แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 487 คุณคือคนของฉัน



บทที่ 487 คุณคือคนของฉัน

“นายหญิง นั่งให้ดีนะครับ

กิมจิ ว่าร่างกายของนรมนยังไม่หายเป็นปกติ ดังนั้นจึงเอ่ย เตือนเธอทันที

นรมนคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย เอ่ยเสียงเบา ไม่ต้อง เป็นห่วงฉัน ลงมือทําให้ดีก็พอ”

ได้รับคำสั่งเช่นนี้ กิมจิจึงไม่พูดอะไรต่อ รถพุ่งไปข้างหน้าด้วย ความรวดเร็วฉับพลัน

เมื่อรถด้านหลังมองเห็นรถของกิมจิเพิ่มความเร็ว ก็รีบตามขึ้น มาทันที

รถสองคันขับไล่ตามกันบนท้องถนน

นโมนไม่ค่อยเคยชินเท่าไหร่นัก เพียงแต่คว้าที่จับไว้แน่น

อยู่ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามกิมจิ “บริเวณโดย รอบโรงเรียนอนุบาลของเด็กๆ มีคนของพวกเราไหม? ”

“นายหญิงวางใจได้ครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว รับรองว่า นายน้อยกับคุณหนูจะปลอดภัย

รู้ว่าลูกๆ ไม่มีอันตรายที่แฝงเร้นอะไร นรมนจึงกลับตาลง ทำ อะไรไม่ได้ รถเร็วเกินไป มองทิวทัศน์ด้านนอกที่ถอยหลังไม่หยุดเธอจึงรู้สึกคลื่นไส้อยู่บ้าง

รถวิ่งมาที่ถนนทางหลวง ส่วนรถด้านหลังยังคงไล่ตามไม่ยอม เลิกรา

กิมจิเหยียบเบรกขึ้นมากะทันหัน คนด้านหลังไม่ทันตั้งตัว และ ไม่กล้าชนรถของพวกเขา ทำได้เพียงชนเข้ากับขอบถนนข้างทาง

“โครม” รถถูกบังคับให้หยุดลง

กิมจิกลับลงจากรถอย่างรวดเร็ว ตรงเข้าไปทุบกระจกฝั่งคน ขับในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้สติ ออกแรงลากคอเสื้อของคน ขับเอาไว้

“พูดมา! ใครสั่งให้พวกแกสะกดรอยตามพวกเรา? ”

ความกล้าหาญของกิมจิทำให้อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว ส่วนอีกคนต้องการเปิดประตูหนีไป กลับถูกนรมนที่ลงจากรถ มาขวางเอาไว้ในรถ

“ในเมื่อตามมาทันแล้ว ก็พูดมาซะดีๆ ทำไมเหรอ? หรือว่า พวกแกไม่ได้มาเพราะฉัน? ”

แววตาของนรมนเยือกเย็น

เรียนรู้เทคนิคเล็กน้อยจากบุริศร์ ถึงแม้ไม่สามารถพูดได้ว่ามี ฝีมือสูง แต่บางครั้งก็สามารถขู่ขวัญคนได้ก็ถือว่าโอเค

อีกฝ่ายพบว่าตนเองถูกจับกุม อดรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างไม่ได้ กิมจิเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมตอบ จึงหักข้อมือคนขับรถทันทีเสียงดังกรอบ ข้อมือของคนขับ กเรียบร้อย

“อ๊าก! ”

คนขับรถร้องออกมาอย่างน่าเวทนาด้วยความเจ็บปวด ทำให้ ผู้ชายอีกคนด้านข้างตกใจจนหน้าซีด

กิมจิกลับพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก: “ถ้ายังไม่พูดออกมา อีก ฉันจะพิจารณาทำลายมืออีกข้างของแกซะ จากนั้นก็เท้า แก คิดว่าถ้าแกกลายเป็นคนพิการไร้ค่า เจ้านายของแกยังจะใช้แก ต่อไปไหม?

คนขับรถเห็นกิมจิมีท่าทางไม่เหมือนพูดเล่นแม้แต่นิดเดียว เขาลุกลี้ลุกลนทันที

“ฉันจะพูดแล้วๆ เป็นประธานเคน ประธานเคนให้เราพวก สะกดรอยตามพวกคุณ เพียงแต่ประธานเคนไม่ได้มีเจตนาอื่นใด แค่เพียงอยากรู้ว่าประธานบริศร์อยู่ที่ไหน พวกเราไม่มีเจตนา อย่างอื่นกับพวกคุณจริงๆ นะ

“ใช่ๆๆ ประธานเคนของพวกเราต้องการติดต่อประธานบริศร์ มาตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงทำได้เพียงตามคุณนายบุรี ศร์ ดูว่าจะสามารถได้ที่อยู่ของประธานบริศร์หรือไม่

อีกคนหนึ่งเห็นเขาสารภาพทุกอย่างออกมาหมด จึงรีบพูดออก มาบ้าง กลัวว่าตนเองจะพูดสายไป จะถูกกิมจิหักมือข้างหนึ่งทิ้ง

คิ้วของนรมนขมวดขึ้นเล็กน้อย

เป็นประธานเคนอีกแล้ว!
ประธานเคนคนนี้แท้จริงเป็นคนอย่างไรกันนะ?

