แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 802 คุณอย่าทำให้ลูกตกใจกลัว



บทที่ 802 คุณอย่าทำให้ลูกตกใจกลัว

“เสียงอะไร?”

บุรีศรีบวิ่งออกไป ธรรมดึงนรมนไว้ด้านหลัง ทำท่าทาง ป้องกัน

จริงๆ แล้วนรมนก็อยากออกไป แต่เห็นธรรศปกป้องตัวเอง แบบนี้ ไม่เหลือช่องว่างให้เธอเลยสักนิด เธอทำได้แค่อยู่ด้าน หลังธรรคอย่างเชื่อฟัง

หลังจากบุริศร์วิ่งออกไป ก็เห็นพลพวงหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ตามมาด้วยเสียง “ปัง ปัง”

“กานต์!”

บุริศร์เห็นกานต์อยู่ข้างๆ เด็กผู้ชายที่อายุมากกว่าเขากำลังจุด

พลุ ก็คํารามด้วยความโกรธอย่างอดไม่ได้

กานต์เห็นบริศร์ออกมา ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสวิ่งไป

“คุณบุริศร์ ดูนี่สิ สวยไหม? นี่เป็นของขวัญที่ผมให้หม่ามกับ น้องชายน้องสาวในท้อง!

“ของขวัญกับผีน่ะสิ!

บริศ เคาะหน้าผากกานต์ทันที

“ลูกรู้ไหมว่าลูกเกือบทำให้เด็กน้อยในท้องหม่าลูกตกใจ แทบแย่?”
“อะไรกัน! ผมแค่อยากเซอร์ไพรส์คุณกับหม่ามี้ คุณตีผม ทําไม?”

กานต์ย่นจมูกลูบศีรษะตัวเอง พูดขึ้นอย่างน้อยใจนิดหน่อย

บุริศรสูดหายใจเข้าลึกๆ บอกตัวเองว่าเจ้าเด็กซนตรงหน้าคือ ลูกแท้ๆ ของตน ลูกแท้ๆ ลูกแท้ๆ

ธรรคเห็นบุริศร์ยังไม่กลับมานานมาก อดไม่ได้ที่จะพานรมน ออกมาดูสักหน่อย เมื่อเขาเห็นกานต์ก็ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้

“เธอกลับมาได้ยังไง?

“ผมนั่งรถกลับมา ขอลากับหัวหน้าแล้ว”

กานต์เห็นธรรศ ก็รีบยืนตัวตรงทันที จากนั้นก็ทําท่าวันทยหัตถ์ “สวัสดีครับหัวหน้า

“สวัสดี รีบวางลง ที่บ้าน ไม่ต้องทำแบบนี้

เมื่อนรมนเห็นกานต์ก็ดีใจมาก

“กานต์? รีบมาให้หม่ามี้ดูหน่อย เจ้าเด็กแสบ ไม่รู้จักโทรหา หม่ามี้ คิดถึงหม่ามี้แทบตายแล้วไหม!!

“หม่ามี้ ผมคิดถึงหม่ามมากอ่า

กานต์รีบวิ่งไปหานรมน กอดเธอเอาไว้แน่น

“หม่ามี้ คุณบุริศร์รังแกผม!

กานต์รีบฟ้องทันที
นรมนชะงักทันที ถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?

“เจ้าเด็กแสบ จุดพลุนอกประตู และไม่บอกเราสักนํา มันไม่ ได้ทําให้คุณตกใจกลัวเหรอ? ฉันก็แค่มะเหงกหน้าผากเขาหนึ่ง

บุรีศรีบเล่าเรื่องให้ฟังหนึ่งรอบ

แต่กานต์พูดขึ้นอย่างไม่ค่อยยอมรับเท่าไรนัก “ผมแค่อยาก เฉลิมฉลองให้หม่ามีกับน้องในท้อง

ขณะที่พูด กานต์ก็มองนรมนด้วยความน้อยใจอย่างยิ่ง น้ำใส

ในดวงตาล่องลอย

นรมนสงสารว่า ไม่ได้เห็นกานต์ตั้งนาน ไม่รู้ว่าเธอคิดถึง ลูกชายมากแค่ไหน ตอนนี้เห็นลูกชายมองตนแบบนี้ ก็รีบจ้องบุรี ศร์

