แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 519 จะต้องอยู่ข้างกายฉันตลอดนะ



บทที่ 519 จะต้องอยู่ข้างกายฉันตลอดนะ

เรนนี่เห็นท่าทางที่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มของกานต์ ตัว ทั้งตัวก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่ว่าก็รีบคว้าตัวกานต์มาอยู่ข้าง กายตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอาน่องไก่ที่ตัวเองแอบ เก็บเอาไว้ยื่นให้กับกานต์

“เอาน่องไก่มาจากไหน?” กานต์รู้สึกสงสัยเล็กน้อย

มาที่นี่สี่วันแล้ว อย่าพูดว่าน่องไก่เลย แม้แต่เนื้อก็ยัง ได้กินน้อยมาก แล้วตอนนี้อยู่ดี ๆ ก็ได้เห็นน่องไก่ ยังไง กานต์ก็ยังคงมีความสงสัยอยู่บ้าง

เรนนี่ทําท่าทางบอกเขาว่านาครเป็นคนเอามาให้

ถึงแม้จะไม่รู้ว่านาครเป็นใครกัน แต่ว่ากานต์ก็จดจำ คนคนนี้ไว้ในใจแล้ว

คนที่สามารถทำให้บุริศร์จดจำไว้ ก็คงจะไม่ใช่คนดี อะไรแน่ และของที่เขาส่งมาก็คงจะไม่ใช่ของดีอะไร

ถึงแม้ว่ากานต์จะหิวมาก ๆ แล้วตอนนี้มาเห็นน่องไก่ ๆ ก็แทบอยากจะยัดมันเข้ามาในปาก แต่ว่าเขาก็ลังเลขึ้น มา

“เธอกินหรือยัง?”

“ฉันไม่ชอบกิน นายกินเถอะ”

เรนนี่แสดงเจตนาของตัวเอง แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าเธอ เลียริมฝีปาก จากนั้นก็หันสายตาไปทางอื่น

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากกิน แต่ตั้งใจเก็บไว้ให้กานต์โดย เฉพาะอย่างงั้นเหรอ? !

สำหรับการเข้าใจแบบนี้ ในใจกานต์นั้นเต็มไปด้วย ความซาบซึ้ง

เขาเอาน่องไก่ซ่อนไว้อีกครั้ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันยังไม่หิว ในเมื่อเธอไม่ชอบกิน งั้นก็เก็บไว้ก่อน รอ พรุ่งนี้ตอนที่หิวค่อยว่ากันละกัน”

เรนนี่คิดไม่ถึงว่ากานต์จะไม่กิน ก็เลยอดไม่ได้ที่จะ อึ้งไปเล็กน้อย

กานต์ไม่มีวิธีที่จะบอกการคาดเดาของตัวเองกับเธอ ได้ แต่ว่ากลับพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “นี่เธอเก็บไว้ให้ฉันแล้ว นะ เธอห้ามขโมยกินนะ”

“ไม่หรอก ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบกิน

ถึงเรนนี่จะตะกละอยู่บ้าง แต่ตอนนี้พอได้ยินกานต์ พูดแบบนี้แล้วก็แตะต้องน่องไก่อันนั้นไม่ได้แล้วซิ ทำได้ แต่เพียงดมกลิ่นน่องไก่อันนั้น จากนั้นก็ดึงกานต์มาพัก ผ่อนเลย

นอนไม่หลับทั้งคืน

วันที่สองกานต์ตื่นมาตั้งแต่เช้าแล้ว

เขามองออกไปข้างนอก พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นมาเลย เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเวลาของที่นี่ผ่านไปอย่าง เชื่องช้ามาก

อดทนรออย่างยากลำบากมากกว่าเรนนี่ก็ตื่นมาด้วย แล้ว พอเห็นท่าทางของกานต์ที่ตื่นมานานแล้ว ก็ถามขึ้น อย่างรู้สึกไม่สบายใจว่า “เธอไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยเห รอ?”

“นอนแล้ว แต่ว่าตื่นเช้าไปหน่อย บอกทุกคนว่า วันนี้ อย่าเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ควรจะทำยังไงก็ทำอย่างงั้นไป แต่ว่าฉันรับประกันว่า วันนี้พวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่ แน่นอน!

