แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 724 ผมอยากเรียนหมอ



บทที่ 724 ผมอยากเรียนหมอ

นรมนและป้องที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงร้องไห้ของบริศร์ จึงวิ่งไป นรมนรู้ทันทีว่าป้าโอได้จากไปแล้ว

เธอไม่ถึงกับเศร้า แค่รู้สึกเศร้าแทนบุริศร์เท่านั้น

“หม่ามี้ คุณย่าโอจากไปแล้วเหรอครับ?

กานต์ถามด้วยความใสซื่อ

นรมนพยักหน้า

หลังจากนั้นกานต์ก็เงียบไป

บริศร์อยู่ด้านในซักพัก แล้วจึงค่อยเปิดประตูออกมา ขอบตาของเขาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งร้องไห้มา

“โอเคไหม?”

นรมนเดินเข้าไปถาม

“ไม่เป็นไร”

บุริศร์กุมมือนรมน จากนั้นคุณหมอก็ได้เย็นร่างไร้วิญญาณของ

ป้าโอไปที่ห้องดับจิต

ป้าโอเป็นคนทํางานในกองทัพ พิธีการด้านหลังต้องเป็นขั้นเป็นตอน

นรมนพวกานต์กลับไปที่โรงแรม บุริศร์ไปขัดการเรื่องงานศพ ของป้า โอคนเดียว

ป้าโอที่ผ่านมาเป็นเพียงแม่บ้านของบ้านตระกูลโตเล็ก เธอไม่ เคยแต่งงาน บุริศร์เป็นลูกชายคนเดียวของเธอ เรื่องราวก็เรียบ ง่ายเช่นนี้

หลังจากที่บุริศรเผาร่างของป้า โอเรียบร้อย ก็พากานต์และนร มนกลับไปที่เมืองB

กิจจาและกมลเมื่อเจอนรมนและบริศร์ก็ดีใจมาก

“คุณพ่อ คุณพ่อรู้ไหม ว่ามีตั้งหลายครั้งที่คุณแม่ไม่ยอมให้หนู วิดีโอคอลหาคุณพ่อ หม่ามีแย่มาก จะเก็บคุณพ่อไว้คนเดียว”

กมลรับฟ้อง

มองดูลูกสาวที่น่ารักของเขา บุริศร์มีความสุขมาก แต่เพราะ เรื่องเสียชีวิตของป้าโอทเขายิ้มไม่ออก

“หม่ามีกำลังปกป้องคุณพ่ออยู่ คุณพ่อป่วย

สิ่งที่บุริศร์พูดทำให้กมลอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็พูดกับนร มนด้วยความรู้สึกผิด “หม่ามี้หนูขอโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

กานต์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเดินเข้าห้องตัวเองไปอย่างเงียบๆ

กิจจาพบว่ามีอะไรแปลกๆ อยากจะเข้าไปถามอาการ แต่ก็ไม่กล้า

นรมนมองกานต์ เธอก็ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

บุริศร์วางกมลลง แล้วพูดกับกิจจา “เตรียมตัว เดี๋ยวพวกเรา กลับเมืองชลธีกัน เดี๋ยวให้คุณอาพฤกษ์ดูแลพวกหนู พ่อกับหม่า มีต้องไปทำธุระที่ยูนนานซักหน่อย

“คุณพ่อไปเที่ยวกันหรอคะ?”

กมลทำปากจู๋เป็นเชิงไม่พอใจ

บริศ กระซิบตอบ “ไม่ได้ไปเที่ยว ไปทำธุระนิดหน่อย คอของ หม่ามีปัญหา คุณพ่อต้องพาหม่าไปรักษา

“จริงเหรอคะ? หม่ามี คอของหม่ามีเป็นเจ็บไหมคะ?”

