แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 622 ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ชอบเธอ



บทที่ 622 ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ชอบเธอ

ลูกน้องไม่กล้าขัดคำสั่งของคุณนายตระกูลโตเล็ก ตอนที่อยากจะ อุ้มบรมนขึ้นมานั้น จู่ๆ กิจจากทำตากลมโต พลางมองคนพวกนั้น แววตานั้นทําให้คนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่มันเหมือนแววตา ของบุรีศรีเป็นอย่างมาก

ลูกน้องอึ้งไปเล็กน้อย พลางมองไปที่คุณนายตระกูลโตเล็ก อย่าง เบากใจ

คุณนายตระกูลโตเล็กยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่

“ทําไมเหรอ? ไม่อยากไปหรือไง? งั้นก็หลบ ให้คนพวกนี้แบก นรมนออกไป! ”

กิจจามองคุณนายตระกูลโตเล็ก โดยที่ไม่ขยับสายตาเลย

ในจิตใจที่อ่อนต่อโลกของเขานั้นไม่มีทางเข้าใจได้ เลยรัก คุณย่าของตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดว่าครอบครัวที่สมบูรณ์ แบบนั้นจู่ๆ ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

เขาไม่เข้าใจ เลยทำได้เพียงมองคุณนายตระกูลโตเล็กอย่าง ไร้ความช่วยเหลือ และหวังว่าคุณนายตระกูลโตเล็กจะแนะนำ อะไรให้เขาได้บ้าง

คุณนายตระกูลโตเล็กสบตาของกิจจาไม่ได้เป็นครั้งแรก

“ฉันเป็นคุณย่าของคุณ ฉันเป็นหัวหน้าของครอบครัวนี้ ฉันพูดอะไรก็หมายถึงแบบนั้น คุณเป็นเด็กจะไปเข้าใจอะไร? ไม่อยาก ออกจากตระกูลโตเล็ก แต่หลบไป ถึงอย่างไรแรมนก็อยู่ที่นี่ต่อ ไม่ได้

เมื่อเห็นท่าทีของคุณนายตระกูลโตเล็กแน่วแน่ขนาดนี้ แววตา อันสดใสของกิจจานั้นค่อยๆ หายไป

ความหวังที่มีต่อคุณนายตระกูลโตเล็ก ความพึ่งพาของเธอนั้น อยๆ หายไป

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จับมือของนรมน จับเอาไว้อย่าง แน่นหนา ท่าทีนี้ไม่ต้องพูดอะไรก็รู้

“ดี ดีมาก! กิจจา คุณยังจะเลือกผู้หญิงคนนี้อีกใช่ไหม? ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่ใช่ลูกของพวกเราตระกูลโตเล็ก อีกต่อไปแล้ว”

คําพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้แววตาของกิจจานั้น มืดมนลงไปอีกที

ครั้งนี้ตอนที่ลูกน้องเดินเข้ามาแบกนรมน กิจจาไม่ได้วางเอาไว้ แล้ว แต่ลุกขึ้นแล้วเดินไปพร้อมกับนรมนเพื่อออกจากตระกูลโต เล็ก

ในตอนนั้น กิจจามองนรมน มองเลือดที่อยู่บนตัวของเธอ เหมือนกับว่าเห็นรามิลล้มอยู่บนกองเลือด

เขาตัวสั่น และพยายามหลบหลีก กลับไม่พูดอะไรเลยสักอย่าง จนอดไม่ได้ที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกปวดใจ
คุณนายตระกูลโตเล็กของพวกเขาออกไปจากคฤหาสน์ตระกูล โตเล็กแบบนี้ แล้วก็โกรธจนโยนข้าวของทุกสิ่ง ทําให้เมลตกใจ แทบแย่

เยอรีบวิ่งลงมา แต่ไม่เห็นกิจจา เห็นเพียงคุณนายตระกูลโต เล็กที่โกรธอยู่อย่างนั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่กมลเห็นคุณนายตระกูลโตเล็ก โกรธขนาดนี้ เลยอดไม่ได้ที่จะหลบอยู่ด้านหลังของเสา ก่อนจะเรียกออกมา อย่างเกรงกลัว “คุณย่า คุณเป็นอะไรเหรอ?

คุณนายตระกูลโตเล็กหันกลับไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นท่าทีที่กมลกลัวเธอแบบนั้น ก็คิดถึงลูกที่นรมนคลอด ออกมา เลยอดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา

“ใครให้คุณลงมาเหรอ?

