แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 941 เธอรู้อะไรใช่หรือไม่



บทที่ 941 เธอรู้อะไรใช่หรือไม่

“ฉันไม่ต้องการพวกแก? คุณแม่คะ คำพูดแบบนี้พูดแล้วคุณ แม่ไม่รู้สึกอายบ้างหรือคะ”

นรมนมองไปที่แม่ของตัวเอง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าไม่รู้เมื่อไรที่ผู้หญิงคน นี้เปลี่ยนเป็นเหินห่างและแปลกหน้าเช่นนี้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะคิด ถึงคิม

หรือว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดจะสามารถเปลี่ยนแปลงทุก อย่างได้จริงๆ?

เพราะว่าสายเลือดของครอบครัว ดังนั้นถึงได้ทุ่มเทอย่างไม่ ลังเล แต่เมื่อได้รับรู้ว่าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆของตัวเอง ท่าที ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้หรือ

หรือว่านี่จะคือนิสัยของมนุษย์

นโมนไม่เข้าใจ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความทุกข์ทรมานและเจ็บ ปวดอยู่ลึกๆ

แม่นรมนไม่สามารถสบตากับนรมนตรงๆได้ เธอจึงเงียบแทน

ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง เงียบจนสามารถได้ยินเสียงหัวใจ เต้นของคนคนหนึ่ง

นรมนยิ้มเจื่อนๆ สุดท้ายแล้วก็เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป โดยไม่พูดอะไร
พวกเขาไม่ต้องการเธอตั้งแต่ที่หาตัวเนตราพบแล้ว เธอจะยัง เพ้อฝันอะไรอีก?

เมื่อเห็นนรมนจากไปแล้ว พ่อแม่ของนรมนถึงได้โล่งอก สายตาของเนตรามองตามเงาหลังนรมนไปอย่างครุ่นคิดโดยไม่ พูดอะไร

นรมนเดินออกมาได้ไกลแล้ว ก็คิดขึ้นมาได้กะทันหันว่า ตอนนี้ บ้านของพวกเขายังไม่ได้ขาย ถ้าหากว่าจากไปล่ะก็ ไม่รู้ว่าเงินจะ พอหรือไม่

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สองคนนี้ก็เลี้ยงดูเธอมายี่สิบกว่าปี ถือเสีย ว่าเป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน เธอหยิบบัตร ATM ออกมาจากกระเป๋าใบหนึ่ง และกลับไปยัง

ห้องพักผู้ป่วย เพียงแต่ว่ายังไม่ได้เข้าไป ก็ได้ยินเสียงแม่ตัวเอง

ลอยออกมาจากด้านใน

“พวกเราทําแบบนี้กับนรมนมันเกินไปหรือเปล่าคะ ไม่ว่าจะพูด อย่างไร เธอก็เป็นเด็กที่พวกเราเลี้ยงมาจนโต ถ้าหากว่าพวกเรา มีท่าทีอ่อนลงเล็กน้อย บางทีนรมนอาจจะเห็นแก่เรื่องราวในอดีต ช่วยเหลือเนตราก็ได้”

“หากว่าเธอจะช่วยก็คงช่วยไปนานแล้ว ไม่รอจนถึงตอนนี้ หรอกค่ะ คุณแม่อย่าไร้เดียงสาเกินไปหน่อยเลย เธอเป็นคนที่ ไม่รู้จักบุญคุณคน คุณแม่คิดให้ละเอียดสิคะ หลังจากเธอรู้จักกับ แม่แท้ๆของตัวเองแล้วได้ดูแลพวกคุณแม่หรือไม่ พวกคุณแม่ใช้ ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น เธอเคยช่วยเหลือบ้างไหมคะ เธอไม่ได้ทําอะไรเลย ตัวเองก็ไปเป็นคุณนาย ในตระกูลผู้ร่ำรวย พวกคุณ แม่ในสายตาพวกเขานับเป็นอะไรได้

เนตราเอ่ยเสียงเย็น

“นรมนก็มีความลำบากของเธอ เธอไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างทรง เกียรติอยู่ในตระกูลโตเล็กเหมือนกับที่ลูกเห็นเช่นนั้น

