แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 662 วันนี้ผมจะร้องเพลงให้คุณเพลงหนึ่ง



บทที่ 662 วันนี้ผมจะร้องเพลงให้คุณเพลงหนึ่ง

นลิน?

ทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญเจอนลินที่นี่

ตอนแรกนลินถูกบุริศร์บังคับส่งออกไปจากเมืองชลธี เล่ากัน ว่าส่งออกไปต่างประเทศ ทำไมตอนนี้จึงมาปรากฏตัวที่นี่?

เห็นได้ชัดว่า นลินก็เห็นนรมนกับบริศร์เหมือนกัน

สำหรับนรมน นลินมีความเคียดแค้น แต่สำหรับบุริศร์ เธอรัก แต่ไม่อาจได้ครอบครอง

วันนี้ได้เจอพวกเขาทั้งสอง นลินก็แปลกใจเช่นกัน

นับว่าบุริศร์มีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว

“ไป! พวกเราไปเลือกบริษัททัวร์อื่นเถอะ”

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การได้มาเจอกับนดินที่นี่ บุริศร์ก็ไม่ ต้องการใช้บริษัททัวร์นี้กับนรมนอีก

นลินเรียกพวกเขาเอาไว้

“ประธานบริศร์ คุณนายบุริศร์ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะคะ! นลินยิ้มกว้าง ไม่เหมือนกับท่าทางเมื่อก่อนที่เมืองชลธี

นโมนอดไม่ได้ที่จะปลงกับสิ่งต่าง ๆ บนโลกที่เปลี่ยนแปลงไป มากมาย คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะได้มาพบกันที่นี่ และในวันนี้ เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะกล่าวทักทายนอิน

บริศร์ถึงนรมนไปไว้ด้านหลังเพื่อปกป้องทันที และเอ่ยถาม อย่างเย็นชา “ฉันจำได้ว่าเธออยู่ต่างประเทศ ใครใช้ให้เธอกลับ มา? ”

“ประธานบริศร์ ท่านช่างชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่จริง ๆ ที่นี่ย นนาน ไม่ใช่เมืองชลธี ท่านยังต้องการแบนฉันต่ออีกเหรอคะ? ในต่างประเทศ ฉันไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิต และภาษาก็ไม่ เหมือนกัน ประธานบริศ ต้องการให้ฉันอดตายอยู่ที่ต่างประเทศ เหรอคะ? ”

คําพูดของนลินเหมือนเป็นการฟ้องร้อง

บุริศร์กล่าวอย่างไม่แยแส ฉันจำได้ว่าฉันให้เงินเธอไปก้อน หนึ่งแล้ว เงินก้อนนั้นถ้าใช้ให้ดี สามารถอยู่ได้ถึงอายุหกเจ็ดสิบ

“ประธานบริศร์ ความหมายของท่าน ในตอนนั้นคือต้องการให้

ฉันออกไปจากชีวิตพวกท่าน ไม่ทำลายชีวิตของพวกท่าน ตอนนี้

ฉันอยู่ที่นี่ก็เหมือนกัน ถ้าพวกท่านไม่มา ชีวิตนี้พวกเราก็คงไม่ได้

มาพัวพันกันอีก พูดมาถึงตรงนี้ ฉันยังต้องขอบคุณประธานบริศร์

เงินที่ท่านมอบให้ฉันเพียงพอที่จะให้ฉันซื้อบ้านที่นี่ได้ และยัง

สามารถเปิดบริษัททัวร์เล็กๆ พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้อีก ก็ไม่

เลวนะคะ เป็นอย่างไรบ้าง? ประธานบริศร์กับคุณนายบุริศร์มา

เที่ยวที่นี่เหรอคะ? ”

ราวกับว่านลินจะลืมเรื่องทุกอย่างก่อนหน้านี้ไปแล้ว ดูเข้าถึงได้ง่ายเป็นพิเศษ

นรมนนึกถึงเรื่องทุกอย่างในตอนแรก ก็ค่อนข้างรังเกียจ

เธอหันตัวเดินไป

บุริศร์เห็นนรมนเดินไป จึงเอยอย่างไม่แยแส เปิดร้านของเธอ เองให้ดีเถอะ ส่วนพวกเรามาทำอะไร ไม่ใช่กงการของเธอ”

พูดจบ เขาก็รีบตามนรมนไปอย่างรวดเร็ว

“นโมน รอด้วย! ”

บุริศร์รู้ นรมนอาจจะนึกถึงความทรงจำที่ไม่มีความสุขเมื่อ ก่อนขึ้นมา เขารีบกล่าวว่า ถ้าคุณไม่โอเค ผมจะส่งคนไปเอาตัว เธอออกไป รับรองเลยว่าเธอจะไม่มาขวางหูขวางตาคุณ

นรมนได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ จึงหยุดเดินทันที

นลินออกไปจากชีวิตของพวกเขานานแล้ว ตอนนี้อาศัยอยู่ที่นี่ ก็ถือว่าโอเค ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามาที่นี่ อาจจะเป็นอย่างที่ นลินพูดจริงๆ ชีวิตนี้พวกเขาจะไม่มีวันได้มาพัวพันกัน

คิดถึงตรงนี้ นรมนถอนหายใจอย่างโล่งอก และกล่าวด้วย ภาษามือว่า”ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากออกมาเดินเฉย ๆ ”

“พวกเราเปลี่ยนบริษัททัวร์กันเนอะ?

