แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 87 ต้องให้ผลประโยชน์กับฉันหน่อยใช่ไหม



บทที่ 87 ต้องให้ผลประโยชน์กับฉันหน่อยใช่ไหม

บทที่ 87 ต้องให้ผลประโยชน์กับฉันหน่อยใช่ไหม

นรมนรู้ดีว่าแชมป์คิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวเอง สายตาแบบนี้ เธอคุ้นเคยมาก เธอรู้ดีแชมป์ต้องบอกเรื่องนี้กับบุริศร์แน่นอน แต่ว่ามันจะเป็นไรไปหล่ะ?

เธอไม่แคร์เลยสักนิด

ถึงแม้บุริศร์กำลังจัดการเรื่องวุ่นๆให้เธออยู่ แต่ว่าสิ่งที่เขา ติดค้างเธอ และติดค้างลูก มันไม่ใช่แค่เรื่องสองเรื่องก็จะลบ เลือนไปได้?

นรมนหันไปมองหน้าแชมป์ และพูดนิ่งๆว่า”กานต์อยู่ไหน?” บุริศร์ได้บอกเรื่องของกานต์ให้กับแชมป์ล่วงหน้าแล้ว และ สั่งเป็นพิเศษว่าต้องดูแลและฝึกซ้อมกานต์เป็นอย่างดี เพราะ ฉะนั้นเวลาที่นรมนถามถึงกานต์ แชมป์จึงพูดแบบไม่ขัดคำ ว่า”อยู่ในค่าย เชิญตามฉันมา”

นรมนตามแชมป์ไป

“คนสวย อย่าลืมฉันนะ

เจตต์พูดแบบน่าสงสาร สีหน้าท่าทางทำให้นรมนอยาก หัวเราะเหลือเกิน ทำอย่างกับว่าเธอเป็นคนที่ไม่รู้จักบุญคุณ คน และไร้ความรับผิดชอบ

รู้แล้ว รีบกลับไปเถอะ ไม่แน่บุริศร์กำลังคิดหาวิธีที่จะ จัดการกับเธออยู่”

นรมนโบกมือ หันหลังไปทันที
เจตต์ทำตาหรี่

บุริศร์จะไม่ทิ้งโอกาสที่จะจัดการกับเขา

โอกาสดีๆได้อยู่ตรงหน้า เขาต้องพยายามจัดการกับเขา

แน่นอน

ถึงแม้จะคิดถึงจุดนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าเจตต์ไม่เสียใจเลย

สักนิด

เขามองหลังที่จากไปของนรมน ในใจก็ยิ้มแย้มขึ้นมา

บุญคุณครั้งนี้ถือว่านรมนติดค้างเขาไว้ เขายิ่งดูแย่เท่าไหร่ นรมนก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อเขาเท่านั้น?

เจตต์หยิบมือถือออกมาโทรศัพท์ โทรไปหาเลขาของตัว

เอง

“เมืองชลธีเป็นไงบ้าง? ”

เขาถามแบบสบายๆ แต่สายตาและสีหน้าท่าทางเข้มขรึม

มาก

เลขาได้ยินเสียงของเจตต์ พูดเสียงต่ำว่า” คุณชายเจตต์ เธอรีบกลับมาเถอะ ตอนนี้คุณท่านโกรธมากๆคนมากมาย บอกว่าเธอไปแตะคุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตอนนี้ คนที่บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาหาถึงที่บ้าน ไม่ว่ายังไงให้ คุณท่านส่งตัวเธอออกมา เรื่องนี้ไม่ง่ายซะแล้ว เธอก็รู้ คุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทั้งสามรุ่นต่างเป็นวีรบุรุษ กันทั้งบ้านบ้านตระกูลรัตติกรวรกุล อย่างเราไม่อาจมีเรื่อง ด้วยจริงๆ แต่ทำไมเธอถึง…”

คำพูดตอนท้ายถึงแม้เลขาไม่พูด แต่เจตต์ก็เข้าใจดี
ตอนที่ใช้เท้าแตะลงไปไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะเป็น คุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทั้งตระกูลต่างรับใช้ชาติบ้าน เมืองอย่างหาญกล้าผู้ชายทั้งตระกูลต่างเสียสละเพื่อชาติ บ้านเมือง เหลือเพียงลูกชายคนเล็กสุดที่ขาหักเป็นผู้สืบทอด บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเท่านั้น คุณนายบ้านตระกูลทวี ทรัพย์ธาดามีเกียรติมีชื่อเสียงมาตั้งสามรุ่น ผู้หญิงที่น่า มหัศจรรย์

เช่นนี้ทำไมถึงมาทำเรื่องต้มตุ๋นหล่ะ?ที่สำคัญมองขึ้นไป ตั้งใจมุ่งเป้าไปที่นรมน

เจตต์ขมวดคิ้ว

“บุริศร์ไม่พูดอะไร?”

