แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 536 โลกทั้งใบล้วนสมบูรณ์แบบ



บทที่ 536 โลกทั้งใบล้วนสมบูรณ์แบบ

“ไม่ใช่ลูกระเบิด! พี่ไม่มีความสามารถแบบกานต์หรอก แต่แค่จํา ของเขามาใช้

กิจจารับดูแลกมลอย่างเร็ว เมื่อพวกเขาไถลมาถึงพื้น เขาก็ คว้าเมล็ดถั่วหนึ่งกำมือออกมาจากกระเป๋าเป้ด้านหลัง ก่อนจะ โยนมันออกไป

ในขณะเดียวกันเขาก็โยนน้ำมันมะกอกในถุงออกไป เมื่อมาบ วกกับเมล็ดถั่วเหลืองบนพื้น ก็ทำให้บอดี้การ์ดที่จะเข้ามาจับต่าง ก็พากันล้มลงไปบนพื้นทีละคนสองคน

“ว้าว! พี่กิจจาเก่งมากอะ

กมลล้มลงกับพื้น เธอยืนอย่างไม่มั่นคงเล็กน้อย กิจจาช่วย พยุงเธอจากด้านหลัง จากนั้นเขาก็คว้าจับเข้าที่ข้อมืออีกครั้ง ใช้ แรงของตัวเองนําตัวกมลออกไป

“พี่กิจจา ยังไม่บอกหนูเลย นั้นมันคือระเบิดอะไร?” กมลยังไม่ลืมการระเบิดเมื่อตะกี้ จึงอดไม่ได้ที่จะถาม

กิจจาซ่อนตัวจากพวกที่จะมากุมไปพลาง อธิบายเธอไปพลาง “ง่ายมาก ใช้ขวดเปล่าแล้วใส่ของเหลวที่ง่ายต่อการระเบิด เช่น น้ำมันเบนซิน ติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะสำเร็จ แล้วก็ระเบิดเมื่อตัวเอง ต้องการ พลังทำลายล้างไม่มาก แต่ก็พอที่จะซื้อเวลาให้เราได้
“หนูไม่เข้าใจ”

กมลขมวดคิ้ว รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ทำไมเธอไม่เข้าใจเรื่อง เหล่านี้ที่พี่ชายและพี่กิจจาพูดเลยนะ?

เพราะว่าพวกเขาอยู่ในวัยเดียวกัน ใช่หรือไม่?

กิจจายิ้ม ก่อนพูด “ไม่เป็นไรหรอกน่า เธอยังเด็ก จำไว้ว่าต้อง อยู่หลังพวกเราให้พวกเราปกป้อง

“แต่ก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์

กมลพูดพลางดูผู้คนที่อยู่รอบตัว เมื่อเห็นบอดี้การ์ดที่พยายาม จะลุกขึ้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอก็เอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลบนโต๊ะ ชา ก่อนจะปาไปยังหน้าผากของชายคนนั้น

“บิงโก!”

กมลคิดอยากที่จะกระโดดขึ้นอย่างมีความสุข แต่น่าเสียดาย ที่เธอลืมไปว่าตัวเองตอนนี้กำลังลื่นบนน้ำมันมะกอกของกิจจา ทั้งร่างล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“อุ๊ย!”

ประสิทธิภาพการลื่นล้มของกมลฉวยโอกาสให้กิจจาต้อง ออกแรงดึงเธอ

หัวหน้าบอดี้การ์ดเมื่อเห็นท่าดี จึงรีบตะโกน “เร็ว! เข้าไปจับ พวกเขาเร็วเข้า!”

กิจจารู้สึกใจเสียเล็กน้อย เมื่อมองไปยังเหล่าบอดี้การ์ดทางด้านข้างที่ต่อสู้ดิ้นรนเข้ามาหาเขา ก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ที่จะผลักเมลออกไป

เพราะความลื่นของน้ำมันมะกอก กมลเลยถูกกิจจาผลักไปยัง ประตูห้องนั่งเล่น โดยตรง

“วิ่ง! กลับไปหาหม่ามี้! รีบไป!”

กิจจาตะโกนใส่กมล ก่อนหันกลับมาหยิบสิ่งของอื่นๆ ออก จากกระเป๋าของเขา และโยนไปที่พวกบอดี้การ์ด มีแตงกวา มะเขือเทศ กะหล่ำปลี แทบจะเป็นผักที่เขาหยิบออกมาจากใน ครัว

กมลตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่สามารถตอบสนองอะไรได้

“พี่กิจจา!”

