แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1182 หมัดเดียวเห็นเลือด



บทที่ 1182 หมัดเดียวเห็นเลือด

คำถามแบบนี้ทำให้บริศร์รู้สึกอึ้งไปครู่หนึ่ง

เขานึกว่าธรณีเห็นรูปวาดของอินทรแล้วจะคิดถึงอินทรขึ้นมา แต่คิดไม่ถึงว่าคำพูดของธรณีจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วขนาดนี้

*อารองเหรอครับ?”

บุริศร์ถามกลับไปประโยคหนึ่งอัตโนมัติ

อยู่ ๆ เขาก็นึกออก พี่ใหญ่ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคือพ่อ ของนรมน ส่วนธรรคคืออาสาม และธรณีคืออาเล็ก เหมือนกับว่า จะไม่เคยได้ยินเรื่องอารองจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาก่อน หนำซ้ำทั้งคนทั้งชื่อก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

“คนคนนี้โดนลบชื่อออกไปจากตระกูลเรานานแล้ว นานจน พวกเราเกือบจะจำเขาไม่ได้แล้ว หรือกระทั่งฉันรู้สึกมาตลอดว่า ในบ้านเรามีแค่พวกเราสามคนพี่น้องเท่านั้น”

ธรณียิ้มขมขื่นขึ้น แล้วดูดบุหรี่แรง ๆ ที่หนึ่ง แต่กลับสำลักขึ้น มา แล้วก็ไอติดต่อกันไม่หยุด
บริศรินน้ำจากข้าง ๆ มาให้เขาแก้วหนึ่ง

ธรณีดื่มน้ำไปคำหนึ่ง แล้วข่มอาการไอครู่หนึ่ง จากนั้นก็ต้อง มองรูปวาดเต็มผนังแล้วก็พูดขึ้นว่า “ที่จริงพี่รองก็เป็นเหมือนกับ พี่ใหญ่ ชอบวาดรูปเหมือนกัน ชอบท่องเที่ยวชอบถ่ายรูป และ เขายังชอบความเป็นอิสระมากกว่า และที่สำคัญพี่ใหญ่กับพี่รอง เป็นพี่น้องฝาแฝดกันด้วย

คำพูดนี้ทำให้บริศร์อึ้งไปครู่หนึ่ง

ฝาแฝดเหรอ?

นี่ไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยจริง ๆ

ธรณีจ้องมองความสงสัยของบุริศร์ แล้วก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ดู จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาพูดแล้ว ที่นรมนสามารถ คลอดลูกแฝดชายหญิงออกมาได้ ทุกคนต่างก็นึกว่าเป็น กรรมพันธุ์มาจากตระกูลโตเล็กของพวกนาย แต่ใครจะไปรู้ละว่า ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราก็มีกรรมพันธุ์ฝาแฝดเหมือนกัน เพียงแต่ว่าโอกาสที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะมีฝาแฝดนั้นไม่เยอะ เพราะฉะนั้นถึงไม่มีใครรู้เรื่องมากเท่าไหร่”

บุริศร์ไม่ได้พูดแทรก

เรื่องนี้มันเกินความคาดหมายไปบ้าง แต่ว่าก็ไม่ได้ยอมรับได้ยาก
ก็จริงอยู่ ถ้าในตระกูลของนรมนไม่มีกรรมพันธุ์ฝาแฝด ถ่ายทอดมา ถึงแม้จะเป็นกรรมพันธุ์ฝาแฝดที่ถ่ายทอดมาจาก ทางเขา ก็ไม่แน่ว่านรมนจะสามารถคลอดลูกฝาแฝดออกมาได้

เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงลูกคนที่นรมนแท้งไป

นั่นก็เหมือนกับว่าจะเป็นแค่การท้องลูกคนเดียว

เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะมีกรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดมา ก็ไม่แน่ว่า ทุกครั้งจะตั้งท้องฝาแฝดได้

