แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 943 เรื่องนี้พี่พูดแล้วเราต้องฟัง



บทที่ 943 เรื่องนี้พี่พูดแล้วเราต้องฟัง

“บีบคั้นพวกคุณจนตายหรือ ดิฉันมีความจำเป็นที่จะต้องทำ แบบนั้นด้วยหรือคะ”

เมื่อเจ็บปวดเพราะความผิดหวังจากเบื้องลึกของจิตใจจริงๆ ขึ้นมา นรมนก็พูดจาโดยไม่เกรงใจอีกแล้ว

“วันนี้ฉันเพียงต้องการแค่ถูกหรือผิด ถ้าหากว่าอุบัติเหตุทาง รถยนต์ของพฤกษ์เกี่ยวข้องกับเนตราจริงๆ ไม่ว่าพวกคุณจะพูด อะไร จะตายหรือมีชีวิตอยู่ ฉันล้วนไม่สนใจ จะต้องมีคนที่จ่ายค่า ตอบแทนให้กับเรื่องนี้!!

สายตาของนรมนทำให้เนตราหวาดกลัวเล็กน้อย

“คุณพ่อคุณแม่ พวกเราไปเถอะค่ะ อย่าไปถือสาหาความกับ ขายบ้านเลย”

เนตราเอ่ยจบแล้วก็ดึงบิดามารดาตระกูลธนาศักดิ์ธนจากไป

คมทิพย์มองนรมน ตบไหล่เธอเบาๆ พลางเอ่ยว่า “เสียใจ เพราะคนที่ไม่รักและทะนุถนอมตัวเองนั้นไม่คุ้มค่า

“ฉันรู้ ก็แค่รู้สึกว่าน่าขบขันมากเกินไป เธอรู้ได้อย่างไรกันว่าบุ ริศร์มอบเงินให้พวกเขาสิบล้าน ตอนที่ฉันไม่อยู่นั้นเกิดเรื่องอะไร ขึ้นกันแน่”

นรมนมองไปที่คมทิพย์อย่างต้องการคำตอบ
คมทิพย์เกลี่ยเส้นผมที่ยาวของเธอไปทัดไว้หลังใบหูแล้วเอ่ย ยิ้มๆว่า “ต้องรู้ชัดเจนในทุกๆเรื่อง เธอไม่รู้สึกว่ามันเหนื่อยบ้าง หรือ”

“ฉันมีสิทธิ์ที่จะได้รู้ ฉันก็อยากรู้เช่นกันว่าพวกเขาวางฉันไว้ใน ตำแหน่งอะไร”

เมื่อได้ยินนรมนเอ่ยเช่นนี้ คมทิพย์ก็ถอนหายใจ เอ่ยขึ้นว่า “หลังจากที่เนตราถูกเชษฐ์นำตัวไป พวกเขาก็ไปขอร้องบุริศร์ ให้ เขาช่วยเนตรากลับมา”

“เรื่องนี้ฉันรู้ ในภายหลังยังมีเรื่องอื่นต่อ?”

คมทิพย์ถอนหายใจเสียงเบา เอ่ยว่า “ตอนที่เชษฐ์ถูกจับใน ครั้งแรก ความจริงแล้วเนตรากลับไปที่บ้านแล้ว แต่ว่าหลังจากมี ข่าวที่กวินทร์ไม่รับเธอเป็นศิษย์ แม่เธอก็ไปโวยวายที่บริษัทบริ ศร่ด้วยตัวเอง”

“อะไรนะ เพราะอะไรฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้กัน นรมนประหลาดใจเล็กน้อย

คมทิพย์เอ่ยยิ้มๆ “บุริศร์ปิดข่าวเอาไว้ แม่เธอใช้การตายมา บีบบังคับ บังคับให้เธอออกหน้าไปช่วยขอร้องให้กวินทร์รับเนต ราเป็นศิษย์ ในตอนนั้นเธอถูกเชษฐ์พาตัวไป เป็นตายก็ยังไม่รู้ แม่เธอกลับไม่ถามอะไร บุริศร์บอกว่า ตอนนี้เธอจะเป็นหรือตาย ก็ยังไม่รู้ อันตรายเป็นอย่างมาก รอเธอกลับมาแล้วค่อยว่ากันแต่แม่เธอยืนยันที่จะให้บริศร์ไปบีบบังคับให้กวินทร์รับศิษย์ ถ้าบุ ริศ ไม่รับปาก เธอจะตายอยู่ที่หน้าประตูบริษัทฮัวกรุ๊ปจำกัด บอกว่าจะให้เธอโทษบุรีศร์ไปชั่วชีวิต

