แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1289 ต้องมีวันนั้นแน่นอน



บทที่ 1289 ต้องมีวันนั้นแน่นอน

ตัว

นรมนตกใจ แต่ร่างกายเดินไปขวางด้านหน้าพรวลัย โดยไม่รู้

“คุณฆ่าเขาเหรอ?”

ดวงตาพรวลัยแดงน่ากลัว เห็นได้ชัดว่าเป็นบ้าไปแล้ว

นรมนกลัวคนด้านนอกได้ยินเสียงแล้วเข้ามา จึงต้องลงมือสับ พรวลัยจนสลบไป

บริศ เห็นการกระทำคล่องแคล่วของนรมน ก็พูดเสียงทุ้ม “เรา คงต้องเอาพวกเขาสองคนไปด้วย”

“เมื่อกี้พวกคุณคุยอะไรกัน?

แน่นอนว่านรมนรู้จักบริศร์ดี เขาให้ตัวเองออกไปเพราะมีเรื่อง

อยากคุยกับบุณพจน์

บุริศร์พูดเสียงทุ้ม “เดี๋ยวค่อยพูดให้คุณฟัง เราดูกันก่อนว่าที่นี่ มีของกินไหม คงต้องรออีกสักพักถึงจะหาสถานที่ออกไปได้

“โอเค”

อยู่ด้านนอก นรมนเชื่อใจบุริศร์อย่างไม่มีเงื่อนไข

เธอวางพรวลัยนอนข้างๆ บุณพจน์ ส่วนตัวเองก็เอาน้ำที่เพิ่ง ทำเสร็จเมื่อยื่นให้บริศร์
บุริศร์ดื่มไปคำหนึ่ง และเหลือให้นรมนหนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้น “หมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้ถือว่าอยู่ไม่ค่อยห่างกับหมู่บ้านดารายน เทือกเขามันเชื่อมกัน ไม่รู้ว่าบนภูเขาจะสามารถกลับหมู่บ้านตา รายนได้ไหม”

“คุณอยากกลับไปหมู่บ้านดารายนเหรอ?”

นรมันค่อนข้างประหลาดใจ

บริศพยักหน้าพูดขึ้น “ใช่ ตอนนี้ฉันยิ่งรู้สึกว่าหมู่บ้านดาราย นเป็นจุดศูนย์กลาง สามารถคลี่คลายม่านหมอกทั้งหมดได้ บางทีพี่ใหญ่คริชณะก็อาจจะอยู่ที่นั่น

“แล้วพวกกมลล่ะจะทำยังไง?”

นรมนเป็นห่วงลูกๆ

บุริศร์พูดเสียงทุ้ม “โทรไปหากิจจา ให้เขาติดต่อมิลิน มิลิน ต้องมีทางพาพวกเขาออกไปแน่นอน บางทีอาจจะพาพวกเขา กลับไปที่หมู่บ้านดารายนได้

“ทำไมคุณไม่ติดต่อมิลิน?”

นรมนค่อนข้างสงสัย

ดวงตาบุริศร์เป็นคลื่นเล็กน้อย พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ไม่อยาก

แค่สองคำ นรมนก็ฟังออกถึงการปฏิเสธของบุริศร์ แต่ไม่มี ทางเลือก ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของหมู่บ้านดารายน บางเรื่องไม่ใช่ ว่าอยากจะเลี่ยงแล้วจะเลี่ยงได้
ทั้งสองคนฟังกันเพื่อพักผ่อน

“บนตัวมีแผลอะไรไหม? อยากให้ฉันดู ให้คุณไหม?”

จริงๆ แล้วบุริศร์ค่อนข้างง่วง แต่ตอนนี้อยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขาไม่กล้าพักผ่อนและไม่กล้าหลับ

“ไม่มี ฉันสบายดีมาก คุณหลับสักพักเถอะ ฉันแค่เฝ้าก็พอ นรมนเห็นความในดวงตาบุริศร์ ก็รู้สึกค่อนข้างสงสาร

“คุณนอนเถอะ ตอนแรกคุณก็นอนน้อยอยู่แล้ว ร่างกายก็ไม่ ค่อยดี เส้นทางในอนาคตยังอีกยาวไกลนะ เดี๋ยวต้องพาพรวลัย ออกไปจากที่นี่อีก ดังนั้นเชื่อฟัง นอนสักพักนะ หม?”

