แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 730 ตัวบริศร์ล่ะ



บทที่ 730 ตัวบริศร์ล่ะ

“หม่ามี้ จะจับผีเหรอ? ผมมีอักษรรูนนะ”

กานต์ยื่นหัวเล็ก ๆ ออกมา แล้วเอากระดาษสีเหลืองออกมา จากกระเป๋าเล็ก ๆ ข้างบนนั้นเป็นตัวอักษรรูนที่เขียนด้วยสีแดง เต็มไปหมด

นรมนรู้สึกอดไม่ได้ที่จะขาขึ้นมา แล้วยื่นมือมาดีดหน้าผาก ของเขาทีหนึ่ง

“หนูดูทีวีจนธาตุไฟเข้าแทรกแล้วใช่ไหม? ของแบบนี้เอามา จากไหนกัน?”

“คุณย่าที่บ้านพักบ้านไร่เอาให้ เธอบอกว่าของสิ่งนี้กันสิ่งชั่ว

ร้ายได้”

กานต์พูดขึ้นปากและกุมหัวเล็ก ๆ ของตัวเองไว้อย่างน้อยใจ นรมนและป้องอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง

“เถ้าแก่เนี้ยของบ้านพักบ้านไร่เหรอ? ทำไมฉันถึงดูไม่ออกว่า เธอเป็นหมอผีคนหนึ่งด้วย?

โสธรยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “คุณนายบุริศร์ เธอไม่ได้เป็นหมอผี หรอกครับ แต่ว่าใกล้ถึงวันสารทจีนแล้ว ที่นี่พวกเรามีกฎอยู่ อย่างหนึ่ง ก็คือจะวาดยันต์ขึ้นมาบางส่วนเวลาเดินตามท้องถนน เราก็จะพกมันไว้ พูดกันว่าสามารถกันผีกันสิ่งชั่วร้ายได้ ถือได้ว่าเป็นการปลอบขวัญรูปแบบหนึ่งละมั้ง และก็ถือว่าเป็นวัฒนธรรม อย่างหนึ่ง”

“นายไม่พูดฉันก็ไม่ได้สังเกตเลย นี่ใกล้ถึงวันสารทจีนแล้วเห รอนี่”

นรมนรู้สึกทอดถอนใจ

ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาก็ตั้งครึ่งปีแล้ว ความสัมพันธ์กับบุรี ศร์ก็มั่นคงแล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะยังมีความทุกข์ยาก มากมายขนาดนี้รอคอยพวกเขาอยู่

นรมนลูบหัวของกานต์เบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “แล้วได้พูดของ คุณกับคุณย่าไปหรือยัง?”

“แน่นอนต้องพูดแล้ว ผมเป็นเด็กที่มีมารยาทและได้รับการ

อบรมสั่งสอนมาดีครับ

กานต์พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

ระหว่างที่พูดคุยกันไปคนทั้งกลุ่มก็มาถึงข้างหลังของแล้ว ที่นี่เป็นที่แดดส่องไม่ถึง แล้วก็ดูอึมครึม และที่สำคัญหญ้า รกร้างรอบข้างก็ขึ้นสูงด้วย สูงจนเกือบจะมืดรอบเอวของนรมน แล้ว

เธออดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นมา

“ในหญ้ารกร้างที่สูงขนาดนี้ จะมีตัวอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่เป็นไร พวกเรามีเม็ดยา”
คำพูดของกานต์ทำให้นรมนจะร้องไห้ก็ไม่ใช่จะหัวเราะก็ไม่ใช่ อยู่ ๆ ป้องก็พบอะไรเข้า

“พวกคุณรีบมาดูตรงนี้เร็ว อันนี้เป็นร่องรอยที่เพิ่งเคยโดนขุด ไปใช่หรือเปล่า?”

พอนรมนได้ยินคําพูดของป้อง ก็อุ้มกานต์ไว้แล้วรีบเดินไปดู

พร้อมกับโสธร

ตรงนี้หญ้ารก โดนจัดการไปอย่างสะอาด แล้วก็มีกองดินเล็ก ๆ กองหนึ่ง ดูท่าแล้วน่าจะเพิ่งโดนขุดไปเมื่อไม่นานนี่เอง หรืออาจ

จะ……..