คำพูดและแววตาที่แน่วแน่ของกานต์ให้กำลังใจกับ เรนนี่เป็นอย่างมากเลย

เธอรีบไปปลุกพวกเด็ก ๆ ให้ตื่น แล้วก็บอกความ หมายของกานต์ให้กับทุกคน

กานต์มองไปข้างนอก ความเป็นผู้ใหญ่และความ

หนักแน่นในวินาทีนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง

ตอนที่คนเฝ้ายามตื่นมานั้นก็พบว่าวันนี้พวกเด็ก ๆ ตื่นกันเร็วมาก ก็เลยอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างดีใจว่า “ดูซิ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้ตัวแล้วใช่ไหม แบบนี้ก็ไม่เลว พวกเธอจะได้ โดนตีน้อยลงหน่อย พวกเราเองก็จะได้ไม่ต้องโมโหมาก แบบนี้ดีเลยใช่ไหม? ออกมาเถอะ ออกมากินข้าวเช้ากัน จากนั้นก็จะได้เริ่มฝึกฝนกันแล้ว”

คนเฝ้ายามหาวไป แล้วก็ผ่อนความระมัดระวังลง แล้วรู้สึกว่าพวกเด็ก ๆ เป็นแบบนี้น่าจะยอมศิโรราบแล้ว และเขาก็ยังขอบุหรี่ม้วนหนึ่งกับคนข้างมาจุดม้วนหนึ่งขึ้น ด้วย

“นายว่าต่อไปถ้าไร้กังวลอย่างนี้ตลอด เราก็คงจะไม่ ต้องลําบากขนาดนั้นกันแล้ว” “ยังต้องรอให้พวกเขามีผลงานก่อนถึงจะได้ อีกคนหนึ่งพูดคุยไปเรื่อยกับเขา

เวลาเดียวที่เด็ก ๆ พวกนี้จะสามารถนั่งโต๊ะกินข้าว ได้ก็คือช่วงเช้า ถึงแม้ว่าอาหารเช้าจะไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ เป็นแค่ข้าวต้มกุ๊ยกับปาท่องโก๋ แต่ว่าสามารถนั่งกินบน โต๊ะอาหารได้ ก็ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เลวแล้ว

ช่วงเช้าเด็ก ๆ ของชมรมยิงปืนจะมาสายกัน แต่ว่า ๆๆ เด็ก ๆ อย่างพวกเขานั้นจะต้องตื่นเช้า แล้วหลังจากที่กิน ข้าวเสร็จแล้ว ก็ยังจะต้องรับผิดชอบเตรียมอุปกรณ์การ ฝึกซ้อมอะไรต่าง ๆ ให้กับเด็กของชมรมยิงปืนด้วย

กานต์และเรนนี่อยู่ด้วยกันตลอด

ถือโอกาสในช่วงที่ไม่มีคนนั้น กานต์ก็พูดเสียงต่ำขึ้น ว่า “วันนี้ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ก็จะต้องอยู่ข้างกายฉัน ตลอด เข้าใจไหม?”

ถึงแม้ว่าเรนนี่จะไม่รู้ว่ากานต์จะทำอะไร แต่ว่าก็ยัง

พยักหน้าอยู่ดี

ทั้งสองคนกินข้าวเช้าพร้อมกับเด็กคนอื่นเสร็จ ก็เริ่ม ไปขนย้ายอุปกรณ์การฝึกซ้อมที่สนามอื่นต่อ

กานต์มองดูรอบ ๆ โดยเฉพาะตรงตำแหน่งของ ๆ กล้องวงจรปิด แล้วเขาก็พูดเสียงเบากับเรนนี่ว่า “เดินไป ทางขวาสามก้าว แล้วก็บังฉันไว้สองวินาทีก็พอ”

เรนนี่นั้นตื่นเต้นมาก ถึงแม้ไม่รู้ว่ากานต์จะทำอะไร แต่ว่าก็ยังฟังคำพูดของเขา แล้วเดินไปทางขวาสามก้าว แล้วบังตัวกานต์เอาไว้ กานต์รีบเอาตัวส่งสัญญาณในตัวเขามาใส่ไว้ที่ข้าง ล่างของอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แกล้งทำเป็น เหมือนว่าไม่มีอะไรแล้วก็ขนย้ายอุปกรณ์ฝึกซ้อมไปไว้ ตามตำแหน่งที่กำหนดไว้พร้อมกับพวกเรนนี่ต่อไป

