แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 434 กมลอยู่ที่ไหน



บทที่ 434 กมลอยู่ที่ไหน

“ที่ไหนคะ”

เส้นผมของเธอปัดผ่านใบหน้าของบริศร์ไปโดยไม่รู้ตัวแม้แต่ น้อย กลิ่นกายหอมจางๆ ลอยปะทะเข้าไปในจมูก ทำให้เขาตะลึง ไปชั่วขณะ

“ตรงนี้มันที่ไหนอย่างนั้นเหรอคะ”

นรมนมองไปยังจุดสีแดงบนคอมพิวเตอร์ ก่อนจะผลักบุริศร์ เบาๆ เขาจึงเพิ่งจะมีการตอบสนองก็ในตอนนั้นเอง

“ทางใต้ของเมือง

บุริศร์พูดพลางส่งที่อยู่ไปให้พวกพฤกษ์ ให้เขาไปสกัดคนไว้ ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

นรมนรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “พวกเราก็ไปดูกันเถอะค่ะ”

“นรมน คุณไม่ต้องไปแล้ว เรื่องนี้ให้ผมจัดการเองเถอะ

บุริศร์จับมือเธอเอาไว้

นรมนเหนื่อยเกินไปแล้ว ตั้งแต่หลังจากที่ได้รับข่าวว่ากผลถูก ลักพาตัวไป อารมณ์ของนรมนก็อยู่ในสภาวะตึงเครียดมาตลอด

พอได้สบเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของบุรี ศร์แล้ว นรมนก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร จะให้ฉันรออยู่ที่บ้านก็ คงไม่ไหว ไม่สู้ตามคุณไปดูด้วยเสียเลยยังจะดีกว่า

“คุณก็ได้ยินแล้วนี่ว่ากมลไม่ได้อยู่ที่นั่น พวกเราก็แค่จะไปจับ พวกตังเม ดังนั้น….

“อย่างน้อยก็ยังมีประกายแห่งความหวังอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”

สายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของนรมนทำให้บริศร์ทน

มองไม่ได้

“คุณสวมเสื้อผ้าให้หนาหน่อยเถอะ ข้างนอกอากาศหนาว

มาก”

“ได้ค่ะ”

เมื่อนรมนเห็นว่าบริศ ตกลงแล้ว ก็รีบไปเปลี่ยนเป็นเสื้อนอกที่ หนาขึ้นมาอีกนิดทันที

ทั้งสองคนขึ้นรถอย่างรวดเร็วแล้วตรงไปยังพิกัดบริเวณทาง

ใต้ของเมืองทันที

คนของพฤกษ์ได้เข้าล้อมรอบพื้นที่ที่บุริศร์ให้มาแล้ว

ที่นี่ก็เป็นแค่เขตที่พักอาศัยที่ธรรมดามากแห่งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพ

ราะตุลยาโทรหาตังเมละก็ คงจะหาได้ยากมากจริงๆ

“ควบคุมไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง”

บริศ ลงจากรถ

ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านปลายผม ทำให้เขาดูเย็นชาเป็นอย่างมากนรมนที่ถูกเขาทิ้งเอาไว้ในรถ กำลังมองสถานการณ์ภายนอก

ผ่านกระจกใส

พฤกษ์พยักหน้าแล้วพูดว่า “ควบคุมเอาไว้หมดแล้วครับ แต่ว่า ยังไม่เข้าไป ด้วยเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวซะก่อน

“ให้คนปิดประตูหน้าหลังทั้งหมดแล้วใช่ไหม

“ครับ!”

บุริศร์หรี่ตามองบ้านหลังที่อยู่ตรงหน้า แล้วกล่าวอย่างเย็นชา ว่า “ตั้งเมอยู่ที่นี่คนเดียวหรือว่านาครก็อยู่ด้วย

“น่าจะมีแค่ตั้งเมครับ ดูแล้วไม่มีร่องรอยของคนอื่นอยู่ด้วย

เลย”

ในตอนนั้นเองฝั่งเจตต์ก็ส่งข้อความมา

ฉันหาตัวนาครพบแล้ว ควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้วด้วย นายจะ

มารับตัวไปเมื่อไหร่ก็มาเถอะ

นี่นับได้ว่าเป็นข่าวดีข่าวหนึ่ง

บริศ ส่งข้อความขอบคุณกลับไปอย่างเฉยชา จากนั้นก็ปิด

โทรศัพท์

“ลงมือเถอะ”

ด้วยเกรงว่าจะทำให้นรมนได้รับบาดเจ็บ บุริศร์จึงไม่ได้ตามพ วกพฤกษ์เข้าไปด้วย แต่รออยู่ที่อยู่รถเป็นเพื่อนนรมนแทน

นรมนรู้สึกกระวนกระวายและตึงเครียดเป็นอย่างมาก ร่างกายของเธอจึงอยู่ไม่สุข ถ้าไม่ใช่เพราะบุรีศร์จับมือของเธอไว้ เธอคง

รีบวิ่งออกจากรถทันที

ไม่ง่ายเลยกว่าพวกพฤกษ์จากควบคุมตัวตังเมเอาไว้ได้

“พวกแกคิดจะทําอะไร บุกรุกเข้ามาในบ้านของฉันแบบนี้ ฉัน สามารถแจ้งความจับพวกแกได้เลยนะ!”

