโรงพยาบาล คนของตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาก็ถึงแล้ว
ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีเพียงธรณีอยู่คนเดียวตอนที่เห็น บุริศร์ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย

“คุณบุริศร์ คุณมาแล้ว?”

“คุณชายธรณี ฉันมาดูคุณหญิง”

บุริศร์ยังคงนับถือธรณี อันที่จริงวีระบุรุษที่สละชีพเพื่อ ชาติเป็นที่นับถือของทุกคน และตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทั้ง สามรุ่นต่างซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติและยอมพลีชีพเพื่อ ชาติ ยิ่งธรณีนั้นเพื่อไม่เป็นการทำให้ประเทศชาติเดือด ร้อนก็เลยขอเปลี่ยนอาชีพอีกด้วย

ธรณีด้วยความโมโห จึงพูดจาไม่ค่อยเกรงใจไปเอง

“มาดูว่าแม่ฉันตายหรือเปล่าใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าผู้ หญิงคนนั้นเป็นแฟนของคุณชายเจตต์ แต่กลับเป็นดีไซน์ เนอร์ของบริษัทคุณ อีกทั้งยังอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่ตระกูล โตเล็ก บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กมีไว้ให้ลูกสะใภ้ของตระกูล โตเล็กอยู่ ดังนั้นคุณบุริศร์จะอธิบายให้ฉันฟังสักหน่อยได้ ไหม สรุปว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรกันแน่?”

ตอนที่บุริศร์ได้ยินธรณีบอกว่านรมนเป็นแฟนของเจตต์ ก็ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง

“ใครบอกว่าเธอเป็นแฟนของเจตต์?”

“เจตต์เป็นคนพูดเอง ประกาศออกสื่อแล้วด้วย ทำไม หรือ? คุณบุริศร์ไม่รู้?”

ธรณีกลับไม่คิดว่าบุริศร์จะใส่ใจปัญหานี้
บุริศร์หันไปมองพฤกษ์ทันที

พฤกษ์พูดอย่างน้อยใจนิดหน่อย: “เมื่อครู่ผมจะบอกคุณ แต่คุณให้ผมออกไปนะครับ”

หน้าอกของบุริศร์ขึ้นๆลงๆอย่างฮวบฮาบ

เขากำลังมองธรณี พูดอย่างชัดเจน: “เธอเป็นผู้หญิงของ ฉัน เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลโตเล็ก”

“นั่นก็แสดงว่าคุณบุริศร์ไม่คิดจะหลบหนีเรื่องนี้ใช่ไหม?” ธรณีไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

บุริศร์พูดอย่างจริงจัง: “เรื่องนี้เป็นอย่างไรกันแน่ ฉันคิด ว่าคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดารู้ดีที่สุด พวกเราเข้าไป ถามคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะไม่ดีกว่าหรือ?”

“ก็ดี ถ้าแคทเธอรีผู้หญิงคนนี้มีความเกี่ยวข้องจริงๆ ก็ หวังว่าคุณบุริศร์จะไม่ขวางฉันไว้นะ คุณรู้อยู่แล้ว ตระกูล ทวีทรัพย์ธาดามีศัตรูต้องแก้แค้น มีความแค้นต้องชำระมา โดยตลอด”

ธรณีกลับรู้สึกสบายอกสบายใจอย่างเปิดเผย

บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “เรื่อง ทั้งหมดของเธอฉันจะรับไว้เอง”

“อย่างนั้นหรือ? ฉันก็กลัวว่าคุณบุริศร์จะรับไว้ไม่ไหว! ได้ยินมาว่าตระกูลโตเล็กเหลือเพียงคุณบุริศร์ที่เป็น ทายาทเพียงคนเดียวแล้ว ถ้าฉันต้องการชีวิตของเธอล่ะ? คุณบุริศร์จะให้ไหม?”
ธรณีพูดอย่างโหดร้าย

บุริศร์มองเขาอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น: “ตอนนี้เรื่องนี้ยัง ไม่มีผลสรุป ถ้าพิสูจน์แล้วว่าเกี่ยวข้องกับแคทเธอรีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษอย่างไร ฉันบุริศร์ก็จะรับไว้เอง ผู้ชายของตระกูลโตเล็กอย่างพวกเราปกป้องผู้หญิงของ ตนเองได้!”