กมลกอดเสาเอาไว้แน่นหลางพูดขึ้น “ฉันมาหาพี่กิจจา

“ไม่มีพี่กิจจาอะไรอีกแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณมีพี่ชาย เพียงคนเดียว ก็คือกานต์ ไม่สิ กานต์ โตเล็ก ตั้งแต่วันนี้เขาชื่อ กานต์ โตเล็ก คุณชอกมล โตเล็กแล้วเข้าใจไหม? ”

“อ๋อ”

กมล อ๋อ ไม่สิ กมล โตเล็กมองไปทางคุณนายตระกูลโตเล็ก โดยที่ไม่กล้าถามอะไร

ตอนนี้เธอแค่อยากทานรมนเพื่อให้มาปลอบใจเท่านั้นเอง
วันนี้คุณย่าน่ากลัวจริงๆ !

“คุณย่า หม่าล่ะ? ฉันจะหาหม่า! ”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเองก็ไม่มีหน้าที่แล้ว! หลังจากนี้ไม่ ให้พูดถึงชื่อเธออีก!”

คําพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กนี้ทําให้กมลอึ้งไปเลยล่ะ เธอเงียบไปสักพัก จากนั้นก็มีเสียงร้องให้ดังออกมา

“ฉันจะหาหม่ามี! ฉันจะหาหม่าม! หม่ามีไปไหนแล้ว? ฉันจะ หาหม่ามี้!

“หุบปาก ! อย่าร้องไห้! เอาแต่ร้องไห้! นอกจากกินก็ร้องไห้ คุณทำอะไรได้บ้างเนี่ย? คุณเหมือนกับหม่ามีไร้ประโยชน์นั่นเลย ถ้าไม่ได้เห็นว่าคุณมีเลือดเนื้อเชื้อไขของบุริศร์ล่ะก็ ฉันจะให้คุณ กับหม่ามออกไปจากตระกูลโตเล็กด้วยกันเลย! ”

คุณนายตระกูลโตเล็กถูกเสียงร้องไห้ของกมลทำให้หัวแทบ ระเบิด

กมลไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่ว่ารู้ว่ากำลังพูดไม่ดีกับ เธอกับหม่ามี

ตั้งแต่เกิดมาจนตอนนี้ เธอเคยถูกคนมาตะโกนใส่เมื่อไหร่ กัน? และเคยถูกเลี้ยงแบบไม่ใช่ไข่ในหินเมื่อไหร่กัน?

หน้าตาที่อ่อนโยนของคุณย่านั้นเปลี่ยนไปกะทันหัน กมลยัง ไม่ทันตอบสนองอะไร เลยทำได้แค่ร้องไห้ออกมา
“ฉันจะหาหม่ามี! ฉันจะหาหม่ามี ”

แม่บ้านข้างๆ กลัวว่าคุณนายตระกูลโตเล็กจะถูกกมลทำให้ โกรธอีก เลยรีบมาอุ้มกมลไป และพูดขึ้นเสียงเบาว่า “คุณหนู กมลอย่าร้องไห้เลย หม่ามีเพียงแค่ออกไปทำธุระข้างนอก คุณย่า อารมณ์ไม่ดี ฉันจะหาคุณหนูกมลออกไปพักผ่อนดีไหม?

“ฉันจะหาหม่ามี “

กมลไม่ฟังอะไรแล้ว รู้เพียงแค่ร้องไห้หานรอนเท่านั้นเอง คุณนายตระกูลโตเล็กคิดว่าหัวของตัวเองนั้นจะระเบิดเพราะ เสียงร้องไห้เข้าจริงๆ

“ขังเธอเอาไว้ที่ห้องใต้ดิน! เงียบเมื่อไหร่ เชื่อฟังเมื่อไหร่ ค่อยปล่อยออกมา

คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้แม่บ้านเริ่มทนไม่ได้

“คุณนาย คุณหนู มลร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง กลัวความมืด ยังเธอเอาไว้ที่ห้องใต้ดินจะมีผลต่อสภาพจิตใจนะ”

“มีผลต่อสภาพจิตใจ? เด็กของตระกูลโตเล็กอ่อนแอขนาดนั้น เลยเหรอ? กิจจาคนเดียวก็พอแล้ว เธอเป็นลูกสาวของบุริศร์เลย นะ! ถ้าเกิดจะมีผลต่อจิตใจ ก็ให้เขาทําร้ายตัวเองต่อไปเถอะ ถึง อย่างไรฉันก็ไม่ชอบเธอ”

คำพูดสุดท้ายนั้นทำให้กมลหยุดร้องไห้ เธอได้ยินคำที่คุณนายตระกูลโตเล็กบอกว่าไม่ชอบเธอ
กมลเลยยังไป

ทำไมคุณย่าถึงไม่ชอบเธอล่ะ?

คุณย่าให้เธอกินของดีๆ แถมยังเล่นกับเธอ นอนกับเธอไม่ใช่ เหรอ?

ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ล่ะ?

“คุณไม่ใช่คุณย่าของฉัน! คุณเป็นแม่มดใจร้าย! คุณเป็นคน เลว! คุณเอาคุณย่าของฉันไปไว้ที่ไหน? เอาคุณย่าฉันคืนมา

จู่ๆ กมลก็สะบัดออกจากอ้อมกอดของแม่บ้าน แล้ววิ่งไปกอด ขาของคุณนายตระกูลโตเล็ก

“สารเลว แม่มดใจร้าย คุณเอาคุณย่าของฉันคืนมา คุณกิน

คุณย่าของฉันเข้าไปใช่ไหม? คุณคืนคุณย่าฉันมานะ! ”

คุณนายตระกูลโตเล็กคิดว่ากมลนั้นน่ารำคาญสุดๆ ไปเลย เธอเลยยกขาขึ้นเพื่อจะเตะกมล แม่บ้านที่หูไวตาไวรีบขึ้นมา ก่อน จะอุ้มกมลขึ้นมา

“คุณหนูคนดีของฉัน คุณไม่ต้องพูดแล้ว ไป ฉันจะพาคุณไปหา อะไรอร่อยๆ กิน”

แม่บ้านรับกอดกมลพลางพาเดินออกไป

กมลติ้นอย่างไม่กลัวตาย ก่อนจะตะโกนออกไป “ยัยแม่มด คุณเอาคุณย่าคืนมา แล้วก็คืนหม่ามฉันมาด้วย! เอาพกิจจาน มาด้วย! “คุณนายตระกูล โดเล็กคิดว่าหัวแทบจะระเบิดแล้ว

ติดต่อสถานรับเลี้ยงเด็ก แล้วส่งกมลไปที่โรงเรียนประจำ ล็อกเอาไว้ให้ได้แบบนั้นน่ะ

ลูกน้องไม่กล้าขัดคำสั่ง เลยรีบไปทำ กมลถูกแม่บ้านอุ้มออกไปทั้งๆ ที่ยังร้องไม่หยุด

“ฉันจะเอาหม่ามี! ฉันจะหาแดด ฉันจะให้แดดฆ่าแม่มด ใจร้าย!

แม่บ้านตกใจจนปิดปากของกมล แล้วพูดเสียงเบา “คุณหนู คุณอย่าพูดเลย ตอนนี้คุณนายอารมณ์ไม่ดีเลย คุณอย่ายั่วให เลย ไม่รู้ว่าจะพาคุณไปไว้ที่ไหน คุณอย่าตะโกนเลย

เธอมองเด็กที่ขาดแม่ไป ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารจับใจ

กมลเห็นแม่บ้านตาแดง ก็อดไม่ได้ที่จะเงียบลง

“หม่ากับพี่กิจจาของฉันอยู่ที่ไหน? คุณย่าของฉันไปไหน แล้ว? ”

เธอยังไม่เชื่อว่าเป็นคุณย่าที่แสนดีของเธอ

แม่บ้านไม่รู้ว่าจะบอกกมลอย่างไรดี เลยพูดขึ้น “คุณหนูคนดี คุณอย่าถามเลย รอคุณโตขึ้นเดี๋ยวก็รู้เอง

“พวกคุณชอบหลอกเด็ก บอกว่าเดี๋ยวโตก็รู้เอง เพราะว่าพวก คุณเองก็ไม่รู้ใช่ไหม? ”
คำพูด ยกมลท่าให้แม่บ้านอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันหัวไป

เธอจะทนบอกกมลได้อย่างไรว่าแม่ของเธอถูกคุณนายตระกูล

โตเด็กไล่ออกจากตระกูลโตเด็กแล้ว แถมยังเป็นใบก บาดเจ็บ ไปทั้งตัวเลย

กมลมองแม่บ้านอย่างเงียบๆ แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้น “คุณเอาเรื่อง

ของฉันไปบอกแต๊ด ให้หน่อยได้ไหม?

บริศ เป็นความหวังของกมล

ในใจของเธอ แด๊ดดี้ทำได้ทุกอย่าง

แม่บ้านอึ้งไป ก่อนจะปิดปากของเธอ แล้วก็รีบวิ่งไปดูที่ประตู ห้อง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแอบฟัง เลยวางใจ

เธอกลับไปอยู่ตรงหน้ากมล พลางพูดเสียงเบา “ฉันช่วยได้ แต่

ว่าคุณห้ามก่อเรื่องอีกได้ไหม? ”

“ได้ ฉันรอแด๊ด กลับมาช่วยพวกเรา”