บุริศร์ไม่พูดอะไร แล้วธรณีก็พูดต่อว่า “พี่ใหญ่กับรองเป็น ฝาแฝดกัน นี่เป็นเรื่องที่ตอนนั้นทำให้พ่อฉันกับแม่ฉันดีใจแทบ แย่ พ่อฉันเป็นคนที่ชอบชีวิตในกรมทหารคนหนึ่ง หนำซ้ำยังรู้สึก ว่าคลอดลูกชายออกมาก็ควรจะต้องฝึกฝนให้เป็นทหารตั้งแต่ เด็ก เพราะฉะนั้นพอรู้ว่าจะมีลูกชายสองคน พ่อฉันก็ดีใจแทบแย่ เขาเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองคนมาด้วยตัวเอง พี่ใหญ่เป็นคนค่อน ข้างเงียบขรึม และเชื่อฟัง แต่พี่รองกลับเป็นคนค่อนข้างดื้อด้าน ซุกซน และก็ไม่ได้สนใจต่อการอบรมสั่งสอนของพ่อมาตลอด เลย”

“แม่ของฉันรู้สึกว่าลูกชายสองคน มีคนหนึ่งรับช่วงหน้าที่การ งานของพ่อต่อก็พอแล้ว พี่ใหญ่เงียบขรึม แล้วก็เชื่อฟัง บิดาก็เลย คาดหวังกับเขาไว้สูงมาก ในทางกลับกันพี่รองนั้น แม่ของฉันรู้สึกว่าพี่รองแค่มี ความสุขก็พอแล้ว ก็เลยไม่ได้บังคับให้เขาทำเรื่องที่ไม่ชอบ

บนใบหน้าของธรณีมีแววทุกข์ใจพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง

บุริศร์ดับไฟบุหรี่ที่เกือบจะติดถึงก้นแล้วในมือลง

เขาจ้องมองธรณี แล้วก็ถามขึ้นว่า “หรือว่ารูปที่อยู่ในนี้จะ ไม่ใช่รูปของพ่อตาผม? แต่เป็นของอารองเหรอครับ?”

ธรณีอึ้งไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะถามแบบนี้ ว่ากลับสาย หน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่อยู่แล้ว พี่ใหญ่ไม่ใช่คนช้าที่จะไป แอบอ้างผลงานของผู้อื่น ภาพวิวพวกนี้พี่ใหญ่เป็นคนวาด แต่ว่า ภาพคนพวกนี้พี่รองเป็นคนวาด”

คำพูดนี้ทำให้บริศร์อึ้งไปเล็กน้อย

เหมือนกับว่าเขาจะเคยได้ยินนรมนพูดมาก่อนว่าอินทรนั้น วาดรูปวิวทิวทัศน์เป็นหลักมาตลอด และวาดรูปผู้คนน้อยมาก รูป คนเพียงคนเดียวที่วาดก็คือรูปแม่ยายคิมเท่านั้น

คำพูดของธรณีในตอนนี้ทำให้บริศร์รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
รูปคนมีแค่คนคนเดียว” “ใช่ คือพี่สะใภ้ใช่ไหมล่ะ?

ธรณีจ้องมองบุริศร์ ยิ้มขมขื่นแล้วก็ถามขึ้นว่า “นายคิดว่าพี่ ใหญ่เลิกกับพี่สะใภ้แล้วไปเป็นทหารเพื่อวงศ์ตระกูลจริง ๆ เหรอ?”

“ความหมายของอาคือ พ่อตาและอารองตกหลุมรักแม่ยาย พร้อมกัน แล้วพ่อตาก็ยอมถอยออกมาให้เหรอครับ?”

หัวสมองของบุริศร์หมุนวนอย่างรวดเร็ว

ธรณีจะไม่พูดก็ไม่ได้ว่า บุริศร์นั้นฉลาดเป็นอย่างมาก

“เมื่อก่อนทั้งฉันและพี่สาม รวมทั้งคนทั้งบ้านต่างก็คิดแบบนี้ จนกระทั่งวันนี้ผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับพี่สะใภ้เงียบมาหาฉัน ฉันถึงได้รู้สาเหตุ”

คำพูดของธรณีพูดมาถึงตรงนี้ บุริศร์ก็พอเดาออกได้แล้ว

“เธอคือนงลักษณ์ เป็นคุณป้าใหญ่ของนรมน เป็นพี่สาว ฝาแฝดของแม่ยาย

“ดูท่าเรื่องที่นายและนรมนรู้จะมีไม่น้อยเลยนะ”
ธรณีไม่ได้สงสัยเลยสักนิด เพียงแต่แค่หัวเราะอย่างขมขื่น “แต่ว่าตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าคิมยังมีพี่สาวฝาแฝดคนหนึ่งอยู่ พี่ ใหญ่ไม่รู้ พี่รองก็ยิ่งไม่รู้

คำพูดของธรณีทำให้หัวสมองของบุริศร์หมุนขึ้นมาเล็กน้อย

“อาเล็ก ความหมายของคุณคือ? ความหมายของคุณคือ พ่อตาชอบแม่ยาย ส่วนอารองก็ชอบนงลักษณ์เหรอ? แล้วว่าพวก เขาทั้งสองคนต่างก็คิดว่าชอบคนคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็เลย ต่างคนต่างถอยให้กันเหรอครับ?