เห็นได้ชัดว่าตังเมพฤกษ์ได้ จึงพยายามที่จะดิ้นรนขัดขืน

อย่างรุนแรง

ทันทีที่นรมนเห็นตังเม ก็แทบจะห้ามตัวเองให้พุ่งเข้าไปตบเธอ

สักสองฉาดไม่ไหว

ผู้หญิงคนนี้เลวเกินไปแล้วจริงๆ

เธอเป็นคนทําเรื่องทั้งหมดนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน เธอก็คงไม่ถูกรังเกียจ ไม่ติดอันดับ ค้นหาของคนในเมืองชลธี และคงไม่มีทางปล่อยให้ลูกสาวของ ตัวเองปรากฏตัวออกมาจนต้องถูกลักพาตัวไปแบบนี้

ตอนที่นรมนกำลังจะลงจากรถ ก็ถูกบุริศร์ห้ามเอาไว้

“ออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

บริศ ส่งสัญญาณให้พวกพฤกษ์พาตังเมเข้าไปในรถ จากนั้นก็ ค่อยลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปข้างในที่พักของทั้งเม

ห้องของเธอค่อนข้างรก แต่ก็มีทุกอย่างที่ควรมี

นรมนเดินตามบุรีศร์มาติดๆ มองไปที่คอมพิวเตอร์ในห้องเขียนคำวิจารณ์เกี่ยวกับเธอเอาไว้จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งบันทึกการสนทนาของพวกไอโอ แล้วก็ยังมีรูปภาพของเธออีก

หลายภาพ

ทั้งยังเจอพื้นของภาพถ่ายต้นฉบับ ใบหน้าที่อยู่บนนั้นเป็นรูป ลักษณ์ของนรมนมเมื่อห้าปีก่อนอย่างที่คิดไว้

บริศ เอาภาพถ่ายทั้งหมดนี้ลง จากนั้นก็เรียกนักข่าวมาที่นี่

ก่อนที่นักข่าวจะมา บุริศร์ก็ได้เก็บกวาดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ตอนรมนออกไปจนหมดแล้ว

นรมนเริ่มสืบหาเบาะแสของกมลอย่างบ้าคลั่ง แต่ที่น่า เสียดายก็คือที่นี่ไม่มีร่องรอยของกมลเลยแม้แต่น้อย

เธอทรุดนั่งลงไปบนเก้าอี้อย่างหมดหวังและพึมพำกับตัวเอง

“กมลอยู่ที่ไหนกันแน่ ตกลงแล้วตังเมพาเธอไปไว้ที่ไหนกัน

หลังจากที่บุริศ เก็บกวาดทุกอย่างจนเสร็จสิ้น ก็หันมากระซิบ กับนรมนว่า “คุณกลับขึ้นรถไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวพวกนักข่าวจะ มาแล้ว คุณอยู่ที่นี่ต่อไปเกรงว่าจะไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้อารมณ์ของ คุณไม่ดีเอามากๆ ทางนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง ตกลงนะ

นรมนมองไปที่บุริศร์ มองไปยังท่าทีที่เต็มไปด้วยแผนกลยุทธ์ ของเขา เดิมทีคิดจะถามเขาถึงเรื่องของกมล แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะกลืนมันกลับเข้าไป

“เข้าใจแล้วค่ะ”นรมนกลับขึ้นไปบนรถอย่างสิ้นหวัง มองไม่เห็นความเจ็บปวด และความยุ่งเหยิงทางอารมณ์ที่พาดผ่านนัยน์ตาของบริศร์แม้แต่ น้อย

นักข่าวมาถึงเร็วมาก ภายใต้การนำของบริศร์ ในที่สุดคดีการ ใส่ร้ายและทําลายชื่อเสียงของนรมนก็เผยความจริงออกมาจน ได้

มีรูปตัดต่อของบริศร์อยู่ในคอมพิวเตอร์ จากฝีมือของเขาแล้ว พวกนักข่าวไม่มีทางพบร่องรอยของการติดต่อได้อย่างเด็ดขาด

