แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 187 ความรู้สึกแบบนี้ดีจังเลย



บทที่ 187 ความรู้สึกแบบนี้ดีจังเลย

หลังจากบุริศร์ออกมาจากห้องน้ำ สีหน้าของรเมศ ได้ห้อยลงมาอย่างสิ้นเชิง

เขาต้องใช้วิธีอะไรกันแน่ถึงจะสามารถทำให้บุริศร์ จากไปโดยเร็ว?

หลังจากบุริศร์เก็บเส้นผมเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เปิด ก๊อกน้ำ แกล้งทำเป็นเหมือนเข้าห้องน้ำจริงๆ จากนั้นถึง เดินออกมาจากห้องน้ำ

รเมศนั่งอยู่บนโซฟาและได้เริ่มดื่มชาแล้ว เห็นได้ ชัดว่าสงบจิตสงบใจมาก เหมือนไม่มีเรื่องอะไรเลย แต่

บุริศร์กลับเหมือนมองเห็นมือของเขาค่อนข้างสั่น

ความสงสัยที่มีต่อรเมศยิ่งอยู่ยิ่งเยอะแล้ว

บุริศร์สงบเยือกเย็นมาก พยักหน้าให้กับรเมศ จาก นั้นก็ได้จากไปแล้ว ND

หลังจากๆไปครั้งนี้ รเมศยืนอยู่ที่ริมหน้าต่างตั้ง นานอย่างไม่ขยับ

เขากลัวบุริศร์จะย้อนกลับมาอีกครั้ง

ผู้ชายคนนี้ทำให้คนเกลียดมากเลยชัดๆ

เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่ตัวเองไหวตัวทัน อาจจะถูกบุริศร์ พบเห็นเข้าก็ได้
พอนึกถึงนรมนจะถูกเขาพบเห็น จากนั้นก็ถูกเขา พาไปจากข้างกายตัวเอง ความแค้นที่รเมศมีต่อบุริศร์ก็ เพิ่มขึ้นอีกขั้น

เขาถึงขั้นอยากให้บุริศร์ตายอยู่ที่อเมริกาเลย

ความคิดนี้แว็บผ่าน แววตาของรเมศมีความโหด เหี้ยมแว๊บผ่าน จากนั้นก็ได้ซ่อนไว้อย่างเร็ว

ครั้งนี้บุริศร์ไม่ได้กลับมาอีก แต่ได้ไปโรงพยาบาล แห่งนึงโดยตรง ใช้ฐานะของคนอื่นเข้าสู่การ ตรวจDNAของเส้นผมนั่น

ผลDNAเร็วสุดก็ต้องใช้เวลาสามวัน ช่วงเวลา ระหว่างนี้บุริศร์รอไม่ได้ เขาวางแผนไว้แล้วว่าตกดึกจะ บุกไปสำรวจที่คฤหาสน์ขอใรเมศ

พฤกษ์มาถึงในหลายชั่วโมงต่อมา เห็นได้ชัดว่า เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตะลอนๆ

“ประธานบุริศร์ครับ”

ตอนที่พฤกษ์เจอบุริศร์ที่นอกโรงพยาบาล เห็นได้ ชัดว่าระมัดระวังมาก

บุริศร์พยักหน้า ให้เขาขึ้นรถ ไม่นานทั้งสองก็ไป จากที่เดิม “ฉันสงสัยนายรเมศซ่อนนรมนไว้ นายไปตรวจ

สอบFallen heavenอย่างลับๆหน่อย งานประมูลของ

วันนั้น นายรเมศได้ไปที่นั่นหรือเปล่า?”
แววตาของบุริศร์ค่อนข้างลุ่มลึก กุมมือทั้งสองไว้ ด้วยกันอย่างแน่น

เขาไม่อยากเป็นศัตรูกับตระกูลวัชโรทัย แม้ กระทั่งเพราะห้าปีมานี้กับตระกูลวัชโรทัยที่คอยดูแล นรมนและลูกสองคน เขากะจะคืนดีกับตระกูลวัชโรทัย ในเวลานี้ แต่ตอนนี้ถ้ารเมศพาตัวนรมนไปจริงๆ บุริศร์ ไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะทำเรื่องอะไรออกมา

