แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 497 พวกแกไม่รู้จักอายบ้างหรือไง



บทที่ 497 พวกแกไม่รู้จักอายบ้างหรือไง

บรมนยังคงได้โทรศัพท์อ่านข่าวอยู่ในห้อง ทันใดนั้นก็ได้ยิน เสียงเคาะประตูอย่างเสียงดัง จึงอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้

“ใครกัน?”

“หม่ามี รีบไปที่ห้องหนังสือเร็ว แด๊ดดี้กับคุณลุงกำลังสู้กัน เมื่อกิจจาได้ยินเสียงของนรมน ก็ร้องไห้ออกมาทันที

เมื่อนรมนได้ยินว่าบุริศร์กับตนท์สู้กัน ก็รีบเปิดผ้าห่มออก แล้วลงจากเตียง จากนั้นก็หาเสื้อตัวนอกมาคลุมเอาไว้แล้วเปิด ประตูออกไป

“กิจจา? เป็นอะไรไป?”

เมื่อเห็นสภาพน่าเวทนาของกิจจา เธอก็รู้สึกหดหู แล้วยิ่งเห็น ฝ่ามือของเขาเลือดไหล ก็ยิ่งรู้สึกสงสาร “รีบเข้ามาก่อน หม่ามี จะทายาให้

“อย่าเพิ่งสนใจผม หม่ามี รีบไปที่ห้องหนังสือก่อนครับ แดด กับคุณลุงกำลังสู้กันอยู่

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่กิจจาเริ่มเรียกบุริศร์ว่าคุณลุง

ตอนที่นรมนได้ยินสรรพนามนี้ก็นิ่งไปเล็กน้อย แต่พอคิดดูดีๆ มันก็ควรจะเป็นแบบนี้

เธอรีบพูดขึ้นมาว่า “จ๊ะๆๆ หนูหยุดร้องไห้ก่อนนะ เดี๋ยวหม่ามีจะไปดูเอง”

นรมน มหากิจจาเดินมาถึงห้องหนังสือ

ข้างในห้องมีเสียงดังโครมคราม แต่นรมนเปิดประตูไม่ได้ เหมือนจะถูกล็อกจากข้างใน

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อกานต์อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ก็เห็นกิจจาร้องไห้และ นรมนกำลังทุบประตูอย่างร้อนใจ จึงเอ่ยถามขึ้นมา

นรมนพูดอย่างร้อนรนว่า “กานต์ รีบไปขอกุญแจห้องหนังสือ กับคุณย่าเร็วเข้า

ได้ครับ!”

กานต์เช็ดผมยังไม่ทันแห้ง ก็ต้องรีบวิ่งไปที่เรือนดอกไม้

“คุณย่า หม่าให้ผมมาเอากุญแจห้องหนังสือกับคุณย่าครับ”

คุณนายตระกูลโตเล็กกำลังจัดดอกไม้อยู่ เมื่อได้ยินประโยค นี้ก็ชะงักไป

“เอาอะไรนะ?”

“กุญแจห้องหนังสือครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเห็นหมา เปิดประตูห้องนั้นไม่ได้ ส่วนกิจจากยืนร้องไห้อยู่หน้าห้อง

กานต์บอกทุกอย่างที่ตัวเองเห็นมาให้คุณนายตระกูลโตเล็ก

ฟัง
คุณนายตระกูลโตเล็กซะงักเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเอากุญแจ ห้องหนังสือให้กานต์

“เร็ว รีบเอาไปให้หม่ามี้แกก่อน เดี๋ยวตามไป

กานต์รับกุญแจมาถือไว้แล้ววิ่งกลับไป

คุณนายตระกูลโตเล็กค่อนข้างเดินช้า จึงทำได้แค่เดินตาม หลังไป

เมื่อได้กุญแจมาแล้ว นรมนก็พูดกับกานต์ว่า “พากิจจาหลบ ไปก่อน ห้ามเข้าไปข้างใน

“ครับ!”

กานต์ตอบรับ แต่กิจจากลับเอาแต่ร้องไห้ “หม่าม ให้ผม เข้าไปเถอะนะ”

“หนูเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ ฟังที่หม่ามีบอก เดี๋ยวหม่ามี จัดการเอง เป็นเด็กดีนะ!”

นรมนลูบหัวของเขา จากนั้นก็ให้กานต์พากิจจาไปอยู่อีกด้าน

เพราะกานต์จับโดนแผลของกิจจา กิจจาถึงได้ส่งเสียงอุทาน

ออกมาอย่างเจ็บปวด

“เป็นอะไรไป?”