ในที่สุดกมลก็เงียบลง

แม่บ้านออกไปบอกคุณนายตระกูล โตเล็ก

“คุณนาย คุณหนูกมลเงียบแล้ว ส่งเธอออกไปข้างนอกได้หรือ ยัง? เดี๋ยวฉันจะจับตามองเธอ รับปริกันว่าจะไม่ให้เธอร้องงอแง än? ”

คุณนายตระกูลโตเล็กมองแม่บ้านที่อยู่ตรงหน้า พลางพูดขึ้น “ป้าหวานใช่ไหม? ฉันจำได้ว่าคุณมีหลานสาวใช่ไหม? เอาอย่างไรดี หลานสาวของตัวเองยังรักและดูแลไม่ได้เลย ยังอยาก จะมาช่วยคนแก่อย่างฉันดูแลหลานของฉันอีกเหรอ? ”

ร่างกายของป้าหวานสั่นไหว

คำพูดนี้มันทำให้เธอรู้สึกมากขึ้นไปอีก

ป้าหวานรีบพูดขึ้น “ไม่ๆ ฉันไม่กล้าหรอก คุณนายคุณบอกให้ ทําอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ

“ลงไปทำธุระเถอะ”

คุณนายตระกูลโตเล็กเห็นว่าเธอรู้จักหน้าที่ตนเอง เลยไม่ได้ พูดอะไรต่อ

เธอนวดขมับด้วยความเหนื่อยล้า พลางพูดขึ้น “ฉันเหนื่อย

แล้ว ไม่มีเรื่องที่ต้องรีบร้อนอะไร ไม่ต้องมาหาฉันแล้วนะ ฉัน

อยากพักผ่อน”

ป้าหวานถอดออกไปด้านข้างๆ

เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กเข้าไปในห้องแล้ว ป้าหวานถึงจะ เดินเข้าไปในห้องน้ำ พลางหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาบุริศร์ น่า เสียดายที่โทรศัพท์ของบุริศร์นั้นปิดอยู่

“ทําไมถึงปิดเครื่องล่ะ? คุณชาย ถ้าคุณยังไม่รับโทรศัพท์ ครอบครัวของคุณจะต้องแตกแยกแน่นอน

ป้าหวานโทรต่อไปเรื่อยๆ ติดๆ กัน แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะโทรอย่างไรก็โทรไม่ติด

ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ ป้าหวานเลยส่งข้อความไปหาบุรีศร

“คุณนายไล่คุณนายนมนกับคุณชายกิจจาออกไปจากตระกูล โตเล็กแล้ว คุณนายบาดเจ็บไปทั้งตัว ตอนนี้เป็นไปไปแล้วด้วย ถูกคนไล่ออกไปตั้งแต่ยังไม่ได้สติ คุณนายยังจะเอาคุณหนูกมล ไปส่งที่โรงเรียนประจำด้วย เป็นแบบกักขังเลยล่ะ คุณชาย คุณ รับกลับมาเถอะ

หลังจากส่งข้อความเสร็จ ป้าหวานก็รีบลง ก่อนจะออกมาจาก ห้องน้ำ

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นห่วงกมล แต่ว่าครอบครัวของเธอเองนั้นก็ สําคัญกว่า

ป้าหวานทำได้เพียงหักใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกมล ตัวเอง

ก็ต้องไปทำงานของตัวเองแล้ว กมลไม่ทันรอให้ป้าหวานเข้ามา แต่สุดท้ายกลับเป็นคนอีกคน

หนึ่งมาพาเธอออกไป

เธอกอดหัวเตียงเอาไว้แน่น

“ฉันไม่ไป! ฉันอยากจะอยู่รอหม่ากับแอ๊ดดี้ ฉันไม่ไป เธอนั่งอยู่บนพื้น พลางจ้องอย่างจะเป็นจะตาย

ลูกน้องเองก็ไม่กล้ายืดยื้อกับเธอ แต่ว่าก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของ คุณนายตระกูลโตเล็ก จึงลำบากใจขึ้นมา
“คุณหนูกมล คุณนายเป็นคนตัดสินใจนะ คุณอย่าทำให้พวก เราสาบากใจเลย? ”

กมลกลับร้องพลางพูด “เธอไม่ใช่คุณย่าฉัน เธอเป็นปีศาจ พวกคุณดูไม่ออกเหรอ? พวกคุณช่วยยัยปีศาจนั้นมาทำอะไรฉัน งั้นเหรอ เดี่ยวแด๊ดดี้กลับมาจะไม่ปล่อยพวกคุณเอาไว้แน่! ”

พูดจนทุกคนนั้นหดตัวลงและหน้าถอดสี

บริศกับคุณนายตระกูลโตเล็ก พวกเขาหาเรื่องไม่ได้ แต่ว่า ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องรบกับคนคนเดียว แล้วจะทําอย่างไรได้ล่ะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