รีบไป! ไม่ต้องห่วงพี่ไปหาหม่า พาหม่ามีมารับพี่! เธอไม่ อยากเป็นผู้หญิงที่จะปกป้องพวกเราแล้วเหรอ? ตอนนี้เธอคือ นักรบหญิง พี่จะรออยู่นี่ให้เธอมาช่วย

กิจจาพยายามหยุดทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเขาให้ได้มากที่สุด

เขาเป็นลูกชายของตนท์ แม้ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ก็เพียงแค่ถูก ด่าหรือเท่านั้น ตนท์ไม่ทำให้ลูกชายคนนี้ตายหรอก? แต่กับ กมลไม่มีเหมือนกัน

แม้ว่ากิจจาจะไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เขาได้ยิน ครินท์พูดที่สโมสร ก็แค่ทำให้เขาผิดหวัง
นึกไม่ถึงเลยว่าพ่อของเขาจะฆ่ากานต์จริงๆ แต่นั่นคือหลานชายของเขา

ถ้าแม้แต่กานต์ก็ไม่สามารถปล่อยไปได้ กิจจาก็ไม่รู้ว่าครินท์ จะสามารถปล่อยกมลไปได้หรือไม่ ตอนนี้ต้องให้กมลรีบออกไป จากที่นี่

เดิม กมลต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อได้ยินกิจจา พูดอย่างนี้ เธอก็มีความกล้าขึ้นมาทันที

“ได้ พี่กิจจา รอหนูพาหม่ามาช่วยพี่ที่นี่นะ!”

หลังจากพูดจบแล้วเธอก็วิ่งออกไป หลังแผ่นนั้นทำให้กิจจายิ้ม อย่างโล่งอก

แค่กมลออกไปจากที่นี่ กลับไปอยู่ข้างๆ หม่ามีก็ดีแล้ว

แต่เขาลืมไปว่ากมลไม่ใช่กานต์ โดยพื้นฐานแล้ว เธอไม่ได้ ติดต่อกับโลกภายนอกมากนัก หลังจากออกจากคฤหาสน์เธอ

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหน

กมลวิ่งออกมาจากคฤหาสน์ก่อนที่จะพบว่ามันเป็นพื้นที่บ้าน พักตากอากาศ ด้านหลังคือทะเล และมีทางเดินยาวที่ทอดลงไป ด้านล่าง แต่ไม่มีรถผ่านมาสักคัน

“ที่นี่ที่ไหน? แล้วนี่หนูจะติดต่อหม่ามียังไง?”

กมลงุนงงเล็กน้อย เธอต้องการที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาเพื่อโทรหานรมน แต่เธอไม่พบมัน ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าโทรศัพท์มือถือ ถูกยึดไปแล้ว

ทำยังไง?”

กมลยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวคนเดียวที่ทางเดิน

บอดี้การ์ดข้างหลังก็กำลังจะตามออกมา

กมลกัดฟัน ก่อนจะวิ่งไปอีกทาง

เธอวิ่งมานานมาก จนปวดน่องทั้งสองข้างไปหมด แต่กลับไม่ เจอรถผ่านมาสักคัน แม้แต่คนสักคนก็ไม่เห็น

“หิวจัง!”

กมลลูบหน้าท้องที่แห้งจนแฟบของตัวเอง คิดถึงสเต็กที่ผู้หญิง คนนั้นนำมาให้ อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

“ถ้าเมื่อตอนนั้นกัดไปสักคำหนึ่งก็ยังดี

กมลพึมพำกับตัวเอง พลางมองไปรอบๆ รู้สึกว่าโลกนี้ใหญ่ มากจนเธอไม่สามารถหาทางกลับบ้าน หาทางไปหาหม่าได้

“หม่ามี้ พี่ชาย อยู่ไหนกันหมด?

ขอบตาของกมลค่อยๆชิ้นขึ้น

เธอได้ยินเสียงรถแล่นตามหลังมา ดวงตาอดไม่ได้ที่จะส่อง แสงแห่งความหวัง แต่แค่ชั่วพริบตาเดียวก็พลันเปลี่ยนเป็น จริงจัง
ถ้าเกิดเป็นพวกคนเลวพวกนั้นไล่ตามมากันเล่า

กมลจําขึ้นมาได้ว่า กิจจายังคงรอให้เธอไปหาหม่ามีและกลับ ไปช่วยเขา มองไปรอบๆ และพบว่ามีถังขยะตั้งอยู่ข้างๆ ช่วยไม่ ได้ที่จะวิ่งไปทางด้านนั้น หลังจากนั้นจึงซ่อนตัวอยู่หลังถังขยะ

เหม็นมาก!