“ค่ะ! ”

นโมนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทั้งเรื่องนี้ออกไปจากสมอง เพียง แต่บุริศร์กลับให้พฤกษ์ติดต่อว่ามีคนของพวกเขาอยู่ในยูนนานถ้าหากมี ให้ส่งคนมาตามดูนลิน เขายังไม่วางใจนลิน

นลินไม่กลับไปหาพวกเขาที่เมืองชลธี ไม่ได้หมายความว่าเธอ ไม่เก็บความเกลียดชังไว้ในใจ บุริศร์ยังจำได้ว่าตอนนั้นนลินถูก ตนเองส่งออกไปอย่างไร

เหตุผลที่เธอไม่กลับมา อาจเพราะตอนนี้ตนเองยังไม่มีความ แข็งแกร่ง

วันนี้เขากับนรมนมาที่นี่ตัวเปล่า ใครจะรู้ว่าที่นี่นดินมีความ ช่วยเหลือจากภายนอกหรือเปล่า?

ถ้าเธอต้องการต่อต้านนรมนจริงๆ เขาไม่ต้องการอยู่นิ่งเฉย เกินไป

หลังจากพฤกษ์ฟังจบ ก็เริ่มจัดแจงคนอย่างรวดเร็ว

ที่นี่ไม่มีคนของตระกูลโตเล็ก แต่มีคนของอาณาจักรรัตติกาล หลังจากพฤกษ์บอกเรื่องนี้กับบริศร์ บุริศร์ก็เงียบไปพักหนึ่ง

ตอนนี้กิมจิเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างของอาณาจักรรัตติกาล และในตอนแรกกิมจิถูกคุณนายตระกูลโตเล็กสั่งให้ปฏิบัติต่อนร มนอย่างไร บุริศร์ยังคงจำได้ขึ้นใจ

วันนี้เขากลับไม่กลัวว่ากิมจิจะทำอะไรนรมน แต่เขากลัวว่านร มนจะไม่อยากเจอกิมจิ

เนื่องจากนรมนเป็นคนที่ไม่สามารถให้อภัยคนที่หักหลังได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิมจิบีบบังคับจนคุณนายทวีทรัพย์ ธาดาถึงแก่ชีวิต

แต่ตอนนี้ถ้าปล่อยให้นลินทำอะไร บุริศร์ก็ไม่อาจยอมได้เช่น กัน

คิดอยู่สักพักหนึ่ง เขาจึงกล่าวว่า “บอกกิมจิให้ส่งคนมาที่นี่ แต่ อย่าให้นรมนรู้ถึงการมีอยู่ของเขา ในกรณีที่นรมนเกิดอันตราย เพราะการมีอยู่ของเขา ฉันจะยุบอาณาจักรรัตติกาลอย่างไม่ สนใจทุกอย่าง ถึงแม้จะคู่ควรกับตระกูลโตเล็กจริง ๆ ฉันจะไม่ ลังเลเลย”

คำพูดของบุริศร์หนักแน่น พฤกษ์รู้ถึงความสัมพันธ์ของคุณ และโทษในนั้นไปโดยปริยาย

เขานำคำพูดเหล่านี้ส่งต่อให้กับกิมจิทันที

แน่นอนว่านรมนไม่ได้ยินสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากบริศร์ไม่อยากให้ เธอรู้

เธอแค่รู้ว่าเขาคุยโทรศัพท์ ส่งวีแซท และไม่รู้ว่ากำลังยุ่งกับ อะไร แต่เธอสามารถเดาออกได้อยู่บ้าง

ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่อาณาเขตของบุริศร์ หลังจากเจอกับนลิน เขา ต้องการจัดการอะไรที่ยังสามารถเข้าใจหรือให้อภัยได้

