แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 609 ฉันช่วยเขาไม่ได้



บทที่ 609 ฉันช่วยเขาไม่ได้

นรมนเห็นคนพุ่งมาจากด้านหลังของบุริศร์ หยิบถังดับเพลิง ทุบลงโดยตรงที่ศีรษะของบุริศร์ ส่วนบุรีศร์ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อย สบาย มีเหงื่อเปียกโชก ดูแข็งที่อไปทั้งตัว

นโมนกระวนกระวายใจ คว้าข้อมือของบุริศร์ ดึงเขาไปด้าน ข้าง และในขณะเดียวกันก็ยกขาขึ้น ถีบไปที่คนคนนั้น แต่น่า เสียดาย มีอีกคนหนึ่งหยิบถังดับเพลิงทุบเข้ามาเช่นกัน

บุริศรปวดศีรษะสุดๆ ดวงตาพร่ามัว เขาพยายามมองให้ ชัดเจน แต่กลับทําไม่ได้

นรมนไม่สามารถสนใจเขาได้ ทําได้เพียงดึงเขาออกจาก วงล้อมการโจมตีนี้ แต่สองหมัดยากที่จะเอาชนะมือ นรมนหลบ การโจมตีของคนหนึ่งได้ แต่หลบไม่พ้นการโจมตีของอีกคนหนึ่ง

“โอ๊ย” บรมนเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กลับทําได้เพียง ตอบโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว มือขวายกไม่ขึ้นอย่างจนปัญญา

ในที่สุดบริศร์ก็ได้สติ เมื่อมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า หัวใจก็ นทันที เต้นรัว

“นวมน! ”

เขารีบเข้าไปหา ถีบสองคนนั้นลอยออกไปทันที และซุ้มนรมนไว้ในอ้อมแขน

“เป็นไงบ้าง? ”

“ฉันไม่เป็นไร รีบไปเถอะ! นามนอดทนกับความเจ็บปวด ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

หน้าผากของเธอมีเหงื่อไหลออกมา ใบหน้าขาวซีดอย่างผิด

ปกติ

บุรีริส มองคนเหล่านั้นตรงหน้า เขามีความปรารถนาที่จะฆ่า คนจริงๆ ความรู้สึกนี้โหมกระหน่ำอยู่ในทรวงอก แทบจะเผา ทั้งหมดตรงหน้าจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

“ประธานบริศร์ คุณนาย

พฤกษ์นำคนมาในช่วงเวลาสำคัญ

“นายมาได้อย่างไร? ไม่ได้บอกให้นายอยู่เมืองชลธีเหรอ?

บริศ ขมวดคิ้ว

นรมนไม่สนใจว่าตอนนี้พฤกษ์ควรจะอยู่ที่ไหน เธอสังเกตได้ว่า ร่างกายของบริศ มีปัญหา เธอรีบดึงบุริศร์เอาไว้ และพูดกับ พฤกษ์ว่า “พฤกษ์ ทุกอย่างที่นี่ส่งต่อให้คุณ ฉันกับบุริศร์ไปโรง พยาบาลก่อนนะ”

“ครับ”

พฤกษ์พยักหน้า
บริศ ยังคิดจะพูดอะไร แต่อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดกำลัง จะกลับมาอีกครั้ง

เขาคิดจะเก็บมันเอาไว้ แต่กลับร้องโอดโอยออกมาอย่างห้าม ไม่ได้ บรมนรู้สึกวิตกกังวลทันที

“คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?

ในเวลานี้ บรมนไม่สนใจแขนของตนเอง โดยสิ้นเชิง

บริศ อยากจะบอกว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่เขาเจ็บจนทนไม่ ไหวแล้ว จึงทำได้เพียงบอกว่า “ผมไม่เป็นไร คุณไม่ต้องห่วงนะ

“เป็นแบบนี้แล้ว ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีก? เป็นแบบนี้แล้ว ยังคิดจะไปให้ไปก่อนอีก? ถ้าฉันไปก่อนจริงๆ คุณจะทำ อย่างไร? บุรีศร์ คุณอย่าคิดว่าตัวเองทำได้ทุกอย่าง และทุกคน ต้องการการปกป้องของคุณ?