กมลรีบวิ่งไปหานรมน ยื่นมือไปจับที่คอของเธอ

นรมนมีความสุขมากที่มีอีกมากมายหลายเรื่องที่เธอสามารถ

ให้วัยเด็กที่สมบูรณ์แบบแก่เธอได้

“หม่ามีไม่เป็นไร กมลต้องเป็นเด็กดี แค่นี้หม่ามีก็ไม่เจ็บแล้ว

“ถ้าอย่างงั้นรีบไปรีบกลับมานะคะ ผู้ใหญ่เอาแต่เที่ยวอยู่ด้าน นอก ทิ้งให้เด็กอยู่แต่ที่บ้านน่าเบื่อๆ

กมลพูดปากยื่นปากยาว

“ค่ะ เดี๋ยวจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดนะคะ”
“ค่ะ”

กิจจาเก็บของ จังหวะที่เดินผ่านห้องกานต์ มองเห็นกานต์ กำลังนั่งเหม่อมองไปด้านนอก จึงเดินเข้าไปหา

“นายเป็นอะไร? ไปเมืองหลวงกลับมา ทำไมซึมไปเลย”

“คุณย่าโอจากไปแล้ว

สิ่งที่กานต์พูดทําเอากิจจาชะงักไปชั่วครู่เหมือนกับยังคิดไม่ ออกว่าใครคือคุณย่าโอ

“ก็คือป้าโอคนที่ดูแลบ้านโตเล็ก

กานต์อธิบาย กิจจาจึงนึกออก

“จากไปได้ยังไง?”

“ป่วย พี่ ผมอยากเรียนหมอ

กานต์ไม่เคยมั่นใจเท่านี้มาก่อนว่าตัวเองต้องการอะไร

“แพทย์? นั่นเป็นคณะฉันนี่ นายตั้งใจเรียนบริหารเถอะ นาย เป็นผู้สืบทอดตระกูลโตเล็กนะ”

“เลิกล้อกันเล่นได้แล้ว พวกนั้นยกให้พี่สานต่อ ผมจะเรียนหมอ ผมอยากเรียนหมอมาตั้งนานแล้ว ตอนเด็กๆกมลก็ร่างกายไม่ ค่อยแข็งแรง อยู่แต่ในโรงพยาบาล ถ้าผมเป็นหมอ ผมก็น่าจะ ทำให้กมลเจ็บปวดน้อยลงบ้าง? ตอนนี้คุณย่าโอก็จากไปแล้ว ผมกลัวว่าหม่ามีกับคุณพ่อจะป่วย ตอนนั้นจะทำยังไง? ผมไม่กล้า วางชีวิตพวกเขาไว้ในมือคนอื่นหรอก”
กานต์พูดด้วยแววตามุ่งมั่น

กิจจาไม่ได้คิดอะไรมาก

พ่อของเขาตายยังไง เขาเข้าใจดี จะเรียนหมอตามคุณหมอมิล นก็เพราะสถานการณ์บังคับเท่านั้น มองสภาพของกานต์ในตอน นี้ เขาจึงกระซิบ “ถ้าพ่อกับหม่ามีรู้เข้า ต้องไม่พอใจแน่ๆ

“เป็นไปไม่ได้ พวกเขารักผมมาก แค่ผมมีความสุข พวกเขา ต้องยอมทั้งนั้น แล้วอีกอย่าง ผมก็อยากไปยูนนานกับคุณพ่อและ หม่ามี้ด้วย”

“แต่ว่า คุณพ่อกับหม่ามีบอกว่าจะไปรักษาคอไม่ใช่เหรอ?”

“บ้านเกิดของคุณย่าโออยู่ที่ยูนนาน ผมอยากไปดู เธอให้ แหวนกับผมมา ถึงแม้จะไม่ได้บอกว่าใช้ทำอะไรได้ แต่ผมก็ อยากไปดู

กานต์ยืนกราน กิจจาจึงไม่ได้พูดเตือนอะไรต่อ

“รีบเก็บของเถอะ ถึงแม้ว่าจะไปกับพวกเขา พวกเราก็ต้องไป เมืองชลธีกันก่อน

“อืม! ”

กานต์รีบเก็บของ และกลับไปที่เมืองชลธีกับพวกนรมน

ตอนที่พฤกษ์เห็นบุริศร์กลับมา เขาแทบคลั่ง

“คุณบุริศร์ ผมจะลาพักร้อน! ผมจะตายอยู่แล้ว ทั้งบริษัทฮัวยู กรุ๊ปจำกัดเอาแต่หมุนไม่หยุด ตอนนี้ไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งข้อความหาคมทิพย์ เป็นแบบนี้ต่อไปผมตายแน่ๆ

“อดทนอีกสักหน่อยนะ ฉันต้องไปทำธุระที่ยูนนานอีกเสีย หน่อย เดี๋ยวกลับมาเปลี่ยนนาย

“อะไรนะ? ยังไปอีกเหรอ?”

