แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 303 นายจะเกิดมาหล่อทำไมล่ะ



บทที่ 303 นายจะเกิดมาหล่อทำไมล่ะ

เมื่อเห็นแววตาของคุณนายโตเล็ก ทำให้นรมนก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยัง ไง แต่ว่าพอเธอเห็นกมล เธอยิ้มพลางพูดขึ้นว่า : “กมล ดูสิว่าหม่าม้ซื้อ ของอร่อยอะไรมาให้? ”

“อ่า แอปเปิ้ล! ”

กมลดีใจจนเผยรอยยิ้มออกมา

เธอชอบกินแอปเปิ้ลเป็นอย่างมาก แต่เมื่อก่อนเป็นเพราะระบบไตไม่ ค่อยดี เธอจึงทานได้ไม่มาก บางครั้งทานได้เพียงเล็กน้อย ความรู้สึก อยากกินแต่กินไม่ได้มันแยจริง ๆ

วันนี้เมื่อเห็นนรมนซื้อแอปเปิ้ลมา เธอก็ดีใจเป็นอย่างมาก

กมลยิ้ม เดินเข้ามาพลางพูดขึ้นว่า: “แม้ว่าตอนนี้จะทานได้ แต่ก็ไม่ ควรทานเยอะ เพราะเพิ่งผ่าตัดเสร็จ”

“หม่าม ทำไมหม่ามจะต้องโหดร้ายขนาดนี้ด้วย? ”

กมลทำปากจู่ แสดงถึงความผิดหวัง

นรมนลูบหัวของเธอพลางพูดขึ้นว่า: “หมามีหวังดีกับลูกนะ ลูกยัง คิดดูนะคะว่าลูกยังต้องใช้ชีวิตต่อไป ตอนนี้จะเอาแต่ใจได้เหรอ คะ ?

ศีรษะจิ้มลิ้มของกมลเอียงไปอีกข้างหนึ่ง กดเสียงลงต่ำพลางพูดขึ้น ว่า: “ไม่ได้”

“ดังนั้นจะทานได้แค่ 1 ใน 3 ส่วน

“ค่ะหม่าม”

หลังจากที่แม่ลูกตกลงกันเสร็จ นรมนก็ปอกเปลือกแอปเปิ้ลให้กับ กมล จากนั้นก็แบ่ง 1 ใน3ส่วนให้กับเธอ

เมื่อเห็นท่าที่ดีอกดีใจของกมล คุณนายโตเล็กก็พูดกับพยาบาลที่อยู่ ข้าง ๆ ว่า: “คอยดูคุณหนูทานแอปเปิ้ลนะ เดี่ยวฉันจะออกไปคุยธุระ กับคุณผู้หญิงข้างนอก”

คำพูดนี้ทำให้นรมนงุนงง แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอยิ้มให้ กับกมล แล้วออกไปข้างนอกกับคุณนายโตเล็ก

คุณนายโตเล็กพานรมนไปที่ห้องประชุมด้านนอก ที่นี่คนไม่เยอะ อีกทั้งคุณนายโตเล็กก็ยังจงใจปลีกตัวออกมาด้วย

นรมนไม่รู้ว่านลินพูดอะไรเกี่ยวกับเธอให้คุณนายโตเล็กฟังบ้าง แต่ เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดต่อนลิน ถ้าคุณนายโตเล็กตำหนิเธอ เธอจะไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาด

คุณนายโตเล็กมองไปที่ท่าทีของนรมนที่ดูน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่าง มาก ทั้งยังมีคำพูดมากมายที่อยากอธิบาย เธอถอนหายใจพลางยิ้ม แล้วพูดว่า

“เธอก็นะ ได้เป็นภรรยาของบุริศร์ แล้วก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ทำไมถึงไม่ระงับความโกรธบ้าง?

