แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 653 ผมดูอย่างไรก็เหมือนอาหารเดลิเวอรี่



บทที่ 653 ผมดูอย่างไรก็เหมือนอาหารเดลิเวอรี่

บริศ มองเห็นแววตาที่ยุ่งเหยิงของกิจจา จึงเอ่ยถามเสียงเบา “ลูกอยากให้แดดดี้กับหม่าหย่ากันไหม? ”

“ไม่อยากครับ”

กิจจากอดบริศ แน่น

ริมฝีปากของบุริศร์ยกขึ้นเล็กน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าไม่ อยากให้แด๊ดดี้กับหม่าหย่ากัน ลูกช่วยแด๊ดดี้ได้ไหม? ”

“ช่วยยังไงครับ? ”

“เอาหูมาใกล้ ๆ ”

บุริศร์กับกิจจาคนตัวโตกับคนตัวเล็กคิดแผนการกันขึ้นมาใน

รถ

เมื่อกิจจาฟังบุริศร์เสร็จ ก็พยักหน้า จากนั้นจึงรีบกลับไปห้องผู้ ป่วยอย่างรวดเร็ว

นรมนกับกานต์ยังคงเป็นห่วงกิจจา ในขณะที่นรมนกำลังคิดจะ ออกไปตามหา กิจจากกลับมาพอดี

“พี่ พี่ไปไหนมา? หม่ามี้เป็นห่วงพี่แทบแย่

กานต์รู้ว่านรมนพูดไม่สะดวก จึงรีบพูดให้แทน

กิจจาพูดอย่างเกรงใจ “ขอโทษครับ หม่ามี้ ผมปวดท้อง เลยไปเข้าห้องน้ำมา

“ไม่เป็นไรจ้ะ คืนนี้หม่ามี้จะให้คุณอาปัญญ่เอาผ้าห่มของลูกมา ให้ดีไหม?

“ครับ”

กิจจาไม่รู้สึกแปลกใจอะไร

นรมนจัดการกิจจากับกานต์เสร็จเรียบร้อย จึงออกจากโรง พยาบาล

บริศ เฝ้าดูนรมนกลับไปที่บ้านตระกูลเจริญไชย ถึงจะหันตัว จากไป

นรมนรู้สึกราวกับว่าตนเองหลงลืมอะไรบางอย่าง เมื่อกลับมา

ถึงบ้านตระกูลเจริญไชยเห็นคมทิพย์จึงนึกออกทันที

แย่แล้ว!

เธอลืมปัญญ์ไปสนิทเลย!

และไม่รู้ว่าตอนนี้ปัญญ์เป็นอย่างไรบ้าง นรมนรู้สึกผิดต้องการออกไปอีกครั้ง กลับถูกคุมทิพย์ขวางเอา

ไว้

“เป็นอะไรไป? เพิ่งจะกลับมาก็จะออกไปอีก แล้ว ปัญญ์ ล่ะ? ”

นรมนรู้สึกผิดไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร ทำได้เพียงแสดง ภาษามือว่า “ปัญญ์ถูกบุริศร์ตี”
“อะไรนะ?

คมทิพย์โมโหทันที

เธอพับแขนเสื้อขึ้น กล่าวด้วยความโมโหง่า “ไอ้บริศร์คนนี้ ไม่ เพียงแค่รังแกเธอ ตอนนี้ยังมารังแกน้องชายฉันอีก เขาคิดจะทำ อะไรกันนะ? คิดว่าฉันไม่กล้าฟาดเขาใช่ไหม? ”

พูดแล้ว คมทิพย์ก็เดินตรงออกไปข้างนอก กลับถูกนรมนขวาง เอาไว้

“มันเป็นความผิดของฉันเอง ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน เธออย่าไป เลยนะ ปัญญ์ได้รับบาดเจ็บฉันก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว ถ้าเกิดอะไร ขึ้นกับเธออีก ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจริงๆ เธอยังจะให้ฉัน อยู่ในเมืองBไหม? ”

คมทิพย์เห็นนรมนเป็นแบบนี้ จึงอดถอนหายใจและกล่าวออก มาไม่ได้ “เธอนี่นะ เป็นแบบนี้ตลอดเลย ปัญญ์อยู่โรงพยาบาล ไหน? ฉันจะไปเยี่ยมเขา เธอไม่ต้องไปแล้ว พักผ่อนสักหน่อย เถอะ จริงสิ กิจจาล่ะ? ฉันถามสถานพักฟื้นแล้ว สามารถให้พวก เธอพาคนในครอบครัวไปได้”

“ไม่ต้องแล้วล่ะ กิจจาเปิดปากพูดแล้ว ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้อง ส่งเขาไปสถานพักฟื้นหรอก ถึงอย่างไรสถานที่แบบนั้นก็ไม่ดีกับ เด็ก”

