แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 938 เอาตามที่เธอว่าเลย



บทที่ 938 เอาตามที่เธอว่าเลย

“อืม พี่มาเยี่ยม ช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อกับพี่สาวนายเลย ไม่รู้ว่าเธอ เป็นอย่างไรบ้าง”

นรมนคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดบอกไป ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้เธอ ถูกเชษฐ์กักขังอยู่บนเกาะ และไม่รู้ว่าทางด้านคมทิพย์มีปัญหา อะไรบ้างรึเปล่า เลยมาเยี่ยมดูเธอ แต่ดูเหมือนว่าคมทิพย์คงไม่ ต้องให้เธอเข้าไปช่วยเหลือแล้ว

น้องชายที่เป็นอัมพาตกับพ่อที่มีปัญหาทางสมอง เธอต้องทำ อย่างไร?

ดวงตาของปัญญ์หมองลงเล็กน้อย

“พี่นรมน ช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ?”

“อะไรเหรอ”

“พี่ช่วยหางานที่ทำที่บ้าน ให้ผมได้ไหม ตอนแรกผมสมัครงาน เกี่ยวกับการแปลไป แต่เพราะผมไม่มีเวลาส่งต้นฉบับ เขาจึงไม่ เอาผม ตอนนี้ภาวะทางการเงินของครอบครัวเราไม่ค่อยดี และพี่ สาวของผมก็เหนื่อยมากๆ ในครอบครัวผมเป็นผู้ชาย จะปล่อย ให้พี่สาวทำงานลำบากแบบนี้ไม่ได้ ผมแค่หวังว่าพี่จะช่วยหางาน ให้ผม เป็นเงินเท่าไหร่ก็ได้ครับ ตราบเท่าที่ผมสามารถแบ่งเบา ภาระบางส่วนของพี่สาวได้

เมื่อปัญญ์พูดอย่างนั้น นรมนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
ปัญญ์เคยเป็นทายาทเศรษฐีที่มีความกระตือรือร้น แต่ตอนนี้ เนื่องจากความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลโตเล็กได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอจึงรู้สึกไม่สบายใจมาก

“พี่จะช่วยนายเอง ไม่ต้องห่วง

“พี่นรมน ผมรู้ว่าพี่มีจิตใจที่ดี และพี่คงจะคิดว่าที่ตระกูลเจริญ ไชยของเราเป็นแบบนี้เป็นเพราะพี่และตระกูลโตเล็ก แต่พี่สาว บอกผมว่า นี่คือความหายนะของตระกูลเจริญไชยของเรา ไม่ เกี่ยวอะไรกับพวกเอาตามที่เธอว่าเลย เธอบอกว่าตอนนี้เธอ เสียใจมาก ที่ช่วยอะไรเอาตามที่เธอว่าเลยไม่ได้ แต่ถ้าพี่เอาตาม ที่เธอว่าเลยต้องการความช่วยเหลือจากเธอจริงๆ ก็ให้รีบพูด ออกมาได้เลย เธอก็ยังเป็นคนทิพย์คนเดิม”

หัวใจของนรมนก็ร้อนขึ้น และมีร่องรอยของการเผาไหม้

“ในชีวิตนี้พี่สาวของนายและฉันเป็นพี่น้องที่ดีที่สุด นายไม่ ต้องกังวล ฉันรู้ว่าครอบครัวของนายดื้อรั้นมาก และไม่ต้องการ รับความช่วยเหลือทางด้านการเงินกับฉัน ฉันจะตั้งใจหางานให้ นาย ให้นายสามารถแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวได้

“ขอบคุณครับพี่นรมน”

ในที่สุดปัญญ์ก็หัวเราะ ยิ้มอย่างสดใส เหมือนกับเด็กที่สดใส ที่เธอเคยรู้จัก

แต่นรมนกลับยิ้มไม่ออก

เมื่อเธอออกมาจากตระกูลเจริญไชย เธอรู้สึกหดหู่ และอึดอัดเล็กน้อย

นรมน โทรหาบุริศร์อย่างรวดเร็ว

“พฤกษ์ออกมารียังคะ?”