ถึงแม้ เจตต์คิดผลสรุปนี้ออก แต่ก็ยังถามแบบไม่ยอม ตายใจว่า

เลขานิ่งไปสักพักพูดว่า”บ้านตระกูลโตเล็กไปขอโทษถึง บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาด้วยตัวเอง บอกว่าผู้ออกแบบ ดีไซเนอร์ของเขาชื่อแคทเธอรีอยู่ในเหตุการณ์พอดีแต่ช่วย คุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ทัน หลังจากเห็นเธอ แตะคุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต่อหน้าต่อตา สุดท้าย ถูกเธอพาตัวไป คุณชายเจตต์ เรื่องนี้เธอทำเกินไป”

หากเป็นเมื่อก่อน เลขาไม่กล้าพูดเช่นนี้ แต่ว่าตอนนี้ สถานการณ์มันคับขันจริงๆ

เจตต์ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า” วิธีนี้ของบุริศร์คิดจะผลัก ใส่ความผิดให้กับคนอื่นมันช่างต่ำช้าเสียจริง หากคุณนายไม่ตื่นขึ้นมา ความผิดนี้ฉันคงต้องแบกรับมันต่อไป”

พูดเช่นนี้คุณชายเจษไม่ได้แตะคุณนายบ้านตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา?”

เลขามีกำลังใจขึ้นมา

เจตต์กลับหัวเราะพูดว่า”ฉันเป็นคนแตะเอง คนตั้งมากมาย เห็นเหตุการณ์”

คุณชายเจตต์ เธอ…”

“ช่วยฉันปล่อยข่าวออกไป บอกว่าแคทเธอรีเป็นแฟนฉัน คุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะเข้ามาต้มตุ่นแฟนของ ฉัน ในฐานะที่ฉันเป็นแฟนของเธอฉันจึงปกป้องแฟนฉันอย่าง เต็มที่

ในเมื่อเรื่องนี้บุริศร์ต้องการให้ฉันมาแบกรับความผิดเอง งั้น ก็ต้องให้ผลประโยชน์กับฉันหน่อยใช่ไหม?”

เจตต์พูดจบก็ยิ้มแย้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์

เลขาอึ้งไปทันที

แฟนหรือ? คุณชายเจตต์ ทำไมเธอ….

ทำตามที่ฉันพูด เรื่องอื่นเธอไม่ต้องสนใจ บอกกับคุณท่าน I! พรุ่งนี้ฉันก็กลับไปแล้ว วันนี้ฉันมาที่ค่ายฝึกซ้อมของบุริศร์ ยังไงก็ต้องทิ้งอะไรบางอย่างให้กับเขา มิเช่นนั้นเขาคงคิดว่า ให้ฉันแบกรับความผิดนี้มันสมควรแล้ว”
เจตต์พูดจบก็วางสายไปทันที จากนั้นก็ด้องๆมองๆเข้าไป ข้างในค่ายฝึกซ้อม

รอบๆมีแต่ทหารที่กำลังยืนปฏิบัติการอยู่ พอเห็นท่าทาง ของเจตต์พวกเขาต่างระวังเขาอย่างมาก ทำไงได้ ตั้งแต่เด็ก บุริศร์กับเจตต์ก็สู้กันมาตลอด พวกเขาถูกแกล้งจนกลัวแล้ว

เจตต์ผิวปาก จากนั้นก็จากไปอย่างผ่าเผย

หลังแชมป์รู้ว่าเจตต์กลับไปจึงโล่งใจสุดๆ นรมนเห็นสีหน้าท่าทางที่หนักใจของเขา จึงยิ้มแย้มอย่าง ไม่รู้ตัว

“แค่ผู้ชายเจ้าชู้หลายใจคนนึง ถึงกับทำให้พวกเธอต้องเข้ม งวดถึงขนาดนี้เลยหรือ?”

