แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1184 พวกเรามีรักแค่ดื่มน้ำเปล่าก็ยังรู้สึกอิ่ม



บทที่ 1184 พวกเรามีรักแค่ดื่มน้ำเปล่าก็ยังรู้สึกอิ่ม

ร่างกายของบริศแข็งที่อไปครู่หนึ่ง นรมนรู้สึกถึงความ เปลี่ยนแปลงนี้แล้ว

เธอรู้ว่าไม่ได้เป็นเพราะคำพูดประโยคที่ตัวเองถามถึงเรื่องราว ของนงลักษณ์ แต่เป็นเพราะว่าบุริศร์นึกอะไรออกขึ้นมาแล้ว

นรมนไม่ใช่คนโง่เขลา แน่นอนว่าเรื่องที่บุริศร์สามารถนึกออก ได้ นรมนก็สามารถนึกออกได้เช่นกัน

พอนึกออกแล้ว นรมนก็เงียบขรึมลงเหมือนกัน

เชษฐ์ทำเรื่องแบบนั้นออกมาก็เพื่ออชิระ

อชิระก็เป็นคนของประเทศ แล้วกล้าณรงค์ที่แพรวาคลอด ออกมาก็เป็นลูกชายของผู้นำประเทศ เพราะฉะนั้นเธอจะ สามารถเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเจตนาของท่านผู้นำ ประเทศ ได้หรือเปล่า?

ถ้าหากใช่ละก็ แล้วผู้นำประเทศ คนนี้คือใครกันล่ะ?

ทำไมถึงได้มาลงมือกับตระกูลโตเล็ก ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา และตระกูลพรโสภณได้ล่ะ?
สามารถใช้สถานะพี่น้องฝาแฝดของนงลักษณ์กับคนมาทำให้ พี่น้องตระกูลทวีทรัพย์ธาดากลายเป็นศัตรูต่อกันได้ ดูท่าแล้วน่า จะรู้เรื่องเมื่อตอนนั้นที่ตระกูลพรโสภณได้สูญเสียลูกสาวคนหนึ่ง ไป

เพราะฉะนั้นผู้นำประเทศคนนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีผู้ ก่อการร้ายลักพาตัวในตอนนั้น

พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็อึ้งไปเลย

ในความโกรธแค้นของคนรุ่นก่อนนั้น ใครกันนะที่เป็นคนที่ทั้ง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตระกูลพรโสภณและตระกูลโตเล็กจะต่อกร ด้วย?

ในหัวสมองของนรมนค่อย ๆ ไล่เรียงไปเรื่อย ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็มี ความคิดและข้อคิดเห็น โผล่ออกมา

ป้าโอ!

หมู่บ้านดารายน!

เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงหมู่บ้านดารายนที่โดนทำลายไปแล้ว จำได้ว่าป้าโอเคยพูดไว้ว่า ตอนนั้นที่หมู่บ้านโดนทำลายล้าง ยังมีตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเข้าร่วมด้วย พอคิดไปแบบนี้ นรมนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเกิดความกลัวขึ้นมา

“หมู่บ้านดารายน……

นรมนพูดเสียงต่ำขึ้น

ดวงตาของบุริศร์ขรึมลงไปหลายส่วน เห็นได้ชัดว่า บริศ เองก็คิดถึงสิ่งนี้แล้ว

เขาจับมือของนรมนไว้แน่น แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องนี้มัน ไม่ง่ายเลย โสธรทายาทของหมู่บ้านดารายน มิลินเองก็ใช่ นงลักษณ์บอกว่ามิลินได้รับบาดเจ็บแล้ว ตอนนี้พวกเราจะต้องตา มหามิลินให้เจอ แล้วก็พาโสธรกลับมาด้วย ทั้งสองคนนี้จะให้ ใครเกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด”

ในใจของนรมนเองก็หนักหน่วงขึ้นมา

โสธรเป็นคนของเธอ เธอไม่อยากจะให้โสธรเกิดเรื่องขึ้นยิ่ง กว่าใครทั้งนั้น ส่วนมิลินก็เป็นอาจารย์ของกิจจา รักและปกป้อง กิจจาเป็นอย่างมาก เธอก็ยิ่งไม่อยากจะให้มิลินเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ว่ามิลินติดตามนงลักษณ์มาหลายปีขนาดนี้ จะโดน นงลักษณ์ล้างสมองไปแล้ว? หรือว่าโดนนงลักษณ์หลอกลวงกัน แน่?

