แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 366 ถูกบุริศร์ข่มขู่



บทที่ 366 ถูกบุริศร์ข่มขู่

ถึงแม้นรมนอยากจะยอมให้เขา แต่บุริศร์ ก็ฝืนใจทนไว้ไม่แตะต้องเธอ แล้วไปอาบน้ำด้ว คนเดียว

นรมนรู้สึกข้างกายไม่มีคนแล้ว จู่ๆก็ อ้างว้างขึ้นมา

เตียงนอนที่กว้างใหญ่ เหมือนรู้สึกว้าเหว่ เป็นพิเศษ

เธอม้วนผ้าห่มเอาไว้ มองหน้าบุรีศรีที่ เพิ่งออกจากห้องน้ำอย่างหน้าตาเศร้า แววตา นั้น ทําให้บริศ รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนคน บาปที่ไม่อาจให้อภัยอย่างไรอย่างนั้น

“คุณอยากขนาดนั้นเลยหรอ ? ”

อยาก ! ”

นรมนรู้สึกหน้าแดงร้อนในทันที ถึงจะอยากจริง รู้สึกอ้างว้างว้าเหว่จริง แต่เวลานี้จะยอมรับไม่ได้โดยเด็ดขาด

บริศ แอบยิ้มแล้วขึ้นเตียงไปกอดเธอไว้ ในอ้อมกอดทั้งที่ห่มผ้าไว้

“ต้องรออีกหน่อย ตอนนี้ร่างกายของคุณ บอบบางมาก ผมจะทรมานคุณไม่ได้เด็ดขาด ชีวิตเรายังอีกยาวไกล รออีกแค่ไม่กี่วันก็ไม่ เป็นไรหรอก ถูกมั้ย ? ผมอยากให้คุณมี สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จะได้อยู่กับผมจน แก่เฒ่า รอเราสองคนผมหงอกทั้งหัวแล้ว ผม ยังสามารถจับมือคุณดูพระอาทิตย์ตกดินด้วย กันได้ นั่นถึงเป็นชีวิตที่ผมอยากได้

นรมนจู่ๆรู้สึกพูดอะไรไม่ออก

มีสามีที่คิดแทนเธอทุกอย่างแบบนี้ เธอ ยังจะมีอะไรให้พูดอีก ?

“รีบเข้ามาห่มผ้าได้แล้ว เดี๋ยวก็เป็นหวัด

หรอกคะ”

นรมนรีบเปิดผ้าห่มออก เหมือนกำลัง ชวนเขาทําอะไรกัน

แต่พอเธอสังเกตถึงท่าทีของเธอแล้วนั้น ก็หน้าแดงขึ้นอีกครั้ง

“ช่างเถอะค่ะ คุณไปนอนห้องทํางาน

กว่า”

“ได้”

เดิมที นรมน แค่พูดเล่นกับเขา ไม่คิด เลยว่าบุริศร์กลับรับปากจริงๆ ทําให้เธออึ้งไป ครู่นึง

“คุณจะไปจริงหรอคะ ? ”

พูดจบ นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองขี้งอนเกินไป

บุรีศร์หัวเราะแล้วพูด : “ผมไปจัดการ งานที่ค้างที่ห้องทํางานหน่อย อีกอย่าง ผม เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จตัวเย็น กลัวคุณจะหนาว คนต้ นอนก่อนนะ เดี๋ยวผมกลับมานะครับ

พูดจบ เขาก็ปรับอุณหภูมิของแอร์ให้สูง อยู่หลายองศา จากนั้นถึงออกจากห้องนอน จู่ๆนรมนก็รู้สึกอ้างว้างขึ้นมา

ความรู้สึกนั้น เหมือนถูกคนทอดทิ้งในชั่ว ข้ามคืนอย่างไรอย่างนั้น

ความรู้สึกแบบนี้ ทําให้เธอไม่รู้ควรจะ หัวเราะหรือร้องไห้

ทําไม จู่ๆถึงได้วิตกกังวลกลัวจะเสียเขา

ไปขนาดนี้นะ ?