พฤกษ์อยู่ทางนี้ก็พอมีความสามารถอยู่ ฟังบุริศร์ พูดจบ ก็ได้ไปจัดการทันทีเลย

ตอนที่บุริศร์กลับมาถึงโรงพยาบาล กมลกับกิจจา

กำลังเล่นอยู่

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ จู่ๆกิจจาก็เหมือนจโตเป็น ผู้ใหญ่แล้ว มีการดูแลกมลมากยิ่งขึ้น เป็นห่วงเป็นใย ทุกรายละเอียด ทำให้กมลยิ้มแย้มแจ่มใสทุกวัน เสียง ใสๆนั้นเหมือนระฆังยังไงอย่างงั้น ทำให้อารมณ์ของ ทุกคนต่างก็กลายมาดีมาก

“คุยอะไรกันอยู่คะ?หัวเราะอย่างมีความสุขเชียว?” บุริศร์ได้เก็บอารมณ์ที่อยู่ด้านนอกไว้หมด

อยู่ตรงหน้าลูกสาว เขาไม่อยากให้กมลมีอารมณ์ ด้านลบใดๆและไม่มีความสุข

ตอนที่กมลเห็นบุริศร์ดีใจมาก

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ล้วนแต่เป็นบุริศร์ที่อยู่เคียง ข้างเธอ ทุกครั้งตอนที่ลืมตาขึ้นมาล้วนแต่สามารถเห็นบุริศร์หรือไม่ก็กิจจา เธอไม่โดดเดี่ยวเดียวดายอีกแล้ว

ความรู้สึกแบบนี้ดีมากจริงๆ

ถ้ามีหม่ามี้กับพี่ชายอยู่ข้างกายด้วยก็คงจะดี

กมลยื่นมือไปหาบุริศร์อย่างมีความสุข เรียกคำนึง อย่างออดอ้วน “แด๊ดดี้คะ!”

“เด็กดี!”

บุริศร์จูบที่หน้าผากเธอทีนึง จากนั้นก็อุ้มเธอมาไว้

บนตัก

“เอ๊ะ ทำไมถึงมีมิลค์เชคได้?”

“พี่กิจจาไปซื้อให้หนูค่ะ คุณหมอบอกว่ากินได้ค่ะ กมลไม่ได้แอบกินนะคะ”

กมลพูดอย่างมีความสุขมาก สำหรับเธอแล้ว เหมือนได้มิลค์เชคแก้วนึงเป็นเรื่องที่มีความสุขและ ดีใจที่สุดในโลกยังไงอย่างงั้นเลย

บุริศร์ทรมานใจอย่างมาก

เดิมที่เธอเป็นเจ้าหญิงน้อยๆของตระกูลโตเล็ก คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่ว่าตอนนี้กลับตกอยู่ใน สภาพแบบนี้ ทำให้คนบีบคั้นใจจริงๆ แต่ว่าบริศร์ก็ได้ปกปิดอารมณ์ของตัวเองดีมาก

พูดกับกิจจาด้วยรอยยิ้ม: “กิจจาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

จริงๆ รู้จักดูแลน้องสาวแล้ว”

กิจจาลูบศีรษะอย่างเก้อเขิน ที่จริงเขาคิดถึงลูกพี่มาก

“แด็ดดี้คะ พี่กิจจาบอกว่ารอให้หนูหายป่วย แด๊ดดี้ จะพาพวกหนูไปเที่ยวสวนสนุก จริงหรือเปลล่าคะ?”

“หนูอยากไปมั้ยคะ?”

มองดูแววตาของกมลที่มีความคาดหวังกระพริบ อยู่ บุริศร์จะแข็งใจปฏิเสธได้ยังไง?

“ก็ต้องอยากไปอยู่แล้วค่ะ! ถึงเวลาหนู พี่ชาย พี่ กิจจา แล้วก็แด็ดดี้กับหม่ามี้ เราไปกันทั้งครอบครัวดี มั้ยคะ? โตป่านนี้แล้ว หนูยังไม่รู้เลยว่าสวนสนุกหน้าตา เป็นยังไง จะสวยและสนุกเหมือนที่เห็นในโทรทัศน์ หรือเปล่า?”