“นี่อาจจะเป็นหลุมฝังศพของอุดมหรือเปล่า?” นรมนคาดเดาขึ้นอย่างกล้าหาญ

โสธรครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้วพูดขึ้นว่า “น่าจะใช่ ผมแค่เคย ได้ยินจากพ่อแม่ว่าเป็นที่อับแสงแดดทางด้านทิศตะวันออกของ ภูเขา เพราะว่าไม่ได้เป็นคนในหมู่บ้านแท้ ๆ เพราะฉะนั้นก็เลย ทำได้แค่เอามาฝังไว้ทางด้านนี้ ส่วนคนในหมู่บ้านเราถ้าเสียชีวิต ไปแล้ว ก็จะไปฝังไว้ในที่ที่แดดส่องถึง

“ดินตรงนี้เพิ่งโดนขุดไป และยังใหม่มากด้วย

ป้องงอตัวนั่งลงไป แล้วยื่นมือออกไปกดินขึ้นมาหนึ่ง แล้วก็ ลองสำรวจดูในมือ

อยู่ ๆ หัวใจของนรมนก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาทีหนึ่ง
“ข้างในนี้จะฝังบุริศร์ไว้หรือเปล่า?”

“เป็นไปไม่ได้มั้ง? คุณบุริศร์ฝีมือเก่งซะขนาดนั้น จะมาโดนคน อื่นฝังอยู่ในดินได้ยังไงกัน?”

พอคำพูดของกานต์เพิ่งจะจบลง ก็เห็นสายตาของนรมนสาด ส่องมา สายตาแบบนั้นยังไงก็มีความไม่พอใจและความโกรธอยู่ บ้าง

เขารีบอุดปากเอาไว้ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ขอโทษครับ หม่า มี ผมแค่รู้สึกว่าคุณบุริศร์ไม่มีทางโดนคนอื่นทำร้ายได้เท่านั้น”

“บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ได้ทั้งหมดหรอก อย่าโดนความ หลงตัวเองและความมั่นใจในตัวเองปิดตาเอาไว้ นรมนเองก็ไม่ได้ติเตียนอะไรกานต์มาก เพียงแต่ว่าความรู้สึก

หวั่นใจแบบนั้นช่างแข็งกร้าวมาก

“ไม่ได้ จะต้องขุดที่นี่ออก ฉันจะต้องดูสักหน่อยถึงจะวางใจได้

คำพูดของนรมนเพิ่งพูดจบ ก็งอตัวนั่งลงไปแล้วก็ใช้มือเริ่มขุด ขึ้นมา

“คุณนายบุริศร์ พวกเรามีพลัวนะครับ กานต์เอามาด้วย

โสธรเห็นนรมนมีท่าทางแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งตามไป ด้วย

นรมนเพิ่งนึกออกมาว่าตอนที่กานต์ออกมานั้นได้เอาของมา เยอะแยะ ยังดีที่ตอนนั้นเธอไม่มีเวลาให้กานต์เอาไปเก็บกลับไป
“เอามาให้ฉัน”

“ให้ผมขุดดีกว่า ถ้าหากว่าฝังคนเป็น ๆ ไว้จริง มือของคุณกะ แรงไม่ถูก จะขุดโดนตัวบุริศร์เข้าได้นะ”

คำพูดของป้องทำให้นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงยอมรับ เงียบ ๆ แล้วไปยืนอยู่ข้าง ๆ แต่ว่าในใจกลับบิดกันจนแน่น

จะใช่บุริศร์หรือเปล่านะ?

ถ้าพูดตามหลักแล้ว ฝีมือของบุริศร์ดีซะขนาดนั้น น่าจะไม่โดน ฝั่งถึงจะถูก แต่ว่าเมื่อมาอยู่ที่นี่ นรมนรู้สึกว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่ สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำมากนัก

การกระทําของป้องเป็นมืออาชีพกว่านรมนเยอะเลย

พอขุดไปไม่กี่ที นรมนก็เห็นชายเสื้อของเสื้อผ้าแล้ว ในตอนที่ เห็นชายเสื้อนั้น ใจทั้งดวงของนรมนก็บิดตัวกันขึ้นมา

“บุริศร์!”

เธอโถมตัวลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจการขัดขวางของพวก กานต์และบุริศร์ แล้วเริ่มขุดดินอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา

ผ่านไปไม่นาน คนที่อยู่ข้างในก็โดนขุดออกมา แต่ว่ากลับ ไม่ใช่บุริศร์ แต่กลับเป็นอุดม

ทั้งแขนทั้งขาของอุดมโดนเสื้อเชิ้ตของบุริศร์มัดเอาไว้ และ เกือบจะขาดอากาศตายอยู่ข้างในนั้นแล้ว

ในที่สุดตอนนี้เขาก็โผล่หน้าออกมาแล้ว แล้วหายใจหอบใหญ่อยู่เหมือนกับปลาที่แยกออกจากน้ำตัวหนึ่ง พวกนรมนและป้องต่างก็อึ้งไปเลย

กานต์กลับโล่งใจไปเปลาะใหญ่ ๆ เปลาะหนึ่ง

“ผมว่าแล้วไง คุณบุริศร์ไม่มีทางโดนฝั่งง่าย ๆ หรอก”

นรมนคว้าคอเสื้อของอุดมไว้อย่างแรงที่หนึ่ง แล้วถามขึ้น อย่างร้อนใจว่า “บุริศร์ล่ะ? คุณเอาบุริศร์ไปไว้ที่ไหนแล้ว?” การหายใจเสี้ยวหนึ่งที่อุดมเพิ่งได้กลับมา ก็มาโดนนรมนรัด

จนเกือบจะขาดใจตายไป

เขาเถียงคอเป็นเอ็นขึ้นว่า “คุณดูสภาพแบบนี้ของผม ก็จะรู้ ได้ว่าผมสามารถทำอะไรเขาได้ เขานี่มันคือปีศาจคนหนึ่งชัด ๆ!”

“ปีศาจเหรอ? คุณยังไม่เคยเห็นท่าทางที่เขาบ้าคลั่งขึ้นมาจริง

ๆ ฉันจะถามอีกครั้ง ตัวบุริศร์ล่ะ?”

“ไม่รู้ แต่ว่าเขาโดนยาพิษแล้ว พวกคุณนี่ก็มีปัญญาจริง ๆ ยัง สามารถตามหามาจนถึงที่นี่ได้ แต่ว่าถึงจะเป็นแบบนี้ ตอนที่พวก คุณหาเขาเจอนั้น คาดว่าเขาก็คงจะไม่รอดแล้ว เขาโดนยาพิษที่ ผมปรุงขึ้นมาเองกับมือ หลายปีมานี้ ในที่สุดผมก็ได้แก้แค้น แล้ว!”

อุดมพูดจบก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

พอนรมนได้ยินข่าวว่าบุริศร์โดนยาพิษแล้ว ตัวทั้งตัวก็รู้สึกไม่ดี ขึ้นมาแล้ว
“คุณเป็นโรคประสาทเหรอ? บุริศร์ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับ คุณ ทําไมคุณจะต้องลงมือกับเขาด้วย?”

“ไม่มีความแค้นเหรอ? เขาเป็นลูกของ โอกับผู้ชายคนนั้น! เขา ก็สมควรตายแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขา ตอนนั้นโอก็คงจะไม่ ถอนหมั้นกับผม แค่ก แค่ก!”

ตอนที่อุดมพูดมาถึงส่วนที่ตื่นเต้น ก็ไออย่างแรงขึ้นมา

อยู่ ๆ นรมนก็นิ่งค้างไปเลย

“คุณพูดว่าอะไรนะ? คุณว่าก่อนที่โอจะไปจากที่นี่ก็ท้องแล้วเห รอ?”

“ไม่งั้นล่ะ? คุณคิดว่าทำไมเธอถึงได้พ้นเคราะห์จากภัยพิบัติได้ ล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่าคืนนั้นเธอแอบหนีออกไป ไปหาผู้ชายคนนั้น แล้ว ไม่งั้นละก็ เธอจะหลบภัยพิบัติครั้งนั้นของหมู่บ้านได้ยังไง?

คำพูดของอุดมทำให้ดวงตาของนรมนหรี่ลง

“ตอนที่หมู่บ้านเกิดภัยพิบัตินั้น คุณน่าจะตายไปแล้วนี่ เพราะ ฉะนั้นจะพูดว่าคุณแกล้งตายตั้งแต่แรกเหรอ?”

“ใช่!”

เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อุดมก็ไม่ปิดบังอีกต่อไปแล้ว

“ตอนนั้นผมโดนยาพิษ ตอนแรกผมอยากจะฆ่าตัวตายเพราะ ความรักไปพร้อมกับโอ แต่ว่าใครจะรู้ว่า ในร่างกายของโอกลับ มีภูมิต้านทานพิษ ในตอนที่ผมใกล้จะตาย แต่ว่าพ่อบุญธรรมคนนั้นของผมกลับไม่ช่วยผมด้วยซ้ำเพราะว่าผมทำนี้ไป ผมจำได้ว่า เขาสาปแช่งผมอย่างโหดเหี้ยมว่าชาติหน้าที่อย่าได้กลับชาติมา เกิด สาปแช่งให้ผมชาติหน้าที่อย่าได้อยู่ด้วยกันกับโอ ในตอน นั้นผมก็เกลียดเขาเข้ากระดูกแล้ว ทั้ง ๆ เรื่องที่ผมกับโอหมั้นกัน นั้น เขาก็เป็นคนกำหนดขึ้นเอง แต่พอลูกสาวของเขาเกิดนอกใจ ขึ้นมา แล้วตอนที่จะถอนหมั้นกับผมนั้น เขากลับไม่ช่วยผม แล้ว ในตอนที่ผมใกล้ตายนั้นก็ยิ่งมาสาปแช่งผม ทั้งหมู่บ้านไม่มีใคร มองผมว่าเป็นคนกันเองเลย ถึงแม้ว่าผมจะเติบโตขึ้นที่นี่ แต่ว่า พวกเขาก็ยังคิดว่าผมเป็นคนนอก โอคบชู้สู่ชาย พวกเขาก็ไม่ได้ ตำหนิเธอ ไหนบอกว่ากฎของหมู่บ้านห้ามแต่งานกับคนนอก ไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกเขาจะต้องปฏิบัติอย่างสองมาตรฐานกับ โอด้วย? หรือว่าเป็นเพราะว่าพ่อแม่ของโอเป็นผู้นำของที่นี่เห รอ?”

อุดมยิ่งพูดก็ยิ่งอารมณ์ขึ้น แล้วก็ไอติด ๆ กันขึ้นมา

โสธรขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่านี่ไม่เหมือนกับแบบฉบับที่ฟัง มาจากที่พ่อแม่เบาเลย

ป้องยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเยือกเย็น และคุ้มกันกานต์เอาไว้ข้าง

หลัง

นรมนฟังทุกอย่างนี้ไปแล้ว อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่า “คุณเป็นคนพา คนนอกมาทำลายหมู่บ้านนี้ใช่ไหม? เพราะว่าในวินาทีนั้น คุณ เริ่มเกลียดคนทั้งหมู่บ้านแล้ว เกลียดพ่อแม่บุญธรรมที่เลี้ยงคุณ มา และยัง โกรธเกลียดโอด้วย”
“ใช่!”

อุดมยอมรับแล้ว

“ตอนที่ผมใกล้ตายแล้ว พวกเขาก็เอาผมมาฝังไว้ที่นี่ แม้แต่ ผมตายไปก็ยังไม่สามารถฝังรวมกับคนในเผ่าได้ เพราะฉะนั้น พวกเขาไม่ได้คิดว่าผมเป็นคนกันเองเลย ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมผมจะต้องคิดว่าพวกเป็นคนกันเองด้วย?”

“พวกคุณมาตามหาหญ้าดาวสีฟ้าไม่ใช่เหรอ? หญ้าดาวสีฟ้า เป็นของที่ดีอย่างหนึ่ง มันช่วยชีวิตของผมไว้ แต่ว่ากลับทำให้ผม ไม่สามารถแต่งงาน และมีลูกหลานได้ตลอดชีวิต”