บุริศร์ลูบศีรษะนรมน สายตาอ่อนโยนนั้นมองจนทำให้ในใจ นรมนค่อนข้างอบอุ่น

“โอเค”

เธอรู้ว่าแรงกายตัวเองไม่สามารถทนได้มากนัก ก็ไม่ต้องฝืน มัน ต้องหลับตาพักผ่อน

ไม่นานนักเสียงลมหายใจนรมนก็สม่ำเสมอ

ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นต่อเนื่อง คนตระเวนทีละคู่เดินผ่าน มา ไม่มีใครคิดว่าพวกบุริศร์ซ่อนตัวอยู่ในห้องโถงบรรพบุรุษ

บุณพจน์นอนหลับไปไม่นาน ประมาณชั่วโมงกว่าก็ตื่นแล้ว สีหน้าก็ดีขึ้นเยอะ เมื่อเขาเห็นบุริศร์กำลังเฝ้าระวังอยู่ เขาก็ตก ตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นพรวลัยที่หมดสติไป สายตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนนิดหน่อย

“นายนอนสักพักเถอะ ฉันเฝ้าระวังให้

บริศพยักหน้า และหลับไปทันที

เขาเหนื่อยจริงๆ

สำหรับบุณพจน์ บุริศร์ละทิ้งการระวังตัวแล้ว ไว้วางใจเขาได้ ด้วยสัญชาตญาณ

ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาบุณพจน์ก็ซับซ้อน

แค่ตัวเองตะโกนขึ้นมาตอนนี้ บุริศร์และนรมนก็จะถูกพิรุณจับ ตัว เขาก็ยังคงเป็นลูกชายที่เชื่อฟังของพิรุณ ยังเป็นทายาทเพียง หนึ่งเดียวของพิรุณ

แต่ดวงตาเขามองไปยังพรวลัย

ผู้หญิงคนนี้อยู่กับเขามานานขนาดนี้ ตอนนี้บริศร์ยอมพาเธอ ออกไปเพื่อเขา สําหรับบุณพจน์แล้วมันไม่ง่ายเลย

การเลียเลือดที่ปลายมีดมาหลายปีทำให้เขาเกือบลืมว่าความ รักมันคืออะไร

อยู่กับพรวลัยมาสิบสองปี คิดอยู่เสมอว่าเคยชินซึ่งกันและกัน ไปแล้ว แต่เมื่อพรวลัยสูญเสียลูกเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ บุณพจน์ถึงได้พบว่า ผู้หญิงคนนี้ได้เดินเข้าไปในหัวใจตนโดย ไม่รู้ตัวตั้งนานแล้ว

ไม่ว่าเธอจะเป็นสายลับที่พิรุณเอาไว้ข้างกายเขาหรือไม่ ในเวลานี้ บุณพจน์ก็ไม่สนแล้ว

เขาลูบผมยาวของพรวลัย ในสมองก็เกิดภาพเรื่องราวที่อยู่ ด้วยกันมาเคลื่อนผ่านไปทีละนิด ระหว่างพวกเขาไม่มีการพูดจาไพเราะหวานหู ในตอนแรกมี แค่แรงกระตุ้นระหว่างชายหญิงเท่านั้น เป็นการอยู่ร่วมกันของ

ชีวิตนักฆ่าผู้โดดเดี่ยว แต่เพราะเหตุนี้ ถึงได้อยู่ในใจกันอย่างลึก

ซึ่งมากขึ้น ไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระได้

บุณพจน์ไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะเป็นทุกข์เพราะ ความรัก ตอนนี้จึงยิ้มขมขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา ดึงแผนที่ละแวกนี้ออกมา พิจารณา อยู่นานมาก สุดท้ายก็ทำการตัดสินใจ

เมื่อบุณพจน์ส่งแผนที่ให้บริศร์ บุริศร์ก็ตื่นขึ้น

การสั่นสะเทือนของโทรศัพท์ทำให้เขาลืมตา เห็นบุณพจน์ กำลังถือโทรศัพท์ในมือ ตัวเองก็หยิบโทรศัพท์มาดู เมื่อพบว่า เป็นแผนที่เทือกเขาแผ่นหนึ่งก็ตกตะลึงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

“du……”

“จากห้องโถงบรรพบุรุษแห่งนี้สามารถผ่านไปถึงเทือกเขาด้าน หลังได้ ในเทือกเขามันมีทางเข้าลับแห่งหนึ่ง พวกนายเดินไป ตามทางเข้านั้น ก็จะเดินไปถึงหมู่บ้านดารายน”

เสียงของบุณพจน์ไม่ดัง แต่บุริศร์ฟังออกถึงความเด็ดเดี่ยว
ในขณะนี้ ถือว่าบุณพจน์หักหลังพิรุณอย่างแท้จริงแล้ว