เพียงแต่ว่าตรงตำแหน่งที่กำหนดนั้นมีปลั๊กอยู่อัน หนึ่ง

ใครก็ไม่ได้สังเกตเห็น และกานต์ก็เอาปลั๊กมาเชื่อม

ต่อเข้ากับตัวส่งสัญญาณไว้ แล้วก็ในเวลานี้ โทรศัพท์ของเจตต์ดังขึ้นมาแล้ว เขาขมวดคิ้วขึ้น

เวลาเช้าขนาดนี้ ใครจะมาโทรหาตัวเองได้นะ? หลายวันมานี้เพราะว่าเรื่องของนรมนยังไงก็ยังรู้สึก ผิดหวังอยู่บ้าง เจตต์ก็เลยใช้การออกนอกประเทศไป จัดการธุระมาเป็นข้ออ้างจากไปไม่กี่วัน แต่ในที่สุดแล้วก็ ไม่ค่อยวางใจนรมนจึงกลับมาที่เมืองชลธีอีก

แต่พอตอนที่เขาเห็นนรมนเข้าไปในบ้านใหญ่ ตระกูลโตเล็กแล้วไม่ออกมาอีก และบุริศร์ก็ไม่ได้โผล่ หน้ามาเลย แล้วโถน้ำส้มสายชูของเจตต์ก็โดนตีจนคว่ำ แล้ว

คนอื่นเขาห่างกันไปแป๊บเดียวกลับมาเจอกันหวาน แหววยิ่งกว่าตอนแต่งงานใหม่ เขานี่เป็นคนชอบทําร้าย ตัวเองขนาดไหนถึงได้ต้องกลับมาเห็นภาพนี้ให้ได้?

เจตต์ดื่มเหล้าไปอย่างหนักคืนหนึ่ง ตอนนี้ยังรู้สึก ปวดหัวเหมือนจะระเบิดอยู่เลย ตอนที่ได้ยินเสียง โทรศัพท์ดังขึ้นมาก็กดวางไปอัตโนมัติเลย แต่ที่น่าแปลกคือ ไม่ว่าเขาจะปิดโทรศัพท์ยังไง โทรศัพท์ก็ยังร้องตี้ ตี้ดังอยู่อย่างงั้น เหมือนอย่างกับว่า ส่งข้อมูลอะไรมายังไงอย่างงั้น

“แมร่งนี้ เห็นผีแล้ว!”

เจตต์โมโหมากเปิดผ้าห่มออกแล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็กะว่าจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง แต่กลับเห็นบนโทรศัพท์มี รูปแผนที่รูปหนึ่งขึ้นมา ข้างในบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด ไว้มากมาย

สุดท้ายพบตัวหนังสือแถวหนึ่งคือ “แจ้งตำรวจ ช่วย ผมด้วย! ชมรมยิงปืน! กานต์!”

หัวคิ้วของเจตต์ขมวดขึ้นมาทันที

กานต์เหรอ? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับกานต์แล้วเหรอ?

แล้วเขาก็รีบหยิบโทรศัพท์บ้านขึ้นมาอยากจะ โทรศัพท์ถามนรมนสักหน่อย แต่ว่ากดเบอร์โทรศัพท์ไป ได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดลง กานต์ไม่ใช่เด็กทั่วไป

ถ้าหากว่าเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ ทำไมถึงไม่โทรศัพท์ขอ ความช่วยเหลือกับตระกูลโตเล็กล่ะ? และยังไม่ขอความ ช่วยเหลือกับบุริศร์และนรมนอีก? แต่กลับส่งข้อความมา ที่โทรศัพท์ของเขา?

เป็นเพราะว่ากานต์คุ้นเคยกับการทำงานใน โทรศัพท์ของเขาเหรอ? หรือว่าโทรศัพท์ของเขาโดน กานต์ติดตั้งอะไรไว้เหรอ ถึงได้สามารถรับข้อความที่ กานต์ส่งออกมาเป็นอันดับแรก?

เจตต์ไม่รู้ แต่ว่าในใจกลับมีความสงสัยเต็มไปหมด

ทางด้านกานต์มองดูตัวส่งสัญญาณส่งทั้งหมดออก ไปแล้ว ถึงได้ดึงตัวส่งสัญญาณออก จากนั้นก็ทำตัว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ใช้แรงงานพร้อมกับเด็ก ๆ คนอื่นต่อไป

รอจนทุกอย่างเก็บกวาดจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวก เขาก็โดนพาตัวไปสนามฝึกแล้วก็ฝึกกลั้นหายใจต่อ