ทำไมถึงต้องการตามหาบุริศร์อย่างเร่งด่วนแบบนี้แท้จริงมี เรื่องอะไร?

“กลับไปบอกประธานเคนของพวกแกซะ ถ้าอยากเจอบริศร์ จริงๆ ให้มาอย่างเปิดเผย อย่าเล่นปาหี่แบบนี้ให้ฉันเอือมระอา ตอนนี้ใสหัวไปซะ! อย่าให้ฉันเจอพวกแกอีก ไม่อย่างนั้นฉันไม่ กล้ารับรองว่าจะทําอะไรกับพวกแก”

เสียงของนรมนไม่ดัง แต่คำพูดที่ออกมากลับมีการคุกคาม อย่างยิ่ง

ทั้งสองคนรีบตกลง

กิมจิเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ต่อกระดูกมือให้คนขับรถทันที

คนขับรถร้องโอดโอย เมื่อพบว่ามือของตนเองสามารถขยับ ได้ จึงขับรถหายไปจากตรงหน้าพวกเขา

“ประธานเคน! ”

นโมนขมวดคิ้วเบาๆ

กิมจิกล่าวว่า “ผมยังไม่มีเวลาไปตรวจสอบ อีกสักพักผมจะ ไปตรวจสอบประธานเคนคนนี้

“อืม ต่อจากนี้หวังว่าจะสามารถให้ความสงบได้สักหน่อย พวกเราไปเถอะ”

พูดจบ บรมนก็นำหน้าขึ้นรถ
ผ่านความระทมทุกข์มาก ถึงแม้จะพูดว่าเวลาที่เสียไปไม่มาก แต่นรมนยังกลัวว่าจะสายไป

แปดวันที่ไม่ได้เจอ ไม่รู้ว่าตอนนี้บริศ เป็นอย่างไรบ้าง เธอไม่ อาจรอได้อีกต่อไป

“ขับเร็วขึ้นหน่อย

นรมนเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

เมื่อสักครู่เป็นเพราะรถเร็วเกินไป กิมจิจึงมองเห็นท่าทางที่ อึดอัดของนรมน ตอนนี้เห็นเธอร้องขอเช่นนี้ จึงอดพูดขึ้นมาไม่ ได้ : “พวกเรายังพอมีเวลาครับ สามารถขับช้าได้หน่อย เกรงว่า ร่างกายของท่าน……..

“ไม่เป็นไร ถึงแล้วค่อยผ่อนลงก็ได้ ฉันอยากไปถึงก่อนล่วง หน้า ถึงแม้เขาจะยังมาไม่ถึง ฉันก็รอได้ไม่มีปัญหา ไม่มีเหตุผลที่ จะต้องเสียเวลาอยู่บนท้องถนน ฉันรอไม่ได้แล้วจริงๆ ” อารมณ์ที่เฝ้ารออย่างกระวนกระวายใจของนรมนทําให้กิมจิ

ตะลึงงันอย่างห้ามไม่ได้

เขาคือผู้รับผิดชอบของอาณาจักรรัตติกาลมาตลอด เคยได้ สัมผัสกับนายหญิงอย่างคุณนายตระกูลโตเล็ก เพียงแต่เมื่อรอ เขารับช่วงต่อ คุณนายตระกูลโตเล็กก็ใกล้จะปลดเกษียณแล้ว วันนี้นรมนคือเจ้านายอย่างจริงจังคนแรกของเขา ไม่แน่อาจจะ เป็นคนที่จะให้ความจงรักภักดีไปชั่วชีวิต

กิมจิพยักหน้า จากนั้นจึงเพิ่มความเร็ว แต่เป็นเพียงแค่ความเร็วกว่าปกติเล็กน้อยเท่านั้น

จมูกของนรมนได้กลิ่นคาวเลือดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เธอขมวดคิ้ว หันหน้ามาทันที ก็มองเห็นมือของกิมจิมีเลือด หยดออกมา

“คุณได้รับบาดเจ็บ?

นรมนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไรครับ เมื่อสักครู่ได้รับบาดเจ็บตอนทุบกระจก แผล นิดเดียว ไม่นานก็หาย

กิมจิจะไม่เคยเจอการต่อสู้ที่ซับซ้อนและดุเดือดเหรอ? สําหรับเขาแล้ว บาดแผลระดับนี้โดยพื้นฐานไม่นับว่าเป็น

บาดแผล

นรมนกลับรู้สึกละอายใจเล็กน้อย

“มีปลาสเตอร์ปิดแผลไหม? ”

“ไม่เป็นไรครับ นายหญิง ในรถ ใช้หมดแล้ว รอไปถึงสนามบิน ผมจะหาร้านขายยา อแผ่นปลาสเตอร์ยาสักหน่อย”

กิมจิตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“จอดรถ! ”

นโมนสั่งอย่างฉับพลัน

กิมจิคิดว่าเธอมีเรื่องอะไร จึงรีบจอดรถในช่องทางฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว

“นายหญิง เป็นอะไรครับ? เกิด

เรื่องอะไรขึ้น? ”

นรมนกลับไม่ตอบอะไร เธอลงจากรถทันที จากนั้นตรงไปที่ ร้านขายยาใกล้ๆ

ในไม่ช้า นรมนก็นำไอโอดีน ผ้าพันแผลและปลาสเตอร์ยาก

ลับมา

“ยื่นมือมา”

เธอขึ้นมาบนรถ และเอ่ยขึ้นทันที

กิมจิมึนงงเล็กน้อย ถึงจะเข้าใจว่านรมนสั่งให้เขาหยุดรถเพื่อ ออกไปซื้อของเหล่านี้ให้แก่ตนเอง

ไม่รู้ว่าทำไม เกิดความอบอุ่นในใจขึ้นมาทันที แถมยังมีความ

รู้สึกที่แตกต่างเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรครับ ผมบอกแล้วไงว่าเป็นแค่เพียงแผลเล็กๆ อีก อย่างท่านไม่ได้กำลังรีบไปพบกับประธานบริศร์อยู่เหรอครับ? ถึงสนามบินค่อยว่ากันอีกทีนะครับ

“ฉันบอกให้ยื่นมือมา ตอนนี้คุณไม่ฟังคำพูดของฉันแล้วหรือ

ไง? ”

ท่าทางของนรมนจริงจังมาก ทำให้กิมจี้รู้สึกสังเลใจอยู่บ้าง

เพียงแต่สุดท้ายเขาก็ยื่นมือออกไป นามน ไอโอดีนและผ้าพันแผลวางไว้ด้านข้าง มองเห็นบนมือของเขายังมีเศษกระจกอยู่ ถึงแม้จะเล็กมากๆ แต่กลับยุ่งยาก

มาก

“ฉันจะใช้ไอโอดีนล้างที่หลังมือของคุณ อาจจะเจ็บสักหน่อย คุณต้องอดทนสักนิด” พูดจบ ก็ไม่รอให้กิมจิมีท่าที่ตอบสนอง หยิบไอโอดีนเทลงบน

หลังมือของกิมจิ

ร่างกายของกิมจิแข็งทื่อเล็กน้อย

ไม่ใช่เพราะความเจ็บ แต่เป็นเพราะความนุ่มนวลเหมือนไร้ กระดูกของนรมน และมืออันเย็นเฉียบที่จับมือของเขา

เปรียบเทียบกับมืออันหยาบกร้านมาหลายปีของตนเอง มือ ของนรมนทําให้เขาคิดอยากหลบเลี่ยงอย่างช่วยไม่ได้

“อย่าขยับ! ”

ดูเหมือนนรมนจะไม่ค่อยพอใจกับการไม่ให้ร่วมมือของเขา จึง ตวาดออกมาเบาๆ จากนั้นก้มหน้าลงตั้งใจดึงเศษกระจกออกให้ กิมจิ

เนื่องจากท่าทางก้มหน้าลงจึงทำให้ผมของเธอปกคลุมไปครึ่ง ใบหน้า แต่แสงแดดที่ส่องกระทบผ่านกระจกหน้ารถ ราวกับ เคลือบชั้นสีทองบนใบหน้าของนรมน

แต่ไหนแต่ไรกิมจิไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้หญิงสามารถให้ความ รู้สึกสงบแก่ผู้คนแบบนี้ได้
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กว้างใหญ่ของอเมริกา ในทุกวันเขา คบค้าสมาคมกับผู้หญิงจำนวนไม่น้อย แล้วแบบไหนที่ยังไม่เคย เห็นมาก่อน? อาจจะเหมือนในตอนนี้ ที่สามารถทำให้จิต วิญญาณของเขาสงบสุข ราวกับว่าความรู้สึกที่นรมนนำมานั้น กิมจิเพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก

เขาเพียงรู้สึกเหมือนมีกระต่ายตัวหนึ่งอยู่ในใจ หัวใจช่างเต้น แรงมาก

กิมจิไม่กล้ามองหน้าพรมนอีกครั้ง มากจนกระทั่งเขารู้สึกกับ แคบเล็กน้อย ราวกับว่ากลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของนรมน กระจายอยู่ทั่วภายในรถ