พ่อนรมนเอ่ย

“คุณพ่อ คุณพ่อหมายความว่าอะไรคะ ป่านนี้แล้ว คุณพ่อยัง รู้สึกว่าเธอเป็นคนดีใช่หรือไม่ อย่างนั้นพวกคุณพ่อตามตัวหนู กลับมาทำไมกันคะ อย่างเรื่องการไปเรียนไวโอลินครั้งที่แล้ว หนู ก็ไม่เชื่อว่านรมนจะไม่แอบทำอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลัง ไม่ อย่างนั้นที่ ครูกวินทร์พูดว่าให้พวกเรากลับไปรอข่าวคราว คุณ พ่อก็พูดว่าความหมายของครูกวินทร์คือให้หนูกลับไปเตรียมตัว แล้วเป็นอย่างไรล่ะคะ? แค่หันกลับไป กวินทร์ก็พูดว่าหนูเงื่อนไข ไม่เหมาะสม ในตอนนั้นก็มีเพียงแค่นรมนคนเดียวที่พบกับพวก เราในอาคาร พวกคุณพ่อว่า หากเธอไม่ได้ไปหากวินทร์แล้วจะ ไปหาใครได้คะ? เบื้องหน้าเธอมีท่าทีจะช่วยเหลือหนูเต็มที่ แต่ เบื้องหลังกลับใช้แผนการเล่นลูกไม้ต่างๆ ผู้หญิงแบบนี้ ทำไม พวกคุณพ่อถึงยังมองไม่ออกกันคะ? เธอไม่หวังให้หนูได้ใช้ชีวิต อย่างมีความสุข ไม่หวังให้พวกคุณพ่อมีหน้ามีตาเพราะหนู เธอ อยากจะให้พวกคุณพ่อพึ่งพาอาศัยเธอตลอด ให้เธอได้กลาย เป็นผู้ควบคุมพวกคุณพ่อ”

คำพูดของเนตราทำให้นรมนชะงักไป
กวินทร์ไม่ต้องการเนตราแล้ว?

แต่ว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับเธอด้วยกัน?

เธอไปที่นั่นก็แค่ไปพูดคุยกับเชษฐ์เล็กน้อย เพราะอะไรเรื่อง แบบนี้ก็ยังจะกล่าวหาเธอได้อีก

เป็นการให้ร้ายผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐานจริงๆก็ยังสามารถ

สร้างขึ้นมาได้อีก นรมนจึงตัดสินใจไม่รีบร้อนที่จะเข้าไป แต่กลับพิงตัวเข้ากับ

กําแพง แอบฟังอย่างเปิดเผย

พ่อนรมนได้ยินเนตราพูดแบบนี้แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

แม่นรมนเอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “นี่เป็นเรื่องจริงหรือ เป็นเรื่อง จริงใช่หรือไม่”

นรมนรู้สึกขบขันเล็กน้อย

เรื่องนี้พวกเขาควรจะถามตัวเองไม่ใช่หรือ เธอที่เป็นคู่กรณียัง ไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็สามารถสรุปเองได้แล้ว หรือ

พ่อนรมนครุ่นคิดครู่หนึ่ง พลางเอ่ยขึ้นว่า “น่าจะเป็นความจริง ที่เมืองชลธี นอกจากนรมนกับบริศร์แล้ว ใครก็ไม่มีความ สามารถทําให้กวินทร์ไม่รับศิษย์ ผมว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง บอกไป ตั้งแต่แรกแล้วว่า นรมนดูถูกเนตรามาโดยตลอด ในจุดนี้พวกเรา ล้วนรู้ดี เฮ้อ ทำไมตอนนี้เด็กคนนี้ถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ได้ นะ? พวกเราอบรมสั่งสอนมาหลายปี กลับเลี้ยงคนอกตัญญูออกมาได้คนหนึ่งอย่างนั้นหรือ