“พูดได้แล้ว? ”

คมทิพย์แปลกใจ แต่ก็รู้สึกดีใจมาก
“เจ้าเด็กหน้าเหม็นคนนี้ ใครกันที่มีความสามารถมากขนาด นั้น? คิดไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้เขายอมเปิดประตูหัวใจได้

“กานต์”

นรมนแสดงภาษามือด้วยรอยยิ้ม

“มิน่าล่ะ เข้าใจล่ะ เดาว่าคืนนี้กิจจาต้องอยู่โรงพยาบาลเป็น เพื่อนกานต์ใช่ไหม? ต้องการสิ่งของอะไร? ฉันจะส่งไปให้ส่วน เธอก็อยู่บ้านพักผ่อนไปนะ”

คำพูดของคนทิพย์ทำให้นรมนรู้สึกประทับใจ

เธอแสดงภาษามือ “ฉันจะทำของอร่อย ๆ ให้ปัญญ์สักหน่อย เธอเอาไปด้วยนะ เรื่องวันนี้รู้สึกเกรงใจจริงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะบาด เจ็บอย่างไรบ้าง”

“วางใจเถอะ เจ้าเด็กนั่นหนังเหนียว ไม่เป็นไรหรอก เดาว่าถ้ารู้ ว่าเธอทำของอร่อยไปให้ คงดีใจมาก ๆ เลย”

นรมนได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ ก็รู้ว่าเธอกำลังปลอบใจตนเอง

ไม่สนใจการห้ามปรามของคมทิพย์ วิ่งไปห้องครัว ของอร่อย ให้แก่ปัญญ์ และให้คมทิพย์เอาไปโรงพยาบาล

คมทิพย์ไม่อาจโต้เถียง ทำได้เพียงเอาของไปโรงพยาบาล

เมื่อบริศร์เห็นคมทิพย์เอาข้าวกล่องมา ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย กานต์กินข้าวไปแล้ว ส่วนกิจจาก็เลยเวลากินข้าวแล้ว ในเวลา นี้คมทิพย์เอาข้าวกล่องมาให้ใครกัน?
ปัญญ์?

คมทิพย์รู้ได้อย่างไรว่าปัญญ์ได้รับบาดเจ็บ

อีกอย่าง บริศ จําได้ว่าคมทิพย์ไม่ชอบเข้าครัว ดังนั้นอาหาร ในกล่องนี้นรมนเป็นคนทำเหรอ?

คิดถึงความเป็นไปได้นี้ บุริศร์ ก็รู้สึกแย่มากๆ

ไม่ว่าใครก็สามารถกินของที่ผู้หญิงของเขาทำได้อย่างไรกัน?

และยิ่งไปกว่านั้นปัญญ์เด็กหน้าเหม็นคนนั้นชอบกวนตีน มี สิทธิ์อะไรให้เขากินของที่นรมินท

บุรีศรีบหยิบมือถือ โทรหาพฤกษ์

“นายจะใช้วิธีอะไรก็ได้ นัดคุมทิพย์ออกไป สลับของในกล่อง ข้าวให้กับฉัน หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมงฉันต้องเห็นของทั้งหมดใน กล่องข้าว จําเอาไว้ว่า ทั้งหมด!

พฤกษ์ได้ยินคำสั่งแปลก ๆ ของบุริศร์แบบนี้ ก็เอ่ยถามอย่าง

ไม่เข้าใจ ในกล่องข้าวมีอะไรเหรอครับ?

“นายจะสนใจมันทำไม อย่างไรเสียฉันต้องการมัน

พูดจบ บุริศร์ก็วางสายทันที

พฤกษ์อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาอีกแล้ว

ทำไมเขายิ่งรู้สึกว่าการเป็นรองประธานของตนเองนั้นสุดจะ ทนได้ นอกจากนี้ดูเหมือนบุริศร์จะโมโหเหมือนเด็กมากขึ้น เรื่อยๆ
เพียงแต่พฤกษ์ก็อยากเจอคนทิพย์

ผู้หญิงคนนั้นปากอย่างใจอย่างไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ยังคิดจะเลิกกับตนเองอยู่ไหม?

คิดว่าเขาทําอะไรเธอไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม?

