แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 531 ฉันจะรอคนที่เธอพูดถึงคนนั้นอยู่



บทที่ 531 ฉันจะรอคนที่เธอพูดถึงคนนั้นอยู่

คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสายจากชายที่ไม่รู้จัก

ในตระกูลมีคนอะไรบ้าง นรมนรู้แจ้งที่สุด ในขณะที่จู่ๆก็มีคน แปลกหน้ามากมาย ใจของเธอเป็นห่วงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

แม่บุรีศร์จะเป็นอย่างไรบ้าง?

ถูกครินท์ควบคุมอยู่หรือไม่?

ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ตอนนี้ที่เธออยู่ข้างเจตต์เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะ สม ใช่หรือไม่? นรมนรีบลุกขึ้นทันทีอย่างรีบร้อน ทว่าเธอกลับชนกับเจตต์ที่

ออกมาจากห้องแต่งตัวพอดี

“คุณเป็นอะไร?”

เมื่อเจตต์เห็นสีหน้าของนรมนที่แปลกไป เขาอดไม่ได้ที่จะถาม

“ฉันต้องกลับไป คุณนายของตระกูลพวกเราอาจจะมี อันตราย”

นรมนพูดจบและกำลังจะออกไป แต่เจตต์กลับคว้าแขนของ เธอไว้ก่อน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ในเมื่อคุณมากับผมที่นี่ ก็ยืนยันได้ แล้วว่าคุณเข้าตาจนไม่มีที่ไป ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มากับผมโดย ไม่คำนึงถึงชื่อเสียง คุณใส่ใจบริศร์แค่ไหนผมรู้ดี ในเมื่อคุณไปกับผมแล้ว ก็ชัดเจนแล้วว่าคุณไม่เหมาะที่จะกลับไปยังตระกูลโต เล็กแล้ว อย่างนั้นตอนนี้คุณจะกลับไปเพื่ออะไรอีก?”

ไม่อาจจะพูดได้ว่า เจตต์จริงๆแล้วค่อนข้างฉลาด หรือตั้งแต่ที่ เขาขจัดออร่านักเลงรอบตัวออกไป เขาและบริศที่มีฝีมือพอๆกัน

นมนมองไปยังเจตต์ เมื่อคิดไตร่ตรองแล้วจึงพูด “เดิมทีเรื่อง ของตระกูลโตเล็กฉันไม่ควรจะเอามาพูดกับคุณ และไม่ควรเอา มารบกวนคุณ แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ

“คุณก็รู้ ขอเพียงแค่เป็นเรื่องของคุณ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลโต เล็กหรือตระกูลของใคร แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยมองผ่าน

ยิ่งเจตต์พูดเช่นนี้ นรมนยิ่งรู้สึกว่าติดหนี้เขามากเกินไป ลิขิต มาให้ไม่สามารถมอบความรักที่เจตต์ต้องการได้ แถมยังมาเป็น ภาระของเขาอีก มันทำให้นรมนยิ่งเสียใจ

“คุณไม่จำเป็นต้องดีกับฉันขนาดนี้

“คุณให้ชีวิตนี้แก่ผม มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำไม่ใช่หรือ ผมรู้ว่า คุณคิดอะไรอยู่ คุณคิดว่าคุณติดหนี้ผมมากเกินไป หลังจากนั้น ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? นรมน คุณให้ผมฟังชัดแล้ว ชั่วชีวิตนี้ผม เจตต์ติดหนี้คุณ ถ้าหากตอนเด็กไม่ใช่เพราะคุณ ผมก็คงตายไป ในกองไฟนานแล้ว คงไม่มีคุณชายเจตต์เหมือนตอนนี้ ถึงแม้ว่า ผมจะชอบคุณ แต่นั้นก็เป็นเรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ จําเป็นต้องมาแบกภาระไว้ในใจ คุณจะให้ผมเป็นพี่น้องก็ได้ เป็นเพื่อนก็ได้ ตราบเท่าที่คุณยังต้องการผม มันก็ดีที่สุดสำหรับ ผมแล้ว”
แววตาของเจตต์ทำให้นรมนไม่กล้ามองสบไปตรงๆ

เด็กคนนี้ตรงไปตรงมา และยังชัดเจนเกินไป

“ขอบคุณนะ”

บรมนมีคำพูดเป็นพันคำ แต่สุดท้ายกลับสามารถพูดออกมา ได้แค่สาม ที่แสดงความรู้สึกของตัวเอง

