แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1005 นอกจากคุณผมไม่ต้องการใคร



บทที่ 1005 นอกจากคุณผมไม่ต้องการใคร

บุริศร์กะพริบตา แสร้งทำเป็นถามอย่างไม่รู้เรื่อง “มีเรื่องอะไร เหรอ? ”

“คุณแกล้งทําเป็นโง่ใช่ไหม? ”

นรมมหยิกหูของบริศร์ทันที ” จะพูดไม่พูด? ”

บุริศร์ตกใจ

เหตุการณ์แบบนี้เคยเห็นแต่ในทีวี คิดไม่ถึงว่าตนเองจะกลาย เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เดิมเคยคิดว่าจะต้องโกรธมาก จนแม้แต่ต่อ ต้าน แต่น้ำหนักมือของนรมนไม่ได้แรงมาก แถมตอนถามยัง แกล้งทําเป็นโกรธด้วยซ้ำ เผยให้เห็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้บริศร์กลืนน้ำลายลงคอโดยไม่ตั้งใจ

“คุณภรรยา ตอนนี้คุณช่างกล้าหาญจริง ๆ

“เหอะ แล้วยังไง? ยังไม่ยอมบอกมาอีก! ”

นรมนทำปากมุ่ย ท่าทางแกล้งทำเป็นโกรธนั้นทำให้บริศร์ อยากจะผลักเธอลงไปบนพื้น แล้วลงโทษให้สาสม แต่เขายังมี สติอยู่ รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน

“ไม่มีอะไรหรอก คุณวางใจเถอะ ผมรับรองว่าผมเป็นผู้ชายที่มี แนวทางตามปกติ นอกจากคุณผมไม่ต้องการใคร จริงนะ ฟ้าดิน เป็นพยานได้”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตะลึงเล็กน้อย นึกถึงเรื่องที่ราเชน ชอบผู้ชายขึ้นมา จึงผลักบุริศร์ออกไปอย่างช่วยไม่ได้

“คุณเบี่ยงเบนหัวข้อให้มันน้อยหน่อย ถ้ามีสักวันคุณกล้า

วุ่นวายกับผู้ชาย ฉันจะทำให้คุณกลายเป็นฝ่ายรับถึงที่สุด ให้คุณ ได้ลิ้มลองรสชาติชีวิตของวันที

นรมนพูดอย่างเย่อหยิ่งมาก

บริศร์หัวเราะขึ้นมาอย่างเอาอกเอาใจ

ภรรยาตัวน้อยคนนี้ นับวันยิ่งกล้าหาญ และนับวันยิ่งทําให้เขา รู้สึกชอบอย่างยิ่ง

“ไม่กล้าหรอก”

“ดีมาก! ”

นรมนสัมผัสได้ว่าบุริศร์ตัวร้อน จึงรู้สึกเป็นห่วงทันที

“ทำไมตัวคุณถึงได้ร้อนขนาดนี้? คงจะไม่

“ไม่มีอะไรหรอก ที่นี่ค่อนข้างอบอ้าว พวกเขาไม่มีทางปล่อย ให้เกิดอะไรขึ้นกับผม คุณสบายใจได้เลย”

เห็นบุริศร์ยังดูมีชีวิตชีวา นรมนจึงวางใจ

“ราเชนบอกว่าจะให้คนพาตัวเนตราส่งกลับไปเมืองชลธี คุณ คิดจะทำอย่างไรกับเนตรา? ”

“เอาตามที่คุณต้องการเลย”
ณ จุดนี้ บุริศร์หวังเอาไว้เสมอว่านรมนจะเป็นคนจัดการเนตรา เอง

ได้ คุณอยู่ที่นี่ให้สบายใจสักพัก พักผ่อนสักหน่อย เรื่องข้าง นอกส่งมาให้ฉัน ในเมื่อพวกมันคิดว่าคุณคือที่พึ่งพิงของฉัน ตอน นี้จึงขังคุณเอาไว้ในนี้ แน่นอนว่าจะต้องพุ่งเป้าลงมือกับฉัน ปีศาจ ร้ายมากมายเช่นนี้ ฉันต้องจับออกมาทันที จะได้ไม่ต้องคอยอยู่ ข้างหลังแอบวางแผนทำร้ายพวกเราทุกวัน ทำร้ายพวกเราจน ชีวิตไม่มีความสุข”

นรมนเล่นเนกไทของบริศร์ กล่าวออกมาเบา ๆ

แน่นอนว่าบุริศร์ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ

“ดูแลตัวเองให้ดี ถ้าไม่ไหวก็ให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับ ตระกูลพรโสภณมาช่วย