แผนที่เทือกเขานี้คงเป็นความลับอย่างยิ่ง นอกจากพิรุณ บางทีอาจจะมีแค่บุณพจน์เท่านั้นที่รู้ แต่ตอนนี้เขาบอกมันกับบริ ศ แล้ว

หัวใจบุรีศร์เจ็บปวดขึ้นทันที

“นายไปกับเราเถอะ”

“ฉันต้องอยู่เพื่อตรวจสอบที่อยู่คุณอาบุญทิวาของพวกนาย

บุณพจน์ค่อนข้างตกใจกับคำพูดบุริศร์ แต่กลับยิ้ม และไม่ได้ ตอบตกลง

บุริศร์พูดเสียงทุ้ม “เราหาที่อยู่ของคุณอาบุญทิวาเองได้ไม่ ต้องให้นายสืบหา ตอนนี้นายบอกความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ พิรุณกับเราแล้ว ถึงนายจะเป็นลูกชายเขา เขาก็จะไม่ปล่อยนาย ไป ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้ว ไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกเสียใจอีก บุณ พจน์ นายไปกับพวกเราเถอะ”

ร่างกายบุณพจน์แข็งทื่อเล็กน้อย ดวงตาก็มีความอบอุ่นนิด หน่อย

เขานึกว่าในชีวิตนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากบุริศร์เสียแล้ว ไม่คิดว่าแค่แผนที่เทือกเขาแผ่นหนึ่งจะทำให้บริศร์เชื่อมั่นกับตัว เองแบบนี้

บุณพจน์กระตุกมุมปาก ยิ้มขณะพูดขึ้น “นายหวั่นไหวจริงๆ นายรู้ได้ยังไงว่าที่ฉันให้นายไปเป็นแผนที่จริง?”
“นายคงไม่เอาชีวิตพรวลัยมาล้อเล่นหรอก”

“ก็แค่ของเล่นที่พ่อให้ฉัน นายคิดจริงๆ เหรอว่าฉันใส่ใจ?”

คำพูดของบุญพจน์ทำให้สีหน้าบุริศร์ค่อนข้างแย่

“ไม่ต้องงัดคำพูดพวกนี้มาพูดกับฉันหรอก บุณพจน์ ถ้าทุก อย่างที่นายทำไปทั้งหมดเป็นแค่การเสแสร้ง งั้นบุริศร์อย่างฉันก็ ยอมรับมัน”

เมื่อพูดคำนี้ออกไป ร่างบุณพจน์ก็ตกตะลึงทันที

เขาเงยหน้าขึ้นมองบุริศร์ ถามด้วยเสียงสั้นๆ “อะไรคือ ยอมรับ?”

“ยอมรับก็หมายความว่าถึงนายจะหลอกฉัน ทำร้ายฉัน ฉันก็ ยอมรับ ใครให้นายเป็นพี่น้องกับฉันล่ะ?”

เมื่อพูดคำนี้ออกไป จมูกของคุณพจน์ก็เจ็บปวดทันที

เขารีบหันศีรษะไป แล้วพูดเสียงทุ้ม “นายน่าขนลุกกว่าครินท์ เยอะเลย ตรินท์ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน”

“เพราะตรินท์ยังไม่ทันได้พูดยังไงล่ะ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมที่เรา เติบโตมาจะเป็นยังไง ยังไงเราก็เป็นพี่น้องแม่เดียวกัน แปดปี ก่อนฉันช่วยตรินท์ไว้ไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่อยากให้ตัวเองเสียใจอีก แล้ว บุณพจน์ นายไปกับเราเถอะ”

บุริศร์พูดอย่างจริงจัง

บุณพจน์ส่ายหน้าพูดขึ้น “ถ้าฉันไป พวกนายก็จะถูกเปิดเผยถ้าฉันอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็ยืดเวลาให้พวกนายได้สามถึงห้าวัน ตอนนั้นพวกนายก็อาจจะกลับไปถึงหมู่บ้านตารายนแล้วก็ได้ ถึง ตอนนั้นคิดจะช่วยฉันอีกครั้งที่มีกำลังพล ดีกว่าการที่เราตายใน เทือกเขาอีก”

“Usi……”

