แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 768 คุณระวังภาพลักษณ์ได้ไหม?



บทที่ 768 คุณระวังภาพลักษณ์ได้ไหม?

“คุณน้า ไข่ลวก อร่อยนะ ลองชิมสิ”

นิตายิ้มอย่างอบอุ่นเป็นพิเศษ

นรมนฉวยโอกาสในเวลานี้ ใช้มีดจ่อไปยังข้างหลังนิตา นิตายังไม่ทันได้ตั้งตัว ไข่ลวกในมือก็ตกลงที่พื้น แตกเป็น เสี่ยงๆ กระเด็นกระดอนไปทุกที่

“ทำไมเธอถึงได้…….

นิตาอยากถาม ให้จบ ทว่าน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาส เธอ กระแทกไปข้างหลังโดยตรง นรมนฉวยโอกาสนี้รับเธอเอาไว้

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”

เทย่ามองไปนิดาที่เป็นลมลงไป ก่อนถามอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณน้า ข้างนอกมีรถตู้ หนูจะพาออกไปจากที่นี่ เดาว่าเจตต์คงร้อนรนใจแล้ว

นรมนวางนิตาไว้บนเตียง แต่คิดไปคิดมา เธอก็พานิตาออกไป

ด้วย เอาไปวางไว้เบาะหลังข้างเทย่า

เทย่าเข้าไปในรถ เธอยื่นมือออกมาเอามือทัดผมนิตาเบาๆ ก่อนพูด “ที่จริงเธอก็ค่อนข้างดีนะ เป็นแฟนเจตต์จริงหรือ?”

“ก็นับว่าใช่นะคะ”
นรมนไม่สามารถโกหกได้ จึงตอบไปเช่นนี้

เธอส่งรูปของตัวเองและเทย่าที่อยู่ด้วยกัน ส่งให้เจตต์และบุรี

เมื่อเจตต์เห็น นรมนและเทย่าอยู่ด้วยกัน เขาเกือบจะร้องไห้ ด้วยความตื่นเต้นทันใด และโทรศัพท์ไปหาโดยตรง

“นรมน แม่ฉันอยู่ไหม?”

“อยู่”

นรมนส่งให้โทรศัพท์เทย่า

“คุณน้า โทรศัพท์จากเจตต์ค่ะ”

เทย่ารีบรับไปเมื่อได้ยินว่าเป็นสายของเจตต์

“เจตต์ ลูก แม่อยู่นี่”

“แม่ไปไหนมา? ทำไมถึงตามคนไปทั่ว? ทำไมถึงไม่โทรหาผม ละ? ไม่รู้เหรอว่าผมเป็นห่วงแม่แค่ไหน?”

เจตต์ร้องไห้ออกมา

เป็นครั้งแรกที่นรมนได้ยินเสียงร้องที่เศร้าสร้อยของเจตต์

เทย่ารีบพูดว่า “ไม่ร้องนะไม่ร้อง แม่ผิดเอง แต่เธอพูดว่าเป็น แฟนของลูก แม่ก็เลยอยากออกมาดู แม่อยู่ในบ้านพักคนชรา นานหลายปี ถ้าพ่อของลูกไม่มาเยี่ยมแม่ แม่อาจจะยังฝันอยู่ใน ความฝัน เจตต์ลูก หลายปีมานี้ลำบากลูกนัก แม่ไม่ดีเอง คราว หลังแม่จะไม่ทำอีกแล้ว จะทำตัวดีๆ แม่อยากให้เจตต์พาลูกมาเห็นลูกแต่งงาน

เจตต์รู้สึกโล่งมากที่ได้ยินเทย่าพูดเช่นนี้

ทำ แม่ไว้ในโลกใครก็ตามสามารถจะทำร้าย ลูกชายแต่เธอใช่ ไหม้ครั้งใหญ่ตอนเด็กเธอช่วยผมออกมา แม่ นรมน

เจตต์

เทย่าซาบซึ้งมากเธอ

แม่แล้ว วางสายก่อนนะ ประเดี๋ยวพวกเรา

เมื่อเทย่าวางสายและจับมือของเธอ

“แม่หนู ลูกชายบอกว่าคนที่ช่วยตอนนั้นเดินไป

นรมนยิ้ม

เกี่ยวกับเรื่องเธอไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก ตอนนั้นเธอยังเด็ก เกินไป และได้ว่าลุก มีเด็กคนหนึ่งร้องไห้อีก เธอวิ่งเข้าและเด็กคนนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือนว่าเรื่องจะตราตรึงอยู่ในหัวของเจตต์ตลอดชีวิตต้องพูดออกมาหลายต่อหลายครั้ง

เทย่ายิ่งมองนรมนก็ยิ่งถูกชะตา

“แม่หนู แต่งงานหรือยัง? มีโอกาสเป็นไปได้กับเจตต์ของเรา ไหม?”