“คุณก็เหมือนกัน กานต์เด็กมาก เขาจะไปรู้อะไร ยังไงเขาก็ เจตนาดี หน่อย!” พลุสวยมาก หม่ามชอบมากเลย! มา หม่ามี้ขออุ้ม

นรมนพูดขณะย่อตัวลงไปจะอุ้มกานต์ กานต์ก็อ้าแขนรอนรม นมาอุ้มตน

ในขณะนี้ บุริศร์และธรรศเดินมาข้างหน้าในเวลาเดียวกัน

“นรมน คุณอย่าขยับ

“นรมน เธอห้ามอุ้มเขา! สุขภาพร่างกายของเธอจะอุ้มเขาได้ยังไง?”

ท่าทางประหม่าของชายทั้งสองคนทําให้กานต์ตกใจ

“หม่ามี้ คุณเป็นอะไร?”

นรมนรู้สึกว่าชายสองคนนี้ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้ว

“แม่ไม่เป็นอะไร ก็แค่ท้อง พวกคุณอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม? ห้า ปีก่อนฉันท้องกานต์กับกมล ฉันทำสามงานต่อวัน พวกเขาก็เกิด มาได้ไม่ใช่เหรอ?”

ขณะที่พูด นรมนก็ไม่มองพวกเขาเลย อุ้มกานต์ขึ้นมาทันที พูด ขึ้นอย่างสุขใจ “หม่ามทำอะไรอร่อยๆ ให้หนูกินดีไหม?”

“ดีครับ”

“กลับมาแล้วต้องไปอีกไหม?”

“อืม ลาหยุดแค่วันเดียว

กานต์กับนรมนคุยไปยิ้มไปขณะที่เดินเข้าไป ไม่มองบุริศร์และ

ธรรศชายทั้งสองคนเลย

ชายสองคนเห็นว่าตัวเองโดนเพิกเฉยอย่างสมบูรณ์ อดไม่ได้ที่ จะมองอีกฝ่าย ยิ้มอย่างหมดหนทาง จากนั้นก็แจกบุหรี่ให้คนละ ตัว

“ห้าปีก่อนตอนนรมนท้อง ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเธอลำบากแค่ไหน ตอนนี้ก็ไม่เคยคิดจะไปสืบ เพราะฉันกลัว กลัวว่าสืบแล้วฉันจะยิ่งเกลียดตัวเอง แต่เมื่อกี้ตอนได้ยินนรมนพูดแบบนั้น ฉันก็ตระหนัก ได้ว่า ชีวิตนี้ฉันไม่ได้พลาดแค่การเกิดของพวกลูกๆ เท่านั้น ยัง พลาดช่วงการตั้งท้องของนรมนทั้งหมดด้วย เดี๋ยวฉันจะให้คนไป สืบสักหน่อย ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันต้องรู้ว่าห้าปีก่อนเธอประสบ อะไรมาบ้าง”

คำพูดบุริศร์ทำให้ความโกรธที่พุ่งออกมาเมื่อครู่นี้ของธรรศ สงบลงไม่น้อย

“ห้าปีก่อนหลานสาวฉันต้องเป็นทุกข์เพราะนายมากขนาดนั้น ชีวิตนี้ถ้านายทำให้เธอทุกข์ใจอีก ฉันจะบอกนายไว้ให้ ถึงแม้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะต้องพยายามทำทุกอย่าง ก็ต้องทำให้ นายชดใช้ อย่าคิดว่านรมนของครอบครัวเราจะให้นายรังแกได้ ตามใจชอบ”

“รู้แล้วครับ อาสาม”

บุริศร์และธรรศกำลังสูบบุหรี่อยู่ข้างนอก นรมนอุ้มกานต์กลับ ไปที่ห้องโถงใหญ่

“กานต์ ทำไมอยู่ที่กองทัพตลอดเลยล่ะ? ไม่คิดจะกลับมาเห

รอ?”