นรมนโมโหมาก แต่รู้ว่าตอนนี้พูดไปก็ไร้ประโยชน์

“ไปกับฉัน! ”

เธอออกแรงดึงบุริศร์ไปทางโรงพยาบาล

ตอนนี้บริศ เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง ทั้งกายและใจทั้งหมดยก ให้นรมน ฟังเสียงนรมนบ่นข้างหู เขากลับรู้สึกสบายอย่างน่า แปลกใจ ราวกับว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นคลี่คลายลงไม่น้อย

“ทุกครั้งไม่ว่าเรื่องอะไรก็แบกไว้คนเดียว คิดว่าคนรอบข้าง เป็นสิ่งของที่จัดเรียงไว้หรือไง? ห้าปีก่อนก็เป็นแบบนี้ ถ้าคุณบอกฉันว่าเขาไม่ได้ท้องลูกของคุณ ฉันจะเสียใจไหม? จะมี ใครฉวยโอกาสทําเรื่องแบบนั้นกับฉันไหม? ครั้งนี้คุณยังไม่ เรียนรู้อีก ตอนนี้ยังจะแบกทุกอย่างด้วยตนเอง คุณคิดว่าตัวเอง เป็นคนเหล็กหรือไง? ”

นรมนยิ่งพูดยิ่งโมโห

ทันใดนั้นบุริศร์ก็ดึงเธอไว้

นรมนคิดว่าเขาเป็นอะไร จึงรีบตรวจร่างกาย

“เป็นอะไร? เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า? ”

เธอเพิ่งจะพูดจบ ก็ถูกบุริศ ปิดปากทันที

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย และถอนหายใจออกมาทันที ลูบศีรษะ ของบุริศ เหมือนกับปลอบโยนลูกของตนเอง

บุริศร์พิงไหล่ของเธอและพูดว่า “คุณรู้ไหม ตอนเห็นคุณขอ ความเมตตาให้คนคนนั้น ผมอยากจะฆ่าคนมากจริงๆ ”

“เขาท่าเพื่อน้องชายของคุณ ส่วนฉันทำเพื่อกิจจา

นรมนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะจะพัวพันไปถึงธรรศ ถึงแม้ เธอไม่ยอมรับว่าตนเองคือคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แต่เรื่องบาง เรื่องไม่ใช่ว่าตนเองไม่ยอมรับแล้วจะไม่มีอยู่จริง

สังเกตเห็นอารมณ์ของนรมนดิ่งลงไป บุริศร์จับใบหน้าของเธอ ให้เธอสบตาของเขา และกล่าวอย่างนุ่มนวล “คุณก็คือคุณ ธรร ศก็คือธรรค ผมไม่ได้มีความคิดอะไรกับคุณเพราะเขา คุณอย่าดกดดันมากเกินไปเลยนะ

นรมนตะลึงไปทันที รีบมองออกไปและพูดว่า “ฉันเปล่านะ”

“แม่คนปากไม่ตรงกับใจ ขอเพียงแค่คุณจำเอาไว้ไม่ว่าเรื่อง อะไรก็ตาม และไม่ว่าเมื่อไหร่ คุณก็คือภรรยาของผมบุรีศร์คนนี้ก็ พอ”

พูดจบ บุริศร์ก็พิงร่างของนรมน พูดเสียงเบา “นรมน ผมไม่ ไหวแล้ว”

“อะไรนะ? ”

นรมนยังไม่ทันตรวจดูอะไร ก็พบว่าร่างหนักๆ ของบุริศร์ ทั้งตัว ทับลงบนร่างกายของเธอ

แขนของเธอเจ็บมาก แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถสนใจได้

เพราะบุรีศร์สลบไป

เขาเป็นผู้ชายที่มีความอดทนมาก ตอนนี้กลับสลบไป แสดง ให้เห็นได้ชัดเจนว่าความเจ็บปวดของเขารุนแรงมากแค่ไหน

นรมนรู้สึกกังวล จึงไม่กล้าล่าช้า และยิ่งไม่สนใจแขนที่เจ็บอยู่ ของตนเอง ลากบริศร์ไปในโรงพยาบาลของยมราชอย่าง กะโผลกกะเผลก

บริเวณหน้าประตูโรงพยาบาลมีคนของบุริศร์กับท่านขุนอินยืน แยกกันอยู่

คนของท่านขุนอินถูกยมราชควบคุมไว้ข้างนอก ไม่ให้เข้าไปข้างใน เนื่องจากเป็นคำสั่งของท่านขุนอิน ใครก็ไม่กล้าใช้กำลัง