กานต์เลิกเสื้อของกิจจาทันที

“ใครเป็นคนทํา? นายบอกฉันมา ฉันจะไปจัดการมันให้
ตอนทกานต์เห็นแผลของกิจจา ก็เดือดขึ้นมาในทันที เสียง ของเขาทำเอานามนสะดุ้งตกใจ

เธอรีบหันไปมองกิจจาอย่างรวดเร็ว จากนั้นสีหน้าของเธอก็ เปลี่ยนไปทันที

กิจจารีบดึงเสื้อลง แล้วพูดอย่างร้อนรนว่า “ผมไม่เป็นอะไร

หม่ามีรีบเข้าไปเถอะ”

เมื่อนรมนเห็นท่าทางร้อนรนของกิจจา ก็เริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้น มาบ้าง

เธอรู้แล้วว่าคนข้างในทะเลาะกันทำไม

“กานต์ พากิจจาไปที่ห้องของหม่ามี

“ไม่เอา หม่ามี้ ผมไม่ไป

กิจจาเป็นเด็กดื้อ ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรเขาก็ไม่ยอมไปไหน กานต์ยู่ปากด้วยความโมโห เขาแทบอยากจะเอาเรื่องคนที่

แม้ว่ากิจจาจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆของเขา แต่เขาเป็นพี่น้องคน แรกของกิจจาหลังจากที่กลับมาอยู่ที่ตระกูลโตเล็ก ตอนนั้น กิจจาปฏิบัติต่อเข้ายังไง กานต์จดจำมันได้ดี

ไอ้หมอนี้เรียกเขาว่าเฮีย

แล้วเขาเป็นเชยประสาอะไร?

ทำไมถึงปล่อยให้กิจจาได้แผลแบบนี้?
กานต์โมโหแทบจะระเบิดออกมา

เมื่อบรมนเห็นกิจจาร้อนใจ จึงรีบเปิดประตูเข้าไปอย่างไม่สน

ส่งได

เสียง “ฟีบ” จากสิ่งของที่ปลิวออกมาจากข้างในลอยเฉียด ของนรมนไป หล่นกระทบลงบนทางเดินตรงห้องรับแขกจนเกิด เสียงดัง “เพลง” ตรงปลายเท้าของคุณนายตระกูลโตเล็กพอดี

สิ่งนั้นคือถ้วยแก้วล้างพู่กัน

เป็นวัตถุโบราณหลายช่วงอายุ

ถูกวางไว้ในห้องหนังสือตลอด

สีหน้าของคุณนายตระกูลโตเล็กย่ำแย่เป็นอย่างมาก

นรมนเองไม่ได้พูดอะไร รีบเดินเข้าไปในห้อง

บริศร์กับครินท์สู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว! โตๆกันแล้วนะ ไม่กลัวเด็กๆตกใจ หรือไง!”

นรมนไม่เคยเห็นบุริศร์กับตรินท์ลงไม้ลงมือกันอย่างนี้มาก่อน

ทั้งสองยังเป็นพี่น้องกันอยู่ไหม?

ดูจากท่าทางแล้ว คงจะเอากันให้ตายไปข้าง เธอไม่สามารถ สอดมือเข้าไปห้ามได้เลย จึงรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

“บริศร์ ตรินท์ หยุดได้แล้ว!”
บรมนกำลังจะเข้าไปแยก

เมื่อบริศ เห็นเธอเดินเข้ามา ก็ดึงเธอไปหลบข้างๆ เพราะกลัว ว่าเธอจะโดนลูกหลงจากครินท์

แต่ในตอนนี้เอง ที่กำปั้นของตนท์ ต่อยโดนจมูกของบุริศร์

อย่างจัง

กระแสร้อนๆ พลันแล่นเข้ามา

จากนั้นจมูกของบุรีศร์ก็มีเลือดไหลออกมา แต่เขากลับแต่ยุ่ง อยู่กับการดึงนรมนไปไว้ข้างหลัง

เมื่อนรมนเห็นบุริศร์ได้แผลจนเลือดออก ก็เริ่มเป็นห่วง

ในตอนที่ครินท์เตรียมจะออกหมัด ใส่บุริศร์อีกครั้ง คุณนาย ตระกูลโตเล็กก็มาถึงพอดี

“พวกแกกล้าดียังไง! ทำอะไรกันอยู่? คิดจะพังบ้านเหรอ?”

เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กพูดออกมา ตรินท์ก็หยุดมือในทันที

เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กเห็นข้าวของระเนระนาดในห้อง หนังสือ ก็จะแทบจะลมจับ

“พวกแกแน่มากหรือไง หะ! ใกล้จะสามสิบกันแล้ว ยังทะเลาะ กันอีก ข้างนอกมีแต่เด็กๆ พวกแกไม่รู้จักอายหรือไง? งั้นเอาเลย ตีกันเลย! ถ้ายังไม่สาแก่ใจ เดี๋ยวฉันให้คนใช้เอามีดเอาปืนมา ให้เอาให้ตายกันไปข้างเลยดีไหม ดูสภาพพวกแก ในตอนนี้สิยังเป็นพี่น้องกันอยู่ไหม? คำว่าพี่น้องคืออะไร? ใช่มือกับเท้าที่ พวกแกเอามาใช้ทำร้ายกันไหม?

