แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 299 นั่นเป็นความเคารพที่ฉันมีต่อเธอ



บทที่ 299 นั่นเป็นความเคารพที่ฉันมีต่อเธอ

นรมนอยากจะผลักบุริศร์ออก แต่ทว่าแรงของเธอไม่ ได้มาก บุริศร์เองก็ไม่คิดจะให้เธอผลัก เลยกอดเธออย่าง เต็มที่ ทำให้นรมนไร้ทางเลือก

บุริศร์รู้สึกถึงการไม่ขัดขืนของนรมน รอยจูบอย่างบ้า อำนาจนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความอ่อนโยน

อันที่จริงเขาหึง ทั้งๆ ที่รู้ว่าระหว่างนรมนกับเจตต์นั้น ไม่ได้มีอะไร แต่ว่ากลับบังคับความหึงหวงในใจไม่ได้ นรมนค่อยๆ ตกอยู่ในห้วงขอรอยจูบของบุริศร์ทีละ

น้อยๆ

ตอนที่ทั้งสองคนหายใจออกมา นรมนซบไหล่ของบุริ ศร์ ก่อนจะถามด้วยความเหนื่อยอ่อน : “แผลของคุณยัง เจ็บ คุณมาได้อย่างไร ? ”

“ไม่วางใจเรื่องของคุณกับลูก” คำพูดของบุริศร์นั้นออกมาจากใจ

กานต์นอนหลับไปหลังจากที่บุริศร์พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่กิมจิถูกบุริศร์ทั้งเอาไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อให้ดูแลกานต์ ตัวเขาเองเลยขับรถออกมา

ในใจของนรมนรู้สึกซึ้งใจมาก แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเอง ควรพูดอะไรออกไป ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก มีหลาย เรื่องที่ไม่มีเวลามาปรึกษาคิดกัน ถ้าเกิดตอนนี้พูดกับบุริศร์ เรื่องการแลกเปลี่ยนของเธอกับนลิน บุริศร์คงโกรธมาก ช่างมันเถอะ รอบุริศร์ดีกว่านี้หน่อยค่อยบอก

เมื่อเห็นว่านรมนเงียบ บุริศร์คิดว่าเธอเหนื่อยมาก และ เป็นห่วง เลยพูดออกไปด้วยความสงสาร : “คุณหลับตา ลงเถอะ รอกมลออกมาเดี่ยวฉันปลุกคุณเอง”

“ฉันจะไปหลังลงได้อย่างไร ?”

นรมนพูดความจริงออกมา

เรื่องถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กันแบบนี้ จนเธอหายใจ แทบไม่ออก เธอจะไปมีอารมณ์นอนลงได้อย่างไร ?

ถึงจะมีอาการงัวเงียบ้าง แต่ทว่าดวงตากลับยังใสแจ๋ว ไม่มีท่าทีว่าจะนอนหลับเลย

บุริศร์ถอนหายใจเบาๆ เลยโอบเธอไว้ในอ้อมกอด “ทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง วางใจเถอะ กมลจะต้องไม่ เป็นไร”

“ขอให้เป็นแบบนั้น”

ในตอนนี้เองทั้งสองคนมัวแต่คิดถึงกมล

ไฟในห้องผ่าตัดดับลง

นรมนอยากจะลุกขึ้นไป กลับคิดว่าหน้ามืด จนเกือบจะ ล้มลงกับพื้น ยังดีที่บุริศร์มาพยุงเอาไว้ทัน

“คุณนั่งก่อนเถอะ ไม่ต้องรีบ”

แต่ทว่าในตอนนั้นนรมนจะไปนั่งลงได้อย่างไร ?

เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินไปที่ห้องผ่าตัดด้วย การพยุงของบุริศร์ ประตูของห้องผ่าตัดเปิดออกแล้ว หมอเหนื่อยอ่อนแรง เมื่อเห็นบุริศร์ก็อึ้งไป แต่ก็พยักหน้า และพูดกับนรมนว่า : “ไม่มีอะไรแล้ว ร่างกายไม่ยอมรับ พวกเราคิดว่าการผ่าตัด ครั้งนี้อาจจะไม่สำเร็จ แต่ตอนที่ผ่าตัดอยู่นั้น เซลล์ใน ร่างกายกมลเริ่มยอมรับและผสานตัว ตอนนี้ไม่มีปัญหา อะไรแล้ว ฉันพูดได้อย่างเต็มอกเลยว่า ผ่าตัดของเธอใน ครั้งนี้มันสำเร็จเป็นอย่างมากเลยล่ะ ! ”

เมื่อได้ยินหมอพูดแบบนี้ นรมนก็มีน้ำตารื้นขึ้น

ห้าปีแล้ว

!