ในจุดนี้นรมนไม่รู้ แล้วก็ไม่เข้าใจ แต่กลับเป็นกังวลเล็กน้อย
ถ้าหากมิลินเป็นพวกเดียวกับนงลักษณ์ งั้นผลที่ตามมาเธอก็ ไม่อยากจะคิดเลย

“ฉันจะให้นกตลไปสืบค้นว่าตอนนี้มิลินอยู่ที่ไหน”

นรมนูพูดถึงชื่อของนภดลขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ พอพูดจบแล้ว ถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้อง

ตอนนี้นภดล โดนปลดออกแล้ว และยังดูแลปาณีอยู่ที่โรง

พยาบาล

พอนึกถึงปาณี นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองช่างดูเป็นคนไม่มีน้ำใจ

เลย

“ฉันลืมไปเลยว่า ปาณียังบาดเจ็บอยู่ หนำซ้ำฉันยังไม่เคยไป เยี่ยมเธออีก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างแล้ว”

“ผมได้ยินมาว่าการผ่าตัดของป้องประสบความสําเร็จมาก กระสุนไม่ได้โดนจุดสำคัญ ตอนนี้นอนดูอาการอยู่ในห้องไอซียู ถ้าไม่มีอะไร พรุ่งนี้ก็น่าจะได้เปลี่ยนไปอยู่ห้องผู้ป่วยธรรมดา แล้ว”

บุริศร์นั้นได้ส่งคนไปติดตามอาการของปาณีอยู่ตลอด รู้ว่านร มนเป็นห่วงปาณี แต่ว่าช่วงนี้มีเรื่องราวมากมายไม่สามารถ ทำให้เธอผ่อนคลายลงมา เพราะฉะนั้นก็เลยช่วยจัดการอะไรนิด หน่อยแทนนรมน
นรมนกอดรอบเอวของบริศร์ไว้อย่างรู้สึกซาบซึ้งแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณมากนะคะ บริศร์ ถ้าไม่มีคุณฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยัง ไงบ้าง

“คนโง่ คุณเป็นภรรยาผมนะ”

บุริศร์ยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น ระหว่างหัวคิ้วมีความรักใคร่ตามใจโผล่ ออกมาเสี้ยวหนึ่ง

นรมนนอนยังไงก็นอนไม่หลับ

จ้องมองหิมะที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า นรมนก็รู้สึกว่าบ้านตระกูล ทวีทรัพย์ธาดามีความกดดันอยู่บ้าง

“ฉันอยากจะไปเยี่ยมปาณีหน่อยได้ไหมคะ?” คำพูดของนรมนทำให้บริศร์อึ้งไปเล็กน้อย

“ตอนนี้เหรอ?”

“A”

นรมนรู้ว่าตัวเองเอาแต่ใจแล้ว

กล้าณรงค์อยากจะฆ่าเขา แต่นงลักษณ์บอกว่าตอนนี้กล้า ณรงค์โดนกักตัวไว้แล้ว ไม่มีทางที่จะลงมือได้ คำพูดนี้ไม่รู้ว่าจริง หรือปลอม แต่ว่าจะไม่ระแวงเลยก็ไม่ได้

ถ้าเธอออกไปตอนนี้ก็เท่ากับเป็นเป้าที่เคลื่อนไหวอยู่ แต่ว่าเธอก็ยังอยากจะไปเยี่ยมปาณีอยู่ดี

บุรีศร์ไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วก็ไปหาเสื้อผ้ามาให้นรมน ใส่ให้ เรียบร้อย

พอเห็นบุริศร์ตามใจและเข้าข้างตัวเองเช่นนี้ นรมนก็รู้สึกโศก เศร้าเล็กน้อยแล้วก็กอดบุริศร์ไว้แล้วพูดว่า “บุริศร์ พวกเราจะ ต้องรักกันดีใช่ไหม? จะไม่เหมือนพ่อกับแม่ที่เหลือความเสียดาย ไว้แบบนั้นใช่ไหมคะ

“อืม จะไม่เป็น ชาตินี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะเอาแค่คุณ คนเดียว”

น้ำเสียงของบุริศร์ไม่ได้ดังมาก แต่ก็เพียงพอให้นรมนได้ยิน อย่างชัดเจน แล้วก็เป็นเพราะว่าเข้าใจดี นรมนก็เลยยิ่งซาบซึ้ง เธอซบอยู่บนแผ่นหลังของบุริศร์ ขอบตาเปียกชื้นเล็กน้อย