“ทำไมเธอถึงได้ทำแบบนี้กัน

เมื่อนรมนคิดว่าบริศ เคยถูกแม่ตัวเองบีบบังคับเช่นนี้เพราะ ตัวเอง ในใจก็มีความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก

“นี่ยังไม่จบนะ พ่อของเธอก็ประกาศไปทั่วว่าเธอเป็นคน อกตัญญู ใช้อำนาจกดขี่เนตรา จนไม่เหลือเส้นทางรอดชีวิต ให้ กับตระกูลธนาศักดิ์ธน บุริศร์ใช้ประชาสัมพันธ์ของบริษัทจัดการ เรื่องนี้ แต่เขาก็กลัวว่าหลังจากที่เธอรู้เรื่องนี้แล้วจะเศร้าเสียใจ จึงมอบเงินให้กับพวกเขาสิบล้าน กำหนดให้พวกเขาย้ายออกไป จากเมืองชลธีภายในหนึ่งเดือน และไม่อนุญาตให้กลับมาอีกใน ชั่วชีวิตนี้ และยิ่งไม่อนุญาตให้ไปสร้างความวุ่นวายให้เธอ

เมื่อได้ยินคมทิพย์เอ่ยเช่นนี้แล้ว นรมนก็รู้สึกเหมือนว่าทั้งร่าง ตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง

บิดามารดาที่เคยเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีขนาดนั้น ตอนนี้กลับ ทุ่มเทสุดกำลังเพื่อลูกสาวแท้ๆของตัวเอง จนถึงขั้นหน้าตาก็ไม่ ต้องการ แล้วจะมาสนใจอะไรกับความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูก ระหว่างยี่สิบกว่าปีนี้กัน?

นรมนเศร้าเสียใจ แต่กลับเข้าใจว่าหลังจากนี้ตัวเองควรจะทำ อย่างไร

“ฉันรู้แล้ว ขอบคุณเธอที่บอกเรื่องพวกนี้กับฉัน”
“เป็นเพื่อนกัน ฉันก็ไม่ได้อะไร

คมทิพย์ โบกมือไปมา

นรมนมองเธอ เอ่ยเสียงเบา “ตอนนี้เธอต้องการเงิน ไม่ให้

“สองแสนก็พอแล้ว มากพอที่จะให้ฉันหางานและเลี้ยงดูพวก เขาให้มีชีวิตต่อไปได้ เธอก็อย่ากังวลเพราะฉันเลย ฉันเป็นเพื่อน เธอ เป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของเธอ เธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่ ทำให้เธอขายหน้าหรอก จะต้องมีสักวันหนึ่งที่ฉันสามารถยื่นข้าง กายเธอได้อย่างสง่าผ่าเผย ให้ทุกคนได้อิจฉาพวกเรา”

สายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของคมทิพย์ทำให้นรมนซึ้งใจ เป็นอย่างมาก

เธอมักจะเข้มแข็งแบบนี้เสมอ แม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมาก็ยังล้ม

ความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นของเธอไม่ได้

“พยายามเข้าล่ะ ฉันจะรอวันนั้น

“ได้”

สองคนสบตากันแล้วหัวเราะออกมา

ด้านนอกฝนตกพรําๆ เจือไปด้วยความหนาวเย็น

เธอมองไปรอบๆ ตอนนี้เหลือเพียงแค่เธอคนเดียว เส้นทาง หลังจากนี้ยังต้องพาคนพิการอีกสามคนเดินไปด้วยกัน เส้นทางนี้ เดินไม่ง่าย แต่เธอก็จําเป็นต้องเดิน
ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ น้องชาย หรือว่าพฤกษ์ ล้วนเป็นคนที่เธอ ไม่อาจปล่อยมือได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็กัดฟันเดินต่อไป

เธอเชื่อว่า หลังจากพายุฝนมักจะเห็นสายรุ้งที่งดงาม

คมทิพย์สูดหายใจเข้าไปเต็มปอด ตัดใจเรียกรถแท็กซี่ไม่ลง

จึงเดินฝ่าฝนอยู่บนถนนคนเดียว

เธอค้นหาบริษัทที่ต้องการรับคนทำงานไม่หยุด แต่ก็ไม่เป็นไป ตามที่ปรารถนาสักเท่าไร

ตอนนี้เธอจําเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ งานปกติแทบจะไม่ สามารถแบกรับสิ่งเหล่านี้ได้

ทําอย่างไรดี

หรือว่าจะต้องไปพวกสถานที่พลอดรักกันจริงๆ?