สุดท้ายกมลของเธอก็มีประกายออกมาเหมือนกับคน ทั่วไปแล้ว

ความรู้สึกที่ความหวังมันประสบผลสำเร็จนี้ทำให้เธอ เก็บเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ

บุริศร์มองท่าทีของนรมน ก็สงสาร และรู้สึกแย่ แต่ กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป

นี่เป็นลูกสาวของพวกเขา เธอผ่าตัดสำเร็จ ก็เป็นความ ต้องการที่มากที่สุดในชีวิตของบุริศร์แล้ว

“ขอบคุณนะ คุณหมอ”

บุริศร์จับมือกับหมอ

หมอยิ้มพลางพูด : “ฉันเพียงแค่ทำหน้าที่ของหมดให้ ดีที่สุด สวรรค์มาช่วยคุณกมลเอาไว้ต่างหากล่ะ”

“ขอบคุณนะ”

ตอนนี้นรมนนอกจากขอบคุณก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ตอนที่กมลถูกเข็นออกมา ใบหน้านั้นมันซีดเซียว แต่ ว่ากลับทำให้นรมนมีความหวังขึ้นมา

ครอบครัวทั้งสามคนเข้าไปในห้องผู้ป่วยVIPพร้อมกัน เมื่อเห็นท่าทีที่กมลยังสลบอยู่ บุริศร์ก็พูดกับนรมน : “คุณ ไปพักเถอะ เดี๋ยวสว่างแล้วฉันเรียก”

“ไม่ต้องแล้ว คุณเพิ่งจะออกมาจากห้องผ่าตัดไม่นาน ร่างกายยังอ่อนแออยู่ คุณไปพักเถอะ เดี่ยวฟ้าสว่างแล้ว ให้พฤกษ์ไปรับคุณ”

ถึงแม้ว่านรมนจะเหนื่อยมาก แต่ว่าตัวเองก็ยังเป็นคน ปกติที่สุด แต่ทว่าบุริศร์เสียเลือดไปมาก เป็นคนป่วยอยู่ จะให้บุริศร์มาเฝ้าได้อย่างไร ?

แต่ทว่าบุริศร์กลับยินยัน

“ฟังหน่อยเถอะ คุณไปนอนเถอะ แต่ชั่วโมงเดียวก็ พอแล้ว เดี๋ยวหลังจากนั้นฉันจะเรียกคุณเอง ฉันสัญญาว่า หลังจากคุณตื่นแล้วฉันจะกลับไป ในสถานการณ์แบบนี้ กมลเองก็เป็นลูกสาวของฉัน ฉันก็ต้องมาดูเธอใช่ไหม ?”

นรมนยังลังเลเล็กน้อย แต่กลับถูกบุริศร์ทำให้เห็นว่า รู้สึกผิดเล็กน้อย

“โอเค งั้นฉันไปนอนชั่วโมงหนึ่ง หลังจากนี้หนึ่งชั่วโมง คุณมาปลุกฉันนะ”

นรมนพูดอย่างยืนหยัดจริงจัง

บริษัทพยักหน้า เพื่อบอกว่ารู้แล้ว

นรมนมองกมล ดูแล้ววันนี้กมลคงจะไม่ฟื้นขึ้นมาในคืน นี้

เธอไปในห้อง ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา เฟียงไม่นานก็ หลับไป

บุริศร์มองท่าทีเหนื่อยอ่อนของนรมน ก็รู้สึกไม่ดีเลย ถ้าผู้ชายคนหนึ่งไม่สามารถทำให้ผู้หญิงของตัวเองมี

ความสุขได้ ยังจะพูดถึงความชอบอะไรอีก ? เขาเองผ้าบางๆ ห่มให้นรมน จากนั้นจึงเดินไปที่ หน้าต่างของกมล จากนั้นก็จับมือของลูกสาว และนั่งอยู่ ตรงเก้าอี้ของหน้าต่างนั้น

อันที่จริงเขาเองก็เหนื่อยมาก เจ็บมาก ตรงแผลนั้นมัน ทำให้เขาสูญเสียพลัง แต่ก็ถูกเขาเมินความเจ็บนั้นไปแล้ว

ถ้าเกิดครั้งนี้ไม่มีนลิน เขาคงจะไม่กล้าจินตนาการว่า ลูกสาวเขาจะเป็นอย่างไร หรือบางทีเขาคงไม่กล้าคิดเลย ว่าทั้งครอบครัวจะต้องเจอกับความเศร้าใจขนาดไหน