“ออกมาแล้วครับ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เสียงของบุริศร์นั้นหนักขึ้นเล็กน้อย

“ฉันอยู่ที่ตระกูลเจริญไชย ทางนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ นรมนพูดถึงเรื่องของปัญญ์

บุริศร์ไม่ลังเลและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ผมจะโทรหาบริษัทหนึ่ง พอดีช่วงนี้ในส่วนงานแปลค่อนข้างยุ่ง เดิมที่บริษัทวางแผนที่จะ จ้างคน ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้ปัญญ์ทำเถอะ เขาเคยเป็นทายาท เศรษฐี ภาษาต่างประเทศคงดีไม่น้อย ผมจะจัดการให้คนไปรับ ต้นฉบับทุกวัน เพราะเป็นเอกสารสำคัญและการส่งทาง คอมพิวเตอร์ก็ไม่สะดวก เงินเดือนก็ให้ตามเงินเดือนของทำงาน ทั่วไปล่ะกัน”

“ขอบคุณนะคะ บุริศร์”

“ขอบคุณอะไรผมครับ ก็เป็นสามีภรรยากัน ถึงอย่างไรเราก็ เป็นหนี้ตระกูลเจริญไชย แต่ตระกูลเจริญไชยดื้อรั้นมากกว่าที่จะ รับเงินช่วยเหลือ คุณเจอคมทิพย์ไหม?”

เมื่อได้ยินคําถามของบุริศร์ นรมนก็ถอนหายใจและพูดว่า “เธอพาคุณลุงนารธิปไปที่บ้านพักคนชรา ฉันเดาว่าคงจัดการเรื่องคุณลุงนารธิป เธอมีเงินเก็บไม่มาก และตอนนี้เธอก็มี อุปสรรคมากมายหลายอย่าง

“พฤกษ์มีผมอยู่ คุณไม่ต้องกังวล ส่วนทางคมทิพย์คุณก็ระวัง ด้วย อย่าให้ตัวเองเป็นอะไร โทรหาผมได้ตลอดเวลาหากคุณมี อะไร”

“ค่ะ”

นรมนวางสายด้วยความสบายใจ อย่างไรก็ตามงานของ ปัญญ่ได้จัดการแล้ว

หลังจากที่เธอขึ้นรถและบอกที่อยู่ของชัยยศ เธอก็โทรหา

“ช่วยฉันตรวจสอบที่อยู่ของชยนต์ คนคนนี้จะไม่หายไปจาก

โลกนี้แน่ๆ ก่อนหน้านี้ฉันมัวแต่ยุ่งกับเรื่องของเชษฐ์ จนลืมคนคน

นี้ไปเลย ตอนนี้ฉันต้องชำระบัญชีกับเขา”

น้ำเสียงของนรมนเย็นชา

นภดลตอบรับ

หลังจากวางสายแล้ว นรมนก็เอนหลังพิงเก้าอี้ วันนี้รู้สึกอึดอัด เป็นพิเศษ ราวกับว่าลูกในท้องของเธอรู้สึกเจ็บปวด

นโมนไม่กล้าขยับ เพียงพิงเบาะและพักผ่อน

ในไม่ช้า ชัยยศก็ขับรถไปยังที่อยู่ของปัญญ์

นรมนลืมตาขึ้นและเหลือบมองไป นี่มันเรียกว่า โรงพยาบาลที่ไหนกัน เป็นเพียงคลินิกเล็กๆ เท่านั้น และประตูก็พังยับเยิน ไม่รู้ว่าสภาพสุขาภิบาลภายในเป็นอย่างไร

เธอไม่ได้ดูถูกคลินิกเล็กๆ เธอแค่กังวลเท่านั้น

หลังจากที่นรมนลงจากรถ ก็ผลักประตูและเดินเข้าไป เธอไม่ คิดว่าภายในจะแออัดมากขนาดนี้

จากระยะไกล เธอเห็นผมทิพย์คอยสนับสนุนชายวัยกลางคน เข้าแถวในฝูงชน

มีผู้คนมากมายที่นี่ และผู้ชายบางคนมองไปที่รูปลักษณ์สวย สดงดงามของคมทิพย์ และอดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้เธอ และจงใจ

ร่างกายของเธอ

คมทิพย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย และพยุงคุณลุงนารธิปให้ฟังด้าน ข้าง ผู้คนจากด้านหลัง ใช้โอกาส เบียดตัวเข้าไปทันที

“เดี๋ยวค่ะ นี่ที่นั่งของฉันนะคะ”

คมทิพย์โต้เถียงอย่างรวดเร็ว แต่ถูกผลักไสโดยคนที่อยู่ด้าน หลัง

“ที่นั่งของเธออะไรกัน? เมื่อครู่เธอออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ไป ต่อแถวใหม่ ”

เป็นมนุษย์ป้าคนหนึ่ง ที่ท่าทางหยิ่งผยองมาก

คมทิพย์ต้องการพูดต่อ แต่ชายที่อยู่ข้างๆ ก็เอนตัวเข้ามาอีกครั้ง
นรมน โมโหจนหน้าอกรู้สึกเจ็บไปหมด

เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเตะกระแทกชายที่เอา เปรียบลงกับพื้นทันที

“ไม่มีความไร้ยางอายที่ทำแบบนี้กับผู้หญิงในที่สาธารณะเลย หรือ?”