“ฉันก็จะเอาแค่คุณเหมือนกันค่ะ”

“ยัยโง่”

บริศ ตบมือของเธอเบา ๆ แล้วก็รวบตัวเธอมาไว้ในอก จาก นั้นก็จูบลงบนหน้าผากของเธอที่หนึ่งแล้วก็พูดขึ้นว่า “อย่า คิดมากขนาดนั้น คุณอยากจะทำอะไร ผมก็จะยืนข้างคุณทั้งนั้น ผู้หญิงของผมบริศร์มีสิทธิ์ที่จะ เอาแต่ใจตัวเองได้

“คุณจะตามใจฉันจนเสียคนได้นะคะ

นรมนแสร้งทําเป็นงอน

บริศร์กลับพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “นั่นจะดีมากเลย ตามใจจนคุณ เสียคน คนอื่นก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งแล้ว คุณก็จะได้อยู่ข้างกายผมไป ตลอดชีวิตเลย”

“เจ้าเล่ห์”

ถึงแม้นรมนจะพูดไปแบบนี้ แต่ว่ามุมปากกลับมีรอยยิ้มค ออกมาเสี้ยวหนึ่ง ดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก

ทั้งสองคนออกมาจากห้องนอน แล้วมาถึงห้องรับแขก ก็เห็น ธรณีเองก็อยู่ในห้องรับแขกด้วยเหมือนกัน

เห็นได้ชัดว่าที่เขาเข้าไปในห้องนอนเมื่อกี้มันก็แค่ข้ออ้างอัน หนึ่ง ที่ไม่อยากเผชิญหน้ากับนรมนกับบุริศร์ถึงจะเป็นความจริง มากกว่า

พอมาตอนนี้เห็นบริศร์และนรมนแต่งกายเรียบร้อยจะออกไป ธรณีก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาเลย

“พวกเธอจะออกไปไหน?”
“ออกไปเดินเล่นหน่อยค่ะ”

นรมนจ้องมองธรณี ถึงแม้จะรู้ว่ามีคำพูดบางอย่างที่เขาไม่ได้ บอก แต่ว่าที่เป็นห่วงตัวเองนั้นมันก็เป็นความจริงอยู่

คนในครอบครัวที่เธอเป็นห่วงอยู่มีไม่เยอะ เธอไม่อยากจะมี ความขัดแย้งและความรู้สึกไม่ดีกับคนในครอบครัวอีกแล้ว

ถึงแม้ธรณีจะไม่พูด แต่เรื่องบางอย่างยังไงเธอก็จะต้องรู้ไม่

จําเป็นที่จะต้องรู้จากปากธรณีให้ได้ ขอแค่รู้ว่าธรณีเป็นห่วงตัวเอง ไม่ได้มีใจที่อยากจะทำร้ายตัว เองก็พอแล้ว

พอคิดอย่างนี้ได้ รอยยิ้มของนรมนก็ดูจริงใจขึ้นเยอะมาก

เธอเดินเข้าไป แล้วนั่งลงตรงหน้าธรณี แล้วดึงผ้าห่มบาง ๆ ผืน หนึ่งมาห่มไว้บนขาของธรณี แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “อาเล็ก ตอน นี้เป็นช่วงหน้าหนาวสิ้นปี อาการบาดเจ็บที่ขาของอาจําเป็นจะ ต้องได้รับความอบอุ่น ถ้าไม่มีอะไรก็รีบเข้านอนนะคะ เรื่องบาง อย่างอาไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้หรอก คิดมากไปก็ไม่มี ประโยชน์ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังต้องพึ่งอามาประคับประคอง เอาไว้ ถ้าเกิดวันไหนหนูอยู่ในวงการธุรกิจต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่แน่หนูอาจจะมาให้อา เลี้ยงก็ได้นะคะ”

ธรณีจ้องมองท่าทางที่มีรอยยิ้มของนรมน ในใจก็อดไม่ได้ที่

ขมขื่นและเป็นทุกข์ขึ้นมา “ฉันรู้ว่าตอนนี้เธออยากจะรู้เรื่องทุกอย่างมาก แต่ว่านรมน เรื่องบางอย่างเธอรู้แล้วก็ใช่ว่ามันจะดี เชื่ออาเล็กนะ อาเล็กไม่มี