“เข้าใจแล้ว ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี

นรมนไม่อยากจากบริศร์ไป แต่รู้ว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้ว

เดิมที่สามารถเข้าไปเจอบุริศร์ได้ก็เป็นเรื่องที่แปลกใจเหนือ ความคาดหมายแล้ว ถ้าตนเองยังคิดจะแหกกฏเพราะความไม่รู้ จักพอ นรมนไม่รู้ว่าหลังจากนี้บริศร์จะเป็นอย่างไร

เธอเป็นห่วงมาก

“ไปเถอะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร รอคุณมารับผมออกไป ผม จะคอยปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ คุณ
เมื่อบริศ พูดคำเหล่านี้ออกมา แววตามีความคลุมเครือ

แค่ก ๆ

นรมนแกล้งทำเป็นไอสองที เพื่อปกปิดความเขินอายของ

ตนเอง

“อืม”

บุริศร์รู้สึกตัดใจไม่ลงขึ้นมากะทันหัน ไม่ยอมปล่อยมือที่จับนร

มน

มองเห็นบุริศร์เหมือนเด็ก ในใจของนรมนก็รู้สึกแย่

“ฉันหาเส้นสายพาคุณออกมาดีกว่าไหม? ”

“ช่างเถอะ อีกฝ่ายพยายามอย่างหนักเพื่อเอาผมเข้ามาไม่ ควรเสียหน้าเร็วขนาดนี้ มีเรื่องอะไรคุณไปหาชัยยศกับธรณีได้ ผมบอกพวกเขาเอาไว้แล้ว”

บริศร์รู้สึกว่ายิ่งอยู่กับนรมนนานขึ้น ก็ยิ่งตัดใจปล่อยเธอไปไม่

“ได้ ฉันไปก่อนนะ”

นรมนจูบบุริศร์เบา ๆ กลับถูกบุริศร์จับท้ายทอยเอาไว้ทันที ตามมาด้วยจูบที่รุนแรงพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

นรมนรู้สึกว่าริมฝีปากของตนเองบวมนิ่ง

“คนบ้า”
นรมนผลักบุริศร์ออกและวิ่งออกไป

มองแผ่นหลังของเธอ มุมปากของบุริศร์ยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าอ่อนโยน

ทันใดนั้นเขาก็กุมศีรษะของตนเองอย่างกะทันหัน และขดไป ทั้งตัว ถึงแม้จะพยายามเก็บมันเอาไว้ แต่ร่างกายก็สั่นสะท้าน อย่างควบคุมไม่ได้

“คุณเป็นอะไรไป?”

ผู้คุมเห็นท่าทางแปลก ๆ ของบุริศร์ จึงรีบไถ่ถาม แต่กลับไม่ กล้าเข้าไปใกล้ตรงหน้า เพราะกลัวว่าบุริศร์จะจงใจแกล้งทำ

บริศ กัดฟันกรามแน่น บนศีรษะมีเหงื่อไหลออกมาเต็มไป หมด

อาการเจ็บเส้นประสาทของเขาไม่ได้กำเริบมานานแล้ว ครั้ง

ก่อนป้องยังเคยถามเขา เขาเข้าใจว่าตนเองหายดีแล้ว เพียงแต่

คิดไม่ถึงว่าอาการจะมากำเริบในนี้

ผู้คุมเห็นบุริศร์มีอาการผิดปกติ จึงรีบติดต่อคนให้พาบุริศร์ไป โรงพยาบาล และเพื่อป้องกันเขาหลบหนี จึงวางกำลังคนนอก เครื่องแบบโดยรอบจำนวนมาก และทั้งหมดนี้ นรมนไม่รู้เรื่อง เลยสักนิดเดียว

หลังจากนรมนออกไป ใบหน้ายังคงร้อนผ่าว
คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมมาบรรยายได้ นรมนคิดว่าตนเองจะต้องเรียกรถถึงจะสามารถกลับไปได้ คิด ไม่ถึงว่าคน ด ายังอยู่ เมื่อมองเห็นนรมนก็รีบก้าวเข้ามา ด้วย ท่าทางเคารพนอบน้อม

“คุณนรมน ผมจะคุ้มกันคุณไปสนามบิน ตั๋วเครื่องบินถูก เปลี่ยนเรียบร้อย คือหลังจากนี้หนึ่งชั่วโมง ตอนนี้เวลาที่พวกเรา เดินไปทางค่อนข้างเร่งด่วน

เมื่อนรมนฟังจบก็นิ่งไปสักพัก ถามว่า “คำสั่งของราเชนเห รอ?