ชายคนนั้นไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกนรมนเตะเข้าอย่างจัง

ดวงตาของนรมนจ้องมองไปทันที

“เป็นผู้หญิงด้วยกัน ทำไมต้องมาสร้างความลำบากใจให้กัน ด้วย? และอีกอย่างเธอก็ไปช่วยพยุงคนไข้อยู่ คุณไม่เห็นเหรอ?”

แม้ว่ามนุษย์ป้าจะไม่ค่อยพอใจคมทิพย์เท่าไหร่ แต่พอเห็นนร มนที่แต่งกายดูดีและชัยยศที่อยู่ข้างหลังเธอซึ่งดูเหมือนผู้คุ้มกัน ดังนั้นเธอจึงรีบถอยกลับและหลีกทางให้คมทิพย์

ตาของคมทิพย์ชื้นขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกเกือบจะทนไม่ได้

“เธอมาได้ยังไง?”

“มากับฉัน!”

นรมนคว้าแขนของคมทิพย์แล้วดึงออกมา

“เดี่ยว พ่อฉันต้องไปหาหมอ

คมทิพย์หยุดอยู่กับที่

“หาหมอ? ที่นี่? เธออย่าบอกฉันนะว่าที่นี่เขามีวิธีการรักษาแบบไหน ดูสภาพแวดล้อมที่นี่สิ เธอจะให้พ่อของเธอรักษายังไง กัน? คมทิพย์ เธอจะดื้อรั้นและไม่ก็พึ่งพาคนอื่นก็ได้ แต่ในตอนที่ เธอลําบาก เธอรับความช่วยเหลือจากเราได้ไหม? เรายังเป็น เพื่อนกันหรือเปล่า? ตอนที่ฉันมีฉันเคยมาหาเธอไหม? ฉันปฏิเสธ ความช่วยเหลือจากเธอไหม? และนี่มันอะไร? เธอทำได้แต่ฉันทำ ไม่ได้เหรอ? แบบนี้ก็เหมือนกันว่าเธอยิ่งใหญ่มากยึดมั่นในเธอ ธรรมสูง ใช่ไหม? แต่ก็ทำให้พ่อของเธอ น้องชายของเธอลำบาก คิดเหรอว่าความดื้อรั้นแบบนี้มันจะมีประโยชน์”

นรมน โกรธขึ้นมาทันที

คมทิพย์ถูกเธอว่ากล่าว ผู้คนรอบตัวเธอก็ต่างพากันมองมา เธอจึงอดไม่ได้ต้องไปพาคุณลุงนารธิปออกจากคลินิก

ลมข้างนอกค่อนข้างเย็น

คมทิพย์ถอดผ้าพันคอออกแล้วพันให้กับคุณลุงนารธิป

คุณลุงนารธิปเพ้อๆ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขา แค่มองไปในทิศทางเดียวตลอด และเรียกคมทิพย์และชื่อภรรยา ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คมทิพย์หยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดหน้าคุณลุงนารธิป จาก นั้นมองไปที่นรมนที่ยังโกรธอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ดื้อรั้น หรือยึดมั่นในคุณธรรมสูง ฉันก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น เมื่อก่อน ฉันมักจะรู้สึกตัวเองมองเงินทองเป็นแค่ฝุ่นละออง จนถึงวันนี้ฉัน ถึงได้รู้ว่าเงินทองนั้นมันสำคัญมาก นรมน ฉันเคยโทรหาเธอ แล้ว ส่งข้อความไปยืมเงินเธอแล้ว แต่เธอไม่เคยตอบฉันเลย ฉันไม่รู้ว่าสถานการณ์ของเธอเป็นอย่างไร แต่ฉันติดต่อเธอคนแรก จริงๆ”

เธอมองไปที่นรมนด้วยน้ำตา

นรมนรู้สึกเจ็บปวดใจในทันที

“ฉันขอโทษ ก่อนหน้านี้ฉันถูกเชษฐ์กักขังอยู่บนเกาะร้าง ที่นั่น สัญญาณถูกบล็อก ฉันไม่ได้รับข้อความของเธอ เพราะเรื่องของ ฉันทำให้บริศร์ต้องวิ่งไปทั่วสารทิศ เพื่อตามหาฉัน เลยไม่ได้มา ดูแลเธอ ฉันขอโทษ คมทิพย์ ฉันขอโทษที่ดูแลเธอไม่ดี”