คำพูดประโยคนี้ของคุณนายโตเล็กทำให้นรมนรู้สึกหดหูใจ อดไม่ ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองคุณนายโตเล็ก

“ทำไมมองฉันอย่างงั้นล่ะ? เธอก็เป็นแม่ลูก2แล้ว ยังจะไปหึงเด็ก น้อยไร้เดียงสาอย่างนลินอีก มันคุ้มเหรอ? นลินยังเป็นเด็กอยู่เลย! แม้ว่าบุริศร์จะหน้าตาหล่อเหลา นลิน ก็อาจจะอดใจไว้ไม่ไหวบ้าง อายุ เธอใหญ่กว่า ถึงได้แพ้ให้กับเด็กได้?

เมื่อนรมนได้ฟังดังนั้น จูๆ ก็รู้สึกแสบจมูก

“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่ นลินพูดออกมาจากปากของเธอเองว่าเธอ ชอบบุริศร์ เธอต้องการแค่บุริศร์เท่านั้น หนูก็บอกไปแล้วว่านอกจากบุริ ศร์แล้ว เธอต้องการอะไรหนูก็จะยอมให้เธอเพราะถึงยังไงเธอก็เป็น คนช่วยชีวิตกมล แต่ว่าเธอ…”

“เธอไม่มีวิธีแล้วเหรอ? นายหญิงแห่งอาณาจักรรัตติกาลผู้สูงส่ง กลับถูกเด็กน้อยไร้เดียงสาทำให้เสียสติจนต้องลงไม้ลงมือ? นรมน ไม่ ต้องพูดถึงเรื่องอายุที่ลูกแก่กว่านลินไม่น้อย เราพูดถึงแต่เรื่องที่นลิน ช่วยชีวิตกมล ซึ่งลูกก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปตบตีเธอ”

“หนูยังไม่ทันได้เลย”

นรมนรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแต่เธอยังไม่ได้ตีนลินทั้งยังถูก นลินเอาน้ำร้อนมาสาดหน้า อีก ถ้าหากเธอไม่กลัวว่ากมลจะเป็นห่วงเธอคงไม่ออกไปซื้อเสื้อผ้า ใหม่เพื่อมาเปลี่ยน ทั้งยังแต่งหน้าอ่อน ๆ ให้กับตัวเองด้วย?

ตอนนี้เครื่องสำอางนั้นค่อย ๆ ทำปฏิกิริยากับผิวหนังของเธอ ทำให้ เธอรู้สึกแสบอย่างทรมาน ความน้อยเนื้อต่ำใจของเธอนี้ เธอจะเล่าให้ ใครฟังได้?

แน่นอนว่าเรื่องนี้นรมนไม่ได้บอกคุณนายโตเล็ก เธอคิดว่าถ้าเธอพูด ออกไปก็จะเหมือนเด็กฟ้องผู้ใหญ่

เมื่อคุณนายโตเล็กเห็นท่าที่น้อยเนื้อต่ำใจของนรมน จึงถอนหายใจ อีกครั้งพลางพูดขึ้นว่า: “งั้นเธอก็ลองคิดดูเถอะว่าจะทำยังไงไม่ว่าเธอ จะมีท่าทีกับนลินยังไง แต่นลินก็เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลโตเล็ก แน่นอนว่าจะทำให้คนอื่นคิดว่าตระกูลโตเล็กเป็นคนอกตัญญู”

“ค่ะคุณแม่”

นรมนทำได้เพียงรับปากเท่านั้น ความทุกข์ทรมานภายในใจนี้มี เพียงตัวเธอเท่านั้นที่รู้

เวลานี้หน้าของเธอแสบคันเป็นอย่างมาก

แม้ว่านรมนจะเกาแล้วครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงรู้สึกทรมาน

เหมือนว่าคุณนายโตเล็กจะสังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่าง จึงรีบพูด

ขึ้นมาว่า: “อย่าขยับ”

นรมนตกใจจนไม่กล้าขยับ

คุณนายโตเล็กขยับเข้ามา 1 ก้าว เหลือบมองนรมนครู่หนึ่ง พลางพูด ขึ้นด้วยความโมโหว่า: “เธอดูสิ เธอทำอะไรของเธอ? ทำหน้า ดี ๆ แพ้หมดเลย หน้าแดงหมดแล้ว รีบไปล้างเครื่องสำอางออกซะ เธอไม่ กลัวเสียโฉมเหรอ”