นรมนอึดอัดโดยพลัน

แม่ทุกคนในโลกก็เป็นอย่างนี้ แม้แต่เทย่าผู้ซึ่งมีอาการซึม เศร้ามานานหลายสิบปีก็ยังจะถามคำถามนี้โดยไม่รู้ตัว เมื่อ ได้ยินว่านรมนเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเจตต์

นรมนยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “คุณน้า หนูแต่งงานแล้วค่ะ ลูกชาย ลูกสาวก็อายุได้สี่ขวบแล้ว ฉันกับเจตต์เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขากับสามีฉันความสัมพันธ์ก็ไม่เลวเลย อ้อ สามีของฉันคือบุริศร์ ค่ะ บุริศร์ตระกูลโตเล็ก”

เทย่าชะงักไปครู่ ก่อนพูดขึ้นอย่างผิดหวังเล็กน้อย “ที่แท้ก็เป็น พ่อหนุ่มจากตระกูล โตเล็กคนนั้น

“ใช่ค่ะ คุณน้า คุณน้าทำดีแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”

แม้ว่าเทย่าจะผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ลังเลที่จะปล่อยนรมน

“หนูลูกสวยจัง”

“ล้อเล่นแล้วค่ะ”
นโมนพูด โดยไม่ทันคิดออกไป

“ทําไมต้องล้อเล่นด้วยละ?”

เทย่าหยุดไปโดยไม่รู้ตัว

นรมนยิ้ม และพูดว่า “แน่นอนว่าขี้เหร่จะตายไปนี่คะ”

“ถ้าอย่างนั้นจะกลัวอะไรละ ถ้าหากหนูไม่ศัลยกรรม ไม่แน่อาจ จะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน คงไม่ถึงมือพ่อหนุ่มตระกูลโตเล็กนั่น หรอก”

เมื่อได้ยินคำพูดของเทย่า นรมนก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง

เธอคิดว่าแม่ของเจตต์เป็นคนดีคนหนึ่ง หลังจากขึ้นรถแล้ว นรมนก็สตาร์ทรถ และขับไปที่บ้านเก่า ตระกูลโตเล็ก

แต่เมื่อขับออกไปได้ไม่นาน รถก็หยุดลง สตาร์ทอย่างไรก็ไม่

ติด

นรมนดู ก่อนจะพบว่ารถน้ำมันหมด

นี่มันซวยสุด ไม่มีร้านค้าหรือหมู่บ้านทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ไม่นึกว่าจะมาไม่มีน้ำมันที่นี่

นิตาก็เหมือนกัน ทำไมไม่รู้จักเติมน้ำมันให้มันเต็มถัง

“แม่หนู มีอะไรหรือจ๊ะ?”

เมื่อเห็นว่ารถไม่เคลื่อนที่ เทย่าก็อดไม่ได้ที่จะถาม
นโมนพูดด้วยความลำบากใจ “คุณน้า คือรถน้ำมันหมดนะ

ค่ะ”

“อ่า? แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดี? พวกเราเดินกลับกัน

เถอะ”

คำแนะนำของเทย่า ทำให้นรมนเจ็บปวด

จากนี้ไปเดินกลับ คาดว่าฟ้าก็คงสว่าง

ในตอนนี้ จู่ๆข้างหน้าก็มีรถขับผ่านมา แสงไฟจากพวกเขา สาดเข้าหากรมนุมาจากที่ไกลๆ

นรมนหยุดชั่วคราว ก่อนจะขานรับอย่างรวดเร็ว

เมื่อรถขับมาเกือบถึงนรมน ธิดาก็รีบเปิดประตูลงมา

“คุณนาย พวกเราขับตามมาตลอดทาง ทำไมมาหยุดตรงนี้ เล่าครับ?”