แชมป์ได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ จึงส่ายหน้าและพูดว่า”คุณหนู นรมนไม่รู้อะไร เจตต์ไม่ใช่แค่ผู้ชายเจ้าชู้ ตอนนั้นตอนที่เขา อยู่ในค่ายทหารเขาบุกรุกเข้าไปในค่ายของศัตรูคนเดียว เชียวนะ ช่วยเพื่อนทหารออกมาตั้งสิบกว่านาย ไม่รู้ทำไมเขา ถึงไม่ถูกกับท่านประธานบุริศร์ เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด หลังครบเกณฑ์ทหารยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับเรามาก”

ได้ยินแชมป์พูดแบบนี้ นรมนจึงตกตะลึง ดูไม่ออกว่า เจตต์ เก่งกล้าถึงเพียงนี้

” งั้นท่านประท่านบุริศร์ของพวกเธอหล่ะ? เคยเป็นทหาร %3D

มาก่อน? ”

เรื่องนี้นรมนเคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่าไม่เคยไปถามไถ่ เพราะ เวลาช่วงนั้นบุริศร์ไม่เคยเอ่ยปากพูด
ตอนนี้ได้รู้เรื่องบุศร์ที่ครบเกณฑ์ทหารจากปากเจตต์ จึง ทำให้เธออยากเข้าใจชัดเจนให้มากกว่านี้

แชมป์ไม่ได้ปิดบังเธอ

“ท่านประธานบุริศร์ของเราเป็นผู้อัฉริยะในตำนาน อยู่ใน ค่ายทหารเทียบกับเจตต์สูสีกันทั้งคู่ แต่ว่าท่านประธานบุริศร์ ของเราปฏิบัติภารกิจที่อันตรายที่สุด หากไม่ใช่กลับมารับ ช่วงธุรกิจต่อ ตอนนี้ไม่แน่มียศเป็นนายพลไปแล้ว”

ดูท่าทางสีหน้าที่ภูมิใจของแชมป์ นรมนจึงเข้าใจสิ่งที่เจตต์ พูดมันเป็นความจริงทั้งนั้น

ไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ห่วยๆคนนี้ ถึงกับเป็นคนที่มีประโยชน์ ต่อประเทศชาติบ้านเมือง

แต่ว่านี่ก็ไม่สามารถลบล้างในความเป็นจริงที่เธอเป็นผู้ชาย ห่วยๆได้?

นรมนกดความเลื่อมใสในใจลงไป

หลังทั้งสองเดินไปถึงที่ค่ายทหาร ระบบการจัดการของ ข้างในเข้มงวดกว่าข้างนอกมาก ถึงขั้นแบบว่าเดินไปสามสี่ ก้าวก็เจอทหารเฝ้าอย่างระมัดระวัง ดูจนนรมนคิดว่าตัวเอง กำลังอยู่ในหนังต่อสู้ของอเมริกาอย่างนั้นเลย

“คุณแม่ คุณแม่มาได้ไง?”

ขณะที่นรมนกกำลังตกตะลึง เสียงเด็กที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาข้างหู จากนั้นร่างกายที่ตัวเล็กๆก็วิ่งเข้ามาในอ้อมกอดของ

เธอ

“คุณแม่ ฉันคิดถึงคุณแม่มากเลย”

กานต์กอดขานรมนอย่างแน่นๆ

ความอบอุ่นของลมหายใจและเสียงที่คุ้นเคยทำให้นรมน ร้องไห้ออกมาทันที

แค่ระยะเวลาสิบวันสั้นๆ เธอถึงกับคิดถึงลูกชายตัวเองถึง เพียงนี้

เร็ว ให้แม่ดูหน่อย ผอมลงรึเปล่า? ”

นรมนรีบนั่งลงไป ดึงตัวกานต์ออกมา

กานต์สวมใส่ชุดทหารสีเขียวเต็มยศทำให้ดู กระปรี้กระเปร่ามาก เขาดำแล้ว และก็ผอมแล้วด้วย แต่ว่าดู แข็งแรงขึ้นมาก

น้ำตาของนรมนไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว กานต์ทำอะไรไม่ถูก

“แม่ แม่เป็นอะไร? แม่อย่าร้องนะ”

กานต์รีบเช็ดน้ำตาให้กับนรมนอย่างวุ่นวาย สีหน้าเหมือน ทำอะไรไม่ถูก

มือเล็กๆเต็มไปด้วยความอบอุ่นและกำลังเช็ดน้ำตาให้กับ นรมน ถึงทำให้เธอมีความรู้สึกที่เหมือนจริงขึ้นมา

เธอลากตัวกานต์มา กอดอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองอย่าง

แน่นๆ
“ลูก แม่คิดถึงลูกจะแย่อยู่แล้ว”

นรมนให้ความรักกับเด็กอย่างเต็มที่ กานต์ได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ ก็ยิ้มแย้มขึ้นมาทันที เขากระดูกเท้า และกอดคอของนรมนอย่างแน่นๆ พูดอย่าง ขี้อ้อนว่า”แม่ ฉันก็คิดถึงแม่จะแย่อยู่แล้ว อืม… ร่างกายแม่ หอมจัง”

” ไอ้เด็กซน” %3D

นรมนยิ้มแย้มทั้งน้ำตา

เธอปล่อยตัวกานต์ จากนั้นก็ตรวจร่างกายของเขาอย่าง ละเอียดอีกครั้ง พบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร จึงถามว่า”เป็นไง บ้าง? อยู่ที่นี่เหนื่อยรึเปล่า? ลำบากไหม? กินอิ่มหรือไม่? นอน หลับฝันดีรึเปล่า?