“อย่างนั้นหรือ?”

ธรณียิ้มอย่างแฝงไว้ด้วยความหมาย แล้วก็ผลักรถเข็น เข้าห้องคนไข้ตามต้องการ

คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ ดู แล้วอ่อนแอมากเหลือเกิน

ธรณีเห็นคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาในขณะนั้น ยก ไม้เท้าทั้งหมดขึ้นมา เดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน จับมือของ คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้วพูดขึ้น: “แม่ครับ

ขอโทษด้วย เพราะผมไม่กตัญญู ทำให้แม่ต้องทรมาน”

คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอยากจะพูดอะไร แต่ไม่มี

แรงพอ

ธรณีก้มตัวลงไป ก็ได้ยินคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดา บอกว่า: “ลูกออกไปก่อน แม่มีเรื่องอยากคุยกับบุริศร์ส่วน

ตัว”

“แม่ครับ ผมไม่สามารถปล่อยให้แม่อยู่คนเดียวได้ แม้ว่า แม่อยากจะพูดอะไร ผมก็จะอยู่ข้างๆไม่สร้างปัญหา” ตอนนี้ธรณีป้องกันตัวจากบุริศร์อย่างเข้มงวดมากเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นศัตรูกัน แต่บุริศร์กลับไม่รู้ว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตนเองผิดใจกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดากลับเด็ดขาดมาก

ธรณีเห็นท่าทางที่เด็ดขาดเช่นนี้ของแม่ ก็ไม่ใจแข็งแล้ว ทำได้เพียงตอบตกลง แต่ตอนที่เดินผ่านข้างกายของบุริ ศร์ ก็พูดเสียงต่ำ : “คุณจะพูดอะไรก็จำไว้สักหน่อย ถ้าแม่ ฉันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แม้จะต้องชดใช้ด้วยทั้งหมดของ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ฉันก็จะไม่ให้อภัยพวกคุณตระกูล โตเล็กกับตระกูลรัตติกรวรกุล !”

บุริศร์พยักหน้าเล็กน้อย

“วางใจเถอะ ฉันกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณ ไม่มีความแค้น กับคุณหญิงยิ่งไม่มีเรื่องบาดหมาง ฉันยัง อยากให้ผู้หญิงของฉันขาวสะอาดอยู่นะ”

“อย่างนี้ดีที่สุด!”

หลังจากที่ธรณีเตือนเสร็จแล้วก็ออกจากห้องคนไข้

หลังจากบุริศร์ปิดประตูห้อง เพียงหันกลับมา ท่าทางของ คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาที่อ่อนแอเมื่อครู่ยังมีอยู่อีก ที่ไหน?

เธอลุกขึ้นนั่งทันที ยื่นมือออกมาถอดเครื่องช่วยหายใจ ท่าทางที่ป่วยเมื่อครู่กำจัดออกไปหมดแล้ว

ถ้าบุริศร์ไม่รู้ว่าหมอที่รักษาของโรงพยาบาลนี้ไม่ สามารถโกหกเขาได้ บางทีเขาอาจจะคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้ คงเป็นสถานการณ์ที่หลอกลวงสถานการณ์หนึ่ง
บุริศร์มาที่ด้านหน้าของคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เรียกเธออย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”

“สวัสดีจ๊ะ!”

คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดายิ้มอย่างเรียบเฉย ดวงตา ขุ่นๆคู่นั้นกลับเป็นประกายส่องแสงออกมา คุณหญิงคนนั้น ที่ได้พบในตอนแรกแตกต่างเหมือนกับเป็นคนละคนกัน อย่างน่าเกรงขาม

บุริศร์นั่งเผชิญหน้ากับคุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดา พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ผมขอ ถามได้ไหมครับ ทั้งหมดนี้เป็นสถานการณ์ที่คุณสร้างขึ้น มาใช่ไหม?”

ถึงเวลานี้แล้ว บุริศร์ยังคงเดาอะไรไม่ออกสักนิด เหมือน กับหลายปีมานี้ก็เสียแรงเปล่าจริงๆ

คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดามองบุริศร์ด้วยสายตาที่ เข้าใจเป็นอย่างดี ยิ้มแล้วพูด: “คุณบุริศร์เป็นคนฉลาด คิด ว่าฉันทำอย่างนี้เพราะอะไรล่ะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