มุมปากของพฤกษ์โค้งขึ้นเล็กน้อย แค่คิดถึงคมทิพย์ เขาก็ รู้สึกอบอุ่นหัวใจ โลกทั้งใบเต็มไปด้วยความอบอุ่น

เขาโทรหาคมทิพย์

เมื่อคมทิพย์มองเห็นว่าเป็นพฤกษ์โทรมา ก็ตัดสายทันที แต่ พฤกษ์ก็ส่งข้อความหาเธออีก ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร ทำเอาคม ทิพย์แทบจะกระทืบเท้าด้วยความโมโห

มองเห็นว่ากำลังจะเข้าไปข้างในโรงพยาบาลรามาแล้ว คม ทิพย์เห็นบอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็ก จึงให้พวกเขานำสิ่งของ ของกิจจาไปส่งให้ ส่วนข้าวกล่อง คมทิพย์คิดว่าปัญญ์คงยังไม่ หิวมาก รอก่อนก็ได้

เธอนำกล่องข้าวขึ้นไปบนรถ และรีบไปหาพฤกษ์

บุริศร์มองเห็นคมทิพย์นำข้าวกล่องไป มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง พฤกษ์ส่งคนนำข้าวกล่องมาให้บริ

ศร์

มองเห็นในข้าวกล่องมีแต่ของอร่อยมากมาย บุริศร์รีบวางลง

ในรถ ค่อย ๆ กินทีละนิด
อิ่ม

นี่มันรสชาติของนรมน!

อาหารที่ผู้หญิงของเขาทำมีเพียงแค่เขาที่สามารถกินได้ หลังจากนั้นไม่นาน คมทิพย์ก็กลับมาด้วยความโมโห และยัง คงนำข้าวกล่องเข้าไปในโรงพยาบาลรามาเหมือนเดิม

บริศ อยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย มองดูของอร่อยตรงหน้า จึง โทรศัพท์หาพฤกษ์ และถามว่า “นายเปลี่ยนเป็นอะไร? ”

“โจ๊กข้าวฟ่างกับข้าวหน้าโครง สั่งอาหารเดลิเวอรี่ที่ประตู ทางเข้า

บริศ ชอบวิธีการของพฤกษ์มาก ๆ

“เดือนนี้จะขึ้นเงินเดือนให้นาย

“ไม่ต้องขึ้นเงินเดือนหรอก ให้วันลาผมแทนเถอะ ประธานบุรี ศรี ผมเหนื่อยจะตายแล้ว หรือท่านจะตัดสินใจกลับมาทํางานดี ครับ?

พฤกษ์ลองถามหยั่งเชิง

บริศร์ปฏิเสธทันที

“ไม่! เอาแบบนี้แหละ”

พูดจบ เขาก็วางสาย

พฤกษ์อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ประธานบริศ คนที่เคยมองว่างานคือชีวิตไปไหนแล้ว?

บริศ ไม่สนใจว่าพฤกษ์จะคิดอย่างไร เขามองอาหารตรงหน้า ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

ถ้านรมนรู้ว่าอาหารที่เธอทำตกอยู่ในท้องของเขา ไม่รู้ว่าจะทำ หน้าอย่างไร จะต้องยอดเยี่ยมมาก ๆ

บริศร์หยิบมือถือออกมาอย่างชั่วร้ายเพื่อถ่ายรูป จากนั้นอัด คลิปวิดีโอส่งให้นมน

“อร่อยจริง ๆ ขอบคุณมากนะคุณภรรยา

เมื่อนรมนได้รับเฟซบุ๊กก็นิ่งไปสักพัก เพียงแต่ยังเปิดคลิป วิดีโอ แต่หลังจากเห็นคลิปวิดีโอนั้นก็ตัวสั่นด้วยความโมโห

“คุณเป็นเด็กหรือเปล่าเนี่ย?”

นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์ทำได้อย่างไร แต่การกระทำแบบนี้เหมือน เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของแบบเด็กน้อยไม่เหมือนกับวิธี การของบุริศร์เลย

บริศร์กลับส่งข้อความกลับไปอย่างมีความสุข “แค่ผมชอบก็ พอแล้ว”

นรมนพูดไม่ออกสุด ๆ

เธอส่งเฟซบุ๊กหาคมทิพย์อย่างไม่สบายใจ

“คมทิพย์ เธอช่วยถ่ายภาพอาหารของปัญญ์มาให้ฉันดูหน่อย
ดมทิพย์ไม่สบายใจเล็กน้อย เพียงแต่หลังจากถึงห้องผู้ป่วย ก็ เปิดกล่องข้าวถ่ายส่งไปให้นรมน

ปัญญ์ถามอย่างแปลกใจเล็กน้อย ” พี่ นั่นอะไรเหรอ?

“พี่นรมนของนายท่าของอร่อยมาให้นาย บอกว่าช่วยบำรุง

ร่างกาย”

คมทิพย์ส่งกล่องข้าวให้ปัญญ

“โจ๊กข้าวฟ่างกับข้าวหน้าโครง? ผมดูอย่างไรก็เหมือนอา หารเดลิเวอรี่?”