กานต์ถือโอกาสตอนที่ลงน้ำ แล้วก็เอาตัวส่ง

สัญญาณโยนลงน้ำไปเลย

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อผ่านการแช่น้ำแล้ว อย่าง รวดเร็วก็จะใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว

เขาจะเสี่ยงไม่ได้ จะให้ใครรู้ว่าตัวเองทำของอันนี้ ขึ้นมาไม่ได้ แล้วก็ยิ่งไม่สามารถให้คนค้นออกมาจากตัว เขาได้ ตอนนี้ความหวังเพียงหนึ่งเดียวก็คือเจตต์แล้ว

ได้แต่หวังว่าเจ้าสมองหมูอาเจตต์คนนี้ คงจะไม่ไป ขอความช่วยเหลือที่บ้านตระกูลโตเล็กหรอกนะ

เพราะว่าประกอบขึ้นมากะทันหัน สิ่งที่สามารถ บันทึกได้จึงน้อยมาก ไม่งั้นละก็กานต์คงจะบอก สถานการณ์ให้ชัดเจนกับเจตต์แน่ แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่ บอกสิ่งที่สำคัญที่สุดออกไปเท่านั้น

ได้แต่หวังว่าเจตต์คงจะเข้าใจ

กานต์ไม่มีโค้ตลับโทรศัพท์ของคนอื่น และจำได้แต่ ของเจตต์เท่านั้น และก็เป็นเพราะว่าคราวที่แล้วที่ร่วมมือ กับเจตต์ แล้วก็บันทึกโค้ตลับของตัวเองลงในโทรศัพท์ ของเขาไว้ ไม่งั้นละก็มีความเป็นไปได้มากที่เขาอาจจะ ส่งข้อความเหล่านี้ไปให้บริศร์แล้ว

แต่ว่าถ้าหากว่าตรินท์อยากจะจัดการเขาจริง ๆ แล้ว ละก็ คาดว่าโทรศัพท์ของคุณบุริศร์ไม่รู้ว่าจะโดนดักฟัง หรือเปล่า

เพราะว่ากานต์มัวแต่คิดจนเสียสมาธิ แล้วไม่ทันได้ ระวังจึงสำลักน้ำเข้า

น้ำเข้าไปในจมูก แสบจนเจ็บปวด แล้วตัวเองยังไม่ สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้อีก แล้วก็โดนคนกดไว้ในน้ำทั้ง อย่างนั้น

กานต์เริ่มพยายามขัดขืนขึ้นมา

เขารู้สึกถึงยมทูตแห่งความตายขึ้นมาอีกครั้ง

เรนนี่รู้สึกถึงความผิดปกติของกานต์ แล้วก็พยายาม ขัดขืนอยากจะไปช่วยกานต์ แต่กลับโดนคนที่อยู่ข้าง กายกดเอาไว้แน่น

“อยู่ให้มันดี ๆ หน่อย! นี่ยังมีอีกยี่สิบวินาที!” เรนนี่ร้อนใจจนแทบจะร้องไห้แล้ว กานต์สำลักจนมีฟองอากาศลอยขึ้นมา

ยี่สิบวินาที!

ยี่สิบวินาทีเขาจะต้องทำให้ได้!

เขาจะต้องไม่เป็นอะไร จะตายไม่ได้! กว่าจะข้อความออกไปได้อย่างยากลําบาก เขายัง จะต้องพาเรนนี่ออกไปอีก

พอคิดได้แบบนี้ กานต์ก็รีบปรับลมหายใจ แล้วก็รีบ หยุดหายใจอย่างรวดเร็ว แต่เพราะว่าสำลักน้ำแล้ว จึง ทําได้ไม่สําเร็จมากนัก

เวลายี่สิบวินาทีปกตินั้นแค่พริบตาเดียวก็ผ่านไป แต่ ว่าตอนนี้สำหรับกานต์มาพูดแล้วนั้น มันเหมือนกับการ ทารุณอย่างหนึ่งเลย

เขารู้สึกนานเหมือนผ่านไปเป็นศตวรรษแล้ว นานจน ตอนที่เขารู้สึกว่าตัวเองจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้วนั้น แล้วอยู่ ๆ คนเฝ้ายามก็ปล่อยตัวเขา

แล้วกานต์ก็โผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วหายใจหอบ ใหญ่อยู่

เรนนี่รู้สึกเป็นห่วงมาก แต่กลับเข้าไปดูไม่ได้ ร้อนใจ จนแทบจะตายอยู่แล้ว

กานต์มองดูเธอ แล้วส่ายหัวให้เธอ เพื่อแสดงให้เห็น ว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร

ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเจตต์จะมาตอนไหน แล้วจะมาช่วย พวกเขาออกตามอย่างที่ตัวเองคิดไว้ทั้งหมดหรือเปล่า ตอนนี้สิ่งที่สามารถทำได้มีเพียงแค่รอคอยเท่านั้นแล้ว

หลังจากที่เจตต์จ้องมองโทรศัพท์ไปหนึ่งนาทีแล้ว นั้น ก็ยังปะติดปะต่อความสัมพันธ์ภายในนี้ไม่ได้เลย

ไม่สนแล้ว!

โทรศัพท์หานรมนก่อนค่อยว่ากันดีกว่า แล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์บ้านขึ้นมาอีกครั้ง แต่กลับ ไม่รู้ว่าทำไม แล้วก็โทรศัพท์ออกไปหาพฤกษ์อย่างกับว่า ผีเข้า

นี่เป็นเรื่องที่เมื่อก่อนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะ เขากับพฤกษ์นั้นเป็นศัตรูที่ไม่มีวันญาติดีต่อกันเลย ทำไมถึงได้โทรศัพท์หาเขาได้นะ?

จนกระทั่งพฤกษ์รับโทรศัพท์แล้วเจตต์ก็ยังไม่เข้าใจ คำถามนี้อยู่เลย

“เกิดอะไรขึ้น?”

พฤกษ์รู้สึกแปลกใจ เลยอดไม่ได้ที่จะเปิดปากถาม เจตต์ไอแห้ง ๆ ขึ้นคำหนึ่ง แล้วพูดว่า “ถามคำถาม อะไรนายหน่อยซิ”

“คุณพูดมาได้เลย”

“กานต์ส่งรูปแผนที่มาให้ฉันใบหนึ่ง แล้วให้ฉันแจ้ง ความและไปช่วยเขา แต่ว่าทำไมเขาถึงไม่ส่งข้อความไม่ ให้บุริศร์หรือนรมนล่ะ? แต่กลับส่งมาให้ฉัน? นายรู้ไหม ว่าตระกูลโตเล็กกำลังเล่นอะไรกันอยู่?”

คำพูดของเจตต์เพิ่งจบลง พฤกษ์ก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา แล้ว

“งั้นคุณโทรศัพท์หาคุณนายหรือยังล่ะ?”

“นายนี่มันสมองหมูเหรอ? ถ้าฉันโทรแล้ว ฉันยังจะ มาถามนายอีกเหรอ?”

เจตต์รู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดผิดไปแล้ว สมองหมู อย่างพฤกษ์นี่อาจจะยังไม่ทันตัวเองเลย “ช่างเถอะ ช่างเถอะ ฉันมาจัดการเองดีกว่า รู้มาตั้ง นานแล้วว่าสมองหมูอย่างนายนั้นเทียบกับฉันไม่ได้ หรอก”

พูดแล้วเขาก็จะวางสายไป แต่กลับได้ยินพฤกษ์พูด ว่า “ในตระกูลโตเล็กมีคนจะทำร้ายประธานบริศร์และ คุณนาย สำหรับคุณชายกานต์จะอยู่ที่บ้านใหญ่ตระกูล โตเล็กหรือไม่นั้น ตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยชัดเจน แต่ในเมื่อ เขาได้ส่งข้อความของความช่วยเหลือกับคุณแล้ว งั้นก็ พูดได้ว่าคุณชายกานต์จะต้องตกอยู่ในอันตรายเป็น อย่างมากแน่ เขาเชื่อใจคุณ และรู้สึกว่าคุณเป็นโอกาส เพียงหนึ่งเดียวแล้วถึงได้ทำแบบนี้ คุณเจตต์ ผมไม่สนว่า คุณจะรู้สึกยังไงกับตระกูลโตเล็ก แต่ผมขอร้องคุณล่ะ ช่วยคุณชายกานต์ด้วย ถือซะว่าเพื่อคุณนายทั้งหมด ก็ได้”

หัวคิ้วของเจตต์ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง

เพื่อนรมนเหรอ?

แม้แต่พฤกษ์ยังรู้จักใช้นรมนมาเป็นตัวล่อตัวเองเลย แต่ว่าทำไมถึงได้มีแต่ตัวนรมนเองที่มองความรู้สึกที่เขามี ต่อเธอไม่ชัดล่ะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