กมลช่นจมูกเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงกิจจาที่ยังรออยู่ เธอทำได้ เพียงแค่รอ

รถขับผ่านถังขยะและเธอไป

กมลถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าเจ็บที่เท้ามาก เมื่อมองลงไปก็เจอ ไม่รู้ว่า รองเท้ามันหลุดตอนเธอวิ่งเมื่อไหร่ เท้าเล็กๆ ที่ละเอียดอ่อนนุ่ม ถูกขีดข่วนจนมีบาดแผล เลือดไหลออกมา

“ฮือฮือ เจ็บจัง! หม่ามี้ พี่ชาย ตอนนี้อยู่ที่ไหนกันคะ?”

กมลร้องด้วยเสียงแหบ

ท้องฟ้ามืดลงเรื่อยๆ กมลร้องไห้จนค่อยๆหลับไป กระทั่งเมื่อ ถูกใครบางคนปลุก เธอถึงเพิ่งค้นพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ ไม่คุ้นตา

“ที่นี่คือที่ไหน”

กมลลืมตาขึ้นมา ก่อนพบว่าเธออยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอ รีบลุกขึ้นและพบว่าตอนนี้ชุดของเธอถูกเปลี่ยนแล้ว บาดแผลที่เท้าก็ถูกพันไว้เรียบร้อยเช่นกัน

ที่นี่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง กมลรู้ดี เธออดทนต่อความเจ็บปวด ลุกจากเตียงและกระโดดไปที่ประตูด้วยขาข้างเดียว เมื่อกำลังจะ คิดเปิดประตู ทันใดประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก

กมลร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำให้คนที่เข้ามาตกใจ “เป็นยังไงบ้าง? ยังปวดเท้าอยู่เหรอ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น กมลนิ่งไปนิด “พี่ภาคิน? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ละคะ?” คนที่เข้ามาคือ พี่ชายคนสวยคนนั้นที่รู้จักตรงสนามเด็กเล่น ภาคินยิ้ม ลักยิ้มน่ามองนั้นยิ่งเสริมให้เขาหล่อมากขึ้นไปอีก “ที่นี่คือบ้านฉัน! เธอมาอยู่ที่ถังขยะข้างบ้านฉัน ฉันผ่านมาเห็น พอดี เลยให้แม่นมหาเข้ามานะ

คำพูดของภาคินทำให้กมลแปลกใจเล็กน้อย

“ถังขยะบ้านพี่? ไม่คิดเลยว่าบ้านพี่จะอยู่ตรงนี้

“ใช่แล้วละ เป็นยังไงบ้าง? หิวไหม? ฉันเอามาให้ทาน อยาก กินไหม?”

ภาคินเอาถาดที่อยู่ในมือนำไปไว้ต่อหน้ากมล กมลที่หิวเป็นทุนเดิม เมื่อเห็นสิ่งที่อยากกิน จึงรีบพยักหน้า ไม่สนแม้กระทั่งภาพลักษณ์ขึ้นมีออกไปหยิบ ทว่ากลับโดนภาคิน ห้ามไว้เสียก่อน

“ล้างมือ”

แต่หนูหิวมาก”

กมลมองภาคินอย่างน่าสงสาร แววตาคู่นั้นทำให้คนไม่อาจ ใจแข็งพอที่จะตำหนิได้จริงๆ

ภาคินกลับยังคงหยีตายิ้ม ก่อนพูด “ล้างมือ ไม่ล้างก็ไม่ได้กิน

แม้ว่าภาคนจะยิ้ม แต่กมลก็สามารถรู้สึกได้ว่า พี่ชายคนนี้เป็น คนที่ยืนหยัดมาก เขาไม่เหมือนหม่ามีหรือพี่ชายที่รักและเอ็นดู ตัวเอง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กมลมุ่ยปาก แต่กลับเดินไปล้างมือที่ห้องน้ำ

อย่างยอมแพ้

เมื่อออกมาหลังจากล้างมือแล้ว เธอก็เห็นว่าภาคนกำลังนั่น สเต็กเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วจึงนำมาให้เธอ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“กินเถอะ”

“ขอบคุณค่ะพี่ภาคิน”

กมลมออกมาทันที

ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ทำให้เธอมีความสุขได้มากเท่าการกิน เมื่อเห็นกาลกินอย่างมีความสุข มุมปากของภาคีนก็ยกขึ้น
“ค่อยๆทาน มันเป็นของเธอหมดนั้นแหละ ไม่มีใครแย่งหรอก ถ้าไม่พอ ฉันจะให้ในครัวทำให้กินอีก”

ภาคินเหมือนสุภาพบุรุษ

กมลพยักหน้าพลางขณะรับประทานอาหาร ไม่สามารถพูดได้

เธอหิวมาก!