พฤกษ์นั่งแผ่ลงกับเก้าอี้

บุริศร์พูดเสียงเคร่งขรึม “ป้าโอจากไปแล้ว ผมจะส่งเธอกลับ

บ้าน”

พฤกษ์อึ้งไปชั่วขณะ

เขาโตมากับบริศร์ รู้ดีว่าป้าโอสำคัญกับเขามากขนาดไหน ฐานะที่แท้จริงของป้าโอเขาก็รู้ดีเช่นกัน

“ขอโทษ คุณบุริศร์ เสียใจด้วยครับ”

บริศร์ลูบที่ไหล่ของเขาเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรนรมนพูดกับเขา

นโมนพูดกับเขา “ลูกๆฝากนายดูแลก่อนนะ ฉันไปจัดการธุระ เดี๋ยวรีบกลับมา”

“คุณนาย คอของคุณหายดีแล้ว?

พฤกษ์ดีใจมาก

นรมนยิ้มบางๆ

“เกือบจะหายดีแล้ว ช่วงนี้ลำบากนายหน่อยนะ ใช่แล้ว ช่วงนี้ คมทิพย์ได้ติดต่อกันนายบ้างไหม?
“ไม่เลยครับ แต่ผมเห็นในหน้าฟีดของเธอ น่าจะกำลังเที่ยว อย่างสนุกอยู่แถวสิบสองปันนา”

ได้ยินพฤกษ์ว่าเช่นนี้ นรมนก็รู้สึกสบายใจ

“อย่างนั้นก็ดี”

กานต์จะตามไปธุระกับพวกเขา นรมนไม่เห็นด้วย แต่บุริศร์ไม่ ได้ทชมีความคิดเห็นอะไร

“ก็ดี พาเขากลับไปดูเสียหน่อย

ประโยคนี้ทำให้นรมนไม่รู้จะคัดค้านอย่างไร

พวกเขาพากันขึ้นเครื่องไปยูนนาน

มาที่นี่อีกครั้ง นรมนรู้สึกสับสน

บุริศร์ขับรถ พานรมนและกานต์มาที่บ้านเกิดป้าโอ

ที่นี่รกร้างมาก ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว บ้านที่เหลืออยู่ก็ผุพังจน

หมด

บุริศรมองดูที่นี่ ที่นี่เป็นที่ป้าโออยู่มาแต่เด็ก จึงอดไม่ได้ที่จะ

รู้สึกเสียใจ

“ผมเยากซื้อที่นี่เก็บเอาไว้

เขาพูดขึ้นเรียบๆ

นรมนรู้ความคิดของเขา จึงตอบกลับเสียงเบา “ที่นี่ไม่มีคนอยู่ แล้ว รัฐบาลอาจจะขายให้คุณ ให้ฉันช่วยติดต่อให้ไหม?”
“หาที่พักก่อน เดี๋ยวผมไปติดต่อเอง

บริศ เตรียมที่พักให้นรมนและกานต์อยู่ในหมู่บ้านไม่ไกลจาก ที่นี่มากนัก แล้วเขาก็เป็นคนไปเดินเรื่องติดต่อซื้อที่ตรงนี้เอง

นรมนรู้ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ บุริศร์ก็จะคว้ามาให้ได้

กานต์เงียบมาตลอดทาง

นรมนมองดูเขา แล้วถามขึ้น “ทำไมนายต้องมาที่นี่ให้ได้? ป้า โอพูดอะไรบางอย่างกับนายไว้ใช่ไหม?”

“เปล่าครับ ผมแค่อยากมาดู

กานต์ยิ้มบางๆ

นรมนพบว่า การยิ้มแล้วตอบกลับของกานต์ในตอนนี้ และผ่านการครุ่นคิดมากกว่าเมื่อก่อน ดูสุขุม

ทั้งสองได้สอบถามเรื่องบ้านของป้าโอกับคนของที่พัก

“ที่นั่นหน่ะเหรอ เคยเป็นตระกูลเกี่ยวกับยาจีน ปกติจะไม่ แต่งงานกับคนภายนอก ไม่รู้ว่าทำผิดอะไรลงไป ผ่านไปคืนเดียว ก็ไม่มีคนอยู่ที่นั่นอีกเลย เฮ้อ นี่ก็รกร้างมาเป็นสิบปีแล้ว เธอจะซื้อ ไปทําอะไรล่ะ? ปกติเส้นทางการท่องเที่ยวจะไม่มาที่นี่หรอกนะ”

นรมนยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร

ตอนที่บุริศร์กลับมาแล้วนั้น ได้นำเอกสารทางราชการมาด้วย ที่แห่งนี้เป็นของเขาโดยสมบูรณ์แบบแล้ว

นรมนและกานต์ตามบุริศร์มายังบ้านที่รกร้านั้นอีกครั้ง ตามหาตำาแหน่งศาลเจ้า

ศาลไม่ได้ผ่านการบำรุงมานาน ก็ถล่มลงมาแล้ว แต่แผ่นป้าย ด้านในยังอยู่ดี ซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่น

บุริศร์ถอดเสื้อคลุมออก แล้วนำป้ายเหล่านั้นออกมา เช็ด ทําความสะอาด

กานต์เห็นบุริศร์ทำเช่นนี้ จึงรีบเข้าไปช่วย

ตอนแรกนรมนไม่อยากจะช่วย แต่เมื่อเห็นสองพ่อลูกพากัน ช่วยกันยกใหญ่ จึงอดไม่ได้ที่จะต้องลงไปช่วยด้วยเช่นกัน

ทั้งสามช่วยกันทํามาตลอดครึ่งบ่าย จึงทำความสะอาดป้าย จนหมด

“ผมคิดว่าจะหาคนมาซ่อมศาลเจ้าและบ้าน

บริศ พึมพำขึ้นมา

นรมนมองดูเขา แล้วพูดขึ้นมา “ต่อให้ทำใหม่หมด ทุกอย่าง เรียบร้อย คุณจะไปหาคนที่ไหนมาอยู่? บุริศร์ ที่นี่ได้ล่มสลายไป แล้ว ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ ที่นี่ล้วนเป็นบ้านร้าง ไม่ว่านายจะทำ ดีขนาดไหน ป้าโอก็มองไม่เห็นแล้ว

เธอรู้ว่าทุกอย่างมันช่างเลวร้าย แต่มันคือความจริงทั้งหมด

เธอรู้ว่าบุริศร์รู้สึกผิดต่อป้าโอ อยากจะชดเชยให้ แต่ตอนนี้มัน ไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว

บุริศร์มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
กานต์พูดขึ้นมา “เอ๊ะ? ทำไมทุกคนนามสกุลเดียวกันหมด? นรมนกวาดตาดู บนนั้นมีแต่คนสกุลดารายน

“ได้ยินมาว่าคนที่นี่ไม่แต่งงานกับคนนอกชนเผ่า ดังนั้นลูก หลานที่สืบทอดต่อมาก็จะมีแต่สกุลดารายน

กานต์พยักหน้าอย่างเข้าใจในมารยาท

เขาไม่เข้าไปยุ่งในบทสนทนาระหว่างนรมนและบริศร์ เดินเล่น อยู่รอบๆ ดูบ้านที่พักทลายลงมา

นรมนมองทุกอย่างในที่นี้ และพูดขึ้นมาเบาๆ “ฉันเข้าใจความ รู้สึกของคุณที่มีต่อป้าโอ ตอนนี้พวกเราได้พาเธอกลับมาแล้ว หา ที่ฝังให้เธอดีไหม

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เขานั่งมองเหม่อไปทางศาลเจ้า

นรมนไม่รบกวนเขา รู้ว่าบุริศร์กำลังจิตใจย่ำแย่ เขาอาจจะ

ต้องการเวลาเสียหน่อย

“ฉันไปดูกานต์ซักหน่อย

เธอยืนขึ้นมาแล้วมองไปทางกานต์

ที่ไกลๆนั้น นรมนเห็นรถจี๊ปหยุดตรงหน้ากานต์ แล้วคนบนรถ

กำลังคุยบางอย่างกับเขา
นรมนพลันรู้สึกตื่นกลัวขึ้นมา ที่นี่ไม่อะไรแล้วทั้งนั้น คนที่ไหนจะมาที่นี่กัน? กานต์ไม่ค่อยระวัง เขาไม่กลัวถูกลักพาตัวรึไง? เมื่อคถึงตรงนี้ นรมนก็รีบวิ่งเข้าไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