บยมราช

หลังจากรามิลถูกส่งเข้าไปข้างใน ก็ส่งตรงไปที่ห้องฉุกเฉิน

เมื่อนแมนพาบุริศร์มา คนที่นี่พยักหน้าแก่นรมนกับบริศ นร นมก็ไม่ได้ใส่ใจ

เธอเหลือบมองท่านขุนอิน และตัดสินใจพยุงบุริศร์เข้าไปโดย ไม่พูดอะไรก็ได้ยินท่านขุนอินพูดขึ้นมาว่า “คุณนายบุริศร์ ไม่ว่า อย่างไรคุณธรรศก็คือคุณอาของคุณ หรือว่าคุณจะไม่สนใจคนที่ กำลังจะตายจริงๆ ? ”

นรมนไม่หันไป เธอตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ฉันไม่มีความ เกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เขาจะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยว กับฉัน ยิ่งไปกว่านั้นฉันคือภรรยาของบุริศร์ เป็นพี่สะใภ้ของตร นท์ เขาทำอะไรกับตนท์ตัวเขาเองรู้ดีอยู่แก่ใจ ตอนนี้อาจเป็น พระเจ้าที่ให้เขาชดใช้กรรม คุณคิดว่าจริงไหม? คุณธรรศ

เธอจ้องมองธรรศ

ธรรคหน้าซีด แต่ในแววตากลับมีรอยยิ้ม สีหน้าแปลกหลาด แบบนี้ทำให้นรมนไม่อยากมอง

เธอรีบพาบุริศร์เดินเข้าไปข้างใน กลับได้ยินธรรศพูดว่า “รีบ จัดการสิ่งล้ำค่าของตนเองให้ดี ไม่อย่างนั้นถ้ามีผลที่ตามมาจะ วุ่นวาย

“คุณไม่ต้องมาสนใจ”
หัวใจของนรมนได้รับการกระทบกระเทือนจากบางอย่างโดย ไม่รู้ตัว กลับทำได้เพียงหักใจแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร

หลังจากเธอพบุริศ เข้ามาข้างใน ยมราชก็ออกมาจากห้อง ผ่าตัด

คิดไม่ถึงว่าจะสามารถรักษารามิลได้ในเวลารวดเร็วขนาดนี้? ทันใดนั้นเองหัวใจของนรมนก็เต้นรัวๆ

เสียเลือดมากเกินไป ฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันเป็นคน ไม่ใช่ พระเจ้า ขอโทษด้วยนะ ฉันช่วยเขาไว้ไม่ได้

สีหน้าของยมราชไม่ค่อยสู้ดีมากๆ ส่วนนรมนกลับรู้สึกกังวล

ขึ้นมา

“แล้วกิจจาล่ะ? ”

นี่แหละคือปัญหาที่เธอกังวล

สีหน้าของยมราชยิ่งดูไม่ได้

“เด็กคนนั้นวิตกกังวลจนเป็นลมไป เมื่อส่งมาที่นี่ฉันช่วยให้เขา ฟื้นขึ้นมาแล้ว น่าเสียดายยังไม่ทันได้หายใจ พวกคุณก็ส่งคนมา ที่นี่ ตอนนี้กำลังเฝ้าแด๊ดดี้ของเขาอยู่

ได้ยินยมราชพูดแบบนี้ นรมนยิ่งเป็นห่วง

“เขาแสดงออกอย่างไรบ้าง ? ”
“ไม่ได้แสดงออกอะไร แค่เช็ดใบหน้า ให้แตดดีของเขาอย่าง ตั้งใจ ตั้งใจมากๆ จนฉันทนไม่ไหว ก็เลยออกมา แล้วนี่พวกคุณ เป็นอะไรไปอีก? คุณแขนหักเหรอ? ”

“ยังไม่ต้องสนใจฉัน บุริศร์ก่อน เขาเป็นลมไป ไม่รู้ว่าเจ็บตรง ไหน ถ้าฉันเดาไม่ผิด น่าจะเจ็บเส้นประสาท ครั้งหนึ่งเขาเคยถูก สะกดจิต แต่ล้มเหลว”

นรมนยัดบุริศร์ให้ยมราช

คิ้วของยมราชขมวดเข้าหากันแน่น พูดว่า “ทำไมฉันถึงได้รู้สึก ว่าตนเองกลายเป็นคุณหมอประจำครอบครัวของพวกคุณไป แล้ว? มีเรื่องอะไรก็ต่างมาหาฉัน ฉันไม่ใช่นักสะกดจิตนะ! เรื่องนี้ฉันทำไม่เป็น ชีวิตของเขาไม่ตกอยู่ในอันตรายในขณะนี้ ส่วนแขนของคุณนั้นสามารถรักษาให้คุณได้

“ฉันไม่เป็นไร ดูบริศร์ก่อน คุณจะต้องมีวิธีใช่ไหม?

