แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 625 เธอจะจากไป



บทที่ 625 เธอจะจากไป

นรมนนั้นสับสนในใจ

เธอรักบุริศร์

แต่ว่าในตอนนี้ เธอจะเจอเขาได้อย่างไร? เจอเขาแล้วจะพูด อะไรได้อีก?

เขาสามารถทำอะไรให้แม่ของเขาได้บ้าง?

หรือทำเพื่อให้เธอไม่เอาตระกูลโตเล็กงั้นเหรอ?

ในใจของนรมนนั้นเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

เธอไม่อยากเจอเขา

แต่ว่าเธอก็ปล่อยลูกของตัวเองไปไม่ได้ ตระกูลโตเล็กไม่มีเธออยู่ไม่รู้ว่าคุณนายตระกูลโตเล็กจะทำ อย่างไรกับกานต์กับกมลบ้าง

กานต์ยังพอไหว เพราะเขาเป็นคนสืบทอดของตระกูลโตเล็ก

คุณนายตระกูลโตเล็กไม่มีทางทำอะไรเขา แต่ว่ากมลจะทำ อย่างไรล่ะ?

คุณนายตระกูลโตเล็กไม่ชอบกมลเป็นอย่างมาก ตอนนี้เก็บ เธอเอาไว้ก็เป็นแค่การแต่งงานกันทางธุรกิจ

นรมนไม่อยากให้ลูกของตัวเองต้องเป็นเครื่องมือในการเชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจเท่านั้น เธอไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองต้อง มาแบกรับทั้งหมดเอาไว้

คิดอยู่สักพัก จากนั้นนรมนก็เขียนจดหมายให้บริศร์ แล้วส่ง ให้มิลิน

“หมายความว่าอย่างไร? คุณไม่เจอเขา แต่ให้ฉันเอาไปส่งให้

เขางั้นเหรอ? ”

นรมนพยักหน้า

การปล่อยปละละเลยมันทำให้ใจเจ็บปวดอย่างที่สุด แต่ว่าอยู่ ด้วยกันยิ่งเป็นไปไม่ได้ และยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเดิม

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เก็บความสวยงามแบบ ในตอนแรกเอาไว้

ดีกว่า

มิลินมองเธอ ก่อนจะพูดเสียงเบาลง “ฉันคิดว่าตามที่คุณรัก เขานั้น จะไปเจอเขาอย่างไม่สนใจอะไรเสียอีก และให้เขาคืน ความยุติธรรมให้คุณ

นรมนอึ้งไปสักพัก

ยุติธรรมเหรอ?

ความยุติธรรมคืออะไร?

หลังจากที่ความรักถูกผสมปนเปแบบนี้ ก็มีสวยงามเหมือนเก่า แล้ว เพียงแค่เธอดื้อดึงไม่ยอมแพ้ พยายามให้ตัวเองเข้ากับคน ของตระกูลโตเล็กให้ได้ สุดท้ายจะเป็นอย่างไรตัวเองไม่เคยคิดเลย และจะปกป้องอะไรไม่ได้เลย

คุณย่าพูดถูก การน้อยใจกับความรักและการแต่งงานที่มีนั้น ทําให้ไม่มีความสุข

เธอขบริมฝีปากแต่ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าในแววตานั้นพูดทุก อย่างออกมาชัดเจน

มิลินไม่รู้ว่าในใจของนรมนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่กลับพูดเสียง เบา “คุณเก็บของเถอะ เตรียมตัว เดี๋ยวพวกเราจะไปกันแล้ว หลัง จากที่พวกเราไปกันแล้ว ฉันค่อยเอาจดหมายนี้ให้บริศร์ ในเมื่อ คุณไม่อยากเจอเขา งั้นเป็นแบบนี้ก็ดีที่สุด คุณคิดว่าอย่างไร ล่ะ?”

นโมนพยักหน้า

กิจจาอยู่ในอ้อมกอดของเธอตลอด เมื่อได้ยินว่าจะไปจากที่นี่ ก็นิ่งไป แต่กลับอยู่อย่างเงียบๆ เหมือนตุ๊กตาเลยล่ะ

นรมนคิดถึงตอนที่ได้เจอกิจจา เด็กคนนี้ไร้เดียงสาขนาดไหน น่ารักขนาดไหน และเบิกบานขนาดไหน ใครจะไปคิดว่าเด็กที่ เงียบจนทําให้ปวดใจขนาดนี้จะเป็นกิจจาล่ะ?

ผู้ใหญ่พวกนั้นทำร้ายเด็กขนาดไหนกันนะ?

