แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 698 เป็นผู้ชายที่มีเอกลักษณ์มาก



บทที่ 698 เป็นผู้ชายที่มีเอกลักษณ์มาก

นิตาก็ยังคงไม่ค่อยชินเท่าไหร่ที่มาเดินกับผู้หญิงคนอื่นอย่างสนิท ชิดเชื้อแบบนี้ และอีกอย่างก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ยังเคยสร้าง ความลำบากให้ตัวเองมาก่อน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ว่าจะ มาคิดว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลยคงจะไม่ได้หรอก

เธอรู้สึกว่าธาวิณีเองก็คงจะไม่มีทางที่จะกระตือรือร้นเหมือน อย่างกับที่แสดงออกมาจริง ๆ หรอก

นิตาค่อย ๆ ซักมือตัวเองออกมาอย่างไม่ให้รู้ตัว จากนั้นก็ทิ้ง ระยะห่างกับธาวิณีเล็กน้อย

ธาวิณีเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น แต่ว่ากลับยิ้มแล้ว พูดขึ้นว่า “นี่คุณนิตายังไม่หายโกรธฉันอีกเหรอ? ฉันเองก็ ยอมรับผิดไปแล้ว หรือไม่คุณนิตาจะตบฉันสักฉาดไหม ตบกลับ มาจะได้ระบายความโกรธบ้าง?

เวลาแบบนี้ นิตาจะมาลงมือกับเธอได้ยังไง?

เห็นได้ชัดว่าธาวิณีแค่พูดไปเท่านั้นเอง แต่ว่าเจตต์กลับพูดขึ้นว่า “ก็ได้นะ เป็นความคิดทีดี นิตา ตบเลย”

มุมปากของนิตากระตุกขึ้นมาทันที

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่นักออกแบบในบริษัทของเขาเหรอ? ทำไมถึงได้ไม่สนใจอะไรสักนิดแบบนี้เลยเหรอ? ธาวิณีกลับยิ่งนิ่งอึ้งไปกับที่เลย

เมื่อคืนเธอได้ตรวจสอบเจตต์มาแล้ว เขาพูดกันว่าผู้ชายคน เป็นคุณชายเจ้าสําราญ แล้วก็ดูแลเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงมา ตลอด ทำไมถึงได้ไม่เหมือนกับเจตต์ที่อยู่ตรงหน้าล่ะ?

เจตต์ไม่ได้สนใจว่าธาวิณีจะคิดอะไรอยู่ พอเห็นนิตาอึ้งอยู่กับ ที่ ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดีดเธอที่หนึ่งแล้วพูดว่า “โง่หรือ เปล่า?”

“อ้ายโยว ไม่โง่ก็โดนคุณดีดโง่แล้ว คุณอย่าดหัวฉัน”

นิตาสะบัดหมัดน้อย ๆ ไว้ แทบอยากจะต่อยเจตต์สักหมัด

พอเห็นท่าทางกัดฟันกรอกของเธอ เจตต์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ขึ้นมา รอยยิ้มแบบนี้ไม่มีการปิดบังสักนิด กลับยิ่งทำให้ธาวิณี อิจฉามากยิ่งขึ้น
ข้อดีของเจตต์ทุกอย่างล้วนเหมาะสมกับมาตรฐานสามีที่เธอ ต้องการตามหา อายุของเธอก็ไม่น้อยแล้ว แล้วตอนนี้มาเจอคน แบบเจตต์เข้า ไม่ว่ายังไงก็จะต้องเอามาอยู่ในมือให้ได้ และอีก อย่างเขาก็รวยมากด้วย นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

พอธาวิณีคิดมาถึงตรงนี้ ก็รีบพูดขึ้นว่า “คุณนิตา ประธานเจต พูดล้อเล่นกันคุณน่ะ

ตอนแรกทั้งสองคนก็ดี ๆ อยู่ แต่เพราะว่าธาวิณีมาพูดแทรกจึง ทำให้อารมณ์ของทั้งสองคนโดนขัดตอนแล้ว

“เอาล่ะ รีบไปซื้อเสื้อผ้าเถอะ อีกเดี๋ยวจะต้องไปพบประธาน ชนกแล้ว”

เจตต์จบการสนทนาไปโดยตรงเลย

ทั้งสามคนมุ่งหน้าตรงไปห้างสรรพสินค้าเลย

ธาวิณีตั้งใจพานิตามาถึงเขตสินค้าระดับหรู พอนิตาเห็นราคาข้างบนก็หมุนตัวเดินหนีเลย แต่กลับโดนเจต รั้งเอาไวซะก่อน

“ทําไมล่ะ?”