“ระหว่างเราไม่จําเป็นต้องพูดขอบคุณกัน พูดมาเถอะ ตกลง มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เจตต์ดึงนรมนลงไปนั่งที่เตียง

ความรู้สึกภายในใจที่ตึงเครียดของนรมนผ่อนคลายลงมาก “ฉันกังวลว่าคุณนายของตระกูลพวกเราจะถูกควบคุม

นรมนบอกเล่าเรื่องราวของครินท์ให้เจตต์ฟังด้วยเสียงอันเบา แถมยังพูดเรื่องที่กมลถูกเขาพาออกไปให้ฟัง

เจตต์ขมวดคิ้วขึ้นมา

“คนที่คุณพูดถึงคือตรินท์จริงหรือ?”

คำถามของเจตต์ทำให้นรมนนิ่งไปครู่หนึ่ง

“ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครไปได้อีก

นรมนฝืนยิ้ม

ถ้าหากเป็นไปได้ เธอก็หวังเช่นกันว่าคนที่ต่ำช้าไร้ยางอายเช่น นี้จะไม่ใช่ครินท์ ถึงอย่างไรถ้าหากไม่ใช่ญาติพี่น้อง ทุกอย่างก็คงจะง่ายกว่านี้

เจตต์ยังคงขมวดคิ้ว พลางพูด “ถึงแม้ผมจะไม่ชอบบุรีศรี แต่ พูดไม่ได้ว่า ผม บุรีศร์ และครินท์เราสามคนใดมาด้วยกัน ตอน ยังเด็กก็ทำเรื่องไม่ดีมาด้วยกัน ตนท์ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็คงไม่ สามารถทำเรื่องแบบนั้นกับบริศร์ได้ แถมตรินท์ก็เคารพคุณนาย ตระกูลโตเล็กที่สุด เขาไม่ทำเรื่องที่อกตัญญูแบบนั้นกับคุณนาย โตเล็กหรอกครับ

เมื่อได้ยินเจตต์พูดเช่นนี้ นรมนก็ถอนหายใจก่อนพูด แต่ สถานการณ์ตอนนี้เป็นแบบนี้ บางทีตอนครินท์เป็นเด็กเขาไม่ได้ เป็นแบบนี้ ตรินท์ตอนนี้ทำให้ฉันมองไม่ออกจริงๆ บางทีเขาคง ชอบเขมิกาอย่างแท้จริง หลังจากที่เขมิกาเสียชีวิตไป เขาผลัก ความรับผิดชอบทุกอย่างมาที่ฉันและบริศร์ นิสัยก็เกิดการ เปลี่ยนแปลงแต่ทว่าไม่รู้ตัว

“ถึงแม้จะเป็นเพราะเขมิกา ตรินท์ก็ไม่สามารถทําเรื่องแบบนั้น กับบุริศร์ได้”

คำยืนยันเช่นนี้ของเจตต์ ทำให้นรมนค่อนข้างแปลกใจ

“ทําไมคุณพูดแบบนี้?”

เจตต์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพูดออกมา “บางทีเพราะเรื่อง ของเขมิกาอาจทำให้เขาและบริศร์มองหน้ากันติด แต่ว่าเขาไม่ สามารถทำร้ายบริศและทุกคนที่เขาใส่ใจได้อย่างแน่นอน ยิ่ง ไปกว่านั้นผมรู้จักตนท์ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยลงมือกับเด็ก หรือผู้หญิง ถึงแม้จะไม่ได้ติดต่อกันมาห้าปี ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถลงมือกับคุณหรือลูกเพียงเพราะจุดประสงค์ที่คิดของตัว เองหรอกนะ แนวคิดของตนท์ เรื่องระหว่างลูกผู้ชาย ลูกผู้ชาย ควรแก้ไขมันเอง ถ้าหากสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง เขาชอบเข กาจริงๆ เพราะว่าถ้าหากเขมิกาเคียดแค้นคุณและบริศร์ ถ้า อย่างนั้นวิธีการของตนท์ก็คงทำต่อหน้าพวกคุณ ไม่อ้อมค้อมที่ จะต่อสู้กับบริศร์ ไม่ว่าจะอยู่หรือตายอะไรแบบนั้น เขาไม่เอา อารมณ์เรื่องหญิงสาวมาทำร้ายคนในครอบครัวด้วยแผนการ ร้ายแน่นอน แต่ว่าดูจากตั้งแต่เรื่องทั้งหมดที่คุณพูดว่ามา การก ระทำต่างๆของครินท์เหมือนวางแผนมาก่อนล่วงหน้า ดึงพวกคุณ ให้เข้าสู่กระดานทีละขั้น มันไม่เหมือนสไตล์ของตนท์ ยิ่งไปกว่า นั้น ตรินท์รักลูกมากที่สุด เขาไม่มีทางลงมือกับลูกชายของตัวเอง เด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม!”