นรมนกอดกิจจาเอาไว้แน่นๆ ในใจก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่าง

มาก

มิลินให้คนเก็บกวาดของ แต่พยาบาลกลับปรี่เข้ามา
“ผู้อำนวยการ มีคนอยากเจอคุณ

“ใครเหรอ? ”

มิลินรำคาญเล็กน้อย ตอนนี้คนที่อยากเจอเธอคือใครกันนะ? พยาบาลรีบพูดขึ้น “เภสัชคนนั้น”

“ต๊ะ? ”

มิลินแปลกใจ นรมนเองก็อึ้งไป

นภดลงั้นเหรอ?

หลังจากที่กลับมาที่เมืองชลธีครั้งที่แล้ว ระหว่างนภดลกับเธอ ก็คิดบัญชีกันไปหมดแล้ว ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนแยกกันไปคนนำทาง ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าวันนี้นภดลจะมาหา มิลิน

มิลินมองนรมน พลางถาม “มาหาคุณเหรอ?

นรมนส่ายหัว

เรื่องของเธอนั้นคุณนายตระกูลโตเล็กปิดอย่างมิดชิด บางที อาจจะผ่านไปไม่นาน ตระกูลโตเล็กก็ปบ่อยข่าวออกมาว่าเธอ หอบสมบัติของตระกูลโตเล็กแล้วหนีไป หรือก็มีข่าวว่าเธอตาย แล้ว โดยรวมเธอในตอนนี้ คุณนายตระกูลโตเล็กไม่มีทางให้ คนนอกรู้เด็ดขาด

นภดลยิ่งไม่มีทางรู้ได้

มิลินเห็นนรมนส่ายหัว ก็ขมวดคิ้วพลางพูดอยู่คนเดียว “งั้นเขาจะมาทำไมกันนะ? หรือว่าจะเอาเลือดเขามาให้ฉันหรือไง?

มุมปากของนรมนกระตุกขึ้นเล็กน้อย

มิลินบ้าคลั่งกับเลือดของนภดลเป็นอย่างมาก หรือบางทีอาจ จะเป็นความบ้าคลั่งของหมอนรมนไม่มีทางเข้าใจ

“ให้เขาเข้ามาเถอะ

มิลินคิดอยู่นาน แต่ก็ยังให้นภดลเข้ามา

เมื่อนภดลเห็นนรมน ก็อึ้งไป

“คุณนายบุริศร์ คุณเองก็อยู่เหรอ? ”

นโมนพยักหน้า

หลังจากที่นภดลกับเธอทักทายกัน ก็มองมิลินพลางพูดขึ้น “ฉันมาที่นี่เพื่อขอให้คุณช่วยคนคนหนึ่ง

“ไม่ช่วย”

มิลินตอบปฏิเสธไร้เยื่อใย

คำตอบนี้มันเป็นไปตามที่นภดลคิดเอาไว้

เขาไม่ได้โศกเศร้าอะไรมาก ก่อนจะพูดเสียงเบา “ถ้าเกิดคุณ ช่วยฉันในการช่วยชีวิตเธอ ไม่ว่าคุณจะต้องการเลือดฉันเมื่อไหร่ ฉันก็จะให้คุณ”

มิลินอึ้งไป ก่อนจะดีใจอยู่ไม่น้อย

“คุณพูดจริงเหรอ? ”
“คุณนายบุริศร์ก็อยู่ เธอเป็นพยานเพียงแค่คุณช่วยฉันในการ ช่วยเธอ เลือดในร่างกายของฉัน คุณอยากจะใช้เมื่อไหร่ ฉันก็จะ ให้ตอนนั้นเลย นี่ถือเป็นค่าแรงกับสัญญาที่ฉันให้”

“ได้! ตกลง! ”

มิลินตอบตกลงในทันที

นรมนสายหัวเล็กน้อย

นภดลเห็นว่าเตรียมมาดี แต่คนที่ทำให้เขาไม่สนใจอะไรเลย แบบนี้คือฉัตรยางั้นเหรอ?

เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉัตรยาหรือเปล่านะ?

ครั้งก่อนที่เมืองใต้ดิน พวกเขาดูแลฉัตรยาไม่ได้เลย แล้วก็ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอด้วย

นรมนอยากจะถามสักหน่อย แต่คิดอยู่สักพัก ก็ไม่ได้ถามอะไร

ออกไป

ตอนนี้เธอเป็นแบบนี้แล้ว จะไปมีอารมณ์สนใจเรื่องของคนอื่น ได้อย่างไร?