“ใช่ครับ”

นรมนหรี่ตาลง ไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นขึ้นไปบนรถ

ความเร็วของรถไม่ช้าและไม่เร็ว แต่กลับเพียงพอเวลาขึ้น เครื่องบินที่ประมาณการเอาไว้ล่วงหน้า

หลังจากนรมนขึ้นเครื่องบิน คนชุดดำก็หายไป

สำหรับการกระทำของราเชน นรมนรู้สึกประหลาดใจ แต่กลับ

ไม่พูดอะไร

เธอหลับตาพักผ่อน

หลังจากผ่านไปชั่วโมงกว่า เครื่องบินก็ลงจอดที่เมืองชลธี

นรมนรู้ว่าเรื่องของบริศร์มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะตามมา ถึงเมืองชลธีอย่างรวดเร็ว ไม่แน่ว่าด้านนอกอาจมีนักข่าวมากมายรอเธออยู่ก็ได้

ตอนนี้เธอบาดเจ็บไปทั่วร่างกาย รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง จึงไม่มี แรงรับมือกับนักข่าว ทำได้เพียงออกทางช่องฉุกเฉิน

เมื่อนรมนออกมาจากช่องฉุกเฉิน ก็มองเห็นรถมายบัคจอดอยู่ เงียบ ๆ ตรงนั้น เมื่อเห็นนรมน กระจกรถก็ลดลงมา ปรากฏ โฉมหน้าอันหล่อเหลาของธรณีตรงหน้าเธอทันที

“นรมน ขึ้นรถ ฉันจะพาเธอกลับบ้าน

นรมนไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดกับการปรากฏตัวของธรณี ในเมื่อบริศ บอกว่า เขาแจ้งกับธรณีเอาไว้แล้ว ดังนั้นนรมนจึงรีบ เดินเข้าไป เปิดประตูรถ และยังมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่พบคน อื่นถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ผมได้ให้คนเคลียร์สถานที่แล้ว วางใจเถอะ” แน่นอนว่าธรณีรู้ว่านรมนกังวลเรื่องอะไร นรมนมองธรณี ยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาทันที “คุณอาเล็ก ดีใจที่ได้เจอคุณจริง ๆ ”

“ให้มันน้อยหน่อย ตอนคุณอยู่ใน เมืองหาเงินไม่ได้ก็ไม่มา หาผม ยังเห็นผมเป็นคนในครอบครัวอยู่ไหม? ตอนนี้ยังคิดจะ สอพลอเพื่อเอาใจผม สายไปแล้ว ผมโกรธแล้ว”

ธรณีรู้เรื่องที่นรมนอยู่ใน เมือง จึงรู้สึกโกรธ โดยปริยาย เขา โกรธในรมนไม่เห็นเขาเป็นคนในครอบครัว
ได้ฟังธรณีพูดแบบนี้ นรมนก็รู้สึกไม่เป็นธรรม

“คุณอาเล็ก คุณพูดปรักปรำฉันเกินไปหรือเปล่า ฉันแค่อยาก ลองดูว่าตัวเองมีความสามารถไหม ถ้าตั้งแต่เริ่มก็ร้องหา ครอบครัวแล้ว ฉันจะออกไปทำธุรกิจทำไม? ฉันอยู่ในตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาหรือตระกูลโตเล็กไม่ดีกว่าเหรอ?

“ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถมอบธุรกิจ ทั้งหมดของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาให้คุณ

ธรณีพิจารณาอย่างจริงจังสุด ๆ

“อย่า ๆ ๆ ฉันไม่สนใจธุรกิจ

นรมนรีบปฏิเสธ

ล้อเล่นหน่ะ ถ้าเธอรับช่วงธุรกิจของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริง ๆ เธอยังจะมีเวลาพูดเรื่องความรักกับบุริศร์อีกเหรอ?

ธรณีสายหน้า แต่ก็ไม่ฝืนใจเธอ เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้

คุณอาสามไม่อยู่บ้าน ผมพาคุณออกไปกินข้าวข้างนอกดีไหม? ”

“ไม่ต้องหรอก ฉันจะกลับไปตระกูลโตเล็กก่อน เกิดเรื่องแบบนี้ ขึ้นกับบุริศร์ ตอนนี้ธิดาก็ท้องอีก ไม่รู้ว่านักข่าวพวกนั้นจะทำให้ พวกเขาอับอายหรือเปล่า ฉันอยากกลับไปดูก่อน