เมื่อพูดตรงนี้ คุณนายโตใหญ่ก็ถอนหายใจอีกครั้ง

“จำไว้นะว่า ความรู้สึกที่บุริศร์มีให้กับเธอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเธอแต่ง หน้าหรือไม่แต่งหน้า แม้ว่าเธออยากจะแต่งให้บุริศร์เห็น แต่ตอนนี้เขา ก็คงจะไม่มีทางได้เห็น รีบไปล้างออกซ่ะ แล้วไปถามหมอด้วยล่ะว่ามี ยาอะไรที่ใช้แล้วดี อย่าให้หน้าเสียโฉม”

เมื่อได้ยินคุณนายโตใหญ่พูดแบบนี้ แม้ว่านรมนก็ยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อ ต่ำใจไปใหญ่ แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอเกิดปัญหาขึ้นแล้วแน่ ๆ

ใบหน้าของเธอแพ้เครื่องสำอาง ทำให้แผลน้ำร้อนลวกที่มีอยู่เดิมยิ่ง รุนแรงขึ้น

เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา รีบวิ่งไปที่ห้องตรวจ

คุณนายโตเล็กมองเงาของเธอพลางสายหัว จากนั้นก็โทรหาบุริศร์

ทางฝั่งของบุริศร์ก็เพิ่งจัดการเรียบร้อย คุณนายโตเล็กก็โทรมา

“แม่ มีอะไรเหรอครับ?

“ลูกดีขึ้นแล้วหรือยัง?

การถามไถ่ของคุณนายโตเล็กทำให้ภายในใจของบุริศร์รู้สึกอบอุ่น “ดีขึ้นมากแล้วครับ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ”

“ลูกก็อายุก็ขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่รู้จักดูแลตัวเองอีก ต้องให้ คุณแก่อย่างแม่เป็นห่วง กระทั่งตอนนี้แม่ยังต้องช่วยลูกพยุงบริษัทอยู่ เลย ลูกรีบหายไวไวเลยนะ บริษัทใหญ่โตขนาดนี้แม่ดูแลคนเดียวไม่ ไหว”

คำพูดของคุณนายโตเล็กทำให้บุริศร์ยิ้มออก

“ครับแม่ ผมรับรองว่าผมจะรีบหายไวไว”

“ลูกนี่คุยโม้ไม่หยุดเลย” สีหน้าของคุณนายโตเล็กเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่กลับกดเสียงลงต่ำ พลางพูดขึ้นว่า: “ถ้าไม่มีอะไร ก็โทรศัพท์หานรมนบ้างนะ แม้ตอนนี้ ลูก 2 คนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่านรมนยังไงก็เป็นผู้หญิง ผ่านเรื่อง ราวมามากมาย ก็เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกหดหู ในเวลานี้ ในฐานะที่ลูก เป็นสามี อยู่เคียงข้างเธอไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องโทรหาเธอบ้าง บ้าน เราก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินค่าโทรศัพท์หนิ”

เมื่อได้ยินในสิ่งที่คุณนายโตเล็กพูด บุริศร์ก็งุนงงเล็กน้อย

“แม่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ? ”

“จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ล่ะ ถ้าไม่เป็นเพราะลูกเกิดมาหน้าตาหล่อ ขนาดนี้? จนทำร้ายสาวน้อย”

คำพูดของคุณนายโตเล็ก ทำให้บุริศร์จับต้นชนปลายไม่ถูก

“แม่ครับ ผมไปทำร้ายใครกัน? ”