หรือว่าช่วงนี้ เธอจะตกหลุมรักบุรีศร์เข้า แล้ว ?

นรมนเขย่งหัวแล้วถอนหายใจ ตามด้วย

กอดผ้าห่มแล้วนอนลงไป

ในอากาศเหมือนยังมีกลิ่นไอของบริศร์ อยู่ เธอยิ้มขึ้นมาอีกครั้งแล้วกอดผ้าห่มไว้ ไม่ นานก็หลับไป

บุรีศร์กลับนอนยังไงก็ไม่หลับ

ร่างกายของเขามีความต้องการอย่าง ร้อนแรง แต่เขาทำไม่ได้ เขายังจําสิ่งที่คุณหมอพูดเกี่ยวกับสภาพ ร่างกายของนรมนได้ และสภาพร่างกายแย่ ของเธอในตอนนั้น เขาไม่สามารถลืมมันได้ เลย

พฤกษ์เคาะประตูแล้วเข้ามา

“ประทานบุริศร่ครับ”

ฝั่งนักข่าวเป็นยังไงบ้าง ? มีการ เคลื่อนไหวอะไรมั้ย ? ”

ไม่มีเลยครับ เงียบสงบ

ได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้แล้ว แววตาของบุ

ริศ ยิ่งดูคนล็ก

“หรือว่าเจตต์ไม่กล้าเปิดเผยเรื่องนี้ครับ”

พฤกษ์นักถึงความสัมพันธ์ของนรมนกับ เจตต์ในอดีต เลยอดไม่ได้พูดขึ้นมาคำนึง

แววตาของบริศร์ดูเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำ

เสียงเรียบเฉย : “ฝั่งของดุลยาเป็นยังไง

บ้าง ? “ร้องไห้โวยวายตลอดทั้งวันเลยครับ ก็ ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้คงหมดแรงแล้วล่ะครับ

“คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่มีใคร

ไปหาเลยหรอ ? ”

บุรีศร์จุดไฟบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งม้วน

ผมของเขายังไม่แห้งและมีน้ำหยดอยู่ เพิ่มความมีเสน่ห์ให้เขาในตัว

พฤกษ์หัวเราะแล้วพูด : “คนขับรถกลับ

ไปบอกว่า คุณดุลยาสั่งให้เขารออยู่ที่หน้าห้าง ครับ สุดท้ายรอจนค่ำมืดก็ไม่เห็นเธอออกมา ตอนที่เข้าไปหาก็ไม่เจอคนแล้ว ไม่รู้ว่าเธอไป ไหน และนี่ก็เพิ่งกลับไปรายงานคุณนายทวี ทรัพย์ธาดาครับ”

คนขับคนนี้ ทํางานฉลาด

“ครับ เป็นคนของคุณชายธรณีครับ”

ได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้แล้ว บุรีศร์ก็เข้าใจ

เลย ตอนนี้ ธรณีก็คงอยากจะให้ดุลยาหายตัว ไปได้ก็ยิ่งดี ไม่ต้องกลับมาอีก

“ให้เธออดอาหารอีกคืนนึง แล้วพรุ่งนี้ โยนลงที่ทะเล จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่เวร กรรมของเธอแล้วกัน”

“ครับ”

พฤกษ์เห็นบริศรสูบบุหรี่แล้วอดไม่ได้พูด ออกมาคํานึง

“คุณอย่าสูบบุหรี่มากเลยนะครับ นไม่ดี ต่อสุขภาพ อีกอย่าง ถ้าให้คุณนายจับพิรุธคุณ ได้ เธออาจจะเกิดความสงสัยได้นะครับ”