นรมนยังคงยิ้มอยู่เช่นเดิม แต่ก้นบึงนัยน์ตาไม่มีความอบอุ่น อีกแล้ว

แม่นรมนได้ยินเช่นนี้ก็ร้องไห้ออกมา

“นรมนจะเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอมีทุกอย่างหมดแล้ว ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลโตเล็กและตระกูลทวีทรัพย์ ธาดา ชั่วชีวิตนี้แม้ว่าจะไม่ทำอะไรก็ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมี ความสุขได้ เนตราของพวกเรามีอะไร? ในปีนั้นหากไม่ใช่เพราะ ว่าคิมที่น่าชิงชังคนนั้นสับเปลี่ยนลูกของพวกเราทิ้ง ตอนนี้พวก เราจะต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้ด้วยหรือ พูดประโยคหนึ่งที่ไม่น่าฟัง นี่ล้วนเป็นเรื่องชั่วร้ายที่คิมทำเอาไว้เป็นสิ่งที่ตระกูลพรโสภณ และตระกูลทวีทรัพย์ธาดาติดค้างพวกเราตระกูลธนาศักดิ์ธน ใน ตอนนี้เธอจดจําบุญคุณของพวกเราตระกูลธนาศักดิ์ธนที่มีต่อเธอ ไม่ได้ก็แล้วไป แต่กลับมากดขี่เนตรา ไม่ได้การ ฉันจะต้องไปโต้ เถียงกับเธอ แม้ว่าจะต้องไปจากเมืองชลธี ฉันก็ไม่สามารถ กล้ำกลืนความทุกข์นี้ไปได้

พูดแล้ว แม่นรมนก็ดึงผ้าห่มออก แต่กลับถูกเนตราหยุดยั้งเอา ไว้

“คุณแม่จะไปหาเธอทำไมคะ คุณแม่นึกว่าเธอจะทำเรื่องอย่าง การเนรคุณออกมาต่อหน้าหรือคะ คุณแม่ไปหาเธอ กลับเป็นการ ป่าวประกาศชื่อเสียงดีงามให้เธอ ให้คนอื่นคิดว่าเธอไม่ลืม กำพืดเท่านั้นเอง เรื่องนี้ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ หนูถูกเชษฐ์จับตัวไปเธอก็ไม่ได้คิดหาวิธีไปช่วยหนูกลับมาใช่ไหมคะ แค่เรื่องนี้พวก คุณแม่ยังเห็นไม่ชัดเจนอีกหรือคะ ตอนนี้ก็กวินทร์ไม่ต้องการหนู แล้ว บุริศร์ยิ่งต้องการให้พวกเราไปจากเมืองชลธี พวกเราจะทำ อะไรได้คะ เงินที่ครอบครัวเรามีก็ถูกคุณพ่อน่าออกมาจัดการเส้น ทางให้หนูแล้ว แต่ว่าในเมืองชลธีไม่มีใครเห็นแก่หน้าคุณพ่อว่า กันตามที่หนูพูด บุริศร์จะต้องเล่นเล่ห์อะไรอยู่เบื้องหลัง ถ้าหาก ไม่ใช่เขาพูด คนเหล่านั้นจะกล้าทำกับหนูและคุณพ่อแบบนี้ได้ อย่างไรกัน คุณแม่คะ คุณแม่ก็อย่าเพ้อฝันอีกเลย นรมนไม่ใช่ ลูกสาวของคุณแม่นานแล้ว คุณแม่ตัดใจเสียเถอะค่ะ”

คำพูดของเนตร ทำให้นรมนหรี่ตาลง

ระยะนี้ยุ่งมากเกินไป เธอจึงไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย แค่เนตราพูด แบบนี้ พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนก็เชื่อแล้ว ช่างทำให้เธอเจ็บ ปวดใจอยู่บ้างจริงๆ

คำพูดต่อไป นรมนก็ขี้เกียจจะฟังแล้ว เธอใส่บัตร ATM เข้าไป

ในกระเป๋ากางเกงแล้วหมุนตัวเดินจากไป

ในเมื่อผู้อื่นเชื่อแล้วว่าเธอมีความผิด และเชื่อแล้วว่าเธอเป็น คนไม่รู้จักบุญคุณคน อกตัญญู เธอจะไปทำเรื่องไม่เหมาะสมจน ตัวเองอยู่ในสภาพดูไม่ได้ทำไมกัน

เธอมีเงิน แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเงินนี้มอบให้คนหรือผีใช่หรือไม่ นรมนอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก ไม่ดีเอามากๆ จนถึงขั้น หงุดหงิด