คุณนายตระกูลโตเล็กไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ได้เห็นบริศร์ กับตนท์ทะเลาะกัน

ลูกทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตั้งแต่เด็กๆ และยัง เป็นแฝดกันด้วย ไม่บ่อยนักที่จะทะเลาะเบาะแว้งกัน แล้วนี่มัน อะไร?

เมื่อนรมนเห็นพวกเขายอมหยุด ก็รีบเอื้อมนิ้วไปอุดจมูกของบุ ริศ เอาไว้ แล้วถามอย่างเป็นห่วงว่า “เจ็บไหม? มีตรงไหนได้ แผลอีกไหม?”

“ผมไม่เป็นไร คุณต้องไม่กังวล

บุริศร์อุดจมูก แล้วพูดออกมาเสียงเบา

เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของนรมน เขาก็นึกว่า แต่ว่าบนหน้า มีแผล ถ้ายิ้มออกมาต้องตลกแน่เลย

“คุณนี่นะ มีเรื่องอะไรทำไมไม่พูดกันดีๆ? ทะเลาะกันทำไม?”

ครั้งแรกที่นรมนเห็นบริศทะเลาะกับคนอื่น คือตอนที่ต่อยกับ เจตต์เพราะเรื่องรูปภาพ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเห็นเขา ทะเลาะกับครินท์

คุณนายตระกูลโตเล็กหันไปมองบุริศร์ ก็เห็นขอบตาของบุรี ศรับวม จมูกก็มีเลือดกำเดาไหล ด้านครินท์กลับไม่ค่อยเป็น อะไรเท่าไหร่ เธอถึงได้หันไปทางตรีนท
“พี่แกเป็นถึงขนาดนี้แล้ว คงสาแก่ใจแกแล้วสินะ?”

ครินท์ก้มหน้าไม่พูดไม่จา ความเดือดดาลของคุณนายตระกูลโตเล็กค่อยๆปะทุขึ้นมา

“ช่วงนี้ตระกูลโตเล็กมีปัญหาตั้งมากมายเท่าไหร่? พวกแก ไม่รู้หรือไง? แต่ละปัญหาก็ไม่รู้จักไปแก้ไขให้มันเสร็จๆ มันถึงได้ กระจายไปทั่วบ้านแบบนี้ไง บุริศร์ก็หายตัวไปตั้งแปดวัน ไป ไหนก็ไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำ ส่วนแกละครินท์? วันๆเอาแต่พา กิจจาออกไปข้างนอก ไม่รู้ว่าไปทำอะไร ครอบครัวนี้มันยังไง? ให้ยายแก่ๆอย่างฉันเฝ้าอยู่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ? วันนี้กว่าจะ ทำให้พวกแกกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันได้ก็ไม่ใช่ ง่ายๆ พวกแกยังจะลงไม้ลงมือกันอีกเหรอ มา ไหนบอกฉันมา ว่าทะเลาะกันทำไม?”

เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กพูดมาอย่างนี้ บุริศร์ก็หันไปมองตร นท์ แล้วหันไปมองกิจจาที่กำลร้องไห้ เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ออกไป

ครินทเองก็เงียบ

“เป็นไม้ไปแล้วหรือไง? ตอนทะเลาะกันไม่ได้คิดหรอว่าฉันจะ ถาม? ตอนนี้เลยพากันเงียบ มันเรื่องอะไรกัน? บุริศร์ แกพูดมา

คุณนายตระกูลโตเล็กเอ่ยชื่อโดยตรง

เธอโกรธจนตัวสั่น
ตั้งแต่เล็กจนโตเด็กสองคนนี้ไม่เคยมีอะไรให้เธอต้องเป็นห่วง ตอนนี้ก็ใกล้จะสามสิบกันแล้ว ยังกล้าทะเลาะกันต่อหน้าเด็กๆ ในบ้านอีก ทำตัวไม่ได้เรื่องกันจริงๆ

บุรีศรคิดอยู่สักพัก ก็พูดว่า “ไม่มีอะไรครับ ผมกับตนท์ต่างๆ เลยอยากเรียนต่อสู้กันเฉยๆ

“เรียนต่อสู้? พวกแกเรียกสิ่งนี้ว่าเรียนต่อสู้เหรอ? ถ้วยแก้วที่ แตกอยู่ข้างนอกเป็นของที่พ่อพวกแกประมูลมาได้ตั้งแต่เขายัง หนุ่มๆ รู้ไหมว่าราคาเท่าไหร่? มันคือสิ่งที่พ่อแกเหลือเอาไว้ให้ ฉันดูต่างหน้า แต่พวกแกกลับปามันทิ้ง ตอนนี้ยังจะมาบอกว่าที่ ทะเลาะกันไปเมื่อกี้คือเรียนต่อสู้อีกเหรอ? บุริศร์ แกกำลังช่วย น้องปิดบังอะไรอยู่?”

คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กจี้จุดตรินท์ในทันที

“ไม่จำเป็นต้องให้พี่ช่วยปิดบังหรอกครับ เรื่องวันนี้ผมเป็น คนเริ่มเอง”

ตรินท์เอ่ยปากออกไปตรงๆ แต่คำที่พูดออกไปก็ทำให้ทุกคน ต่างชะงัก

บางทีคุณนายตระกูล โตเล็ก คงไม่คิดล่ะมั้งว่าตนท์จะลงไม้ ลงมือกับบริศร์

“แกเริ่มก่อน? กับพี่แกเนี่ยนะ? ทำไมล่ะ?”

สีหน้าของคุณนายตระกูลโตเล็กเคร่งขรึม

“แม่ มันไม่มีอะไร เดี๋ยวพวกผมเก็บกวาดห้องเอง แม่ให้บรมนพาออกไปก่อนเถอะนะ พวกผมก็แค่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน นิดหน่อย เดี๋ยวพวกผมจัดการกันเอง

บุรี รับเอ่ยพูด

คุณนายตระกูลโตเล็กกลับพูดออกมาเสียงเย็นว่า “ความคิด เห็นไม่ตรงกัน? เมื่อก่อนพวกแกก็เป็นอย่างนี้บ่อยจะตายไป ฉัน ยังไม่เห็นทะเลาะกันรุนแรงแบบนี้เลย ตรินท์ แกบอกมา ทำไม แกลงไม้ลงมือกับพี่แก

บุริศร์ขยิบตาส่งซิกให้ครินท์อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ครินท์ กลับทำเป็นมองไม่เห็น

เขาหันไปมองกิจจา แล้วพูดว่า “เพราะผมติกิจจา พี่เลยบอก ว่าผมใช้ความเป็นพ่อมารังแกลูกของเขา แล้วยังพูดอีกว่าหลัง จากนี้เขาจะเป็นคนอบรมสั่งสอนกิจจาเอง แม่ครับ กิจจาเป็นลูก ของผมไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมฟังจากที่พี่พูดมา เหมือนผมไม่มี สิทธิ์จัดการอะไรในตัวลูกของผมเลยล่ะ?”

คิ้วของคุณนายตระกูลโตเล็กขมวดเข้าหากันในทันที

“แกติกิจจา?”

คุณนายตระกูลโตเล็กหันไปมอง แล้วเดินเข้าไปหากิจจาทันที

“ขอย่าดูหน่อย พ่อแกแกตรงไหนบ้าง?

“ไม่เป็นไรครับ คุณย่า ผมไม่เป็นอะไร

กิจจาพูดพร้อมกับเตรียมหลบออกไปข้างนอก
แต่กานต์ไม่ยอมให้เขาออกไป จับกิจจาเอาไว้แล้วเลิกเสื้อ ของเขาขึ้น จากนั้นก็พูดอย่างชัดชัดว่า “คุณย่าดูสิ กิจจาเป็นถึง ขนาดนี้เลย! คุณอาใจร้ายมาก! ทำไมตีเขาแบบนี้ล่ะ?”

ตอนยังไม่รู้ว่าใครทำกิจจา กานต์ก็อยากจะไปต่อยคนทำให้ ตาย ตอนนี้พอได้รู้ว่าเป็นครินท์ เขาก็โกรธเป็นอย่างมากแต่ก็ ไม่ทําอะไร

ถึงยังไงก็เป็นอาแท้ๆของเขา

แต่โทสะของกานต์ก็ยังไม่หมดไป

เพราะกิจจากเป็นพี่น้องของเขาเหมือนกัน!

เมื่อเห็นว่าคุณย่าถาม เขาจึงถือโอกาสฟ้อง โดยเปิดเสื้อกิจจา ให้คุณย่าดูอย่างไม่สนสิ่งใด

ดวงตาของคุณนายตระกูลโตเล็กพลันอึมครึม

“ตรินท! แกมันสัตว์เดรัจฉาน!” คุณนายตระกูลโตเล็กโกรธจนป่าไม้เท้าใส่ครินท์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