“รู้แล้ว เรื่องนี้ นายบอกคมทิพย์ด้วย ว่า อย่าพูดกับนรมนจะดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ เรื่อง รูปถ่ายฉันยอมเก็บเป็นความลับตลอดไป เพราะเรื่องของนรมน คมทิพย์ถึงถูกดึงเข้ามา เกี่ยวข้องด้วย ไว้ภายหลัง ฉันจะให้ความ ยุติธรรมกับเธอเอง

“ท่านประธานบุรีศร่ครับ เรื่องของคน ทิพยไม่ต้องรบกวนถึงท่านหรอกครับ ผู้หญิง ของผมๆจัดการเอง”

คําพูดของพฤกษ์ทําให้บริศร์อึ้งไปครู่นึง แต่เขาก็ได้พยักหน้า

“ถ้านายจะกลับไปที่ตระกูลร้ดดีกรวรกุล ฉันก็จะไม่ห้ามนายไว้ นายรู้นะ

“ผมไม่มีความสนใจต่อตระกูลรัตติกรว รกลหรอกนะครับ คุณเองก็น่าจะรู้ดี”

พฤกษ์และบริศรสบตากันแล้วหัวเราะ ความสัมพันธ์ของผู้ชายสองคนไม่ต้องพูดก็รู้

รู้ว่าบริศ ยังมีเรื่องส่วนตัวจะจัดการ พฤกษ์ก็ได้รู้ตัวออกจากห้องทำงานไปด้วย ตนเอง

ตอนที่ในห้องทํางานเหลือแต่บุรีศรีคน เดียว เขาหยิบมือถือออกมาอีกครั้ง มองรูปบน นั้น แล้วขมวดคิ้วจนแน่น

สุดท้ายก็อดไม่ได้โทรศัพท์ไปหาเจตต์ ตอนที่เจตต์เห็นว่าเป็นบุรีศร์โทรมานั้น โกรธจนจะระเบิด กดวางสายไปโดยตรง แต่ สายของบุริศร์โทรเข้าไม่หยุด ทำให้เขาพูด อะไรไม่ออก

“นายคิดจะทําอะไร ? ยังค่อยไม่พอใช มั้ย ? มาส! ฉันไม่กลัวนายหรอกนะ!”

พอเจตต์พูดก็รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว บริศ ลงมือหนักมาก ค่อยเขาไม่ยั้งมือ

เลย

“Moonlight Club อง308ครึ่งชั่วโมง เจอกัน มาคนเดียว ไม่อย่างนั้นฉันเอานายตาย

บริศ พูดจบก็วางสายไป

เจตต์ ฟังเสียงถูกตัดสายแล้ว รู้สึกตัว เองถูกข่มขู่อย่างไรอย่างนั้น

ไม่ใช่ !

นั่นไม่ใช่ความรู้สึก ! เขาถูกบริศข่มขู่จริงๆ !

แม่ง !

ถึงอย่างนี้ก็เหอะ เขาไม่ไปก็ไม่ได้อีก ยัง ไงวันนี้ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าตัวเองทำไมถึงถูก ต่อย ?

เจตต์อัดอั้นตันใจมาก เปลี่ยนชุดเสร็จ แล้วออกไป

หลังจากที่บุริศร์วางสาย กลับไปถึงห้อง นอนก็เห็นนรมนหลับไปแล้ว เขาก็ได้เปลี่ยน ชุดแล้วลงไปข้างล่าง แล้วเจอกับกานต์ที่ดิน มาดื่มน้ำอยู่พอดี

“ดึกดื่นป่านนี้ คุณแต่งตัวจะออกไปไหน ครับ ? –

ตาของกานต่ยังสะลึมสะลือนอนไม่ตื่น หาวแล้วถามบริศร์

บุรีศร์ลูบหัวของเขาแล้วพูด : “ดื่มน้ำ เสร็จก็รีบกลับไปนอนซะ เรื่องของผู้ใหญ่ เด็ก ไม่ต้องยุ่ง” “เกี่ยวกับเรื่องที่คุณต่อยดีในวันนี้หรือ

เปล่า ? “

คําพูดของกานต์ทําเอาบุริศร์อึ้งไปครู่นึง

“ยังจะถามอีก ?”