ในวันนี้เมื่อเห็นลูกสาวหายใจหายคออย่างดี เขาก็รู้สึก ขอบคุณเป็นอย่างมาก

เวลาค่อยๆ ผ่านไป บุริศร์เห็นเข็มสั้นผ่านไปหนึ่ง ชั่วโมงแล้ว กลับไม่ได้ปลุกนรมน

ให้เธอพักอีกสักหน่อย

หลายปีมานี้ เพื่ออาการป่วยของกมล นรมนแบกรับ เอาไว้ตลอด เป็นห่วง ในวันนี้ผ่าตัดสำเร็จแล้ว ความหนัก หนาที่ผู้หญิงคนนี้แบกรับเอาไว้ก็ต้องวางลงได้แล้ว

ให้เธอพักสบายๆ สักหน่อย บุริศร์ลุกขึ้นเขย่าแขนของตัวเอง หน้าอกเจ็บอย่างสุด ทน หน้าเขาซีดเหมือนกระดาษ แต่เขารู้ว่าตัวเองจะล้มลง ไม่ได้ อย่างน้อยก็ห้ามมาล้มที่นี่

เขาโทรหาพฤกษ์ เพื่อให้พฤกษ์มาหา พฤกษ์มาถึงในเวลาไม่นาน เมื่อเห็นท่าทีของบุริศร์ ก็

อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

“ประธานบุริศร์ คุณไม่รักษาตัวเองแบบนี้ไม่ได้นะ” “ฉันรู้ตัวเองดี คุณมาดูแลกมลสักหน่อย เดี๋ยวฉันจะไป

ธุระ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้พฤกษ์อึ้งไป

“ประธานบุริศร์ ยังไม่สว่างเลย คุณจะไปไหม ? ให้ฉัน ขับรถไปส่งคุณไหม ?”

“ไม่ต้อง อยู่ในโรงพยาบาลนี่แหละ เดี๋ยวฉันก็กลับมา จริงสิ อย่าปลุกคุณนายนะ ให้เธอนอนพักสักหน่อย เธอ เหนื่อยจะตายแล้ว”

บุริศร์มองนรมนที่อยู่ในห้อง หางตาก็มีความอบอุ่นขึ้น

มา

พฤกษ์ได้ยินว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาล เลยไม่พูดอะไร ก่อนจะพยักหน้า พลางมองบุริศร์เดินออกจากห้องพักผู้

ป่วยไป

บุริศร์ไปสืบห้องพักผู้ป่วยของนลิน ก่อนจะเดินเข้าไป

ห้องของนลินเองก็เป็นห้องพักแบบVIP ทุกอย่างถูก เตรียมการดูแลเอาไว้อย่างดี ตอนที่เปิดห้องออกมา คนดูแลกำลังพักอยู่ แต่เมื่อ ได้ยินเสียงก็ผงกหัวขึ้นมา ก่อนจะมองบุริศร์ด้วยความ งัวเงีย

บุริศร์โบกมือ พยาบาลดูแลเลยยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง นลินฟื้นขึ้นมารอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้เลยงัวเงียแต่นอน ไม่ค่อยหลับ

หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์ไป ความเจ็บปวดก็ถาโถม เข้ามา ถึงแม้ว่าจะมีคนดูแลอยู่ข้างๆ แต่ว่าความเจ็บปวด นั้นมันก็ทำให้นลินเหมือนกับตายทั้งเป็น

เธอเพียงแค่กัดฟันอดทนเอาไว้

ในวันนี้ได้ยินว่ามีคนมาที่ห้องพักผู้ป่วย นลินค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็เห็นว่าเป็นบุริศร์เดินเข้ามา

ใจของของเธอแทบหยุดเต้น

“คุณมาได้อย่างไร ?”

นลินแปลกใจมาก

บุริศร์บาดเจ็บนั้นเธอก็รู้ เธอยังเป็นห่วงว่าบุริศร์จะทน ได้หรือเปล่า แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมา แล้วมาหาเธอถึง ห้องพักผู้ป่วยเลยด้วย !

บุริศร์มองนลินที่กำลังอดทนความเจ็บ ก่อนจะถาม เบาๆ ว่า : “เจ็บไหม ?”

“เจ็บ ! ”

น้ำตาของนลินไหลออกมา ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีใครมาเป็นห่วงความเป็น ความตายของเธอ เมื่อเธอเห็นบุริศร์อ่อนโยนกับนรมน และปกป้อง เธอเลยอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก

ในวันนี้ผู้ชายที่ทำให้ตัวเองใจเต้นแรงได้มาอยู่ตรง หน้า และถามว่าเจ็บไหมอย่างอ่อนโยน จู่ๆ นลินก็คิดว่า ความเจ็บนั้นมันหายไปหมดเลยล่ะ

ขอแค่บุริศร์อยู่ที่นี่ ต่อให้เธอต้องผ่าตัดอีกครั้ง เธอก็

ยอม

เมื่อบุริศร์เห็นน้ำตาของนลิน ก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจ ผู้หญิงอายุสิบแปดสิบเก้าทำเพื่อลูกสาวของเขาจน เป็นแบบนี้แล้ว เขามีเหตุผลอะไรมาเมินเฉยนลินล่ะ ?