“บุริศร์ นายไม่ใช่คนลังเลไม่กล้าตัดสินใจ นายก็เคยเข้า สนามรบ นายรู้ว่าการตัดสินใจแบบไหนถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ? ฉันเป็นกำลังหลังให้พวกนาย นายวางใจ มอบมันให้ฉันจัดการได้เลย ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ได้โง่ จะไม่โง่ รอให้พ่อฉันจับได้แล้วมาจัดการฉันหรอก ที่นี่มีหนอนเยอะมาก ฉันจะทำให้ตัวเองหลับสนิท แม้ชีวิตจะแขวนบนเส้นด้าย ตราบ ใดที่ทำแบบนี้ พ่อฉันก็จะเชื่อว่าฉันไม่ได้ร่วมมือกับพวกนาย

บุณพจน์วางแผนไว้เรียบร้อยตั้งนานแล้ว

แต่บุริศร์ปฏิเสธหนอนสุดใจ

“อย่าเอาชีวิตตัวเองไปล้อเล่น!”

“ฉันไม่ตายหรอก! ถึงจะเป็นเฮือกสุดท้าย ฉันก็จะรอให้นายมา ช่วยฉันออกไป”

ดวงตาบุณพจน์สดใสเป็นพิเศษ

ในตอนนี้ จู่ๆ หัวใจบุริศร์ก็รู้สึกแย่

“นาย……
“กำลังพลของฉันพรวลัยรู้ทั้งหมด ถ้านายต้องการก็ให้เธอ ระดมกำลังพลไปได้เลย สิ่งที่ฉันควรบอกฉันก็ส่งไปให้พรวลัย แล้ว ตอนนี้พวกนายเก็บของ แล้วไปเถอะ”

บุณพจน์รู้ว่าที่นี่ไม่สามารถอยู่นานได้

ยิ่งพวกเขาเสียเวลาไปนานแค่ไหน ที่นี่ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น

ในขณะนั้นรมนก็ตื่นขึ้นมาแล้ว หลังจากได้ยินคำพูดของบุณ พจน์ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาค่อนข้างเปียกชื้น

“พี่ใหญ่ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะดูแลพี่สะใภ้ใหญ่ให้ดี

การเรียกว่าพี่ใหญ่ของนรมนทำให้บุณพจน์น้ำตาเกือบไหล

“ยังไงพี่น้องก็คุยกันได้ แต่ฉันยังไม่ได้จัดงานแต่งให้พรวลัย ถ้ามีโอกาสฉันจะแต่งงานกับเธออย่างมีเกียรติ

“แน่นอน จะต้องมีวันนั้นแน่นอน

นรมนูพูดอย่างหนักแน่นเป็นพิเศษ

บุณพจน์ยิ้ม ยิ้มสดใสอย่างยิ่ง เมื่อเขายิ้มขึ้นมาแล้วเหมือนบุริศร์สุดๆ

ดวงตาบุริศร์อ่อนโยนเล็กน้อย คว้านรมนเอาไว้ แล้วพูดขึ้น เสียงทุ้ม “เราจะพาพรวลัยไป

“โอเค”

นรมนพยักหน้า ทำท่าคารวะให้กับบุณพจน์ จากนั้นก็ประคองพรวลัยออกจากหนึ่งของห้องโถงบรรพบุรุษตามเส้นทางบุณมอบให้พวกเขา

ถ้าไม่แผนที่บุณพจน์มอบให้พวกเขา อยู่นี่หนึ่งปีก็คงเส้นทางลับของจะเป็นป้ายวิญญาณนั้นของป้าๆ

ดวงตาบุริศร์เย็นชาเล็กน้อย พานรมนและพรวลัยออกไป

สุดท้ายเหลือบมองไปทางบุญพจน์ หน้าแวว

บุณพจน์กลับยิ้มเงียบสงบอย่างมาก ราวกับเป็นการจาก ครั้ง

เมื่อร่างพวกเขาออกไปจากห้องโถงบรรพบุรุษ รอยยิ้มบนหน้าบุณพจน์ยับยั้ง

เขามองห้องโถงบรรพบุรุษที่คุ้นเคยเป็นพิเศษเหลือเกิน มองป้ายวิญญาณป้าขึ้น แม่ ขอโทษครับ ผมอาจลูกชายอย่างเองต้องการ ? ดังนั้นคุณจะโทษผมถูกไหม”

พูดจบ บุณเดินใต้ป้ายวิญญาณป้าโอแล้วหยิบ กล่องขนาดเล็กกล่องหนึ่งออกขณะเปิดรูจมูกบุณพจน์โดยตรง
ร่างกายบุณพจน์เดินโซเซทันที ถ่มน้ำลายออกมาเป็นเลือดดัง “ถุย จากนั้นทั้งร่างก็หมดสติลงไปที่พื้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