เธอไม่รู้ว่าจะมีวันหนึ่งที่ตัวเองต้องเผชิญหน้ากับการตำหนิจากพ่อแม่ผู้เลี้ยงดู แต่ที่ทำให้เจ็บปวดใจอย่างที่สุดก็คือพวกเขา ไม่เคยถามตัวเองเลยสักประโยค ในใจของพวกเขา ตัวเองเป็น คนแบบนั้นหรือ

นรมนรู้สึกว่าน่าถากถางและน่าขบขันเล็กน้อย

เธอยืนพิงเสาริมทางเดิน มองผู้คนผ่านไปผ่านมา ชั่วขณะหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่ายังเหลืออะไรในความเป็นมนุษย์อีก ยังจะเชื่ออะไรได้อีก จนกระทั่งคมทิพย์ออกมา เห็นแรมันที่มองกลุ่มคนเดินผ่านไป ผ่านมาอย่างจิตใจเลื่อนลอยด้วยหน่วยตาแดงระเรื่อ จึงตะลึงไป เล็กน้อย และรีบเดินเข้าไปหาทันที

“นรมน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”

เสียงของคนทิพย์เรียกให้นรมนได้สติ

เธอมองไปทางคมทิพย์อย่างเลื่อนลอยเล็กน้อย พยายาม เก็บงำความรู้สึกของตัวเองให้ดี เอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่มีอะไร คิดเรื่อง เล็กน้อยนะ”

“เธออยู่ที่นี่ก็ไม่กลัวหนาวหรือ รีบกลับไปเถอะ ทางด้านพฤกษ์ ฉันก็ได้ยินมาว่า เป็นเธอกับบริศร์ที่ออกเงิน ให้เงินของเขาถูก อายัด บริษัทก็หยุดเคลื่อนไหว ค่ารักษาพยาบาลของเขา ฉันยืม พวกเธอก่อน เมื่อฉันมีเงินจะต้องคืนให้พวกเธอแน่นอน”

ฟังคมทิพย์พูดเช่นนี้แล้ว นรมนก็โบกมือไปมา

คมทิพย์กับตัวเองก็นับว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาเป็นเวลานาน มากแล้ว แม้ว่าเธอจะถูกกั้นด้วยความแค้นของตระกูล แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนกับที่เนตราและพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน ปฏิบัติด้วย

นรมนรู้สึกเป็นทุกข์มากกว่าเดิมอย่างอดไม่ได้

“ไม่ต้อง เธอก็รู้ว่าตอนนี้พวกเราจนถึงขั้นเหลือเงินแค่นั้นแล้ว นี่เป็นบัตรใบหนึ่ง ด้านในมีเงินไม่มาก สามแสนกว่าได้ เป็นเงิน รางวัลที่ฉันได้จากการออกแบบ ฉันไม่ได้แตะมันมาโดยตลอด เธอเอาไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ในบ้านก็มีเรื่องมากมายขนาดนั้น แล้วยังมีเรื่องของพฤกษ์อีก เรื่องที่ต้องใช้เงินนั้นมีมาก ถึงแม้ว่า เธอจะออกไปทํางาน แต่ก็ต้องหางานก่อนใช่หรือไม่ ฉันจะช่วย ถามให้ว่าบริษัทของบริศ ต้องการคนหรือเปล่า อาศัยคุณสมบัติ ของเธอ…”

“นรมน งานของฉัน ฉันจะหาเอง เธอก็อย่ายุ่งเลย เงินฉันจะรับ เอาไว้ เรื่องอื่นๆฉันจะจัดการแก้ไขด้วยตัวเอง เธอดูแลตัวเองให้ ดีก็พอ”

คมทิพย์ตัดบทนรมน และรับบัตร ATM ในมือเธอเอาไว้

นรมนชะงักไปเล็กน้อย และพยักหน้าทันที

“ได้ เธอเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนคนหนึ่ง อยากจะทำอะไร เธอก็ทําอย่างนั้น เธอวางใจเถอะ ในเมืองชลธี มีฉันอยู่ ใครก็ไม่ กล้ารังแกเธอ”

“ฉันรู้”