เสื้อผ้าของที่นี่แพงเกินไปแล้ว ฉันซื้อไม่ไหวหรอก”
นิตารู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไงดี เสื้อผ้าของที่นี่ แค่ตัวเดียวก็มาก พอให้เธอจะต้องลำบากเป็นเวลานานแล้ว เธอไม่มีทางซื้อหรอก

เจตต่ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบซื้อเสื้อผ้า

“คุณไปทํางานกับผม ก็ต้องแต่งตัวให้มันดูดีหน่อยซิ คุณ วางใจเถอะ เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ต้องให้คุณจ่ายเงินเองหรอก”

“แบบนั้นยิ่งซื้อไม่ได้เลย ฉันกับคุณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ต่อกัน จะมาเอาเปรียบคุณไม่ได้หรอก”

ค่าพูดของนิตาทำให้เจตต์อึ้งไปเล็กน้อย ยังไงก็ยังแปลกใจ อยู่บ้าง ปกติแล้วผู้หญิงพวกนั้นไม่มีคนไหนที่ไม่ชอบให้ตัวเองซื้อ เสื้อผ้ากระเป๋า ซื้อรถซื้อบ้านให้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินผู้หญิง พูดว่าจะเอาเปรียบเขาไม่ได้ เจตต์รู้สึกว่าน่าแปลกมากและแปลก ใหม่ด้วย

“ผมไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินหรอก จะให้นรมนจ่าย นี่ถือว่าเป็นค่า ชุดทํางานตอนออกมาทำงานนอกพื้นที่ของคุณ”

“แต่ว่าชุดทำงานนี้ก็แพงมากเกินไปแล้ว”

นิตายังคงไม่ยอมเห็นด้วย
ธาวิณีร้อนใจจะตายอยู่แล้ว

ผู้หญิงคนนี้คงจะโง่ไปแล้วใช่ไหม?

นี่มีคนจะจ่ายเงินให้ยังไม่ซื้ออีก สมองทําด้วยอะไร?

เจตต์เห็นท่าทางนิตาจะไปแล้วจริง ๆ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ที่ คุณออกมานั้นถือว่าเป็นตัวแทนของนรมน ถ้าหากว่าคุณแต่งตัว ค่อนข้างธรรมดาไปละก็ อีกฝ่ายจะมองบริษัทของนรมนเป็นยังไง ล่ะ? จะรู้สึกว่าบริษัทของพวกคุณเชิดหน้าชูตาไม่ได้ใช่ไหม พอถึง ตอนนั้นทั้ง ๆ ที่จะสามารถยกโครงการกับพวกคุณได้แต่ก็ไม่ให้ พวกคุณแล้ว ในการทำธุรกิจนั้นมีความรู้อยู่อีกมากมาย คุณจะ ต้องเรียนรู้จากผมเยอะ ๆ เลยนะ”

พอพูดจบ เขาก็ทิ้งระเบิดไว้ให้นิตาอีกลูกหนึ่ง นิตาอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร

เธอจ้องมองเสื้อผ้าที่ธรรมดาของตัวเอง แล้วมองดูเสื้อผ้าบน ตัวธาวิณี แล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องยอมจำนน

ที่แท้ที่ตัวเองออกมานี่ถือว่าเป็นหน้าตาของนรมนด้วยเหรอก็ได้
พอคิดมาถึงตรงนี้ นิตาถึงได้หมุนตัวกลับไป แล้วเดินตามเจต เข้าไปในเขตสินค้าระดับหรู

พอเจตต์เห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งอยากจะยิ้มขึ้นมา

ผู้หญิงคนนี้ไร้เดียงสาได้น่ารักจริง ๆ แต่สังคมในสมัยนี้ ผู้ หญิงแบบนี้พบเจอได้น้อยแล้วจริง ๆ มั้ง?