ทางทําร้ายเธอแน่

“หนูรู้ค่ะ เพราะฉะนั้นหนูก็ไม่โทษอาเล็กหรอกค่ะ รีบไปนอน เถอะค่ะ หนูกับบริศร์จะออกไปเดินเล่นสักหน่อย

“ข้างนอกอากาศหนาวนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรามีความรักอยู่ดื่มน้ำเปล่ายังอิ่มเอมเลย ค่ะ”

คําหวานชุดนี้ของนรมนทำให้ธรณีอึ้งไปเล็กน้อยเลย จากนั้นก็

ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“เธอทำแบบนี้ไม่ดีนะ นรมน ทำร้ายคนโสดคนหนึ่งมันมีความ สุขเหรอ?”

“ใช่ค่ะ ไม่งั้นอาก็อย่าอยู่เป็นคนโสดซิคะ หนูอยากจะได้อา สะใภ้เล็กสักคนนะคะ สู้ ๆ ค่ะ”

พูดจบ นรมนก็หัวเราะเล็กน้อยแล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปกับ บริศ เลย
ธรณีจ้องมองแผ่นหลังของพวกเขาแล้วก็ครุ่นคิดไป

พ่อบ้านเดินออกมาจากข้างใน จ้องมองแผ่นหลังของนรมน และบุริศร์ แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณชายสี่ครับ เรื่องบางอย่าง คุณห้ามไม่ได้หรอกนะครับ”

“ห้ามไม่ได้ก็ต้องห้าม ฉันทนดูเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ใหญ่ไป ตายที่ประเทศไม่ได้หรอกนะ ติดต่อรองได้หรือยัง?

ดวงตาของธรณีมีแววระยิบระยับขึ้นมาเล็กน้อย

พ่อบ้านส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “คนของเราสืบค้นข่าวคราว ของคุณชายรองไม่ได้เลยครับ เรื่องนี้ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ตอน นั้นคุณชายรองออกไปจากบ้านไปประเทศแล้วก็ไม่มีข่าวคราว อีกเลย เบาะแสทั้งหมดเหมือนกับว่าจะโดนคนจงใจลบทิ้งไป แล้ว”

ดวงตาของธรณีหรี่ลงมาทันที

“เริ่มลงมือจากตัวนงลักษณ์ก่อนเลย เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนพี่รอง ออกจากบ้านไปประเทศเพื่อนงลักษณ์ ตอนนั้นพี่รองส่ง จดหมายตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาฉบับ หนึ่งแล้วก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรอีกเลย ถ้าจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับนงลักษณ์ ตีให้ตายฉันก็ไม่เชื่อ ความเจ้าเล่ห์ของผู้ หญิงคนนี้ลึกมากเกินไป ลึกลับเกินไป เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนที่พี่ ใหญ่กับพี่รองแตกคอกัน ฉันสงสัยว่าเธอต้องมีบทบาทสำคัญอยู่ ในนั้นแน่ เมื่อก่อนไม่รู้ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้รู้แล้ว ยังไงก็จะต้อง ตรวจสอบผู้หญิงคนนี้ให้ชัดเจน

“ครับ”

พ่อบ้านพยักหน้าเล็กน้อย

ธรณีนวดขมับของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกผิดขึ้นมา “เรื่องนี้บอกกับพี่สามไปหรือยัง?

“ช่วงนี้คุณชายสามอยู่ในกรมทหารมีงานยุ่งมาก คนของเรา ยังไงไม่ได้เจอกับคุณชายสามเลยครับ”

พอได้ยินพ่อบ้านพูดแบบนี้ หัวคิ้วของธรณีก็ขมวดกันขึ้นมา

ไม่ได้เจอพี่สามเลยเหรอ?

เป็นไปได้ยังไง?

พี่สามขึ้นรับตำแหน่งแทนคริชณะ ถึงแม้ว่าตำแหน่งใหม่งาน จะยุ่งมาก แต่ว่าจะยุ่งถึงขนาดเทศกาลตรุษจีนก็ยังไม่ได้กลับ บ้านเลยเหรอ? ยุ่งถึงขนาดแม้แต่หน้าคนที่บ้านก็ยังเจอไม่ได้เลยเหรอ?

ธรณีรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

ในใจของเขายังไงก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง

พี่สามคงจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?