ยังมีรูปถ่ายที่คล้ายกับนรมนอีกหลายสิบรูป แต่ละรูปก็จะมี ภาพถ่ายครึ่งท่อนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ในคอมพิวเตอร์ก็ยังมี หลักฐานที่ตั้งเมใช้จ้างไอโอมาใส่ร้ายบรมนอีกเพียบ

พวกนักข่าวรู้สึกราวกับว่าได้พบที่ซ่อนสมบัติอย่างไรอย่างนั้น จึงรีบถ่ายและบันทึกเอาไว้อย่างรวดเร็ว

บริศ เงียบๆ อยู่ด้านข้าง

เดิมทีเมื่อเห็นว่าความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตนเองถูกชำระจน สะอาดหมดจด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้คนมีความสุข ทว่านรมน กลับไม่ดีใจเลยแม้แต่สักนิดเดียว

เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของกมล ไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกของเธอ อยู่ที่ไหน หรือเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกเหมือนมีแมวกำลังขวนอยู่ที่ หัวใจ จะอย่างไรก็ไม่อาจสงบลงได้

หลังจากเสร็จเรื่องทางนี้แล้ว บุริศร์จึงกลับขึ้นไปบนรถขณะที่เขากำลังขึ้นรถก็ได้พาลมหนาวสายหนึ่งมาด้วย

ลมหนาวนี้ทำให้นมบอดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้ “ร่างกายของผมเย็นมาก คุณอย่าเข้ามาใกล้จะดีกว่า”

เมื่อบริศ เห็นเธอเป็นแบบนั้น ก็รีบขยับออกห่างทันที

นรมนไม่ได้พูดอะไร จิตใจยังตกอยู่ในความสับสน

“ยังไม่มีข่าวกมลอีกเหรอคะ”

“ยังไม่มี ทว่าอีกไม่นานก็จะมีแล้ว”

บุริศร์กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนที่จะขับรถออกไป นี่ถูกกำหนดไว้แล้วว่าให้เป็นคนที่ไม่สงบ

การโจมตีของบุริศร์ในครั้งนี้ จึงทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่ว เมืองชลธี

ตอนที่ตั้งเมถูกบุริศร์พาตัวกลับมาที่ตระกูลโตเล็กนั้น นรมน คิดที่จะไปสอบถามร่องรอยของกมลด้วยตัวเอง ทว่ากลับเห็นบุรี ศร์พาตังเมลงไปที่ห้องใต้ดิน แล้วให้คนทั้งตัวเธอเอาไว้ที่บ้าน ใหญ่

ตรินท์พูดกับนรมนว่า “พี่สะใภ้ นี่ก็ดึกมากแล้ว ยังมีน้ำค้าง ตกหนักอีก รีบกลับห้องไปทำตัวเองให้อุ่นก่อนเถอะ ผมให้คนไป ต้มน้ำมาแล้ว คุณก็ดื่มสักหน่อย จะได้ไม่เป็นหวัด คุณวางใจ เถอะ มีพี่ชายของผมอยู่ จะต้องไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน

นรมนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจเมื่อเห็นครินท์เข้ามาขวางไม่ให้ตัวเองเข้าไป

ยังมีที่ไหนในตระกูลโตเล็กที่เธอเข้าไปไม่ได้อีกอย่างนั้นเหรอ

ขนาดอาณาจักรรัตติกาลก็ยังมอบให้เธอแล้ว กับอีแค่ห้อง ใต้ดินทําไมเธอถึงจะลงไปไม่ได้กันนะ

ถึงแม้จะบอกว่าอุณหภูมิในห้องใต้ดินค่อนข้างที่จะเป็น แต่ ร่างกายของเธอก็ยังคงรับได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเกี่ยวข้องกับ เบาะแสของกมล พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังเธอ

ความสงสัยปรากฏขึ้นมาในใจของนรมน ทว่ากลับไม่ได้สร้าง ความเสียหายแม้แต่น้อย เธอตามตรินท์เข้าไปในห้องรับแขก ของบ้านใหญ่ของตระกูลโตเล็ก

ภายในห้องรับแขกเงียบสงบเป็นอย่างมาก พวกคนรับใช้ กำลังพักผ่อนอยู่ ส่วนคุณนายตระกูลโตเล็กก็หลับไปแล้ว

“กานต์ล่ะ”

“กานต์กับกิจจาหลับไปแล้ว”

คำพูดของตนท์ทำให้นรมนชะงักไปครู่หนึ่ง กานต์ช่างแตกต่างกับเด็กคนอื่นเสียจริง

กมลถูกลักพาตัวไปแล้ว กานต์ที่นั่งอยู่บนรถคันเดียวกันแล้ว เห็นน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา จะไป นอนหลับอย่างสบายใจแบบนี้ได้ยังไง