ปัญญถามอย่างสงสัย

คมทิพย์กลับพูดอย่างมั่นใจ “พูดมั่ว ๆ พี่เห็นกับตาว่านรมน เข้าครัวไปทํา โธ่เอ๊ย นายรีบกินเถอะ นี่นรมนตั้งใจทำให้เลยนะ จริงสิ อาการบาดเจ็บของนายเป็นอย่างไรบ้าง? ร้ายแรงมาก ไหม? ”

เธอมองเห็นความกระปรี้กระเปร่าของปัญญ์ นอกจากรอยช้ำ บนใบหน้า ก็ไม่เห็นว่าตรงไหนจะได้รับบาดเจ็บ

ปัญญ์โบกมือและตอบว่า “ผมไม่เป็นไร แค่จงใจยั่วโมโหบุริ ศร์ เดาว่าครั้งนี้เขาคงจะดึงจนแย่”

“เด็กน้อย”

คมทิพย์กลอกตามองบนใส่เขา เพียงแต่ในใจรู้สึกดีไม่น้อย หลังจากนรมนมองเห็นภาพที่คมทิพย์ส่งมาให้ก็โมโหจนปากบิดเบี้ยว

นี่มันอาหารที่เธอทำให้ปัญญ่ซะที่ไหนกัน?

ดูคลิปวิดีโอที่บุริศร์ส่งมาให้อีกที นรมนโมโหจนขี้เกียจที่จะ พูดกับเขาแล้ว

บุริศร์ส่งคลิปวิดีโอให้นรมนอีกสองสามคลิป แต่ไม่เห็นนรมน จะตอบกลับ เขารู้สึกกระวนกระวายใจไปชั่วขณะ

“โมโหเหรอ? ”

นรมนบล็อกเขาทันที

เมื่อบริศร์มองเห็นการแสดงผลบนเฟซบุ๊กว่าต้องเพิ่มอีกฝ่าย เป็นเพื่อนก่อนถึงจะส่งข้อความได้ เขาก็หน้าแตกทันที

เกลียดจริง ๆ !

เขาวางมือถือลงอย่างไม่ยินยอม เพียงแต่อาหารตรงหน้ายัง คงรสชาติดีเหมือนเดิม

หลังจากรอเขากินอาหารทุกอย่างจนหมด ถึงจะโทรหาพฤกษ์ อย่างพอใจ

กินข้าวหรือยัง

ความห่วงใยของบุริศร์ทำให้พฤกษ์รู้สึกตื้นตันใจอยู่บ้าง

“อีกสักพักผมจะไปกินครับ ประธานบริศร์ ท่านมีของอร่อยให้ ผม? หรือว่าจะเลี้ยงข้าวผม?
“นายก็คิดเยอะจังเลย ฉันก็แค่ถาม

พูดจบ เขายังเรอออกมาหนึ่งที่

พฤกษ์รู้สึกว่านี่ไม่ใช่บุริศร์คนเดิมจริง ๆ

“ประธานบริศร์ ถ้าท่านยังเป็นแบบนี้ผมจะหยุดงานประท้วง

“ตามใจนายเลย นายอยากหยุดงานประท้วงอย่างแย่ที่สุด ฉันคงต้องบอกให้คมทิพย์ดูแลเรื่องของนรมน นายเองก็มีส่วน

“ประธานบริศร์ ผมผิดไปแล้วครับ ท่านมีธุระอะไรก็สั่งมาเถอะ ครับ”

พฤกษ์ฟังออก ตอนนี้บุริศร์อารมณ์ดีมาก เขาเองก็พูดติดตลก กับบริศร์สักสองประโยค

บริศ เอนกายพิงเบาะรถยนต์อย่างสบายใจ พูดออกมาอย่าง ไม่รีบร้อน “ถ้าฉันเดาไม่ผิด บ่ายในรมนต้องไปหาบ้าน นายบอก คนของพวกเรา ให้ใส่ใจหน่อย ถ้าพบที่ตั้งของบ้านที่เธอกำลัง มองหา ให้รายงานฉันทันที

“ประธานบริศร์ ผมคิดว่าพวกเราสามารถเปิดสำนักงานนักสืบ ได้เลย แบบนี้จะสามารถประหยัดแรงและประหยัดเวลา”

พฤกษ์พูดทิ้งเอาไว้

บริศร์จะไม่เข้าใจความหมายของพฤกษ์ได้อย่างไร แต่เขาไม่ ได้ใส่ใจ พูดว่า “นายทำหน้าที่ให้ฉันก็พอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การได้ภรรยากลับคืนมา ใช่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาด้านล่คอที่ฉันให้นายไปหา นายหาเจอหรือยัง ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?

พฤกษ์นิ่งไปสักพัก ถึงจะตอบว่า “หาเจอครับ เพียงแต่ผม ตรวจเจออะไรบางอย่าง ท่านดูแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะใช้บริการ คนคนนี้ไหม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