อนรมนพูดถึงเรื่องนี้ ธรณีจึงเหลือบมองท้องของเธอ โดย ไม่รู้ตัว และกล่าวอย่างเสียดาย “นรมน ตอนนี้คุณมีลูกสามคน แล้ว อย่ามีลูกอีกเลย ร่างกายของคุณไม่รู้ว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ หรือเปล่า พูดตามตรง ในเรื่องนี้ บุริศร์ค่อนข้างน่าผิดหวัง
“คุณอาเล็ก อย่าโทษเขาเลย

นรมนรู้ว่าธรณีสงสารตนเอง แต่ลูกไม่อยู่แล้ว เรื่องนี้อธิบาย ไม่ได้จริง ๆ ถึงแม้จะเป็นความผิดของบริศ นรมนก็ไม่อาจปล่อย ให้คนอื่นมาพูดว่าสามีของตนเองผิดได้

“คุณเนี่ยนะ ชอบเข้าข้างเขา

ธรณีถอนหายใจ และสั่งให้คนขับกลับไปที่บ้านตระกูลโตเล็ก ที่นี่มีนักข่าวเกาะติดอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เพราะบอดี้การ์ดของ ตระกูลโตเล็กนั้นยอดเยี่ยมมาก พวกเขาจึงเข้าไปไม่ได้

รถของธรณีขับเข้าไปในบ้านตระกูลโตเล็กโดยตรง ป้องกันไม่ ให้นักข่าวมีโอกาสก่อความวุ่นวายกับนามน

หลังจากนรมนกลับมาที่ตระกูลโตเล็ก ธิดากับนาวินก็ออกมา ทันที

“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ปลอดภัยใช่ไหม? บนอินเทอร์เน็ตบอกว่าพี่ ชายของฉันฆ่าคนตาย เป็นความจริงหรือเปล่า? พี่ชายของฉัน ล่ะ? ”

ในชีวิตนี้ธิดาได้อยู่กับคนในครอบครัวน้อยมาก ดังนั้นจึง เอาใจใส่บุริศร์เป็นพิเศษ ถึงแม้บุริศร์จะไม่ค่อยมีน้ำใจไมตรี แต่ สําหรับเธอก็เพียงพอแล้ว

นาวินกลับไม่พูดอะไร เพียงแต่สายตาที่มองนรมนมีความ ร้อนรน
นรมนมองเห็นท้องของธิดาที่มีอายุหลายเดือน นึกถึงตนเองที่ เสียลูกไป จึงอดรู้สึกทุกข์ใจไม่ได้ แต่กลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ เป็นไรนะ ฉันจะจัดการเรื่องพี่ชายของเธอ อย่ากังวลใจไปเลย ฉันกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ? ”

“แต่ว่าพี่สะใภ้ พี่หายบาดเจ็บแล้วเหรอ? บนอินเทอร์เน็ตบอก ว่าเนตร ทำร้ายจนบาดเจ็บอย่างรุนแรง ตอนนี้พี่กลับมาจะไม่ เป็นอะไรเหรอ? ถ้าพี่ชายของฉันรู้จะรู้สึกเสียใจแค่ไหน

ธิดานึกถึงบาดแผลของนรมน ในคลิปวิดีโอก็รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว

นาวินรีบกล่าวว่า “เอาล่ะ ให้พี่สะใภ้เข้าไปในบ้านก่อนแล้ว ค่อยว่ากัน ไม่เห็นหรือไงว่าสีหน้าของพี่สะใภ้ไม่สู้ดีเลย? ”

“จริงด้วย ๆ พี่สะใภ้พี่รีบเข้าไปเถอะ

ธิดาดึงนรมนเข้าบ้าน

นรมนมองไปรอบ ๆ อย่างไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็ถามขึ้นมาว่า “คุณน้า ล่ะ?

ธิดารีบตอบว่า “แม่ของฉันได้ยินมาว่าเกิดเรื่องขึ้นกับพี่ชาย จึงออกไปสืบข่าวตั้งแต่เช้าตรู่ หวังว่าจะสามารถช่วยพี่ชายของ ฉันได้ พี่สะใภ้ พี่ก็รู้ ฉันท้องโตขนาดนี้แล้ว ออกไปไหนไม่ได้ ออกไปก็ไม่รู้จักใคร”

นรมนได้ฟังก็หรี่ตาลงทันที

ธิดาเกิดและโตในเมืองชลธี ไม่มีเส้นสาย ส่วน แพรวามาที่ เมืองชลธินานแค่ไหนแล้ว? คิดไม่ถึงว่าจะสามารถออกไปสืบข่าวได้?

เธอจะไปสืบข่าวจากใครนะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