นรมนยังอยากให้ลูกชายอยู่เคียงข้าง ห้าปีที่ผ่านมาเจ้าเด็ก น้อยก็อยู่เป็นเพื่อนตนมาตลอด ตอนนี้กลับมาแล้ว แต่กลับไม่ เห็นเงากานต์เลย นรมนไม่ชิ้นเป็นอย่างมากจริงๆ

กานต์โอบคอนรมน กล่าวอย่างค่อนข้างออดอ้อน “หม่ามี้ ผม ชอบค่ายทหารสีเขียวมากๆ คุณตาสามบอกว่าผมเป็นลูกครอบครัวทหาร สามารถเรียนประถม มัธยมต้นและมัธยมปลาย เขตทหารได้ สามารถเรียน โรงเรียนทหารได้ทันทีเลยด้วย หม่า มี ผมอยากอยู่ที่นั่น ได้ไหม?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กานต์แสดงถึงความปรารถนาและความรักที่ มีต่อเขตทหาร คราวก่อนเพราะเรื่องอื่นๆ เขาตั้งใจจะเรียนแพทย์ แต่การฝึกแพทย์ทหารครั้งนี้ เขายิ่งพบว่า ตัวเองเหมาะสมกับ ค่ายทหารสีเขียว

นรมนเห็นสายตาจริงจังของลูกชาย จะใจร้ายปฏิเสธได้ อย่างไร?

ก็แค่เด็กเล็กต้องไปฝึกที่ค่ายทหารอยู่ห่างจากพ่อแม่ ใน อนาคตเป็นไปได้อย่างมากว่าจะอยู่ในสนามรบเหมือนพ่อตัวเอง นรมนก็ไม่ค่อยเต็มใจนัก

“ต้องอยู่ค่ายทหารด้วยเหรอ? เราไปเที่ยวกันช่วงวันหยุดฤดู

หนาวกับฤดูร้อนก็ได้ ปกติอยู่ข้างๆ หม่ามีไม่ดีเหรอ?”

“อยู่ข้างๆ หม่ามี้ดีอยู่แล้ว แต่ข้างๆ หม่ามีมีกิจจา มีกมล เดี่ยว ก็จะมีน้องชายหรือน้องสาวอยู่กับหม่ามี้แล้ว อีกอย่าง ถ้าผม คิดถึงหม่ามี้ ผมก็กลับมาหาหม่ามี้ตอนช่วงวันหยุดฤดูหนาวกับ ฤดูร้อนโอเคไหม? คุณไม่รู้ ในค่ายทหารมีครูทหาร ทักษะ คอมพิวเตอร์เขาอยู่ในระดับดีมาก ผมทำลายรหัสไม่ได้เลย ผม อยากเรียนกับเขา”

กานต์เป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเอง จุดนี้นรมนก็รู้ เห็นลูกชายมุ่งมั่นแบบนี้ ถึงแม้นรมนจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่อยากอุดมการณ์ของเหมือนกัน

เธอลูบศีรษะกานต์แล้วพูดว่า หม่าสัญญากับลูก ลูกก็ ต้องสัญญากับหม่าเหมือนกัน หม่ามีนะโอเคไหม? ถึงหม่าจะกิจจา มล หรืออนาคตน้องชายหรือน้องของลูก แต่สำหรับหม่าคน สำคัญมาก พวกเขาที่ลูกไม่ได้ ลูกคือชายหม่ามาก ที่สุดในหัวใจ รู้

แล้ว ผมรักหม่ารักมากๆ!

กานต์แนบรัก ทำให้นรมนหัวเราะอย่างต่อเนื่อง

เมื่อบุริศร์และธรรศเข้ามา เห็นคุณจิตใจดีกับคุณลูก กตัญญู

ทันใดนั้นธรรศลูบจมูกพูดขึ้น “สิ่งที่นายพูดยังทำตามสัญญา

ไหม”

“คำพูดไหน?

บุริศร์ทำหน้าอึ้ง

นี่ธรรศกำลังพูดถึงอะไร?

ธรรศจ้องมองเขา พูดเสียง“นายว่าจะให้พนักงาน หญิงไม่เหรอ? ฉันอยากแต่งงาน ไม่ให้คือ ฉันอยากลูกชายของตัวเองเหมือนกัน
บริศ มองธรรคเหมือนคนบ้า ขี้เกียจคุยกับเขาแม้แต่ประโยค เดียว เดินมาข้างๆ กานต์กับนรมนทันที

“เจ้าเด็กแสบ ลูกรีบลงมา ตอนนี้สุขภาพร่างกายหม่ามทรมาน อุ้มลูกไม่ไหวแล้ว”

“ไม่เป็นไร ฉันชอบให้ลูกชายสนิทสนมกับฉัน”

นรมนยิ้มเล็กน้อย

กานต์ถึงสังเกตเห็นสีหน้าประหม่าของบุริศร์ ก็ถามขึ้นอย่างไม่ เข้าใจเล็กน้อย “หม่ามี้ คุณท้องเด็กน้อยแล้วอุ้มผมไม่ได้เหรอ?”