“ส่งคนไปนั่งเฝ้าหน้าประตูกรมทหารไว้ แค่พี่สามออกมาก็รีบ บอกให้เขากลับบ้านมาสักครั้ง

“ครับ”

พ่อบ้านถอยออกไปจัดการธุระแล้ว

ค่ำคืนที่พายุหิมะกระหน่ำนี้ ได้กำหนดไว้แล้วว่าจะต้องมีคน นอนไม่หลับแน่

หลังจากที่บุริศร์และนรมนออกมาจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

แล้ว ลมที่หนาวเย็นก็พุ่งตรงเข้ามาในคอเสื้อ

นโมนตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วก็รีบเอามือซุกเข้าไปในกระเป๋า เสื้อของบุริศร์ แล้วก็หามือใหญ่ของบุริศร์เจออย่างช่ำชองแล้วก็

รบกุมไว้แน่น

หัวของเธอพิงลงบนไหล่ของบุริศร์อย่างอัตโนมัติ

พอเห็นท่าทางภรรยาแบบนี้ บุริศร์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
“กลัวหนาวแล้วยังจะออกมาในเวลาแบบนี้อีก

“ฉันก็แค่อยู่ ๆ ก็อยากจะไปเยี่ยมปาณีแล้วเท่านั้น ที่จริงควร จะไปดูเธอตั้งแต่ที่เธอได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเป็นงาน แต่งของพี่เจตต์ เราจะออกจากงานไปก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่า ไหร่ แล้วต่อมาคุณก็พาฉันไปที่เกาะบุริศร์นรมน ตอนกลับมาก็ เป็นคืนส่งท้ายปีเก่าพอดี ก็เลยทำให้เรื่องของปาณีลากยาวมา ถึงตอนนี้ ถ้าหากฉันเป็นปาละก็ คงจะเริ่มน้อยใจแล้วล่ะ”

นรมนเบ้ปากขึ้น แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างไม่มีความจริงใจ เลย

บุริศร์กลับแตะจมูกเล็ก ๆ ที่หนาวจนแดงของเธอที่หนึ่ง แล้วก็ ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ปาณีคงจะไม่โทษคุณว่าไม่จริงใจหรอก คาดว่าน่าจะรู้สึกขอบคุณที่คุณไม่ไปปรากฏตัวซะมากกว่า”

“คุณพูดอะไรกันคะ?”

“ที่ผมพูดเป็นความจริงนะ เจ้าดื้อด้านนภดลนั่นไม่ว่ายังไงก็จะ ใช้ชีวิตอย่างกับซากศพเดินได้เพื่อฉัตรยาที่ตายไป แล้วพอปาณี มาเกือบตายเพราะเขา คุณคิดว่านภดลจะไม่รู้สึกซาบซึ้งบ้างเลย เหรอ? ไม่แน่จังหวะที่ประจวบเหมาะนี้อาจจะทำให้ความรู้สึกที่ เป็นน้ำนิ่งของนภดลเกิดคลื่นลมขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ แล้วภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ปาณีคงจะไม่อยาก ให้ใครไปรบกวนหรอก”

พอได้ยินบริศ พูดแบบนี้ นรมนก็หยุดฝีเท้าลงทันที

“งั้นจะทำยังไงดี? หรือว่าพวกเราไม่ไปกันแล้ว? แต่ว่าฉันก็ยัง เป็นห่วงปาณีอยู่ ถ้าไม่ไปละก็ฉันก็ไม่ค่อยวางใจ”

พอเห็นภรรยาตัวเองมีท่าทางลังเลไม่หยุด บุริศร์ก็ยิ่งรู้สึกว่า ภรรยาน่ารักมากเลย! “ทำไมจะไม่ไปล่ะ? ออกก็ออกมาแล้ว อากาศหนาวซะขนาดนี้

ไม่ไปคุณก็นอนไม่หลับไม่ใช่เหรอ?”

บุริศร์พูดแบบนี้ขึ้นมา นรมนก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ นะ

“คำพูดอะไรเนี่ย? พูดอย่างกับว่าที่ฉันไปไม่ได้เพราะว่าเป็น ห่วงปาณี แต่เป็นเพราะว่านอนไม่หลับถึงไปอย่างงั้นแหละ

นรมนเบ้ปากขึ้นมา แววตาที่กล่าวโทษนั้นแฝงไปด้วยความ ระยิบระยับของน้ำตา แล้วใจของบุริศร์ก็เจ็บปวดขึ้นมาทันทีเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