กมลดีใจจริงๆ

ตอนที่หมอบอกเธอว่าอาการป่วยของเธอมีพลิก ผัน สามารถวิ่งเล่นใต้แสงอาทิตย์เหมือนเด็กคนอื่น ไม่มีใครรู้ว่าในใจเธอดีใจและมีความสุขมากแค่ไหน

ตอนนี้เธอจะแชร์ความสุขนี้ให้กับบุริศร์และกิจจา

ความดีใจที่ปิดบังยังไงก็ปิดบังไม่อยู่เหมือนเป็นต้นตอ

ของการแพร่เชื้ออย่างนึง ทำให้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็

รู้สึกมีความสุขไปด้วย

“โอเคค่ะ ขอแค่กมลให้ความร่วมมือกับการรักษา กับคุณหมอ อีกไม่นานเราก็จะสามารถออกไปเที่ยว แล้วนะ”

“จริงหรือคะ?”
“แน่นอน แด็ดดี้ไม่โกหกกมลหรอกค่ะ”

บุริศร์คอยลูบศีรษะเธอ เพราะฉีดยาปฏิชีวนะมา เป็นเวลานาน ผมของกมลไม่ได้นุ่มลื่นเหมือนเด็กผู้ หญิงคนอื่น แม้กระทั่งค่อนข้างแห้งเสีย นี่ทำให้บุริศร์ ยิ่งไม่สบายใจเข้าไปใหญ่

ถ้านรมนรู้ว่ากมลกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดแล้ว เธอจะร้อนรนใจหรือเปล่า? ตอนนี้กานต์ก็ไม่มีเบาะแสเลย กมลผ่าตัดใหญ่

ขนาดนี้ ตอนนี้คาดว่านรมนคงร้อนรนใจจะแย่แล้วมั้ง?

ที่เสียดายคือเขาที่เป็นสามีคนนี้กลับไม่สามารถอยู่

เคียงข้างเธอ

ตอนนี้เขาหวังอยากให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อม หน้าพร้อมตาห้าคนมากๆ นั่นจะเป็นภาพที่สวยที่สุดใน โลก แต่ตอนนี้ ….บุริศร์ค่อนข้างรู้สึกหดหูใจ

กมลจับมือของบุริศร์ไว้แล้วพูด: “แด๊ดดี้คะ แด็ดด้

ไม่ดีใจหรอคะ?”

“เปล่าค่ะ”

“แต่ทำไมหนูรู้สึกแด็ดดี้เหมือนมีเรื่องในใจ เหมือน ไม่มีความสุขเลยค่ะ เมื่อวานหนูโทรหาหม่ามี้ แต่มือถือ ของหม่ามี้ปิดเครื่อง พี่กานต์ก็ไม่รับสาย แด๊ดดี้ว่าพวก เขามีธุระแล้วไม่ได้ยินหรือเปล่าคะ? หรือไม่แด๊ดดี้ลอง โทรหาพวกเขาอีกที่ดีมั้ยคะ? กมลจะผ่าตัดแล้ว รู้สึก กลัวนิดหน่อย กมลอยากให้หม่ามี้กับพี่กานต์อยูเป็นเพื่อน กมลอยากออกมาจากห้องผ่าตัดปุ๊บก็เจอหน้า พวกเขาเลย โอเคมั้ยคะ?”

สายตาที่อ้อนวอนของกมลเหมือนมีดที่แหลมคม กำลังแล่เนื้อเถือหนังของบุริศร์อยู่

เขาจะบอกกับลูกรักตัวเองยังไง ว่าหม่ามี้และี่ ชายของเธอไม่กลับมาแล้ว

จู่ๆกิจจารู้สึกเสียใจมาก

“แด็ดดี้ครับ ผมออกไปซื้อของแป๊บนึงครับ” เขาวิ่งออกไปอย่างเร็ว แต่ว่าหางตากลับแดงก่ำ

แล้ว

บุริศร์รู้ว่าเขาต้องคิดถึงกานต์อีกแล้วแน่ๆ

ความสัมพันธ์ของสองตัวแสบดีขนาดนี้ ตอนนี้ กานต์เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ ก็ลำบากกิจจาแล้วที่ นานขนาดนี้ก็ไม่ได้เผยออกมาที่ตรงหน้าของกมล

“แด็ดดี้คะ พี่กิจจาเป็นอะไรไปคะ?”