ไม่!

คมทิพย์ไม่อนุญาตให้ตัวเองทำเช่นนั้น และไม่สามารถทำเช่น นั้นได้

ผู้หญิงที่พฤกษ์รักจำเป็นต้องเป็นหญิงสาวที่สะอาดและบริสุทธิ์ เธอไม่อาจทำให้พฤกษ์เสียความน่าเชื่อถือได้

คมทิพย์ลูบใบหน้า มองเห็นกลุ่มตัวประกอบที่กำลังถ่ายละคร อยู่ไม่ไกลนัก นัยน์ตาเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที

เดินในเส้นทางบันเทิงอาจจะลำบากมาก แต่ถ้าหากประสบ ความสำเร็จขึ้นมาจริงๆ ค่ายารักษาของคุณพ่อ น้องชายและพฤกษ์ก็มีแล้ว

ดูเหมือนว่าคมทิพย์จะพบหนทางขึ้นมาได้กะทันหัน

เธอเดินไปทางกลุ่มตัวประกอบอย่างรวดเร็ว

“ไม่ทราบว่ากองถ่ายของพวกคุณยังต้องการคนไหมคะ”

เสียงของคนทิพย์ไม่ดัง แต่กลับเจือไปด้วยความสดใส จึง ทำให้คนรู้สึกได้เปิดหูเปิดตาอย่างเสียมิได้

ผู้กำกับเหลือบมองคมทิพย์ แต่ก็ถูกประกายใต้ก้นบึงนัยน์ตา ของคมทิพย์ดึงดูดเอาไว้ทันที

“คุณมาสมัครงานหรือ

“ใช่ค่ะ”

คมทิพย์ไม่เคยทำอาชีพนี้มาก่อน แต่ว่าตอนนี้เธอจำเป็นต้อง ทำเช่นนี้

ผู้กํากับกวักมือ

“คุณมานี่ พวกเราต้องการศพร่างหนึ่ง แต่เป็นเพราะเวลานาน เกินไป อาจจะต้องแกล้งทำเป็นตายอยู่ครึ่งชั่วโมงท่ามกลางสาย ฝน คุณทําได้ไหม”

“ฉันทําได้ค่ะ!”

คมทิพย์รู้ว่าสายฝนในตอนนี้หนาวเย็นมาก ครึ่งชั่วโมงนั้นจะ ต้องหนาวจนตัวแข็งทื่อ จนอาจจะเป็นหวัดแน่นอน แต่เธอยังมี ทางอื่นให้เดินอีกหรือ
ไม่มี!

แม้ว่าเบื้องหน้าจะเต็มไปด้วยขวากหนาม แต่เธอก็ต้องเดินต่อ

ไป

เห็นความเด็ดเดี่ยวหนักแน่นและความดื้อดึงในแววตาคม ทิพย์แล้ว ผู้กำกับก็ให้คนพาคมทิพย์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะที่คม ทิพย์เดินผ่านข้างกายเขาไป ผู้กำกับก็เอ่ยเสียงเบาว่า “ถ้า หากว่าคุณสามารถยืนหยัดได้ถึงครึ่งชั่วโมง วันนี้ผมจะให้คุณ สามร้อยหยวน!”

สามร้อยหยวน!

ตัวเลขนี้ทำให้คมทิพย์มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

“ฉันจะต้องทําได้อย่างแน่นอนค่ะ!”