นรมนตอบอย่างช่วยไม่ได้ ไม่มีน้ำมันนะ

“หา?”

เห็นได้ชัดว่า ธิดาทำหน้างุนงงกับปัญหาที่ไม่ค่อยพบเจอเช่น

นี้

“เอาอย่างนี้ พวกคุณขับรถของผมไปก่อน ผมจะรอให้นาวิน มารับพวกเรา”

ธิดาส่งกุญแจรถให้นมน
นรมนครุ่นคิดสักพัก เธอคาดว่าเจตคงร้อนรนใจจะบ้าแล้ว นําเทย่ากลับให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความอันตราย

“โอเค พวกเราไปก่อน พวกเธอดูนิตา ให้ดี รอนานมาแล้วส่ง ไปให้เจตต์ทางนั้นแล้วกัน”

“โอเคครับ จริงสิครับคุณนาย ประธานบริศร์ก็ขับตามหลังมา

ครับ”

คำพูดของธิดาทำให้นรมนชะงัก

บอกเขาแล้วว่าไม่ให้มา เขาก็ยังไม่สบายใจ

“ฉันรู้แล้ว”

นรมนและเทย่าเข้าไปในรถของ ธิดาขับมาไม่นานก็เจอเข้ากับ

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

บริศร์ลงจากรถอย่างกระวนกระวาย และมองไปยังนรมนหัว จรดเท้าอย่างละเอียด ถ้าหากไม่มีเทย่ายืนอยู่ คาดว่าเขาคงถอด เสื้อผ้านรมนออกเพื่อตรวจสอบแล้ว

นรมนรู้สึกอายเล็กน้อย

“ฉันไม่เป็นไร คุณน้าเทย่าก็อยู่ที่นี่ด้วย

“ใคร?”

บริศร์ยังคงไม่ทันมอง
เทย่ามองไปยังบุริศร์ที่เติบใหญ่ ก่อนจะอุทานขึ้นมา “บุริศร์โต ขนาดนี้แล้ว”

บริศ ค่อยหันไปมองเทย่า

ในความทรงจําของบริศร์ ความทรงจำของเขาคือเหย่าที่อายุ ก่อนสี่สิบห้าปี เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาของเทย่า เขาก็จำไม่ได้ไปชั่วครู่

“แม่ของเจตต์ น้าเทย่า”

นรมนรีบเตือนอย่าเร็ว

บุริศร์เข้าใจในทันใด “สวัสดีครับน้าเทย่า”

ตอนนี้ทั้งคู่เรียกชื่อจริงของเทย่า โดยไม่รู้ตัว แทนที่จะเรียกเธอ ว่าคุณนายรัตติกรวรกุล ถึงอย่างไรตระกูลรัตติกรวรกุลก็ยังมี คุณนายรัตติกรวรกุลอีกคนอยู่ แต่เทย่าก็ไม่จำเป็นต้องหวงแหน สมญานามนี้

“สวัสดีจ๊ะ ครั้งนี้ลำบากนรมนมากแล้ว พวกเรารับกลับเถอะ คาดว่าเจตต์คงร้อนรนใจมากแล้ว”

เทย่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เธอคิดว่านรมนเหมาะสมที่จะเป็นลูกสะใภ้ของเธออย่างไร แต่ คนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอคือบุริศร์

บุริศร์รู้สึกว่าสายตาของเทย่าไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากในสายตาเขาเรื่องของนรมนสำคัญที่สุด

“นิตาละ?”

“ฉันทำให้เธอเป็นลม ธิดาคอยดูอยู่ เดี่ยวให้เขาเอานิตาไปส่ง เจตต์”

นรมนและธิดาเข้าไปในรถ ก่อนจะคุยเรื่องนี้กันตลอดทาง

บุริศร์พูดอย่างกลัวๆว่า “คุณจะกล้าหาญเกินไปแล้ว ไม่ว่า อะไรก็กล้าดื่ม ถ้าหากนั่นไม่ใช่ยาเบื่อละ?”

“ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ไม่ใช่พิษ ฉันก็ไม่กลัว ตอนนี้ฉัน ปราศจากพิษใดๆ”

“ถุย!”

