แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1017 มีเรื่องอะไรเธอบอกฉันได้



บทที่ 1017 มีเรื่องอะไรเธอบอกฉันได้

นรมนจับไม่แน่น มือถือตกลงพื้น เกิดเสียงดังเพลง ดีที่มือถือ แข็งแรง ยังคงส่งเสียงดังอย่างนั้น สมจิตรีบก้มลงหยิบมือถือขึ้นมา แล้วส่งคืนให้นมน นรมนมองแวบหนึ่ง ธิดาเป็นคนโทรเข้ามา เธอสูดลมหายใจลึก หลังจากนั้นกดรับสาย “ธิดา มีเรื่องอะไรหรือ

“พี่สะใภ้กลับมาตอนไหนคะ ฉันได้ยินแม่บอกว่าคืนนี้พี่จะ กลับมากินข้าวเย็น ตอนนี้มีเวลามั้ยคะ ฉันอยากไปตรวจครรภ์ แม่ใช้นานออกไปซื้อของแล้ว ฉันกลัวกว่าจะรอเขากลับมาก็เลย เวลาตรวจของโรงพยาบาลแล้ว

ธิดารู้สึกเกรงใจ

นรมนขมวดคิ้วนิดหนึ่ง

“ตรวจครรภ์ทำไมไม่ไปตอนเช้าล่ะ”

“แม่ลืมบอกฉันค่ะ เมื่อกี้เพิ่งบอก ไม่อย่างนั้นฉันไปพรุ่งนี้ก็ได้

ธิดาคิดว่านรมนกำลังยุ่ง รีบพูดขึ้น

แพรวาลืมบอกจริงๆ หรือ หรือว่าตั้งใจบอกธิดาตอนนี้
นรมนไม่รู้ แต่เธอรู้สึกว่าตอนนี้แพรวา ให้นาวินออกไปข้าง นอกเห็นซัดต้องการให้เธอไปเป็นเพื่อนธิดา

ในเมื่อเธอขุดหลุมแล้ว เธอไม่กระโดดลงไปจะไม่จริงใจหรือ

นรมนยิ้มเย็น พูดขึ้น “ฉันไม่ได้ยุ่งอะไร เดี๋ยวฉันจะกลับไป เธอ เก็บของละกัน เดี๋ยวฉันโทรหาโพนี่ ถ้าไม่ได้เดี๋ยวไปตรวจที่โรง พยาบาลทหาร ไม่ต้องต่อคิว

“ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้”

ช่วงที่ธิดาท้องลำบากมาก และไม่ชอบเข้าแถวรอ แต่ถ้าไปโรง พยาบาลหัวเฉียว ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ถ้านโมนพาเธอไปโรงพยาบาลทหารได้จริงๆ อาศัยความ สัมพันธ์ของนรมนกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพนี่ จะไม่เร็วขึ้น หน่อยได้อย่างไร

ธิดาวางสายแล้ว นรมนเก็บมือถือ เธอมองตามทางที่เชษฐ์จากไป ผู้ชายคนนี้นอกจากรักอชิระ ไม่เป็นห่วงธิดาสักนิดเดียว เธอก้าวเท้าออกจากเรือนจําหมายเลขสอง สมจิตอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา นรมนพูดจายิ้มๆ “เธอจะเกลี้ยกล่อมไม่ให้ฉันไปบ้านเก่า ตระกูลโตเล็ก ใช่มั้ย

“คุณรู้ดีมันเป็นกับดักยังจะไปอีก ไม่ดูโง่ไปหน่อยหรือคะ”
สมจิต พูดตรงๆ ไม่เกรงใจสักนิด

นรมนกลับชอบนิสัยของเธอมาก

“แพรวาเตรียมทุกอย่างนานขนาดนี้ พวกเราจะหลบตลอดไป ไม่ได้ สู้เผชิญหน้าตรงๆ ไม่ได้เจอแบบไหนก็รับมือแบบนั้น

นรมนยิ่งนิ่งเฉย สมจิตยิ่งเป็นห่วง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ทั้งสองคนกลับไปถึงบ้านเก่าตระกูลโตเล็ก

แพรวาเห็นสมจิตเดินตามหลังนรมน ก็อดตะลึงไม่ได้ ถามขึ้น “คนนี้คือ…”