นี่ไม่ใช่นิสัยของกานต์เลยสักนิดนรมนบังเกิดความสงสัยในหัวใจมากขึ้นเรื่อยๆ

ในตระกูลโตเล็กแห่งนี้ นอกจากเธอแล้ว ดูเหมือนว่าคนอื่นจะ เฉยชาเอามากๆ ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย สักนิด

กระทั่งบุรีศร์เองก็ยังดูไม่ร้อนรนเหมือนตอนที่กานต์หายตัวไป

เลย

เติมทีคิดว่าเป็นเพราะบริศ ใจเย็น คงเกรงว่าจะทำให้เธอ หวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงต้องบังคับตัวเองให้สงบนิ่งเข้าไว้ แต่พอ มาคิดดูแล้ว นรมนกลับพบช่องโหว่และเรื่องที่น่าสงสัยเต็มไป หมด

ครินท์ต้มน้ำร้อนเสร็จแล้วก็ส่งให้นมน

ดูจากสภาพของตนท์แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่ได้นอนเลย ตลอดทั้งคืน นรมนจึงถามว่า “คุณรออยู่ที่บ้านตลอดทั้งคืนเลยเห

รอคะ”

“เอ๊ะ อา พี่ชายให้ผมไปช่วยเจตต์ควบคุมตัวนาครน่ะครับ นี่ ผมก็เพิ่งกลับมาเอง

หลังจากที่ได้ยินแบบนี้แล้ว นรมนก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่

ถูกต้อง

แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ดื่มน้ำเงียบๆ ทว่า บรรยากาศแบบนี้กลับทำให้ครินท์อึดอัดเล็กน้อย

“พี่สะใภ้ ผมต้องขอโทษเรื่องตั้งเมด้วยนะครับตรินท์เปิดปากพูด

นรมนชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะถามว่า “เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับ คุณอย่างนั้นเหรอคะ”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่แท้ๆ ของเขมิกา และยังเป็นแม่ภรรยา ของผมด้วย ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะผม เขมิกาก็คงไม่ทำกับคุณ แบบนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังคงหลงเหลือเรื่อง พวกนี้เอาไว้ ผมจึงอยากจะขอโทษคุณจริงๆ

ความจริงครินท์ก็อยากจะเอ่ยคำขอโทษกับนรมนนานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสสักที

นรมนายหน้าแล้วพูดว่า “คุณก็คือคุณ เธอก็คือเธอ เรื่องพวก นี้ไม่เกี่ยวกับคุณเลย ถ้าหากเขมิกากับดังเมไม่มีความปรารถนา ต่อตระกูลโตเล็กละก็ ฉันก็คงไม่ไปขวางทางพวกเธอหรอก ดัง นั้นคุณไม่จําเป็นที่จะต้องขอโทษ

ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ตรินท์ก็ยิ่งปวดใจ

“หลายวันมานี้ก็เอาแต่ยังตลอด ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดขอบคุณ คุณสักคำ ทางฝั่งกิจจาก

“ครินทคะ”

“ครับ”

“กมลอยู่ที่ไหน”

นรมน ใช้ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นจ้องมองไปยังครินท์“กมลเหรอ กมลไม่ได้ถูกลักพาตัวไปหรอกเหรอ” เมื่อถูกนรมนถามเข้าแบบนี้ ตนท์ก็ชะงักไปชั่วขณะ ทว่าใน

ชั่วพริบตานั้น นรมนก็สามารถจับพิรุธได้แล้ว

เขารู้เบาะแสของกมลจริงๆ ด้วย

บางทีบุริศร์ก็อาจจะรู้เบาะแสของกมลแล้วเหมือนกัน ทันใดนั้นนรมนก็ลุกขึ้นมา คิดจะไปที่ห้องใต้ดิน

“ฉันจะไปถามดังเมว่าเธอซ่อนลูกของฉันเอาไว้ที่ไหน ถ้าหาก ไม่พูดละก็ ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้เธอคายมันออกมา

พูดพลางนรมนก็เดินไปทางห้องใต้ดิน ตอนนี้ตนท์รู้สึกกังวลเล็กน้อย

“พี่สะไภ้อย่าไปนะ! ห้องใต้ดินเย็นเกินไป ร่างกายของคุณรับ ไม่ไหวแน่ นอกจากนี้พี่ชายยังบอกแล้วว่าให้คุณรอฟังข่าวอยู่ ข้างบน พี่สะใภ้วางใจเถอะ พี่ชายจะต้องพากมลกลับมาได้อย่าง แน่นอน”

ขณะที่ตนท์กำลังจะเข้าไปห้าม อยู่ๆ นรมนก็หยุดเท้าเสีย อย่างนั้น

“ทำไมคุณถึงมั่นใจนักว่าพี่ชายของคุณจะพากมลกลับมาได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