คมทิพย์ยิ้มอย่างเข้าใจ
และในเวลาเดียวกันกัน เสียงของเนตราก็ดังขึ้นมา

“ไอหยา เพื่อนสนิทความสัมพันธ์ลึกซึ้ง”

นรมนหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่สนใจเธอ แต่กลับได้ยินเสียงเนตรา เอ่ยต่อว่า “คมทิพย์ เธอต้องกอดขานรมนเอาไว้ให้ดีๆนะ ถ้าเกิด ว่าวันไหนเธออารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ไม่แน่ว่าเธออาจจะถูกทรมานจน ตายได้ ฉันก็เป็นตัวอย่าง คุณพ่อคุณแม่ฉันปฏิบัติต่อเธออย่างไร แต่ตอนนี้ล่ะ เธอกลับจะไล่คุณพ่อคุณแม่ฉันออกไปจากเมืองชล ผู้หญิงแบบนี้ เธอยังกล้าจะคบหากับเธออีกหรือ ฉันขอให้เธอ โชคดี”

นรมน โกรธจนตัวสั่น ยังไม่ทันจะพูดอะไร คมทิพย์ก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ฉันไม่เคยพึ่งพาอะไรกับนรมน ฉันกับเธอล้วนมีอิสระในตัว เอง ที่เธอช่วยฉันก็เป็นไมตรีจิตร ไม่ได้ช่วยในเรื่องภาระหน้าที่ที่ ฉันต้องทำ อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเธอก็เป็นสิ่งที่คน อย่างเธอไม่มีทางจะเข้าใจเนตรา มีเวลามายุให้ ทำให้รั่วตรง นี้ ไม่สู้ไปคิดดีกว่าว่าอนาคตหลังจากนี้ของเธอจะเดินอย่างไร เรื่องพวกนั้นที่เธอทำ ฉันไม่พูดไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รู้ พ่อแม่ ของเธออยากจะเป็นคนหูหนวกตาบอด นั่นก็เป็นอิสระของพวก เขา แต่ถ้าหากว่ากล้าทำอะไรกับนรมนล่ะก็ ฉันรับประกันเลยว่า เธอจะต้องเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินคมทิพย์เอ่ยเช่นนี้แล้ว จู่ๆนรมนก็รู้สึกว่าคำพูดของ คมทิพย์มีความนัยแฝงอยู่

“คมทิพย์ เธอรู้อะไรใช่หรือไม่
เนตราหน้าเปลี่ยนสีในทันที

“เธอจะรู้อะไร เธอก็แค่พูดไร้สาระไปเรื่อย คมทิพย์ เธอมี สภาพแบบนี้แล้วยังจะมาทำตัวอวดเก่งต่อหน้าฉันอีก ที่ร้าย อย่างไรฉันก็มีคุณพ่อคุณแม่ปกป้องอยู่ เธอมีอะไรล่ะ น้องชายที่ เป็นอัมพาตคนหนึ่ง บิดาที่โง่เง่าคนหนึ่ง ตอนนี้ก็มีชายหนุ่ม ที่นอนเป็นผักอีกคนหนึ่ง ผู้หญิงอย่างเธออยากจะเลี้ยงดูพวกเขา คาดว่าต้องไปแต่งงานเป็นภรรยาน้อยให้กับตาเฒ่าสักคนหนึ่ง ล่ะมั้ง? แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่เห็นว่าผู้อื่นจะให้เงินเธอเลย ดูสิ เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนหนึ่ง ใครจะมาชอบเธอกัน ไม่สู้เธอไปเป็นองค์หญิงในห้องเต้นรำเถอะ”

“เนตรา!”

นรมน โกรธแทบบ้าขึ้นมาทันที

เธอดูถูกตัวเองได้ แต่ดูถูกคมทิพย์เช่นนี้ไม่ได้

ในตอนที่นรมนกำลังจะลงมือ คมทิพย์ก็จับมือนรมนเอาไว้ มองตรงไปทางเนตรา

“อุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้นกับพฤกษ์ยังไม่ได้รายงานข่าวสินะ? เธอรู้ได้อย่างไรว่าเขากลายเป็นเจ้าชายนิทรา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