“ยังจะมาถามอีก ถ้าลูกหน้าตาขี้เหร่กว่านี้หน่อยนลินก็คงจะไม่ชอบ ลูกขนาดนี้? นรมนก็คงจะไม่สูญเสียความมั่นใจเพราะเด็กนั้น จนรีบ ไปแต่งหน้าแต่งตา หน้าของเธอถูกเครื่องสำอางกัดกร่อนจนแทบจะ เสียโฉมแล้ว ฉันเพิ่งให้เธอรีบไปหาหมอเมื่อกี้นี้เอง”

“อะไรนะ? ”

เมื่อบุริศร์ฟังจบก็กลับมาหดหูอีกครั้ง

“ตอนนี้นรมนเป็นยังไงบ้าง? ”

“วางใจเถอะ ก็แค่แพ้เครื่องสำอาง หน้าแดงนิดหน่อย ทายาเดี๋ยวก็ หาย ลูกก็ไม่ต้องเป็นกังวลมาก แม่อยู่ที่นี่ทั้งคนจะเกิดเรื่องอะไรได้? อยู่ที่ลูกแหระ ถ้ามีเวลาก็โทรหานรมนบ้างนะ ผู้หญิงตัวคนเดียวดูแล ลูกมันไม่ง่ายเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดที่คุณนายโตเล็กพูด ในใจของบุริศร์ก็รู้สึกไม่ สบายใจ

“ทราบแล้วครับแม่” “อืม แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง เดิมทีแม่ตั้งใจจะให้นลินมาเป็นสมาชิกคน หนึ่งในครอบครัวของเรา เพราะถึงยังไงเธอก็ได้ช่วยเหลือกมล เป็น น้าของกมลก็คงไม่เสียหายอะไร แต่เห็นเธอบอกว่าลูกจะให้เธอเป็น น้องสาวของนรมน เรื่องนี้ลูกคิดยังไงเหรอ? ”

แม้ว่าคุณนายโตเล็กจะมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่เธอก็ไม่ละเลย ความรู้สึกของลูกชาย

บุริศร์ถอนหายใจพลางพูดขึ้นเบา ๆ : “ใครใช้ให้ผมหน้าตาหล่อ ล่ะ? ถ้าจะให้เธออยู่ที่ตระกูลโตเล็ก ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ จะทำไง ละ? อย่างน้อยการเป็นพี่เขยกับน้าสาวก็ยังเป็นเรื่องต้องห้าม อีกทั้ง เธอก็คงมาตระกูลโตเล็กบ่อย ๆ ไม่ได้ใช่ไหม? ผมทำแบบนี้ก็เพื่อ ป้องกันครอบครัวแตกแยก”

ถ้าหากบุริศร์พูดเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ คุณนายโตเล็กก็คงคิดว่าบุริศร์ หลงตัวเอง แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับนรมน คุณนายโตเล็กก็รู้สึกว่า ถ้าให้นลินเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลโตเล็กก็คงจะไม่เหมาะ

“งั้นก็ทำตามที่ลูกบอกก็แล้วกัน แต่ว่าพ่อแม่ของตระกูลธนาศักดิ์ธน จะเห็นด้วยไหมล่ะ?

“เรื่องนี้เดี๋ยวให้นรมนเป็นคนจัดการก็แล้วกันครับแม่”

คำพูดของบุริศร์ทำให้คุณนายโตเล็กรู้สึกหดหู่

“เจ้าเด็กคนนี้ ทำไมถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาซะเลยนะ? ตอนนี้นรมนไม่ ค่อยพอใจนลินสักเท่าไหร่ แล้วเธอจะกลับไปคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ของ ตระกูลธนาศักดิ์ธนเหรอ? อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก รวมทั้ง เรื่องที่เกิดกับนรมนเรื่องนี้ ตอนนี้พ่อแม่ของตระกูล ธนาศักดิ์ธนยัง ไม่รู้เรื่อง แม่คิดว่า เรื่องนี้ให้แม่เป็นคนจัดการน่าจะดีกว่า”