แล้วเขาก็มองไปที่ธาวิณี แล้วเห็นแววตาของที่โผล่ออกมาตอ นที่ธาวิณีมองเสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ดพวกนั้น นี่มันช่างทำให้คน สะอิดสะเอียนมากจริง ๆ

ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบก็ไม่มีการทำร้ายจริง ๆ

เจตต์รออยู่ที่ข้างนอก แล้วให้ธาวิณีพานิตาเข้าไปเดินดู

นิตาเลือกชุดกระโปรงได้ชุดหนึ่ง แล้วกะว่าจะเข้าไปลองใส่ใน

ห้องลองชุด

ธาวิณีรีบตามเข้าไปด้วย และที่สำคัญก็ยังล็อกประตูห้องลอง ชุดด้วย

“คุณจะทําอะไร?”

นิตารู้ว่าธาวิณีไม่ใช่คนที่จะวางความโกรธเกลียดลงได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น เธอจ้องมองเธออย่างเย็นชา ด้วยท่าทางในใจนั้นเข้าใจดี ตอนนี้ธาวิณีเองก็ไม่เสแสร้งแล้ว

เธอจ้องมองนิตาอย่างเย็นชาอยู่ “ฉันขอเตือนเธอนะ เจต เป็น ของฉัน ทางที่ดีที่สุดเธออยู่ห่าง ๆ เขาหน่อย ถ้าหากให้ฉันรู้เข้า ว่าเธออยากจะยึดครองเขาไปละก็ อย่ามาโทษฉันว่าไม่เกรงใจ

“คุณพูดคําพูดมั่ว ๆ อะไรของเธอ? เจตต์ไม่ได้เป็นของคุณ และเขาก็ไม่มีทางเป็นของคุณด้วย คนที่เขาชอบคือประธานบร มนของเราต่างหาก”

นิตารู้สึกว่าธาวิณีนี่สมองจะต้องมีปัญหาแน่ ๆ และขี้เกียจที่จะ พูดกับเธอมาก เปิดประตูออกแล้วอยากจะออกไป แต่กลับโดน ธาวิณีขวางไว้ซะก่อน

“ประธานนรมนของพวกเธอเป็นใคร?”

“อย่างคุณน่ะ แค่เศษหนึ่งส่วนสิบของประธานนรมนของเราก็ เทียบไม่ได้ ก็อย่ามาขายหน้าคนอื่นเขาที่นี่อยู่เลย ฉันขอเตือน คุณนะสงบเสงี่ยมหน่อยก็ดี ไม่งั้นละก็แม้แต่งานก็จะไม่มีให้ทำ แล้ว”

คำพูดของนิตาทำให้ดวงตาของธาวิณีหรี่ขึ้นมาทันที

“เธอสนใจแต่เรื่องของตัวเองให้ดีก่อนเถอะ ตอนแรกเธออยากจะรังแกนิตาอีกสักหน่อย แต่เห็นได้ชัดว่านิตามีการป้องกันตัวไว้แล้ว ก็ยิ่งทำให้ธาวิณียิ่งหงุดหงิด

นิตาไม่มีอารมณ์ลองเสื้อผ้าแล้ว เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยตรงเลย พอเจตจ่ายเงินเสร็จแล้ว ทั้ง สามคนก็ออกจากห้างสรรพสินค้า

เจตต์รู้สึกว่าชุดที่นิตาเลือกมานี้ก็ยังมีเอกลักษณ์มากอยู่ดี ไม่ ได้ดูอ่อนแอ และไม่ได้ดูหวานแหววเกินไป พอสวมใส่อยู่บนตัว ตาแล้ว ทำให้ดูกระฉับกระเฉง เหมือนกับดูเหมือนกับเป็นหญิง สาวมืออาชีพคนหนึ่ง

นิตาเห็นเจตต์มองตัวเองอยู่ตลอด แล้วก็พูดขึ้นอย่างไม่ค่อย เป็นตัวของตัวเองว่า “เป็นยังไง? ไม่สวยเหรอ?”

“สวยมากเลยนะ ใครเป็นคนเลือกล่ะ?”