บุริศร์ย ใส่นรมน ทําให้นรมนรู้สึกขบขันขึ้นมา

“ประธานบริศร์ นี่คุณสนภาพลักษณ์อยู่ไหมคะ?”

“ผมอยู่กับคุณ ยังต้องสร้างภาพอีกหรือ? คุณเคยบอกว่าใจ คุณรู้ดีว่าตัวเองเป็นอย่างไร จะทำตัวดีๆ นี่คือดีแล้วหรือ? ผมจะ บอกให้นะ นรนมน จากนี้เป็นต้นไป คุณต้องอยู่แต่ในบ้านอย่าง ชื่อตรง ห้ามออกไปที่ไหน

ทันทีที่บุริศร์พูดจบ เทย่าก็พูดขึ้น

“อย่างนั้นไม่ได้สิ คุณต้องถูกจำคุกผิดกฎหมาย อีกอย่าง ฉัน ยังต้องให้นรมนมานั่งที่เดียวกับฉันที่ตรงนี้

เมื่อได้ยินคำพูดของเทย่า เสียงเตือนในหัวใจของบุริศร์ก็ดัง
“น้าเทย่า ผู้หญิงที่ลักพาตัวน้ามาคนนั้นชื่อนิตา เธอเป็นแฟน ของเจตต์ อย่าจําผิดสิครับ”

“ไม่สน ฉันไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ เทย่าเกือบจะพลาดพูดไปว่าอยากให้นรมนมาเป็นลูกสะใภ้ บุริศร์ละต้องการให้เทย่าออกจากรถไปจริงๆ ลูกชายเป็นอย่างไรแม่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

เจตคนนี้เข้าไปพัวพันเกาะติดกับนรมนเป็นเวลานาน ในที่สุด ก็ปล่อยนรมนแล้ว และหานิตาของตัวเองเจอ แล้วทำไมแม่ของ เขาถึงออกมาก่อกวนกันอีก?

นรมนมองไปยังท่าทางน้ำท่วมปากของบุริศร์ และอดไม่ได้ที่

จะเม้มปากห้ามไม่ให้ตัวเองยิ้ม

บริศร์มองไปยังท่าทางไร้หัวใจของนรมน จองเธออย่างโหด

ร้าย

ทั้งสองกลับเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว

เจตต์ออกมาต้อนรับเข้า

“แม่ฉันละ?”

“รีบเอาแม่นายออกมา!

บุริศร์คว้าแขนของเจตต์ และพูดว่า “ฉันเตือนแก ช่วงนี้นรมนยุ่งมาก ไม่มีเวลาไปเป็นแขกบ้านนายหรอกนะ ไม่ไปที่ไหน “นายพูดอะไรเนี่ย?”

เจตต์ทำหน้าอะไรวะอย่างไม่รู้เรื่อง

บุริศร์กลับขี้เกียจที่จะพูดกับเขา ก่อนจะผลักเขาไปตรงหน้าเท

ย่า

“แม่ สบายดีไหม? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” “ไม่ ไม่เป็นไร ไหนให้แม่ดูลูกให้เต็มตาหน่อย เทย่ามองเจตต์อย่างตื่นเต้น

เธอเคยอยู่ในอาการโคม่าและตื่นขึ้นมาอยู่พักหนึ่ง พูดได้ว่า เธอใช้เวลาอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลานาน และตอนตื่นมาก็ น้อยนิด ตอนนี้ลูกชายของเธอก็โตขึ้น เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเอง กำลังฝันอยู่

“ขอโทษนะ ระยะเวลาหลายปีมานี้แม่ไม่ได้ดูแลลูกเลย ขอ

โทษจริงๆ”

“แม่ อย่าพูดอย่างนี้ แม่ตื่นขึ้นมาได้ผมก็มีความสุขมากแล้ว ครับ ไปเถอะ ผมจะพากลับบ้าน

ใจของเจตต์เต็มไปด้วยความสุข สำหรับเขาแล้ว แม่สามารถ ตื่นขึ้นมาได้นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่คิดไม่ฝันมาตลอดชีวิต

“โอเค แม่จะกลับบ้านกับลูก

เทย่าจับมือของเจตต์ไว้แน่น และไม่อยากจะปล่อยมันออกไปตลอดชีวิตนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