ในเวลานี้บุริศร์ถึงได้นึกออกว่า ตอนนี้พ่อแมของตระกูลธนาศักดิ์ธน ยังคงครุ่นคิดอยู่กับเรื่องที่ว่านรมนไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตน และก็ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับเรื่องที่เขากับนรมนกลับมายังไม่ทันบอกให้พ่อแม่ของตระกูล ธนาศักดิ์ธนทราบเรื่อง และตอนนี้ก็มีเรื่องของนลินเพิ่มขึ้นมา บุริศร์ รู้สึกเซ็งเล็กน้อย

เมื่อเรื่องราวต่าง ๆ รุมเร้าเช่นนี้ เขาทำได้เพียงไหว้วานคุณนายโต เล็กเท่านั้น

“ลำบากแล้วนะครับแม่ แล้วก็ยังมีเรื่องของป้าโออีก แม่คิดว่า …”

“เรื่องนั้นลูกเป็นคนจัดการก็แล้วกันนะ”

สำหรับป้าโอ คุณนายโตเล็กแทบอยากที่จะฆ่าหล่อนให้ตาย แต่ติด อยู่ที่หล่อนเป็นแม่แท้ ๆ ของบุริศร์กับตรินท์ เพื่อเป็นการไว้หน้าเด็กทั้ง 2 คนนี้ คุณนายโตเล็กจึงไม่อยากเข้าไปแทรกแซง

อีกอย่างตอนนี้เด็กทั้งสองคนก็โตแล้ว รู้จักแยกแยะผิดถูกแล้ว ส่วน รายละเอียดว่าจะจัดการหล่อนยังไง คุณนายโตเล็กก็พร้อมที่จะฟัง เด็กทั้ง 2 คนนี้

บุริศร์คิดว่าการที่เขามีแม่อย่างคุณนายโตเล็กเป็นของขวัญที่ล้ำค่า

ที่สุดที่สวรรค์มอบให้แก่เขา

“ทราบแล้วครับแม่ งั้นเรื่องของนรมนกับนลินก็ต้องรบกวนแม่แล้วนะ

ครับ”

“วางใจเถอะ”

หลังจากที่วางสายลง ในใจของบุริศร์ก็รู้สึกไม่สบายใจนัก

นรมนแต่งหน้า?

คงไม่มั่ง?

ตอนที่เขาอยู่ นรมนไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ เขาไม่อยู่ไม่ทันไร นรมน

กลับแต่งหน้างั้นเหรอ ?

เธอจะแต่งหน้าไปให้ใครดูกัน?

หรือว่าจะเกิดปัญหาขึ้นระหว่างนรมนกับนลิน? ทันใดนั้นบุริศร์ก็รีบโทรศัพท์หานรมน

ตอนนี้นรมนกพลับอยู่ในห้องตรวจ และใช้สำลีเช็ดเครื่องสำอางออก ช่วงเวลานี้ใบหน้าของเธอแดงจนต้องตกใจ อีกทั้งผิวหนังงบางส่วน ก็เริ่มแตกออกจากกัน

เมื่อหมอเห็นท่าทีแบบนั้นของนรมนก็พูดขึ้นอย่างจนปัญญา ว่า : “คุณนายบุริศร์ คุณไม่อยากได้ใบหน้าของคุณแล้วเหรอ? ถูกน้ำ ร้อนลวกขนาดนี้แล้วยังแต่งหน้าอีก คุณทำแบบบนี้ก็เท่ากับว่า….

“ฉันทำแบบนี้ก็เพราะกลัวลูกจะตกใจ กมลเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ถ้าเธอ เห็นใบหน้าของแม่ถูกน้ำร้อนลวก แล้วฉันจะอธิบายยังไงล่ะ? โอเคค่ะ คุณหมอ ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่คุณหมอรีบดูให้หน่อยได้ไหมคะว่า ฉันต้อง ทายาอะไรหน้าฉันถึงจะดีขึ้นไม่ดูน่ากลัว”

เมื่อได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ หมอก็ส่ายหัวพลางกัมหน้าจ่ายยาให้เธอ และในเวลานี้เองบุริศร์ก็โทรมา เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ของบุริศร์ จู่ ๆ นรมนก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