“ไปดื่มน้ำขิงก่อน

ผู้กำกับไม่ได้สนใจมองคมทิพย์อีก ออกคำสั่งกับผู้ช่วยทันที คมทิพย์ถูกพาตัวไปดื่มน้ำขิง ร่างกายอุ่นขึ้นเล็กน้อย ถึงได้ ถอยออกไป

สายฝนที่หนาวยะเยือกกระทบลงบนร่างจนเจ็บ แต่คมทิพย์ก็ นอนนิ่งอยู่ตรงนั้นคล้ายกับว่าตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง กระทั่งนัยน์ตา ก็ไม่ค่อยขยับ

เวลาครึ่งชั่วโมงนั้นไม่นานและไม่สั้น แต่กลับมากพอที่จะ ทำให้เด็กสาวที่สวมเพียงแค่เสื้อตัวเดียวหนาวจนตัวแข็งทื่อได้
รอจนถ่ายทําเสร็จแล้ว ผู้กำกับก็พอใจมาก

“มาก! รีบไปถึงคนขึ้นมา ให้เงิน และขอเบอร์โทรศัพท์เธอ เอาไว้ด้วย นักแสดงแบบนี้มีไม่มากแล้ว ครั้งหน้ามีงานอีกจําเอา ไว้ว่าให้เรียกเธอ”

มีประโยคนี้ของผู้กำกับ คมทิพย์ก็วางใจแล้ว

ผู้ช่วยมอบเงินสามร้อยหยวน ให้กับคุมทิพย์ และขอเบอร์ โทรศัพท์เธอเอาไว้เรียบร้อยแล้วถึงได้จากไปพร้อมกับคนอื่นๆ

คมทิพย์หนาวจนตัวสั่น จามออกมาไม่หยุด

เธอลูบจมูกตัวเอง มองเงินสามร้อยหยวนที่เปียกชื้นเล็กน้อย ในมือ มุมปากก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นเบาบาง

ความหวังยังคงมีอยู่ใช่หรือไม่

นี่ก็ได้เงินมาสามร้อยหยวนแล้วไม่ใช่หรือ

ถ้าหากว่าทุกวันล้วนมีเงินสามร้อย หนึ่งเดือนก็หนึ่งหมื่นแล้ว แม้ว่าจะเป็นเงินจำนวนน้อยนิด แต่ก็ยังสามารถมองเห็นความ หวังได้อยู่

เธอลุกขึ้นยืนอยู่ที่เดิม ยกขากระโดดขึ้นสูงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเก็บ

ของเรียบร้อยแล้ว ก็หมุนตัวจากไป

คมทิพย์เดินไปได้ไม่ไกลเท่าไร ก็เห็นรถคันหนึ่งจอดขวางทาง

อยู่ด้านหน้าเธอ

เธอตะลึงไปเล็กน้อย
คนคนนี้เธอรู้จัก เป็นผู้ช่วยของผู้กำกับคนเมื่อครู่นี้

“ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ

คมทิพย์เอ่ยถามอย่างมีมารยาท

ผู้ช่วยเปิดกระจกรถ เอ่ยเสียงเบา “ผู้กำกับของพวกเราชื่นชม คุณมาก คืนวันนี้มาที่นี่ ผู้กำกับรับประกันว่าคุณสามารถก้าวขึ้นสู่ ตำแหน่งสูงๆได้โดยไม่เปลืองแรง

เอ่ยจบแล้ว เขาก็มอบบัตรใบหนึ่งให้กับคุมทิพย์ คมทิพย์ก้มหน้าอ่านแล้วก็มีสีหน้าทะมึนขึ้นมาทันที บัตรใบนี้เป็นบัตรห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง นี่หมายความว่าอะไร คมทิพย์ชัดแจ้งแก่ใจ “ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันไม่ทำเรื่องพวกนี้ คมทิพย์โยนบัตรใบนี้กลับไปทันที

ผู้ช่วยเห็นคมทิพย์มีท่าทางเช่นนี้ก็โมโหขึ้นมาทันที

“ผู้หญิงอย่างคุณไม่รู้จักดีชั่ว? ผมจะบอกคุณให้นะว่า พลาด ช่วงเวลานี้ไป ก็จะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว คุณรู้ไหมว่าผู้กำกับ ของพวกเราเป็นใคร คนที่เข้าแถวรอให้เขาเลือกมีจำนวนนับไม่ ถ้วน นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของคุณ”

“ดิฉันไม่ขายตัวค่ะ”