“ไม่ใช่ว่าผมอยากจะถามหรอกนะ ตอนนี้ คุณด้งมากเลยมั้ย แพร่กระจายบนออนไลน์ แล้ว ที่แท้คุณค่อยกับคุณอาเจตต์หรอเนี่ย

กานต์หยิบมือถือออกมาแล้วยื่นให้บุรีศร

ตรง

บริศ เห็นบนโซเชียลและไทม์ไลน์ส่งต่อ คลิปที่เขาต่อยกับเจด อย่างกระหน่ำ

นี่ไม่ใช่นักข่าวเผยแพร่ออกมา อาจจะ เป็นบางคนทีถ่ายคลิปได้แล้วลงโพสต์ในกลุ่ม แล้วส่งต่อๆกันจนแพร่ออกมา

แต่ไม่มีภาพของนรมนปรากฏ มีแต่เขา กับเจตต์สองคนกำลังดีกัน แล้วมีข้อความ เขียนว่าคนดังสองคนในเมืองชลธีทะเลาะกัน บนถนน ไม่รู้เพราะอะไร ? ผู้คนต่างก็คาดเดาต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่กล้า พูดอะไรแรงเกินไป เพราะไม่ว่าจะบุรีศร์หรือ เจตต์พวกเขาต่างก็ไม่กล้ามีเรื่องด้วย

เห็นว่าเป็นแค่ข่าวแบบนี้ บุริศร์เลยไม่ได้ ใสใจเท่าไหร่

เขาสามารถสั่งไม่ให้นักข่าวเขียนข่าว แต่ไม่สามารถทําให้ผู้ชนที่อยู่ในตอนนั้นลบ คลิปไปให้หมด อีกอย่าง ผู้ชายสองคนทะเลาะ กันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ก็แค่เรื่องเข้าถึงหู ของคุณนายตระกูลโดเล็ก แล้วตัวเองถูก ค่าหนีไปทีก็แค่นั้น

คิดแบบนี้แล้ว บริศร์ถึงค่อยยังวางใจ “หยุดถามได้แล้ว รีบกลับไปนอนซะ”

“คุณปุริศร์ คุณระวังตัวหน่อยนะครับ” กานต์หาว นอีกครั้ง เห็นบุรีศร์ไม่มี ปฏิกิริยาอะไร ค่อยยังวางใจ

รู้ว่าลูกชายเป็นห่วงตัวเอง บุรีศรีรู้สึกอุ่น ใจมาก “รู้แล้ว นายรีบกลับไปนอนได้แล้ว นอน เยอะๆจะได้โตไวๆ

“รู้แล้วครับ คุณรีบจัดการเรื่องยุ่งพวกนี้ ให้เสร็จ จะได้พาพวกเราออกไปเที่ยว พวกเรา เบื่อจะแย่อยู่แล้ว”

กานต์ยังจําสัญญาที่บริศร์ให้ไว้ได้

“ได้”

บริศ ตอบเขาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แล้วถึงออกจากบ้านไป

ตอนทีถึงMoonlight Club เจตต์ก็ได้มา ถึงแล้ว เขาสั่งไวน์LAFITEปี1982มาหนึ่งขวด กำลังนั่งดื่มอยู่

ช่วงเวลานี้ เขาคิดแต่อยากจะมอมเหล้า ตัวเองอยู่แต่ในบาร์

บริศร์ก็ไม่สนใจเขา แล้วปิดประตูห้อง คาราโอเกะโดยตรง จากนั้นก็มองดูรอบๆ เห็นว่าไม่มีกล้องวงจรปิดถึงวางใจ เห็นท่าทางพวกนี้ ของเขา เจตต์ประชด พูดขึ้นมา : ” นายคิดว่าฉันเป็นคนต่าช้าจริงๆ งั้นหรอ ? กับนายแล้ว ไม่จําเป็นต้องให้ฉันใช้ วิธีตาชาแบบนั้นหรอก”

“ก็ใช่สิ นายไม่กล้ามีเรื่องกับฉันแน่ แต่ กลับกล้าใช้วิธี ค่าชากับนรมน เจตต์ ความคิด สกปรกของนายฉันรู้มาตลอด แต่ไม่คิดเลยว่า นายจะทําเรื่อง ข้าแบบนั้นออกมาได้ !”