มิลินยิ้มพลางพูดขึ้น “พวกเรากำลังจะออกไปจากที่นี่พอดีเลย ยังไม่รู้จะไปอย่างไร ในเมื่อคุณให้ฉันไปช่วยเหลือคน งั้นคุณก็ ต้องมีวิธีเข้ามาจากด้านนอก แล้วก็มีวิธีพาพวกเราออกจากที่นี่ ด้วยใช่ไหม?

ประโยคนี้ทำให้นรมนลังเลอยู่ไม่น้อย
มิลินรีบอธิบาย “บอกคุณไปแล้วนี่ คนของบุริศร์กับขุนอินเข้า มายุ่มย่ามที่นี่ได้ ที่นี่ถูกปิดแล้ว เข้าออกไม่ได้ นอกจากมีเส้นสาย เท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าว่านายนี่มันมีเส้นสายอะไรถึงเข้ามาใน เมืองAได้ แต่ในเมื่อเขาเข้ามาได้ พวกเราก็ไม่ต้องหาวิธีอื่นออก ไปแล้ว ให้เขาพาพวกเราออกไปเลยดีกว่า”

นรมนเพิ่งจะรู้เรื่องพวกนี้

ดูๆ ไปแล้วคนของบุริศร์กับขุนอินจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องที่ สำคัญแล้วก็อันตรายมากแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่ปิด เมืองAทั้งหมดหรอก

เมื่อได้ยินชื่อคนนี้อีกครั้ง ในใจของนรมนก็เหมือนถูกเข็มทิ่ม

แทง

“คุณกำลังจะบอกว่าพวกคุณจะออกไปหมดเลยเหรอ?

“ใช่ ทําไมเหรอ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ”

มิลินมีท่าทีที่ถ้าคุณไม่ตอบตกลงฉันก็จะไม่ช่วย ทำให้นภดล ชะงักแล้วจึงส่ายหัว

“ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่ฉันคิดว่าคุณนายบุริศร์จะอยู่ต่อ

“เรื่องนี้ผ่านไปแล้วฉันจะบอกกับคุณ คุณอย่ามาเรียกเธอว่า คุณนายบุริศร์ ให้เรียกว่าคุณนรมน ฉันว่าเธอเองก็คิดแบบนั้น ใช่ไหม?

มิลินมองไปทางนรมน
นโมนพยักหน้า

ตั้งแต่คุณนายบุริศร์ถึงคุณนรมน ระหว่างนั้นมีน้ำตามากมาย แค่ไหน มีเพียงเธอเองที่รู้ดีที่สุด

นภดลอึ้งไปสักพัก

บริศร์ เพื่อนรมนขนาดไหน เขามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพียง แค่เห็นนรมนในตอนนี้ ก็กลัวว่าจะมีเรื่องอะไรกับบุริศร์อีก

นภดลเองก็ไม่ได้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน พลางพยักหน้าแล้วพูด “โอเค ฉันไปจัดการก่อนนะ เดี๋ยวพวกเราจะไปกัน

นรมนกอดกิจจา รู้สึกว่าแขนไม่ค่อยปกติ

กิจจาดิ้นออกมา ก่อนจะจูงมือของนรมน ท่าทีที่เข้าใจอะไรดี ทําให้ใจของนรมนเจ็บปวด

เธออยากจะพูดกับกิจจา แต่ว่าคอเจ็บเหมือนถูกไฟไหม้ แต่ก็

พูดอะไรไม่ออกอยู่ดี

มิลินเอาสูตรยาจีนทุกอย่างไปด้วย โดยไม่ได้สนใจอย่างอื่น

เลย

พยาบาลเองก็อดไม่ได้

“ผู้อำนวยการ เครื่องพวกนี้มันแพงมากเลยนะ”

“ของพวกนี้ซื้อที่ไหนก็ได้ ปล่อยมันไปเถอะ เอาของที่สำคัญ ที่สุดไปด้วยก็พอ”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
เอาของที่สำคัญที่สุดไปงั้นเหรอ?

งั้นเธอเอาความรักที่บริสุทธิ์ของบุริศร์ไป คือเป็นเรื่องดีด้วย ใช่ไหม?

เมื่อคิดมาถึงตอนนี้ ในใจของนรมนก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

ทางนภดลนั้นเร็วมาก เพียงไม่นานก็จัดการเสร็จแล้ว

นรมนกับกิจจาและมิลินขึ้นรถ

นี่เป็นคาดิลแลคที่เพิ่มความยาว ราคาดูแพงหูฉีเลยทีเดียว

นรมนจำได้ว่านภดลไม่ได้มีเงินเท่าไหร่ งั้นรถนี้ก็คงไม่ใช่ของ เขา แล้วมันเป็นของใครกันนะ?