ที่จริงบุริศ พอจะเดาได้เกือบหมดแล้ว แต่ว่ายังมีส่วนไม่ตรง อยู่บ้าง

ธรณีดูดบุหรี่เข้าไปแรง ๆ อีกทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “พี่น้อง ฝาแฝดสองคนตกหลุมรักผู้หญิงฝาแฝดสองคนในเวลาเดียวกัน นี่มันช่างน้ำเน่าจริง ๆ เลยใช่ไหม? แต่ที่น่าเสียดายคือ พี่ใหญ่ และพี่รองของฉันกลับไม่รู้ว่านั่นคือพี่น้องฝาแฝดคู่หนึ่ง ต่างก็นึก ว่าเป็นคนคนเดียวกัน ตอนที่พี่รองออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้เจอกับนงลักษณ์เข้า แล้วก็ตกหลุมรักเธอในทันที แต่น่า เสียดายตอนนั้นนงลักษณ์ไม่ได้กลับประเทศมากับพี่รองด้วย พอพี่รอง กลับมาก็พบว่าพี่ใหญ่กับคิมกำลังรักกันอยู่ ก็เลยนึกว่าผู้หญิงที่ ตัวเองชอบจับปลาสองมือ พอโกรธขึ้นมาก็เลยตบคุมต่อหน้าพ ใหญ่ แล้วยังจะยังไงได้ล่ะ? ตอนนั้นพี่ใหญ่ก็โมโหขึ้นมาทันที และก็เกิดการทะเลาะกันใหญ่โตกับพี่รองขึ้นมา จนสุดท้ายแม่ก็ มาห้ามให้แยกกันไป แต่ว่าระหว่างสองพี่น้องก็เกิดความ บาดหมางและห่างเหินกันขึ้นมาแล้ว

หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ที่หนึ่ง แล้วธรณีก็พูดต่อ ขึ้นว่า “พี่รอง โกรธมากจนออกนอกประเทศไปอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ ไปประเทศตามสัญชาตญาณ ซึ่งเป็นที่ที่รู้จักกับนงลักษณ์ นงลักษณ์เป็นห่วงเป็นใยเขามาก ถึงแม้พี่รองจะเสียใจที่เธอจับ ปลาสองมือ แต่พอเห็นนงลักษณ์หุบปากไม่เอ่ยถึงเรื่องระหว่าง เธอกับพี่ใหญ่ พี่รองเองก็ไม่อยากจะพูดถึง แต่ว่าช่วงระยะเวลา นั้นพี่รองแทบจะกักขังนงลักษณ์เอาไว้ เพราะในความทรงจำของ เขามีแต่นงลักษณ์อยู่ข้างกายเขา ถึงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพี่ใหญ่ ได้ รอให้ต่อไปพวกเขามีลูกกันแล้ว พี่รองกับนงลักษณ์ก็จะ แต่งงานกัน พอถึงตอนนั้นถึงนงลักษณ์จะมีความรู้สึกอะไรกับพี่ ใหญ่ แต่ตอนนั้นก็จะมีลูกมาเชื่อมโยงเอาไว้แล้ว และระหว่าง นงลักษณ์กับพี่ใหญ่ก็จะไม่มีทางเป็นไปอีก แต่เพราะว่าพี่รองหวาดระแวงเกินไป พอนงลักษณ์ทนไม่ ไหวแล้ว ก็เลยหนีไป

“พี่รองตามหานงลักษณ์ไปทั่วทุกที่ จนสุดท้ายเมื่อไม่รู้จะทำยัง แล้วจึงกลับประเทศมา แล้วก็พบมาว่าคิมกำลังมีความรักร้อน แรงกับพี่ใหญ่อยู่ ตอนนั้นพี่รองก็โกรธจนเป็นบ้าไปเลย พี่รองกับ พี่ใหญ่เกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงมากต่อหน้าพ่อกับแม่ หนำซ้ำยังเอาคลิปวิดีโอที่ใกล้ชิดของตัวเองกับนงลักษณ์ออกมา ให้พี่ใหญ่ดู ตอนนั้นพี่ใหญ่อึ้งทิ้งไปเลยทั้งตัว ไม่ว่ายังไงเขาก็คิด ไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักมากจะไปมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแบบ นั้นกับน้องชายตัวเองได้ ชั่วขณะหนึ่งก็เกิดรับไม่ได้ขึ้นมา