แววตาของอุดมมีแววโกรธเกลียดขึ้นมาบ้าง

“มีสิทธิ์อะไร โอที่คบชู้สู่ชายยังสามารถมีลูกหลานมาดูแลปั้น ปลายชีวิตและกราบไหว้บูชาให้เธอได้? มีสิทธิ์อะไรทำไมผมจะ ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย? ผมไม่ยอม! ตอนนั้นตอนที่โอ โดนพ่อบุญธรรมรักษาจนหายแล้วนั้น ผมก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำแห่ง นี้ ทุกวันก็จะเห็นเธอแอบหลบซ่อนออกไปตามทาง ไปขลุกตัว อยู่กับชายชั่วคนนั้น แม้กระทั่งผมยังเคยเห็นกับตาตัวเองว่าพวก เขาทำเรื่องอย่างว่า ในถ้ำด้วย เธอเป็นคู่หมั้นผมนะ! แต่ปรากฏ ว่าผมตายยังไม่ครบร้อยวันเลยเธอก็ตั้งท้องแล้ว คุณรู้ไหมใน ตอนที่ผมอยู่ตรงนี้แล้วได้ยินเธอบอกข่าวว่าตั้งท้องให้ผู้ชายคน นั้นรู้ ความรู้สึกของผมนั้น? ผมแทบอยากจะพุ่งออกไปฆ่าผู้ชาย คนนั้นทิ้งซะ!

อุดมยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ดวงตาทั้งดวงก็แดงขึ้นมาแล้ว
สําหรับส่วนนี้ พวกนรมนและป้องต่างก็ไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรได้ นรมนจ้องมองอุดม แล้วถามขึ้นว่า “ตัวบุริศร์อยู่ที่ไหน?” “พวกคุณไปหากันเอง!

แล้วอุดมก็ยิ่งดีใจขึ้นมา และยังหัวเราะอย่างแฝงได้ด้วยความ โรคจิตนิด ๆ

นรมนร้อนใจจะตายอยู่แล้ว แต่ว่าเธอเองก็รู้ว่า ตอนนี้ตัวเอง ร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าอุดมไม่พูด ถึงพวกเขาจะพลิกทั้ง หลังเขานี้กลับมา ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถตามหาบุริศร์เจอได้

อยู่ ๆ โสธรก็ถามขึ้นว่า “คุณนายบุริศร์ พวกคุณจะหาหญ้า ดาวสีฟ้าเหรอ?”

“ใช่”

ตอนนี้นรมนเกลียดตัวเองแทบตายอยู่แล้ว

ถ้าหากไม่ใช้เพราะว่าจะรักษาเส้นเสียงให้กับตัวเอง บุริศร์ก็ คงจะไม่มาหาหญ้าดาวสีฟ้าขี้หมานี้ถึงที่นี่หรอก แล้วก็จะไม่โดน อุดมคนนี้พบเจอเข้า แล้วยิ่งไม่ต้องมามีสภาพอย่างเช่นตอนนี้ ตอนนี้บุริศร์ไม่เป็นอะไรยังดี ถ้าหากบริศ เป็นอะไรขึ้นมาจริง ละก็……..

สายตาที่นรมนจ้องมองอุดมอยู่ อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว แววตาที่อึมครึมน่ากลัวนั้นทำให้อุดมอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้น มาและตัวสั่นเทา
“คุณอยากจะทําอะไร?”

“ทางที่ดีที่สุดคุณก็อธิษฐานให้บริศร์ไม่เป็นอะไรดีกว่า ไม่งั้น ละก็ ฉันจะเฉือนเนื้อของคุณลงมาทีละแผ่นทีละแผ่นเอามาเลี้ยง สัตว์มีพิษทีนี่ ถ้าไม่เชื่อคุณก็รอดูได้เลย”

คำพูดของนรมนไม่เพียงแค่ทำให้อุดมตกใจเท่านั้น ยังทำให้ โสธรตัวสั่นไปด้วยที่หนึ่ง

ป้องกลับรู้ว่านรมนนั้นพูดได้ก็ทำได้จริง ๆ

บริศ เป็นจุดอ่อนของนรมน และก็เป็นเส้นตายของนรมนด้วย ถ้าบุริศร์เกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ นรมนคงอาจจะบ้าไปเลยจริง ๆ ก็เป็น ไปได้ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าทำเรื่องที่เกินเลยไปพวกนี้หรอก

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเรารีบไปหาบุริศร์ก่อนค่อยว่ากันละกัน ป้องรีบเปิดปากพูดขึ้น

โสธรนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าหากพวกคุณมาเพื่อหา หญ้าดาวสีฟ้าแล้วละก็ ผมคิดว่า ผมอาจจะรู้ว่าประธานบริศร์อยู่ ที่ไหน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