“อุ้มได้ ตอนนี้หม่ามี้ยังอุ้มลูกได้ แต่อีกไม่กี่เดือนก็อุ้มไม่ได้ แล้ว หม่ามี้ก็เลยทำอุ้มลูกให้เต็มที่เลย

นรมนหยอกล้อกานต์ และมองบุริศร์ข้างๆ จนอกสั่นขวัญ

แขวน

ธรรศเห็นภาพนี้ ก็พูดขึ้นทันที “ฉันไปห้องครัวทำอาหารให้ พวกเธอกินดีกว่า”

“อาสาม คุณอยู่กองทหารในทีมพ่อครัวใช่ไหม?

ธรรศจ้องบุริศร์ทันที พูดขึ้น “นายอย่ามาเอาเปรียบแล้วอวด ฉลาด ต่อไปนายต้องทำอาหารให้มากขึ้น”

“งั้นฉันก็จะมีความสุขมาก ฉันทำอาหารให้ภรรยาตัวเอง ฉันก็ พอใจ”

ธรรคสำลักคำพูดจนรู้สึกค่อนข้างหดหู หันตัวเดินไปที่ห้องครัว

นโมนเห็นภาพนี้ก็หัวเราะทันที

“นี่คุณอย่าทําให้อาสามโกรธแบบนี้ทุกวันได้ไหม?

“ฉันหวังดีกับเขานะ ให้เขาจำเอาไว้เสมอว่าตัวเองคนแก่ที่ โสด แต่งงานตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะไม่ทำให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาผิด หวัง”

คําพูดบริศ ทําให้กานต์หัวเราะคิกคัก

“เขาถูกเรียกว่ายมบาลกล้าตายในกองทหารเข้มงวดมาก อยู่ ที่บ้านยังดี ถ้าให้เด็กๆ พวกนั้นรู้ว่าเขาคือคุณตาสามของผม ไม่รู้ ว่าจะเห็นอกเห็นใจผมมากแค่ไหน

ได้ยินลูกชายพูดถึงธรรศแบบนี้ นรมนก็รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย

“ไม่มั้ง?”

“จริงแท้แน่นอน หม่ามี้ ผมจะให้คุณดูของดี ผมซื้อมาให้คุณ

โดยเฉพาะเลย”

กานต์หยิบแผ่นหยกแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าอย่าลึกลับ

ให้กับนรมน

“เป็นไงครับ?”

แต่เมื่อบริศ เห็นแผ่นหยกนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ได้อันนี้มาจากไหน?”
“มีคนหนึ่งขายของโบราณ ริมถนน ผมเห็นแผ่นหยกอันนี้มัน สวยมากก็เลยซื้อมา ใช้เงินหนึ่งพันหยวนของผม เงินสํารองผม ไม่มีเงินแล้ว”

กานต์พูดยืดยาว แต่กลัวนรมนเสียใจ จึงรีบยิ้มขณะพูด ขึ้น แต่ไม่เป็นไรนะ หม่ามี้ชอบก็พอ”

“แม่ชอบมาก ขอบคุณนะลูกชาย!”

นรมนรับแผ่นหยก ในมือกานต์มา ไม่คิดว่าจะถูกบุริศร์แย่งเอา ไปทันที และยังดึงกานต์มาพูดว่า “พาพ่อไปหาคนที่ขายแผ่น หยกนี้ให้กับลูก เร็วเข้า

“เกิดอะไรขึ้น? บุริศร์ คุณอย่าทำให้ลูกตกใจกลัว!”

นรมนเห็นสีหน้าบริศแปลกๆ ก็รีบถามขึ้น น่าเสียดายที่บุริศร์ ไม่มีเวลาคุยอะไรกับเธอมาก พากานต์ออกไปจากตระกูลโตเล็ก ทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