ตอนที่ได้ยินธรณีพูดมาถึงตอนนี้นั้น หัวคิ้วของบุริศร์ก็ขมวด กันขึ้นมา

“เป็นไปได้ยังไง? ถ้าพ่อตากับแม่ยายอยู่ด้วยกันตลอดเวลาละ

ก็ไม่เคยคิดเลยเหรอว่าไม่มีทางที่อารองจะไปอยู่ด้วยกันกับ

แม่ยายได้?”

“ความบังเอิญมันก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ ช่วงเวลานั้นคิมได้ไปเรียน ต่อต่างประเทศ ในฐานะนักศึกษาแลกเปลี่ยน ก็เลยไม่อยู่ใน ประเทศพอดี”

ธรณีหัวเราะได้อย่างขมขื่นเล็กน้อย
ถ้าหากไม่ใช่เพราะความบังเอิญของช่วงเวลานั้นละก็ บางที สองพี่น้องก็คงจะไม่เดินไปจนถึงขั้นแตกหักกันในตอนสุดท้าย หรอก

บริศร์รู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง

ความรักของพ่อตาแม่ยาย เต็มไปด้วยอุปสรรคไม่เรียบง่าย เลยจริง ๆ

“แล้วก็เป็นเพราะว่าแบบนี้ พ่อตาถึงได้ฟังคำพูดของที่บ้าน แล้วไปเป็นทหารเหรอครับ?”

ธรณีพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนั้นบิดากำลังปฏิบัติภารกิจ อยู่ต่างแดน เพียงแต่แค่กลับมานอนที่บ้านคนเดียวแล้วก็จะไป ต่อเลย แต่พอมาเห็นพี่ใหญ่และพี่รองทะเลาะกันแบบนี้เพราะว่า ผู้หญิงคนเดียว ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา แล้วก็ออกคำสั่งกับ ลูกชายทั้งสองคนว่า ห้ามใครเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้อีก ถ้าไม่ เชื่อฟังก็จะขับออกจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตอนนั้นพี่รองดื้อดึง และโกรธเคืองมาก ก็เลยพูดว่าจะให้ออกจากตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาก็ออกจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาชิ ชาตินี้เขาจะไม่มีทาง ยอมทิ้งผู้หญิงที่ตัวเองรักแน่ ตอนนั้นทำให้พ่อโกรธแทบตาย

“วันที่สองบิดากลับไปปฏิบัติหน้าที่กับทีมแล้ว ส่วนใหญ่ก็ เริ่มหลบหน้าคม ในใจเขาก็ทุกข์ใจ และเสียใจ เขาทำใจปล่อยคิมไปไม่ได้ แต่ว่ากลับคิดว่า ระหว่างคิมกับพี่รองได้อยู่ด้วยกันแล้ว ตัวเองไม่ควรที่จะไปแทรก อีก ตอนนั้นพี่ใหญ่ก็เลยบอกกับแม่ว่าจะไปเป็นทหาร แม่รู้ความ ในใจของพี่ใหญ่ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วก็ช่วยส่งใบสมัคร ให้พี่ใหญ่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าบิดาจะมาพลีชีพไปซะก่อน

“เพราะว่าบิดาพลีชีพไปแล้ว พี่ใหญ่ที่อยู่ในฐานะลูกชายของ วีรบุรุษผู้กล้าจึงข้ามขั้นตอนการตรวจสอบไปมากมาย แล้วก็ได้ ไปเป็นทหารเข้ากรมไปเลย ตอนนั้นพี่ใหญ่รู้สึกว่า ในเมื่อเป็น แบบนี้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปพูดกับคิมให้ชัดเจน แล้ว เรื่องบางเรื่องทุกคนต่างก็หลีกเลี่ยงไม่พูดกัน แล้วเขาก็เป็น ฝ่ายถอนตัวออกไป เพื่อให้พี่รองกับคิมได้สมหวังกัน เขานึกว่า ทั้งพี่รองและคิมจะเข้าใจ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าฟ้าจะกลั่นแกล้งคน เรื่องทั้งหมดนี้ทั้งคิมก็ดี พี่รองก็ดี ต่างก็ไม่รู้ว่ายังมึนงลักษณ์อยู่ ด้วยอีกคนหนึ่ง”

พูดมาถึงตรงนี้ ธรณีทอดถอนใจไม่หยุด

บุริศร์ถามเสียงต่ำขึ้นว่า “อาเล็ก คุณรู้ว่านงลักษณ์มีตัวตนมา นานแล้วเหรอครับ?”