“ไม่มีอะไรค่ะ สงสัยพี่เขาคงปวดชิ้งฉ่องน่ะ” บุริศร์ได้แต่ใช้ข้ออ้างห่วยๆแบบนี้มาเบี่ยงเบน

หัวข้อ

กมลก็เหมือนเทพธิดา เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่ฟ้า ประทานให้เขากับนรมน ตอนนี้เผชิญกับการซักถาม ของลูกสาว บุริศร์ไม่รู้ควรจะตอบยังไง ได้แต่พูดเสียง ต่ำ: “พี่กานต์ป่วย ต้องกักตัว มือถือของในประเทศมีรังสี ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้นำเข้าไป รอให้ กมลหายป่วยแล้ว พวกเราก็สามารถกลับไปเจอพวก เขาแล้ว ดีมั้ยคะ?”

“จริงหรอคะ?” กมลเบิกตากว้าง แต่กลับไม่ค่อย สบายใจ

เธอไม่ได้เจอหม่ามี้กับพี่ชายมานานมากแล้ว

“จริงสิคะ แด๊ดดี้ไม่โกหกกมลหรอกค่ะ”

บุริศร์มองกมลด้วยความเอ็นดู ในใจกลับมีความ รู้สึกผิดระยิบระยับอยู่

ได้การคอนเฟิร์มจากบุริศร์ หัวใจที่กระวนกระวาย ของกมลถึงผ่อนคลายลงมา เวลาเธอยิ้มสวยมากยังมี ลักยิ้มทั้งสองข้าง เป็นเด็กที่ใครเห็นใครก็ชอบจริงๆ

“แด้ดดี้คะ หนูจะเล่าให้แด๊ดดี้ฟังนะ หนูกับพี่ชาย สามารถสื่อผ่านกระแสจิตได้ค่ะ ไม่ว่าจะห่างกันแค่ ไหนหนูก็สามารถสัมผัสพี่ชายได้ แด๊ดดี้ว่ามหัศจรรย์ มั้ยคะ?”

กมลพูดอย่างกับโอ้อวดความสามารถของตัวเอง ยังแอบมองดูรอบๆ ทำตัวลึกลับมาก

บุริศร์หัวใจหวั่นไหวเล็กน้อย ต่างก็บอกว่าฝาแฝด มีกระแสจิตสื่อถือกัน หรือว่าฝาแฝดชายหญิงก็มีด้วย เหรอ?

หรือว่ากมลสัมผัสกระแสจิตอะไรได้?
บุริศร์ค่อนข้างกังวล

“กมลอย่าคิดฟุ้งซ่านนะคะ พี่กานต์ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้กมลใกล้จะเข้ารับการผ่าตัด ถ้ามีอารมณ์ที่

ค่ะ”

ไม่ดี ง่ายมากที่จะกระทบกับความสำเร็จในการผ่าตัด

บุริศร์ไม่กล้าเสี่ยง

เขาสูญเสียลูกชายไปคนนึงแล้ว เขาจะสูญเสีย ลูกสาวไปอีกคนไม่ได้

กมลกลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “แด๊ดดี้ไม่ต้องตื่นเต้น หรอกค่ะ ช่วงก่อนหนูรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกมาก หนูนึก ว่าร่างกายตัวเองมีปัญหาอีกแล้ว แต่ว่าไม่ใช่งั้นก็ต้อง เป็นพี่กานต์แน่นอน หนูเป็นห่วงมาก แต่แด็ดดี้บอกว่าพี่ กานต์ป่วยหนูถึงวางใจ ร่างกายของพี่กานต์ดีมาก ปกติ ไม่ค่อยป่วย คาดว่าครั้งนี้คงจะป่วยค่อนข้างหนักจริงๆ ไม่งั้นเขาไม่มีทางไม่มาเยี่ยมหนูหรอก ถูกมั้ยคะ?”