“ฉันไม่มี ฉันบอกไปแล้ว ฉันไม่มีความชำนาญด้านการสะกด จิต นรมน แขนของคุณถ้าไม่รักษาอีกมันจะพิการได้นะ หลังจาก คุณกลายเป็นคนพิการ คุณก็ไม่สามารถดูแลเขาได้ คุณต้องคิด ให้ดีนะ”

ได้ยินคำพูดของยมราช นรมนรู้สึกกระวนกระวาย แต่กลับทำ อะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงให้ยมราชแก้ไขแขนให้ถูกต้อง

“ช่วงนี้อย่าใช้แรงกับแขนข้างของคุณ ถ้าคุณยังต้องการ แขนอยู่นะ ส่วนบริศร์ ฉันไม่สามารถแก้ไขปัญหาของเขาได้ เพียงแต่ฉันสามารถให้เบอร์โทรกับที่อยู่กับคุณ คุณไปหาคนคนนี้ เขาอาจจะสามารถช่วยได้ บอกว่าฉันแนะนำก็พอ”

ยมราชให้เบอร์โทรกับที่อยู่แก่นรมน

บรมนกล่าวขอบคุณ จากนั้นรีบไปหากิจจา

ภายในห้องผ่าตัด มีรามิลนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด มองกิจจาอยู่ เงียบๆ

เวลาของเขาเหลือไม่มากแล้ว เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของตนเองผ่านไปอย่างรวดเร็ว

กิจจาตรงหน้าไม่ร้องไห้ไม่โวยวาย สงบนิ่งสุดๆ เอื้อมมือเล็กๆ มาเช็ดหน้าผากของเขาไม่หยุด ซับเหงื่อของเขาให้แห้ง

ทันใดนั้นเองรามิลก็รู้สึกสำนึกผิด

ทำไมตอนปกติเขาถึงไม่ห่วงใยรักใคร่เด็กคนนี้สักนิดเดียว

รามิลบีบมือของกิจจาแน่น และถามอย่างไร้เรี่ยวแรง “โกรธ ฉันไหม? ”

กิจจาส่ายหน้า ถามอย่างจริงจัง “แด๊ดดี้ แด๊ดดี้จะตายไหม

ครับ?

คำว่า “ตาย” ทำให้คนรู้สึกทุกข์ใจอย่างยิ่ง

เด็กอายุสี่ขวบ เพิ่งจะเข้าใจว่าความหมายของคำว่าตาย สูญ เสียแม่ไปแล้ว วันนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับการจากไปของพ่ออีก นรมนรู้สึกแสบจมูกขึ้นมาโดยพลัน ของเหลวอื่นๆ ไหลออกมา ทันที
รามิลก็รู้สึกไม่สบายใจ

เขาบีบมือกิจจาแน่นและตอบว่า “ลูกคือลูกชายของตนท์ ลูก เข้มแข็งที่สุด ไม่ว่าแด๊ดดี้จะอยู่ที่ไหน แด๊ดดี้จะรักลูกเสมอ จะ คอยปกป้องลูก อวยพรให้ลูกมีความสุข ลูกจะต้องเชื่อว่า แด๊ดดี้ อยู่กับลูกเสมอ เพียงแต่อยู่ในสถานที่ที่ลูกมองไม่เห็นแค่นั้นเอง

“แคดดี แ ด จะตายไหมครับ?”

กิจจาถามคำถามนี้กลับมาเหมือนกับไม่ได้ฟังคำพูดของรา มิลเลย

รามิลพูดไม่ออกทันที

“ขอโทษนะลูก กิจจา ขอโทษนะลูก! ”

เขาถึงกิจจามาไว้ในอ้อมกอด น้ำตาไหลรินออกมาจากหางตา

กิจจากลับถามอย่างดื้อรั้นเช่นเดิม “แด๊ดดี้ แอ๊ดดี้จะตายไหม

ครับ? ”

รามิลร้องไห้

นรมน ใช้มือปิดปากร้องไห้อย่างอึดอัดใจ

รามีลอยากพูดเหลือเกินว่าเขาจะไม่ตาย แต่เขารู้ดีว่า คำ สัญญานี้อาจไม่มีวันเป็นจริง

เขากอดกิจจาแน่น มอบอ้อมกอดสุดท้ายให้แก่เขา จากนั้น แขนก็สูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดอย่างกะทันหัน ค่อยๆ ไหลลงมา อย่างช้าๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