เขารีบหันหน้าไปทันที และกล่าวเสียงเบา : “นายหญิงครับ นี่ เป็นแค่บาดแผลเล็กน้อยไม่มีอะไรสำคัญจริงๆ ถ้าพวกเรายังเสีย เวลาอยู่แบบนี้อีก ทางฝั่งประธานบริศร์อาจจะมาสายได้นะครับ ”

“บุริศร์รอฉันได้ แต่แผลของคุณหากไม่ได้รับการทำแผลให้ ทันท่วงที ก็จะอักเสบได้ ฉันรู้ว่าคุณคิดถึงความปลอดภัยของฉัน และก็รู้ว่าคุณต้องการบีบบังคับคนคนนั้น แต่ต่อจากนี้อย่า บุ่มบ่ามเช่นนี้อีก ถึงแม้ต้องการจะทุบกระจก ก็ไม่สามารถใช้มือ เปล่าแบบนี้ ในเมื่อคุณคือคนของฉัน ฉันไม่หวังให้คนของฉัน พลาดพลั้งไม่ว่าอะไรก็ตาม เข้าใจไหม? ”

นโมนพูดอย่างเย็นชา

เมื่อกิมจิได้ยินประโยคว่า “ในเมื่อคุณคือคนของฉัน” อย่าง ฉับพลัน ไม่รู้ว่าทำไม หัวใจจึงกระตุกเล็กน้อย เหมือนมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนไหลริน อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ

“ครับผม”

เขาได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้ดูแลอาณาจักรรัตติกาลตั้งแต่ยัง

เล็กมากๆ

ความเจ็บปวด การนองเลือด และเหงื่อที่ไหลรินสำหรับเขา ต่างเป็นสิ่งที่คุ้นชินไปแล้ว พี่ชายกับพ่อมักจะพูดกับเขาว่า ลูก ผู้ชายเสียเลือดได้แต่ไม่เสียน้ำตา พวกเขายิ่งเตือนสติตนเอง คำ สั่งของนายยิ่งเป็นยิ่งกว่าทุกสิ่ง ความปลอดภัยของนายหญิงเป็น ยิ่งกว่าทุกสิ่ง ในช่วงเวลาที่สำคัญ สามารถสละชีวิตของตนเอง ไต้

แต่ตอนนั้นรมนพูดกับเขาว่า เขาคือคนของเธอ เธอไม่อยาก ให้เขาพลาดพลั้งไม่ว่าอะไรก็ตาม

กิมจิรู้ดีว่า ตอนนรมนพูดประโยคนี้ มันไม่มีความรักระหว่าง ชายหญิงโดยสิ้นเชิง แต่เขาก็ยังรู้สึกตื้นตันใจอย่างไม่อาจห้าม ได้

นโมนทําแผลให้เขาอย่างรวดเร็ว หลังจากพันผ้าพันแผลเสร็จ จึงนำไอโอดีน ผ้าพันแผล และปลาสเตอร์ยาใส่ลงในกล่องด้าน ข้าง กล่าวเสียงเบาว่า “หลังจากนี้ภายในรถต้องเตรียม สิ่งของเหล่านี้เอาไว้เป็นประจำ ไม่สามารถขาดแคลนได้ เพราะ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ ขึ้นมาล่ะ? ที่จำเป็นต้องใช้ ถ้าหากว่าไม่มีร้านขายยา
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

กิมจิไม่กล้าสบตาของเธอ

นรมนถอนมือออกไปแล้ว จนกระทั่งกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งของ ตนเอง เพิ่มช่องว่างระยะห่างของกันและกัน แต่อิทธิพลที่เธอมี ต่อกิมจิยังคงอยู่

“เอาล่ะ พวกเราล่าช้าไปมากแล้ว รีบไปสนามบินเถอะ”

หลังจากนรมทำทุกอย่างเสร็จ ก็รีบลดกระจกลง ภายในรถเต็มไปด้วยกลิ่นของไอโอดีน เธอไม่ค่อยคุ้นชินสัก เท่าไหร่

กิมจิเห็นเธอเช่นนี้ ถึงจะสตาร์ทรถใหม่และขับด้วยความเร็วสูง เพียงแต่ภายในใจกลับไม่อาจเงียบสงบลงได้

นรมนไม่รู้ตัวสักนิดว่าตนเองทำให้ภายในใจของกิมจิเปลี่ยน ไปอย่างไร ตอนนี้เธอคิดแค่เพียงอีกสักพักเมื่อเจอกับบริศร์ควร จะมีท่าทีอย่างไร

ไม่ต้องสงสัย บุริศร์จะต้องผอมแน่นอน แล้วเธอจะสามารถ ควบคุมตนเองได้หรือเปล่า ที่จะไม่ทำให้ตนเองโศกเศร้า เสียใจ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