ตั้งแต่เด็กกานต์ก็ไม่เคยห่างกับนรมน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นเพราะฐานะของกมล จึงทำให้ความสนใจของนรมนไปอยู่ ที่กมลหมด จึงไม่ค่อยได้สนใจเด็กดีอย่างกานต์เท่าไหร่

วันนี้ได้เห็นนรมนแสดงความเป็นห่วงเป็นใยตัวเองเช่นนี้ หัวใจของกานต์ก็อบอุ่นขึ้นมาทันที นัยน์ตาก็รู้สึกอุ่นๆ

“แม่ ฉันอยู่ที่นี่สบายดีมาก ที่สำคัญยังมีน้าคมทิพย์ แม่ วางใจ ฉันไม่เป็นไร น้าคมทิพย์บอกว่าเรายังเหลืออีกยี่สิบวัน ก็จะได้กลับบ้านแล้ว แต่ว่าทำไมแม่จึงมาอย่างกระทันหันเช่น นี้หล่ะ? เป็นเพราะว่าคิดถึงฉันเกินไปใช่ไหม? ยังมีอีก ขาแม่ หายดียัง? ได้ไปตรวจเช็คที่โรงบาลดีๆรึเปล่า?
กานต์ถามอย่างกับผู้ใหญ่ สีหน้าท่าทางที่ตื่นเต้นทำให้ หัวใจของนรมนอบอุ่นชื่นใจมากๆ

“แม่ไม่เป็นอะไร ดีขึ้นเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นจึงรีบมาเยี่ยม

เธอ”

นรมนรู้สึกว่ามองหน้ากานต์เท่าไหร่ก็มองไม่พอ

ตั้งแต่กานต์เกิดมาจนถึงตอนนี้ พวกเขายังไม่เคยห่างกัน นานขนาดนี้เลย

ขณะนี้เสียงที่อ่อนโยนก็แทรกเข้ามา

“ลูกพี่ใหญ่ คนนี้เป็นแม่เธอหรือ? สวยมากเลย”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย มองไปทางเสียง ก็ได้เห็นร่างเงาเล็กๆ ความสูงของเขาพอๆกับกานต์ หน้าตาก็คล้ายๆกัน นรมนรู้ฐานะของเด็กคนนี้บ้างแล้ว แต่ก็ยังถามไปคำนึง “เป็นเพื่อนซี้เธอชื่อกิจจา?”

” นม แม่ คนนี้เป็นเพื่อนซี้ฉันกิจจา คนไม่เลว แต่โง่ไป หน่อย”

กานต์ลากตัวกิจจามา และผลักเข้าไปตรงหน้านรมน ที่แท้คนนี้ก็คือลูกของเขมิกากับบุริศร์

ในใจนรมนบอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกอย่างไร มันสับสน

มาก

ความจริงเธอต้องเกลียดเด็กคนนี้มาก โดยเฉพาะหน้าตา ของเขาเหมือนกับบุริศร์มาก หน้าตาไม่ค่อยเหมือนเขมิกา ที่สำคัญตอนนี้เป็นเพราะเขา เธอกับลูกจึงต้องผ่านความ ลำบากมามากเช่นนี้ แต่ว่านรมนกลับไม่เกลียดเด็กคนนี้

เพราะว่าสายตาของเขาทั้งสดใส่และไร้เดียงสา เหมือน เป็นพื้นดินที่สะอาดที่สุดในโลก

“สวัสดีคุณน้า ฉันชื่อกิจจา เป็นเพื่อนซี้และเป็นลูกน้องของ กานต์ คุณน้า ความสัมพันธ์ของน้ากับกานต์ดีมากเลย แม่ฉัน ไม่เคยกอดฉันอย่างนี้เลย”

กิจจาพูดอย่างอิจฉา ปากจู่เหมือนคนน้อยอกน้อยใจ

เขารู้สึกว่าแม่ของกานต์ไม่เพียงหน้าตาสวยยังอ่อนโยน มากด้วย เทียบกับแม่ของเขาดีช่างดีกว่าเยอะ นรมนได้ยินคำนี้ของกิจจา ก็อึ้งไปอย่างไม่รู้ตัว

” แม่เธอไม่ดีกับเธอหรือ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