พอนึกถึงรูปถ่ายพวกนี้ บุริศร์ก็อดไม่ได้ที่ จะโกรธ

เจตต์ถูกบุรีศร้ประชดประชันจนอารมณ์ ขึ้นมาเหมือนกัน

“นายหมายความว่าไง ? ฉันทำอะไร ? ถึงฉันจะทําเรื่องแบบนั้นกับผมทิพย์จริง แต่ เหมือนว่าคนทิพย์ก็ไม่ใช่แฟนของนายหน ? มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของนายที่จะมาชนิ้วด่าฉัน เลยนะ ! ”

“เรื่องของคนทิพย์ไว้พฤกษ์จะจัดการกับ นายเอง เรื่องที่ฉันจะพูดกับนายคือเรื่องของ นรมน เอาฟิล์มรูปถ่ายออกมา ไม่อย่างนั้น ฉัน จะไม่เกรงใจทั้งนายและก็ตระกูลรัตติกรวรกุล แบ

ที่บุริศร์มาก็เพื่อเรื่องรูปถ่ายของนรมน แต่เจตต์กลับงงไปหมด

“ฟิล์มอะไร ? นายพูดอะไร ? ฉันไม่ เข้าใจ ?”

อย่ามาแกล้งโง่หน่อยเลย ! ถ้าไม่ใช่ นายสงรูปนั้นให้กับคนทิพย์ คมทิพย์จะไปหา นายที่คลับpure-zone กลิ่นแบบนั้นทำไม ? เจตต์ นายอย่ามาแกล้งโง่ต่อหน้าฉันหน่อย เลย”

คําพูดของบริศ ทําให้เจดด นงงสงสัย อีกครั้ง

“ไม่ใช่ ทําไมฉันยิ่งฟังยิ่งงงเข้าไป ใหญ่ ? ดนทิพย์มาหาฉัน คลับpure zoneเกี่ยวอะไรกับฉัน ? ยัยบ้านั่นเข้ามาก็เอา เหล่าสาดใสหน้าของฉัน แถมยังด่าฉัน เพื่อน ของฉันอยู่กันเต็มขนาดนั้น เธอไม่ไว้หน้าฉัน เลย ฉันเลยสั่งสอนเธอไปหน่อย แต่ว่าหลัง จากนั้นฉันเสียสติการควบคุมยังไง ฉันเองก็จำ ไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ ฉันก็กำลังสืบอยู่ แล้วตอนนี้ แถมนายก็มาของรูปกับฉันอีก ? รูปอะไรกัน แน่ ? ”

เจตต์รู้สึกว่าตัวเองถูกปรักปรําชัดๆ

นทุกคนเห็นเขาเป็นเป้าหมายโจมตีไป หมดเลยงั้นหรอ เขาทำผิดอะไรหรอเนี่ย ?

บุรีศรีมองหน้าเจตต์ อยากจะสังเกตพิรุธ จากสีหน้าของเขา แต่เสียดายที่สีหน้าของ เจตต์ตอนนี้มึนงงมาก โดยเฉพาะตาคู่นั้น เผย

ให้เห็นอย่างชัดเจน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ?

หรือว่าเจตต์ไม่รู้เรื่องรูปถ่ายของนรมน รูป นจริง ?

แต่ผมทิพย์เป็นคนพูดเอง ว่ารูปนั้นส่งมา จากมือถือของเจคต์เอง นี่เรื่องมันเป็นยังไงกัน แน่ ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