พูดถึงสุดท้าย กมลค่อนข้างผิดหวังแล้ว

บุริศร์รู้สึกเสียใจ กลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “ใช่ค่ะ พี่ กานต์เป็นห่วงกมลมาก อ้อใช่ พี่กานต์ยังซื้อของขวัญ ให้กมลด้วย แต่แด็ดดี้มาอย่างเร่งรีบเกิน เลยลืมเอามา ด้วย ไว้แด๊ดดี้ซื้อให้หนูใหม่ดีมั้ยคะ?”

“ไม่ต้องแล้วค่ะ ของขวัญที่พี่กานต์ซื้อให้ กมล ชอบหมดเลยค่ะ ช่วงก่อนอาการของพี่กานต์ไม่ดี แต่ ช่วงนี้หนูรู้สึกไม่ค่อยเจ็บแน่นหน้าอกแล้ว งั้นก็แสดงว่าอาการป่วยของพี่กานต์ใกล้จะหายดีแล้วใช่มั้ยคะ? อาการป่วยของพี่กานต์ก็หายแล้ว ถึงเวลาเราก็จะ สามารถออกไปเที่ยวด้วยกันแล้วใช่มั้ยคะ?”

กมลพูดอย่างดีใจ เหมือนได้เห็นภาพแบบนั้นแล้ว

บุริศร์ได้ยินเธอพูดแบบนี้ รู้สึกสบายใจลงหน่อย กานต์น่าจะปลอดภัยอยู่ใช่มั้ย? ต่างก็บอกว่า ฝาแฝดมีกระแสจิตสื่อถึงกัน นาทีนี้บุริศร์ยอมที่จะเชื่อ กระแสจิตที่กมลพูดถึง เขาคิดว่าเขาก็ใกล้ถึงขั้นจนมุม แล้วจริงๆ

ถึงแม้จิตใจของกมลไม่เลว แต่ว่าร่างกายก็ยังทน รับความดีใจตื่นเต้นเกินไปไม่ได้อีกเช่นเคย เธอขยี้ตา ตัวเองและหาว แต่กลับไม่อยากนอน

เธอกลัวระยะเวลาที่ตัวเองนอนจะนานเกินไป งั้น เวลาที่ได้พูดคุยกับแด๊ดดี้ก็จะสั้นลงแล้ว

ห้าปีแล้ว เธอถึงได้อยู่กับแด๊ดดี เธออยากพูดคุย กับแด็ดดี้เยอะๆหน่อย

“แด็ดดี้คะ แด้ดี้เล่านิทานให้หนูฟังหน่อยได้มั้ย คะ? หม่ามเล่านิทานน่าฟังเป็นเยอะเลยนะคะ”

กมลฝืนทำให้กระปรี้กระเปร่าเข้าไว้

บุริศร์ค่อนข้างไม่สบายใจ แต่กลับพูดด้วยรอยยิ้ม: “โอเคค่ะ แด็ดดี้เล่านิทานเกี่ยวกับเจ้าหญิงและเจ้าชาย ให้กมลฟังนะ เมื่อนานมาแล้วมีหญิงสาวคนนึง เธอเป็น เจ้าหญิงตัวน้อยของที่บ้าน..
เสียงของเขาทุ้มต่ำ แฝงด้วยแรงดึงดูด ระหว่าง

เล่า กมลก็หลับไปแล้ว ศีรษะน้อยๆนั่นพิงอยู่ที่ข้อพับ

ของบุริศร์ เงียบสงบปานั้น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ราวกับเป็นเทพธิดาองค์นึง บุริศร์อุ้มเธอไว้แน่นๆ กอดไว้แน่นๆ กลัวแค่คลาย

มือเธอก็จะบินกลับขึ้นไปสู่บนฟ้า

ความรู้สึกที่กระวนกระวายใจแบบนี้ทำให้เขาได้ สัมผัสความทุกข์ทรมานและความเสียใจที่ผ่านมาห้าปี นี้ของนรมนด้วยตัวเอง ในใจยิ่งอยู่ยิ่งคิดถึงนรมนแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