มีบุริศร์อยู่ นรมนไม่กังวลปัญหาเรื่องความปลอดภัย เธอมองเห็นบริษัททัวร์ข้างทางกำลังแจกใบปลิว จึงเดินเข้าไปหา
เด็กผู้หญิงเห็นนรมนเดินเข้ามา จึงรีบแนะนำอย่าง กระตือรือร้น คนสวย มาเที่ยวที่นี่หรือเปล่าคะ? คุณต้องการไป สิบสองปันนา? หรือว่าลี่เจียงต้าหลี่ดีคะ? ฉันจะบอกคุณว่า ถ้า คุณต้องการรับประทานผลไม้รสหวานและอาหารเลิศรส คุณ สามารถเลือกไปเส้นทางสิบสองปันนา ซึ่งจะสามารถรับประทาน ไปได้ตลอดทางไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าต้องการสัมผัสกับ ทัศนียภาพเพื่อความผ่อนคลาย ฉันขอแนะนำให้คุณเลือกลี่เจียง ต้าหลี่ ทางฝั่งพวกเราเป็นกรุปแยก คุณสามารถพิจารณาดูได้ค่ะ”

นรมนได้ฟังก็แปลกใจ เธออยากถามมากว่าอะไรคือกรูปแยก แต่ตอนนี้เธอพูดไม่ได้

บริศ เดินเข้ามาพอดี เขาโอบไหล่นรมนอย่างเป็นธรรมชาติ ถามว่า “กรุปแยกคืออะไรเหรอ?

เด็กผู้หญิงเห็นบริศร์หน้าตาหล่อเหลา แถมยังดีกับนรมนแบบ นี้ จึงตอบด้วยรอยยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ กรุปแยกคือนักท่องเที่ยว ที่มาจากทุกที่ของประเทศมารวมกันเป็นกลุ่มชั่วคราว เพราะทุก คนมีจุดหมายเหมือนกัน ดังนั้นค่าเดินทางจึงค่อนข้างถูก เพียง แต่จะมีจุดให้ช้อปปิ้งสองสามแห่ง เรื่องนี้อันที่จริงฉันคิดว่าไม่ใช่ ปัญหา ไหนๆ ก็มาเที่ยวที่นี่แล้ว ก็ควรจะซื้อของฝากเป็นที่ระลึก สักหน่อยจริงไหมคะ? ซื้อจากข้างนอกก็แค่ซื้อเฉยๆ แต่ถ้าซื้อใน สถานที่ท่องเที่ยวจะมีไกด์แนะนำประวัติและที่มาของสินค้าที่พวก คุณซื้อ ค่อนข้างดีเลยจริงไหม? คุณผู้ชายดูรักภรรยามาก ที่นี่ พวกเรามีสถานที่ผลิตหยกเป็นพิเศษ คุณสามารถพาภรรยาของ คุณไปดูได้ พวกเราที่นี่ ผู้หญิงทุกคนจะมีกำไลหยกเป็นของตนเอง เป็นตัวแทนแสดงถึงความสุข”

ได้ยินเด็กผู้หญิงพูดเช่นนี้ บุริศร์รู้สึกตื่นเต้นทันที

“เป็นอย่างไรบ้าง? หรือว่าพวกเราเข้าร่วมกลุ่มนี้ดี

นรมนมองบุริศร์และพยักหน้า

เธอชอบหยก เรื่องนี้บริศร์ และนี่อาจเป็นเหตุผลที่บริศ เลือก มาเที่ยวที่นี่

เด็กผู้หญิงเห็นพวกเขาตกลง จึงแนะนำให้พวกเขาขึ้นรถทัวร์

อย่างกระตือรือร้น

เมื่อบริศร์มองเห็นรถทัวร์ จึงถ่ายรูปส่งไปให้พฤกษ์ ให้เขา ตรวจสอบฐานของรถ

ผ่านไปไม่นาน กิมจิก็ส่งรายละเอียดของรถคันนี้ที่ต้องการมา

ให้

บุริศร์นิ่งไปสักพัก เขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากเกินไป มอง เห็นรถคันนี้นับว่ามีแนวทางที่ถูกต้อง ถึงจะขึ้นรถไปกับนรมน

บรรยากาศบนรถยังค่อนข้างดีมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่บุริศร์มาเที่ยวกับคนแปลกหน้ามากมายเช่นนี้ และทุกคนยังมาจากทั่วทุกพื้นที่ คนรวยคนจนมารวมตัวกัน ทำให้บริศร์รู้สึกแปลกใหม่มาก

กรุปแยกจะอิงครอบครัวเป็นกลุ่มคน และให้หมายเลข ครอบครัวแก่พวกเขา กล่าวกันว่าเมื่อไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสามารถตะโกนเรียกหมายเลขครอบครัวเพื่อให้มารวมตัว กัน

หมายเลขครอบครัวของนรมนกับบริศร์คือ 12

ทั้งสองนั่งอยู่บนรถทัวร์ ฟังไกด์ใช้ภาษาถิ่นอธิบายทัศนียภาพ และประวัติศาสตร์ไปตามทางนรมนฟังจนเคลิบเคลิ้ม