นโมนชะงักไปนิด

“แน่ใจนะว่าที่คุณพูดมาคือครินท์

“ฉันมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ครินท์ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจ

“คุณหมายความว่ายังไง

ดวงตาของนรมนหรี่ลง ดูเหมือนเธอจะได้ยินความหมายอื่น จากคําพูดของเจต

เจตต์ส่ายหน้า ก่อนพูด “ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีหลักฐาน ผม พาคุณไปพบคนคนหนึ่งดีกว่า

“ใครคะ”
“งเม”

ค่าพูดของเจตต์ทําให้เธอชะงักศึก

จากนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าหลังจากที่ตั้งเมลอบฆ่าเธอในโรง พยาบาล ก็ถูกเจตนาตัวมา

“เธออยู่ที่ไหน?”

“เธออยู่ที่นี่!”

นรมนชะงักอีกครั้ง เธอไม่คิดว่าเจตต์จะนำคุณนายตังเมมายัง ไว้ในบ้านเก่าแก่ของตระกูลรัตติกรวรกุล

“แปลกใจมากเหรอ?”

“อื้อ!”

เจตต์ยิ้มอีกครั้ง รอยยิ้มยังคงดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ไม่รู้ทำไม นรมนยังคงเจ็บปวดหัวใจ รอยยิ้มของเขาซ่อนรอยแผลเป็นและ ความโดดเดี่ยวเอาไว้ไม่น้อย เดาว่าคงมีไม่กี่ที่รู้

“ทำไมถึงมาอยู่ในตระกูลรัตกรวรกุลได้? ฉันนึกว่าคุณนำเขา ส่งให้พฤกษ์ไปลงโทษเสียแล้ว”

เมื่อได้ยินคําในรมนพูด เจตต์ก็หัวเราะอย่างเย็นชา “พฤกษ์ เขาค่อนข้างมีความสามารถนะ แต่เขาระมัดระวังตัวเกินไป เขา

พึ่งพาบุริศร์มากไป ไม่ได้เก่งกาจอะไร”

“อย่าพูดถึงพฤกษ์แบบนี้ จริงๆแล้วเขาค่อนข้างยอดเยี่ยมเลย นะ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสำนึกในบุญคุณ เขาก็คงไม่อยู่ข้างกายบุรีศร์หรอก อันที่จริงพูดมาถึงแล้วพวกคุณพี่น้องที่สนิทกัน บุญคุณ ความแค้นทั้งชีวิตไม่มีใครสามารถเรียกคืนมาได้ ตลอดหลายปี มานี้ของพฤกษ์มันไม่ง่าย คุณไม่สามารถ…..……

“นรมน ถ้าคุณพูดถึงพฤกษ์อีกผมจะกังวลกับคุณแล้วนะ”

ใบหน้าของเจตต่ไม่ค่อยดีนัก

เขามีปมในใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะพูด เมื่อเห็นเขาแบบนี้ นรมนเลยหยุดพูด

“ตังเมอยู่ไหนละ

ค่าของนรมนทําให้สีหน้าของเจต ผ่อนคลายลง

“ห้องใต้ดินของตระกูลเรา มากับผมสิ เจตต์พานรมนออกมาจากห้อง ก่อนจะตรงไปยังห้องใต้ดิน

ภายในห้องนั่งเล่นไม่มีเงาของพรรษาและผู้หญิงของเขาแล้ว คนรับใช้คนอื่นก็ต่างพากันหลีกเลี่ยงเจตต์ ในทางตรงกันข้าม กลับทําให้นรมนไม่ได้มีความรู้สึกประหม่ามากนัก

ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงห้องใต้ดิน

เมื่อไม่ได้เจอแสงแดดบวกกับเจอแต่กับความเจ็บปวดทรมาน ใบหน้าที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีที่สูญเสียความสดใส มีริ้วรอย เพิ่มมากขึ้น

เจตต์ไม่ได้แสดงความเมตตาต่อตังเม ทั่วทั้งร่างเธอมีแต่ บาดแผล ทั้งเก่าทั้งใหม่รวมด้วยกัน ทำให้คนรู้สึกสยดสยองยิ่ง
ตั้งเม

บรมนส่งเสียงเรียกเบาๆ

ทันใดดังเมลืมตาขึ้นมา และเมื่อเธอเห็นเจตต์และนรมน ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ไอ้พวกชาติหมาทั้งสอง พวกแกมันไม่ตายดีแน่!