“ก็ต้องเป็นฉันอยู่แล้ว”

ธาวิณีรีบแย่งตอบขึ้นมา

นิตารู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย แล้วก็ขี้เกียจอธิบายด้วย แล้วก็ เดินไปข้างหน้าเลย พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวถึงพบว่า ตัวเองไม่รู้ ด้วยซ้ำว่าจะไปไหน

“พวกเราจะไปหาประธานชนกกันที่ไหนคะ?”
“วิลล่าฟีนิกซ์”

ตอนที่เจตต์พูดประโยคนี้ออกมานั้น ธาวิณีก็อึ้งไปครู่หนึ่ง “พวกคุณจะไปหาชนกที่วิลล่าฟีนิกซ์เหรอคะ?”

“คุณรู้จักเขาเหรอ?”

ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเจตต์ที่เป็นคนแปลกใจบ้างแล้ว

นิตาก็มองดูธาวิณี มักจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เหมือนจะไม่ค่อย หวังดีเท่าไหร่

ธาวิณียิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เขาเป็นพี่ชายของฉัน! ถ้าบอกว่าพวก คุณบอกว่าจะติดต่อธุรกิจกับพี่ชายฉันตั้งแต่แรก ฉันก็พาพวกคุณ ไปแล้ว วางใจเถอะ การร่วมมือกันครั้งนี้พี่ชายของฉันจะต้อง รับปากแน่ ๆ”

นิตารู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาบ้างแล้ว ชนกไปเป็นพี่ชายของธาวิณีได้ยังไงกัน? แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วมองดูเจตต์เล็กน้อย เจตต์พูดขึ้นว่า “อย่างงั้นก็ดีที่สุดเลย อีกเดี่ยวหวังว่าคุณจะ ช่วยพูดเยอะ ๆ หน่อย
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ใครใช้ให้คุณเป็น…..เจ้านายของฉัน

ล่ะ!”

ธาวิณีอยากจะพูดคำว่าสามีสองพยางค์นี้จริง แต่ว่าเธอไม่กล้า

เธอสามารถมองออกได้ว่า เจตต่ไม่ใช่คนที่จะโดนใครบงการ ได้ง่าย ๆ แต่ว่าก็เป็นเพราะว่าแบบนี้ เธอถึงได้ยิ่งชอบเจตต์มาก ขึ้นไปอีก

เป็นชายที่มีเอกลักษณ์มากจริง ๆ

นิตาเห็นแสงสว่างที่โผล่ออกมาในดวงตาของธาวิณีมันช่าง เปิดเผยมากจริง ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะหันหัวไป

“ประธานนรมน เจตต์โดนจิ้งจอกดึงดูดไปแล้ว”

นิตาถือโอกาสส่งข้อความไปให้นมน

พอนรมนได้รับข้อความก็อึ้งไปครู่หนึ่ง

“สุนัขจิ้งจอกเหรอ?”

“อืม เดี๋ยวฉันจะแอบถ่ายรูปให้คุณดู

แล้วนิตาก็แอบปรับมุมกล้อง แล้วก็ส่งรูปใบหน้าตรง ๆ ของ ๆ ธาวิณีให้นรมนไป

ตอนที่นรมนเห็นธาวิณีนั้นก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนนี้หน้าตาไม่ เลวเลยนะ
คิดไม่ถึงว่าเจตต์ไปสิบสองปันนาครั้งหนึ่ง ก็จะเก็บเกี่ยวได้ มากเลย

ถึงแม้ว่าความตั้งใจแรกของเธอคือตั้งใจจะจับคู่ให้กับนิตา และเจตต์ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนต่างก็ไม่มีความหมาย แบบนั้น แต่เจต สามารถหาผู้หญิงอื่นได้ ก็ถือว่าสามารถทำให้ นรมนดีใจได้เหมือนกัน

แล้วเธอก็ส่งข้อความให้เจตต์โดยตรงอันหนึ่ง

“ไม่เลวเลยนี่ ไปถึงไหนก็สามารถมีสาวงามได้

ตอนแรกเจตต์ยังอยากจะถามธาวิณีว่าพี่ชายของเธอมีความ ชอบอะไร แต่ปรากฏว่าพอได้รับข้อความของนรมนเข้า สีหน้าก็

ขรึมลงทันทีเลย “คุณไปฟังใครพูดไปเรื่อยมา? ในใจของผมมีแต่คุณคนเดียว นะ ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่รู้สึกหน่อย”

เจตต์ขี้เกียจพิมพ์ตัวหนังสือ จึงส่งข้อความเสียงไปเลย ธาวิณีนิ่งอึ้งไปทันทีเลย

อีกฝ่ายเป็นใครนะ?