“ฉันเพิ่งรู้วันนี้”
ค่าพูดของธรณีทำให้บริศร์อึ้งไปเล็กน้อย

“ที่นงลักษณ์มาหาคุณ ก็เพราะว่าเรื่องนี้เหรอครับ?

“อืม”

ธรณีพยักหน้าเล็กน้อย

“เรื่องมันนานมาตั้งหลายปีขนาดนี้ ทำไมนงลักษณ์ต้องมาพูด เรื่องนี้ด้วยครับ?”

บุริศร์ใส่หมัดเดียวจนเห็นเลือด ธรณีกลับหลบเลี่ยงเล็กน้อย

“อาจจะอยากกลับมาตระกูลพรโสภณมั้ง เธอบอกว่าเธอติด ค้างพี่สะใภ้คิมมาทั้งชีวิต ถ้าไม่ได้พูดออกมาก็จะไม่สบายใจ”

“ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ยี่สิบกว่าปีแล้วมั้ง? ตอนนี้ถึงเพิ่งกลับ มาบอกว่าติดค้างแม่ยายไว้ทั้งชีวิต? ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้สึกจิตใจเป็น ทุกข์เหรอครับ? อาเล็ก ความเฉลียวฉลาดของอาลดลง? หรือว่า รู้สึกว่าผมบริศร์เป็นคนโง่ครับ? ข้ออ้างแบบนี้ คุณเชื่อเหรอครับ? หรือว่ารู้สึกว่าผมจะเชื่อ?”

คำพูดของบุริศร์นั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก

ธรณีกลับเบือนหน้าหนีไป แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่ว่านายจะ เชื่อหรือไม่ เรื่องนี้มันก็เป็นอย่างนี้”

“งั้นทําไมอาจจะต้องรั้งนรมนไว้ไม่ให้เธอไปประเทศด้วยล่ะ

ครับ? เพราะว่าอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม? ตัวเขาอยู่ที่ประเทศ ใช่ไหมครับ?” พอคำพูดของบริศ พูดออกไป ธรณีก็ลืมตาโตขึ้น จ้องมองบุรี

ศร์แล้วก็พูดขึ้นว่า “นายพูดเรื่อยเปื่อยอะไร?”

“เป็นการพูดเรื่อยเปื่อยเหรอครับ? อาเล็ก ถ้าหากไม่ใช่เรื่องที่ เกี่ยวกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คุณจะตื่นตระหนกขนาดนี้เหรอ ครับ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าอารองยังมีชีวิตอยู่ คุณจะห้ามนรมน ไปประเทศเหรอครับ? หรือจะบอกว่าที่นงลักษณ์มาที่นี่ ก็เพราะ ต้องการให้อาเกลี้ยกล่อมนรมน ให้ไปประเทศF? นี่เป็นเจตนา ของเธอหรือว่าเป็นของอารองละครับ? ตอนนี้อารองอยู่ที่ ประเทศที่มีสถานะอะไรอยู่ครับ? น่าจะสถานะไม่ต่ำต้อยด้วยละ มั้ง? ไม่งั้นตอนที่คุณย่าเสียทำไมถึงไม่เห็นอารองกลับมาเลยละ ครับ?”

คำถามเยอะแยะมากมายของบุริศร์ถาโถมใส่ธรณีจนมึนงงไป

เลย

เขารู้ว่าจะประเมินบุริศร์ไปไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าสมองของบุริศร์จะหมุนวนได้เร็วขนาดนี้ เร็วจนเขาไม่มี ทางที่จะควบคุมได้ หน้าซ้ำยังไม่รู้ว่าควรจะอธิบายและตั้งรับยัง ไงถึงจะดี

เสียง”เพรี้ยง”ดังขึ้นที่หนึ่ง ที่ข้างนอกมีเสียงแก้วชาตกพื้นดัง ขึ้นมา แล้วผู้ชายสองคนที่อยู่ในห้องวาดรูปก็อึ้งไปทันที จากนั้น สีหน้าก็ดูไม่ดีขึ้นมาทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