บุริศร์กลับไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่สายตามองไปที่นรมน หลังจากมาถึงที่นี่ ดูเหมือนนรมนจะละมุนละม่อมและมีความ สุขเป็นพิเศษ แววตาที่ใสสะอาดยิ่งดึงดูดสายตาของบุริศร์

ไกด์ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศบนรถ จึงเริ่มเสนอให้ทุกคน ร้องเพลง

บางคนเขินอาย บางคนปล่อยตัวตามสบายมาก

นรมนมองเห็นพวกเขาสนุกสนานสามัคคีกัน ยิ้มมุมปากอย่าง อดไม่ได้

สําหรับบุริศร์ ตราบใดที่นรมนมีความสุขก็เพียงพอ

ทั้งสองนั่งบนรถทัวร์ที่ขับไปอย่างรวดเร็ว ทางฝั่งนลินกลับได้ ข่าวว่าบุริศร์กับนรมนไปกับกรุปแยก

เธออยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่แม่พระ

กรุปแยกไปสิบสองปันนาก็มีบริษัททัวร์ขนาดเล็กเพียงไม่กี่

แห่งแค่นั้นเอง

ดวงตาของนลินมีร่องรอยความพยาบาทเล็กน้อย
“เตรียมความพร้อมให้ฉันหน่อย ดูว่าพวกมันจะผ่านไปที่ หมู่บ้านไหน อำนาจแท้จริงอยู่ในมือของผู้ดำเนินการสิ่งต่าง ๆ ถ้าพวกมันยั่วยุให้คนในหมู่บ้านโกรธ คงออกมาไม่ได้อย่าง ง่ายๆ ”

นลินหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่รู้ว่าเธอโทรหาใคร อีกฝ่ายตอบ รับทันที

ความอัปยศอดสูที่เธอประสบในเมืองชลธี เธอจะต้องทวงคืน

ที่นี่

แต่เดิมตัดสินใจว่าจะกลับไปล้างแค้นเมื่อมีความแข็งแกร่ง คิดไม่ถึงว่าพระเจ้าจะเห็นใจ พาพวกเขามาที่นี่เอง ถ้าอย่างนั้นจะ โทษเธอก็ไม่ได้

หลังจากวางสาย นลินอารมณ์ดีเป็นพิเศษอย่างน่าแปลกใจ

นรมนกับบุริศร์กลับไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย ทั้งสองคนกลมกลืนไป กับกรุปแยก เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป มีความสุขเป็นพิเศษ

เมื่อถึงตานรมนร้องเพลง บุริศร์จึงรีบเอ่ยว่า”ลําคอของภรรยา ผมมีปัญหานิดหน่อย เลยส่งเสียงไม่ได้ เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะ ร้องเอง”

เห็นบริศ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อต้องการร้องเพลง ผู้หญิงบนรถ ต่างพากันตกลง

นรมนกลับรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากบริศร์ไม่เคยร้องเพลงข้าง นอก มากเสียจนเธอไม่เคยได้ยินเขาร้องเพลงด้วยซ้ำ
เธอมองบุริศร์ด้วยความเป็นห่วง โดยไม่ตั้งใจ

บุริศร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม”ไม่เป็นไร วันนี้ผมจะร้องเพลงให้แก่ คุณ”

“ว้าว! โรแมนติกจังเลย!

เด็กสาววัยรุ่นส่งเสียงอิจฉาทันที

นรมนรู้สึกอายเมื่อถูกทุกคนจ้องมอง ใบหน้าแดงขึ้นอย่าง ห้ามไม่ได้

บริศ ชอบเห็นเธอเป็นแบบนี้ที่สุด

เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม ผมกับภรรยาแต่งงานกันมาหลายปี แล้ว ผมรู้สึกว่าตนเองร้องเพลงเพี้ยนมาตลอด จึงอายที่จะร้อง ออกมา วันนี้ทุกคนอารมณ์ดี ผมขอทำตัวน่าขายหน้าสักหน่อย ร้องเพลงเพื่อภรรยาสักเพลง (สิ่งที่โรแมนติกที่สุด ”

บริศ เอ่ยคำนี้ออกมา ภายในรถคึกคักอีกครั้ง

นรมนนิ่งไป ฟังบริศร์ร้องเพลง เสียงเพลงที่ระรื่นหูดึงดูดทุกคน ทันที

เขาร้องเพลงเพราะมาก!

ส่วนเนื้อเพลงข้างในภายใต้เสียงเพลงที่ซาบซึ้งใจของบุริศร์ เหมือนกับเป็นการสารภาพรัก ทำให้นรมนมึนงงทันที

เธอรู้สึกว่าหัวใจของตนเองมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง และกำลัง เต้นระรัว ไม่ว่าอย่างไรก็หยุดมันไม่ได้……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