“สงบปากสงบค่าเสียบ้าง อยากจะให้ฉันสั่งสอนเธออีกสัก รอบหรือยังไง?”

เจตต์พูดด้วยท่าทีเฉยเมย แต่กลับทำให้ตั้งเมตัวสั่นอย่างคุม ไม่ได้ ภายในดวงตามีรั้วของความกลัว

นรมนไม่รู้ว่าเจตต์ปฏิบัติต่อตั้งเมอย่างไร แต่มันก็พอให้ผู้ หญิงยโสโอหังเช่นเธอกลายเป็นแบบนี้ได้ มันก็เพียงพอให้เห็น ความชั่วร้ายภายใต้รอยยิ้มของเจต

เธอไม่เคยคิดว่าเจต เป็นคนดี แต่คนทั่วไปถูกรอยยิ้มของเจต

หลอกลวง

นรมนกระแอมโอ ก่อนพูด “เรื่องของตนท์ คุณรู้มากน้อยแค่

ไหน”

“เขาเป็นผู้ชายของลูกสาวฉัน เป็นหลานชายของคุณพ่อ แต่ไอ้ คนอ่อนแอนั้นมันก็ยังคงยกบริศ และคุณนายตระกูลโตเล็กไว้ เหนือหัว ลูกสาวฉันมันตาบอด ไม่นึกเลยว่าจะมีลูกกับไอ้ผู้ชายแบบนี้! ถ้าฉันรู้ตั้งแต่ทีแรกว่ามันจะเป็นไอ้ขี้ขลาดละก็ ฉันจะไม่ ให้มันกับเขมิกาใต้อยู่ด้วยกัน! ”

เมื่อพูดถึงตรีนท์ ตังเม กดฟันด้วยความโกรธ ดูออกว่าเธอ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ

“คุณหมายถึงคนที่ตนท์ใส่ใจมากที่สุดก็คือปริศร์และ

คุณนายตระกูลโตเล็ก

ตั้งเมมองไปในรมน ก่อนพูดด้วยเสียงเย็นชา “อย่ามาตอแหล ต่อหน้าฉัน ตรินท์เพียงแต่มีความโกรธเล็กน้อยต่อบริศร์ ตอนนี้ เมืองชลธีไม่มีที่ให้บริศร์ยืนแล้ว และยังยอมให้แกปฏิบัติแบบนี้ กับฉัน? นรมน แกอย่ามาลำพองใจ วันหนึ่งจะมีคนมาจัดการแก กับบริศร์

“คนที่จะมาคือใคร?”

นรมนรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในคำพูดของตังเม แต่น่า เสียดายตังเมกลับปิดปากไม่พูดอะไร

“ตอบมา”

เจตต์เตะเข้าไปที่ตัวเธอ และมันอาจจะไปโดนบาดแผลของ เธอ ตังเมตัวสั่นด้วยความเจ็บปวด แต่เธอกลับไม่พูดสักคำ

เห็นได้ชัดว่า คนที่ตั้งเมพูดถึงคือความหวังสุดท้าย

คนนั้นคือใคร? นรมน นคิ้วเบาๆ คิดหาสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ได้ แต่ในเมื่อดังเมไม่ยอมพูด เธอก็รู้ว่าตัวเองอย่างไรก็ตามคงถามไม่ออก

“ฉันจะรอคนที่คุณกำลังพูดถึง

หลังจากที่นรมนพูดจบด้วยเสียงแผ่วเบา เธอก็ออกไปพร้อม กับเจต

อากาศในห้องใต้ดินไม่หมุนเวียน นรมนรู้สึกว่าร่างกายเธอ ทนไม่ไหว ไม่สามารถยืนต่อไปได้ เจตต์จึงรีบประคองเธออย่าง เร็ว

“คุณโอเคไหม? ให้ผมเรียกป้องมาดูคุณหน่อยไหม?”

“ไม่ต้อง ฉันยังทนไหวอยู่ แค่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าบางทีตรินท์อาจจะมี ปัญหาจริงๆ”

นรมนราวกับกำลังพูดกับตัวเอง ทว่าสีหน้าเธอดูเคร่งขรึมมาก

เธอและบริศร์แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสงสัยครินท์เลย ขณะนี้ เมื่อมาคิดดู การกระทำหรือคำพูดของตนท์ตรงหน้าดูมีพิรุธเต็ม ไปหมด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