คมทิพย์เอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไปโดยไม่มีความลังเลใดๆ
ตอนที่ตัดสินใจจะเข้าสู่วงการบันเทิง เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองจะ ต้องพบเจอเรื่องที่ไม่สะดวกราบรื่น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องพวกนี้ จะมาเร็วขนาดนี้ เธอก็เป็นเพียงแค่นักแสดงตัวประกอบคนหนึ่ง เท่านั้นเอง

แต่เมื่อนึกถึงครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่ตัวเองสวมเพียงแค่เสื้อ ผ้าบางๆตัวหนึ่ง เมื่อถูกสายฝนกระทบลงบนร่างกาย เปิดเผย เรือนร่างของเธอออกสู่สายตาของผู้อื่นอย่างเต็มที่ คมทิพย์ก็รู้สึก อับอายขึ้นมาเล็กน้อย

เส้นทางนี้จะเดินต่อไปหรือไม่

นี่เป็นการหาเงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆได้ดีที่สุด

เธอต้องการเงิน!

คุณพ่อต้องการ น้องชายต้องการ พฤกษ์ก็ต้องการเช่นกัน!

งานธรรมดาทั่วไปไม่สามารถแบกรับความกดดันมากมาย ขนาดนี้ไว้ได้ เธอทำได้เพียงแค่กัดฟันเดินต่อไป

แต่เธอก็ไม่มีทั้งพลังและไร้ซึ่งอำนาจ การที่จะทำงานอยู่ใน วงการบันเทิง จะสามารถปกป้องความบริสุทธิ์ของตัวเองได้นาน เท่าไรกัน

คมทิพย์ทุกข์ใจเป็นอย่างมาก

เธอกลับบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดแล้ว ก็ยังรู้สึกคัดจมูกอยู่ เล็กน้อย เธอรีบต้มน้ำขิงดื่ม และกินยา
เมื่อดูเวลาก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เธอจึงออกมาทำอาหารให้กับ ปัญญ์

ปัญญ่เห็นคนทิพย์ท่าทางไม่ค่อยดี ก็ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “พี่ พี่เป็นหวัดหรือเปล่า เมื่อครู่ตอนออกจากบ้าน พี่ไม่ได้พกร่ม

ไปด้วยหรือ”

“ไม่เป็นไร ทําเรื่องของเราไปเถอะ พี่ได้ยินมาว่าเราเป็นนัก แปลที่บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดหรือ

“อืม”

ปัญญ์พยักหน้า

คมทิพย์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“ดีมาก อย่าโหมเกินไปล่ะ มีพี่อยู่

“ผมเป็นผู้ชายในครอบครัวโอเคไหม

ปัญญูเศร้าใจอยู่บ้าง

แรงกดดันของคนทิพย์มากเกินไปแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชาย ก็ยังรู้สึกรับไม่ไหวอยู่บ้าง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคมทิพย์ที่เป็นผู้หญิง คนหนึ่ง

บางครั้งเขาก็รู้สึกว่าหาตัวพี่สาวกลับมาไม่ได้เป็นเรื่องที่ดี ถ้า หากว่าตระกูลเจริญไชยของพวกเขาไม่ได้พาตัวคมทิพย์กลับมา บางทีตอนนี้ชีวิตของคมทิพย์ก็คงจะไม่เหมือนกัน
“พอแล้ว พี่ยืมเงินจากนรมนมานิดหน่อย เดี๋ยวพี่จะติดต่อคุณ หมอที่ตรวจขาของเราในครั้งที่แล้ว พี่มักจะรู้สึกว่ายังมีทางช่วย

เมื่อได้ยินเมทิพย์เอยเช่นนี้ ปัญญ์ก็ปฏิเสธออกมาตรงๆ

“ผมไม่รักษาแล้ว สองแสนมากพอที่จะให้พวกเราใช้ชีวิตที่ดี ได้แล้ว ถ้าหากว่าผมใช้มัน ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยได้ ถ้าหากว่าไม่

สำเร็จ เงินนี้ก็เสียเปล่าโดยไม่ให้ผลลัพธ์อะไร

“ก็ยังต้องรักษา เรื่องนี้พี่พูดแล้วเราต้องฟัง

คมทิพย์เอ่ยพูดอย่างแน่วแน่ ทำให้ปัญญ์หน่วยตาแดงระเรื่อ ขึ้นมาทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