โตมาขนาดนี้ไม่เคยหิวขนาดนี้เลย! แถมเธอยังวิ่งมาเป็น เวลานานอีก

กมลกินจนพุงจะแตกแล้วจึงหยุด ภาคินนำน้ำเย็นมาให้ทัน

เวลา

“ดื่มน้ำหน่อย จะได้ไม่สําลัก

“ค่ะ!”

หลังจากที่กมลทานอาหารเสร็จ เธอก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบล้วน สมบูรณ์

ภาคนให้คนเข้ามาเก็บจานแก้ว แล้วจึงถามเด็กน้อยต่อ “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่แถบบ้านพักตากอากาศคนเดียวละ ครอบครัวอยู่ที่นี่เหรอ?”

“ครอบครัวหนูไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ หนูกับพี่กิจจาถูกคุณลุงนำมาไว้

กมลพูดด้วยความโกรธ ทันใดเธอก็จําอะไรบางอย่างได้ ก่อน จะกระโดดลงไปจากเตียง
“โอ๊ย พี่กิจจายังรอให้หนูไปช่วยเขา ตายแล้ว ทำไมหนูยังมา นอนอยู่ได้นะ ตอนนี้ก็เป็นขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าพี่กิจจาจะเป็น ยังไงบ้าง คนชั่วพวกนั้น ไม่รู้ว่าจะดีพี่กิจจาหรือเปล่า หนูสมควร ตาย ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะ

กมลเดินกลับไปมาอยู่ที่พื้นราวกับลูกข่างเห็นได้ชัดว่ากระสับ กระส่ายมาก

ภาคินดูเหมือนจะได้ยินอะไรบางอย่างจากสิ่งที่เธอพูด เขาขมวดคิ้ว ก่อนพูด “เธอกับพี่ชายถูกคนลักพาตัวมาเหรอ?”

“ลักพาตัวเหรอคะ? คงจะเป็นแบบนั้น พวกเขาไม่ให้พวกเรา ออกจากห้อง แถมยังจะยึดโทรศัพท์พวกเราไปอีก พี่กิจจาให้หนู หนีออกมาก่อน ให้หนูออกไปตามหมาให้มาช่วย

เมื่อกมลพูดแบบนี้ สีหน้าของภาคินพลันเปลี่ยนไป

“แจ้งตำรวจหรือยัง?”

แจ้งตรวจ? พี่ให้หนูไปหาคุณลุงตำรวจให้ช่วยเหรอคะ? แต่ พี่กิจจาให้หนูไปหาหม่ามี้นี่”

กมลมีท่าทางสับสน

คุณลุงนำพวกมาไว้ที่นี่แล้วจะสามารถแจ้งตำรวจได้เหรอ? คุณลุงเป็นคนในครอบครัวไม่ใช่เหรอ?

ภาคนไม่รู้ว่าตอนนี้ใจของกมลกำลังคิดอะไร แค่รู้สึกว่าสิ่งที่ น่าหลานตัวเองมาขังไว้คงไม่ใช่คนดีแน่ แถมพวกเขายังเป็นเด็กอยากจะช่วยเด็กที่ถูกขังให้ออกมาได้ แค่แจ้งตำรวจ

“กมล ฟังนะ พวกคนเลวนั้นไม่รู้หรอกว่าจะต้องปฏิบัติ อย่างไรกับพี่เธอ เธอ เบอร์โทรศัพท์ของหม่ามีได้ไหม?

“จําได้ค่ะ”

“เอาละ ต่อจากนี้ไป หนูให้เบอร์โทรศัพท์หม่ามีมานะ พี่จะพูด

กับเธอเอง”

ภาคนกลัวว่ากมลจะพูดไม่รู้เรื่อง จึงรีบยื่นข้อเสนอ

กมลพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ภาคินรีบต่อสายพานรมินทันที ทว่านามนกลับสายไม่ว่างเสียอย่างนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