นรมนก็ไม่สามารถโกรธได้

คมทิพย์ส่ายหัว ทัดผมยาวไว้ข้างหลังใบหู แล้วพูดด้วยรอย ยิ้มจางๆ ว่า “ดูสิ เราแต่ละคนก็มีเรื่องของตัวเอง ที่ฉันไปแบบนั้น ไม่ได้จะว่าอะไรเธอ หรือตำหนิเธอ ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่า บางครั้งก็หมดเรี่ยวแรงไปบ้าง เซลล์สมองของพ่อฉันตายไปบาง ส่วนแล้ว หมอบอกว่าค่าผ่าตัดสูงมาก ฉันไม่รู้ว่าขาของน้องชาย จะหายดีหรือเปล่า ตอนนี้เพราะจ่ายค่ารักษาไม่ไหว เลยต้องให้ เขากลับไปอยู่บ้านก่อน ฉันขอยืมเงินเธอหน่อยได้ไหม? ไม่รู้เมื่อ ไหร่จะสามารถจ่ายคืนได้ ฉันจะรีบหางานทำให้เร็วที่สุด

นรมนไม่เคยรู้ว่าเธอและคมทิพย์จะห่างเหินกันมากขนาดนี้

คมทิพย์ที่เธอรู้จักว่ามีจิตใจสูงส่งอยู่เสมอ แม้ว่าตอนที่เธอยัง เป็นเด็กกำพร้า เธอก็ไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยเลย แต่ตอนนี้ที่เธอมา ขอยืมเงินจากตัวเธอเอง ความรู้สึกต่ำต้อยนั้นค่อยๆ ทำร้าย หัวใจของนรมนอย่างมาก
“คุมทิพย์ เธอทำแบบนี้ทำให้ฉันปวดใจรู้ไหม?”

“ฉันก็ไม่อยากเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่นรมน ฉันก็ไม่มีทางอื่น ฉันต้องการเงิน พ่อของฉันจะรอช้าไม่ได้แล้ว และน้องชายของ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ฉันไม่มีจิตใจไปคิดเรื่องอื่นๆ ถ้า เธอเป็นเพื่อนฉันจริงๆ ให้ฉันยืมเงินหน่อยได้ไหม?

“เท่าไหร่?”

นรมนรู้ว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยไม่ว่าจะพูด อะไรก็ตาม

คมทิพย์หยุดและพูดด้วยเสียงเบา “แปดล้าน”

“โอเค ฉันจะให้เธอ เธอไปถอนเงินกับฉัน ฉันจะหาโรง พยาบาลและเตรียมการเรื่องผ่าตัดให้คุณลุง ขาของปัญญ์จะ ล่าช้าไม่ได้ ฉันได้ติดต่องานให้เขาแล้ว และก็จ้างพยาบาลมา ดูแลแล้วด้วย เธออยู่คนเดียวจะเหนื่อยเกินไป ไม่สามารถดูแล คนป่วยสองคนได้หรอก”

เมื่อได้ยินการจัดเตรียมของนรมน คมทิพย์ก็ไม่ได้คัดค้าน

“เอาตามที่เธอว่าเลย”

“งั้นไปกับฉัน”

นรมนพาคมทิพย์และคุณลุงนารธิปขึ้นรถ และตัวเองก็เข้าไป ในรถด้วยเช่นกัน

หลังจากที่ชัยยศสตาร์ทรถ นรมนก็นึกถึงบางอย่างได้ เธอมองไปที่ผมทิพย์และกระซิบว่า “เธอกับพฤกษ์เป็นอย่างไรบ้าง?

“เลิกกันแล้วค่ะ”

คมทิพย์พูดว่ามันราบเรียบมาก ไม่มีความโศกเศร้าใดๆ และ มองไม่ออกถึงอารมณ์ใดๆ ทำให้นรมนรู้สึกประหลาดใจเล็ก น้อย

“ทําไมล่ะ?”

“ตอนนี้ฉันไม่คู่ควรกับเขาแล้ว และฉันก็ไม่อยากลำบากเขา เลิกกันดีที่สุดแล้วค่ะ”

คมทิพย์หันหน้าไปมองด้านนอก แต่มือจับที่ประตูไว้แน่น

นรมนรู้สึกอึดอัด ไม่รู้จริงๆ ว่าควรบอกเธอว่าพฤกษ์ประสบ อุบัติเหตุทางรถยนต์รึเปล่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