พอนิตาเห็นท่าทางธาวิณีแทบอยากจะกินโทรศัพท์เข้าไปเลย ก็หัวเราะเสียงต่ำแล้วพูดขึ้นว่า “เห็นหรือยังล่ะ? ประธานนรมน ของเราถึงจะเป็นคนที่เจตต์รักมากที่สุด คุณก็รีบตายใจไปตั้งแต่เนิ่น ๆ เถอะ”

“ประธานนรมนของพวกเธอ?”

ดวงตาของธาวิณีหรี่ลงมาทีหนึ่ง

พอนรมนได้ยินเสียงตอบกลับของเจตต์ ก็ยิ้มแล้วพิมพ์ตอบ กลับไปว่า “มีก็มีไปซิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย คุณจะมาตื่นเต้น อะไร”

“ผมตื่นเต้นกับผีนะซิ! นรมนผมจะบอกคุณให้นะ คุณอย่ามา พูดอะไรไปเรื่อยแบบนี้ คุณชายอย่างผมชาตินี้ทั้งชา ทั้งชาติก็ถูกใจแค่ คุณเท่านั้น นอกจากคุณแล้ว ผมจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น

คำพูดของเจตต์ทำให้ธาวิณีแอบจดจําชื่อของนรมนไว้เงียบ ๆ

ชื่อนรมน ใช่ไหม?

เธออยากจะลองดูว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเทพเทวดามาจากไหน และมีความสามารถอะไรถึงได้สามารถทำให้เจตต์ให้ความ สำคัญเป็นพิเศษขนาดนี้

พอนิตาเห็นธาวิณีสงบนิ่งแล้ว ถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่งได้

พอนรมนเห็นว่าเจตต์จะมาโมเมอีกแล้ว ก็ขี้เกียจที่จะยุ่งกับเขา อีกแล้ว
“นี่ นรมน คุณตอบผมมาซิ! นี่ นี่ นี่! บัดซบเอ๊ย!”

เจตต์หมุนตัวกลับมา ก็เห็นนิตากำลังเล่นโทรศัพท์อยู่

“คุณบอกอะไรนรมนไป?”

“ฉันไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย ฉันกำลังเล่นเกมส์ทำลายเพชรอยู่ คุณดูซิ”

นิตาเอาโทรศัพท์ออกมาให้เจตต์ดู ปรากฏว่าเป็นเกมส์ ทำลายเพชรจริง ๆ ด้วย

เจตต์มองเธออย่างเบื่อหน่ายทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ขอร้องละ ถ้าคุณมีเวลาก็เล่นเกมที่มันฝึกสมองมากกว่านี้หน่อย ไม่งั้นระดับ ความฉลาดแบบคุณ ถ้าผมสอนได้ไม่ดี แล้วจะให้คำตอบกับนร มนได้ยังไงกันล่ะ?”

ดวงตาของธาวิณีหรี่ลงอีกครั้ง

ให้ค่าตอบนรมนเหรอ?

หรือว่าเป็นเพราะว่าคำสั่งของนรมน เจตต์ถึงได้ดูแลนิตาเป็น พิเศษเหรอ?

งั้นจะสามารถเข้าใจได้ไหมว่า ศัตรูแห่งความรักที่แท้จริงของ เธอจะคือนรมนคนนั้นที่ไม่เคยได้เห็นหน้ามาก่อน
สมองของธาวิณีหมุนวนอย่างรวดเร็ว

นิตากลับรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง

อะไรล่ะ

ทำไมเกมส์ทําลายเพชรถึงได้ฉลาดน้อยแล้วล่ะ? อย่างน้อย เธอก็เล่นมาถึงด่านแปดร้อนกว่าแล้วนะ เจตต์อย่างเขาสามารถ ทําได้ไหมล่ะ?

แต่ว่าคำพูดนี้ก็ไม่ได้ถามออกไป กลัวว่าจะได้รับความสะเทือน

แล้วในเวลานี้พอดี เสียงโทรศัพท์ของธาวิณีก็ดังขึ้นมา พอเห็นหน้าจอแสดงชื่อสายเรียกเข้า ธาวิณีก็ยิ้มได้หวานมากเป็นพิเศษเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