ของตระกูลจันทรวงศ์เหรอ?

เมื่อได้ยินว่าเบื้องหลังของฉัตรยานั้นแข็งแกร่งมาก

นรมนไม่มีเวลาคิดมาก รถก็ออกแล้ว

กิจจาจับมือของนรมนเอาไว้แน่น และซบในอ้อมอกของเธอ อย่างเงียบๆ

มิลินอิจฉาเล็กน้อย เลยลองอุ้มกิจจามา แต่ว่าทุกครั้งก็ไม่ สําเร็จ

สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจ เลยมองด้วยความอิจฉา

นภดลนั่งอยู่ด้านหน้า และมีคนขับส่วนตัว

รถออกจากโรงพยาบาลไป ขับออกจากเมือง โดยไม่มีอะไรขวาง

ตอนที่จะผ่านด่าน ข้างหน้ามีอุปสรรคมากมาย และรถของ นภดลเองก็ถูกขวางเอาไว้

มิลินมองด้านนอก พลางพูดเสียงต่ำ “บุริศร์นี่! ”

ในใจของนรมนนั้นเจ็บปวด

กระจกรถมีสีเข้มมาก มองจากข้างในจะเห็นข้างนอก แต่มอง จากด้านนอกไม่เห็นด้านใน

นรมนมองบุริศร์จากนั้นก็วจาก แล้วเกินไปอีกทางหนึ่ง มีเรื่องสำคัญอะไรที่ต้องให้เขามาโบกรถแบบนี้?

ใจของนรมนนั้นเต้นรัว

กิจจามองบุริศร์ แล้วมองนรมน เมื่อเห็นว่านรมนไม่ได้แสดง อะไรออกมา ตัวเองก็อยู่ในอ้อมกอดได้ต่อ โดยไม่ขยับอะไร

มิลินยังกังวลว่าจู่ๆ กิจจาก็ไปพูดอะไรกับบริศร์ แต่ว่าเมื่อเห็น ท่าทีของเขา มิลินก็ปลอบใจและปวดใจ

ถึงอย่างไรบุริศร์ก็เลี้ยงกิจจามาสี่ปี ในด้านความรู้สึกนั้น กิจจาก็สนิทกับบุริศร์อยู่ดี แต่ว่าตอนนี้กลับกังวลว่านรมนจะไม่ ไปหาบุริศร์ ไม่พูดไม่ได้เลยว่าเด็กคนนี้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

บางทีวิธีของคุณนายตระกูลโตเล็กทำร้ายจิตใจเด็กเป็นอย่าง มาก บางทีอาจจะคิดว่านรมนเหลือเพียงเขาเองจริงๆ เขายอม มองบุริศ เดินออกมา แต่ก็ไม่ออกเสียงอะไร
ในใจของนรมนนั้นเจ็บปวด

บุริศร์มาแล้ว!

เขาจะเจอตัวเองไหมนะ?

ตัวเองจะสามารถออกมาจากตรงนี้ได้หรือไม่?

เมื่อบุริศร์เห็นท่าทีของตัวเองในตอนนี้จะเป็นอย่างไรนะ? เขา จะทําอย่างไร?

ปัญหามันขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้นรมนปวดหัว

เธออยากจะลงจากรถแล้ววิ่งหนีไป

ตอนที่มือของนรมนแตะที่รถ มิลินก็จับมือของเธอเอาไว้แน่น พลางพูดขึ้นเสียงเบา “คุณไม่ออกไป พวกเรายังมีทางออกจากที่ นี่ แต่ถ้าเกิดคุณออกไป ก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อ คุณคิดดีแล้ว ถ้าอยากจะ อยู่ต่อ ฉันจะไม่ขวางคุณ

มือของนรมนนั้นนิ่งไป

อยากจะแยกออกไปไหม?

ใช่แล้ว

เธออยากจะออกไป!

เธอไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับคุณนายตระกูลโตเล็ก แต่ก็ไม่ อยากจะเห็นบริศร์ลำบากใจเพราะเธอกับคุณนายตระกูลโตเล็ก

เธอกลัวจะเจ็บตัวอีกครั้ง
ใจที่อ่อนแอของเธอไม่อยากจะแบกรับเรื่องกระทบจิตใจอีก แล้ว

มือของนรมนค่อยๆ วางลง จากนั้น บุริศร์เองก็มาด้านหน้า ของรถ พลางยื่นมือมาเคาะกระจก

“ลงจากรถ แล้วตรวจสอบ! ทุกคนลงมาอยู่ข้างๆ รถเดี่ยว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