บุริศร์ถอนหายใจ ก่อนจะพูดเสียงเบา : “ตอนที่อยู่ที่ บ้านชั้นล่าง ฉันทำไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คุณสามารถช่วย กมลได้ ฉันก็รู้สึกขอบคุณคุณมาก บอกมาเถอะ คุณอยาก ได้อะไร ? ขอเพียงแค่ฉันทำได้ ฉันก็จะทำให้”

“จริงเหรอ ?”

แววตาของนลินส่องประกายขึ้น

ใจของบุริศร์หายนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดขึ้น :

“นอกจากแต่งงานกับคุณ คุณต้องรู้ว่าฉันชอบภรรยาฉัน เพียงคนเดียว ชีวิตนี้ฉันจะไม่ชอบใครอีก ฉันขอบคุณคุณ ถ้าคุณอยากจะได้พระจันทร์ ฉันก็จะหาวิธีเอามาให้ แต่ว่า ด้านความรู้สึกฉันให้ไม่ได้”

เมื่อได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ แววตาของนลินก็มืดดับลง เขาเป็นผู้ชายที่ฉลาดจริงๆ เธออยากได้อะไร เขาก็รู้หมด !

แต่เพราะอะไรแบบนี้นี่เอง นลินเลยยิ่งชอบบุริศร์มาก เข้าไปใหญ่

“ถ้าเกิดฉันบอก เดือนจะได้ไหม ?”

ว่าฉันอยากให้คุณมาอยู่กับฉันสาม

นลินมองบุริศร์ตรงๆ

บริษัทอึ้งชะงักไป และขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ฉันเคยบอกไปแล้ว ว่าคำขอบคุณของฉันมันให้คุณ ไม่ได้หรอก”

“ฉันไม่ได้บอกให้คุณมารักฉัน แล้วก็ไม่ได้บอกให้คุณ มาชอบฉัน ฉันแค่อยากให้คุณมาอยู่กับฉันสามเดือน ฉัน ไม่มีพ่อแม่พี่น้องตั้งแต่ยังเด็ก ทุกครั้งใช้ชีวิตอย่างยาก ลำบาก แค่ผ่านชีวิตไปวันๆ ไม่รู้ว่าความรักของญาติคือ อะไร เพื่อคืออะไร ความรักคืออะไร ฉันยิ่งไม่รู้ว่าความ อบอุ่นคืออะไร ฉันรู้เพียงว่า ฉันอยากได้อะไร ฉันก็ต้อง จ่ายด้วยราคาของมัน ตอนนี้ฉันอยากได้ความอบอุ่นจาก คุณ ดังนั้นฉันเลยจ่ายด้วยไตของฉัน หรือว่าคำขอเพียง เล็กน้อยนี้คุณจะให้ไม่ได้เหรอ ?

แววตาของนลินนั้นเศร้าหมอง

อันที่จริง นี่ไม่น่าจะเป็นแววตาของเด็กอายุสิบแปดสิบ

เก้า ความเศร้าสร้อยเหงาหงอยและความไร้ชีวิตชีวาทำให้ ใบหน้าของเธอดูซีดเซียวเข้าไปอีก และยิ่งทำให้คนคิดว่า น่าสงสาร

คิ้วของบุริศร์ขมวดมาชนกัน

“ฉันไม่เข้าใจความหมายของคุณ”

“ฉันอยากให้คุณมาอยู่กับฉันสามเดือน ภายในเวลา สามเดือนนี้ คุณคิดว่าฉันเป็นน้องสาวก็ได้ หรือเป็นเพื่อน ก็ได้ ขอแค่คุณอยู่กับฉัน ไม่ว่าคุณจะทำอะไรฉันก็ไม่ ก้าวก่าย โอเคไหม ?”

คำขอของนลินทำให้บุริศร์ลำบากใจมาก

“ฉันต้องคุยกับภรรยาฉันหน่อย” คำพูดของบุริศร์ทำให้แววตาของนลินผลุบมืดลง

“คุณเป็นผู้ชาย และเป็นประธานของบริษัทฮัวยูกรุ๊ป จำกัด แค่คำขอนิดๆ หน่อยๆ คุณก็ต้องไปรายงานคุณนาย ก่อนเหรอ ?”

“ฉันเคารพเธอน่ะ”

เมื่อบุริศร์พูดคำนี้ออกไป สีหน้าของนลินก็เปลี่ยนไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