“สมจิตบอดี้การ์ดของฉันค่ะ”

นรมนพูดช้าๆ

แพรวาอึ้งไป แล้วยิ้มออกมา “นรมนตอนนี้เธอออกจากบ้าน ต้องมีบอดี้การ์ดแล้วหรือไง”

“อืม ช่วงนี้คนที่อยากทำร้ายฉันมีเยอะเหลือเกิน ฉันต้องรับ ประกันความปลอดภัยชีวิตตัวเอง ตอนนี้บุริศร์ถูกคนใส่ร้าย ยัง ถูกคุมตัวอยู่ ถ้าฉันเกิดเรื่องอะไรอีกคน ไม่ทำให้สามีฉันร้อนใจ หรือ คิดว่าไงคะ คุณน้าแพรวา”

นรมนมองแพรวายิ้มๆ แต่ดวงตาคู่นั้นคมกริบ ทำให้แพรวา ทําตัวไม่ถูกไปครู่หนึ่ง

“พี่สะใภ้มาแล้วหรือคะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว เราไปกันเลยมั้ย คะ”
ธิดาเดินออกมาพอดี

“โอเค ไปกันเถอะ”

นรมนมองแพรวา แวบหนึ่ง ถามขึ้น “คุณน้าแพรวาไม่ไปด้วย กันหรือคะ”

“พวกเธอป้าหลานไปกันสองคนเถอะ ฉันไม่ไปล่ะ เตรียมอาหา รอร่อยๆ รอพวกเธอที่บ้าน มีเรื่องอะไรก็โทรมาได้ตลอด

“ค่ะ”

ธิดาดีกับแม่คนนี้มาก สายตามีแต่ความอบอุ่น บางทีเป็น เพราะตัวเองก็ใกล้จะเป็นแม่คนแล้ว จึงยิ่งพึ่งพิงแพรวามากขึ้น นรมนเห็นเช่นนี้แล้วก็ขมวดคิ้ว

นี่ไม่ใช่เรื่องดี

ตอนนี้เธอรู้แล้วแพรวาไม่ใช่คนดี กลัวว่าถึงเวลาที่แพรวา ใช้ ธิดาเป็นตัวประกัน ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ธิดาจะรับได้หรือ

คิดถึงตรงนี้ ในใจนรมนก็มีแผนแล้ว ตอนที่ธิดาเดินออกจากบ้านเก่าตระกูลโตเล็ก สมจิตไปขับรถ

มาแล้ว

นรมนโทรไปหาโพนี่

“สุขภาพเธอเป็นไงบ้าง

“ก็ดี ทําไมเหรอ”
โพนี่รู้ดี นรมนไม่ใช่คนที่จะโทรมาหาเธอ โดยไม่มีธุระอะไร รับถาม น

นรมนอยู่ต่อหน้าธิดาไม่กล้าพูดอะไร เพียงพูดขึ้น “ถ้าร่างกาย ยังไหว เธอช่วยไปโรงพยาบาลหน่อย ธิดาท้อง อยากจะตรวจ ครรภ์หน่อย ฉันไม่ไว้ใจคนอื่นนะ

โพนี่อึ้งนิดหนึ่ง

หมอสูตินรีเวชไม่ใช่มีเธอคนเดียว ถ้าต้องการจัดการอะไร โพ นี่แค่โทรศัพท์ก็ได้แล้ว ในเมื่อเธอคือผู้อำนวยการ แต่ตอนนั้นร มนกลับถามขอให้เธอไปโรงพยาบาลถ้าร่างกายเธอไหว คำพูด นี้ฟังแล้วน่าคิด

“โอเค เดี๋ยวฉันไป พวกเธอไปรอฉันละกัน

วางสายแล้ว นรมนเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ธิดาตื้นตันใจ “พี่สะใภ้ขอบคุณมากค่ะ ฉันไม่ค่อยสนิทกับ ภรรยาของคุณชายป้อง รบกวนพี่แล้ว”

“ครอบครัวเดียวกันไม่ต้องขอบคุณหรอก พี่ชายเธอไม่อยู่ ฉัน ก็ต้องปกป้องเธอ

คำพูดนั้นรมนจริงใจ น่าเสียดายที่จะฟังความหมายออกหรือ ไม่ก็ต้องดูตัวธิดาเองแล้ว

สมจิตขับรถเข้ามา นรมนกับธิดาก็ขึ้นรถออกไป

ไม่นานรถก็มาถึงโรงพยาบาลทหาร
ธิดารู้อยู่แล้ว โรงพยาบาลทหารมักจะคิวเต็ม นึกไม่ถึงตอนนี้ ตัวเองจะมาที่นี่

เธอรู้สึกตื่นเต้นมากขณะที่นรมนพาเข้าไปใน

โพนี่มาถึงแล้ว

เธอท้องโตมาก รูปร่างก็อวบอ้วนขึ้นมาก แต่ใบหน้ายังอ่อน

โยน

“ท้องเธอ…”

โพนี่แปลกใจ

ป้องไม่ได้บอกเรื่องที่นรมนแท้ง เธอจึงไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อเห็นหน้า ท้องนรมนแบนราบ ก็อดที่จะตะลึงไม่ได้

“แท้งแล้ว ไม่มีวาสนากับเด็ก ไม่ต้องพูดเรื่องฉันแล้ว นี่คือธิดา

น้องสามีของฉัน เธอรู้จักแล้ว ช่วยตรวจให้เธอละเอียดหน่อยละ

กัน บุริศร์เป็นห่วงเธอมาก

เมื่อได้ยินนรมนพูด โพนพยักหน้านิดๆ แล้วพาธิดาเดินเข้าไป

ในห้อง

ผ่านไปไม่นาน โพนี่ก็เดินออกมา

“เป็นยังไงบ้าง”

“ฉันคิดว่าจะให้เธออยู่ที่โรงพยาบาลได้มั้ย”

นรมนไม่ปิดบังความคิดของตัวเอง ถามโพนี่ตรงๆ
โพนพยักหน้า “เธอมีอาการเลือดออกนิดหน่อย ฉันจะได้ใช้ เป็นข้ออ้างพอดี แต่ทำไมล่ะ”

“วันหลังฉันค่อยอธิบายให้เธอฟัง

สองคนเพียงแต่คุยกันสั้นๆ ธิดาก็เดินออกมา “ผอ.โพนี่ฉันเป็นยังไงบ้างคะ เด็กในครรภ์แข็งแรงดีมั้ยคะ

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

โพนี่หน้าตาจริงจัง ทำให้ธิดาตกใจไม่น้อย

“ผอ.โพนี่ ฉันเป็นอะไรคะ ลูกเป็นอะไรคะ”

เห็นธิดาตกใจจนหน้าซีด นรมนรู้สึกผิดลึกๆ และสงสาร

โพนส่ายหน้า “ลูกของคุณมีสัญญาณของอาการแท้ง ฉันคิดว่า คุณก็เห็นแล้ว กางเกงคุณมีเลือด ฉันแนะนำให้นอนโรงพยาบาล สังเกตอาการสักหนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่มีปัญหาหนักหนาอะไร ก็กลับ บ้านไปพักผ่อน ถ้ามีปัญหาอะไร เราจะได้แก้ไขทันที่โรงพยาบาล คุณคิดว่ายังไงคะ”

ธิดาพอได้ยินว่าตัวเองมีสัญญาณของอาการแท้ง ทันใดนั้นก็ ตกใจ พูดทันทีโดยไม่ต้องคิด “ค่ะๆ ขอแค่ให้เด็กปลอดภัย คุณ บอกอะไรฉันจะทำตามค่ะ”

“อย่างนั้นก็ทำเรื่องอยู่โรงพยาบาลก่อนละกันค่ะ ฉันจะแนะนำ หมอสูติที่มีประสบการณ์ให้คุณ

โพนี่เพิ่งพูดจบ นรมนก็พูดขึ้น “ฉันไปทำเรื่องเอง ธิดาเธอนั่งพักทีนีเถอะ”

“รบกวนพี่สะใภ้ด้วย”

ธิดารู้สึกเกรงใจมาก

นรมนเป็นที่รักที่บุริศร์ประคองไว้ในมือมาตลอด ตอนนี้วุ่นวาย เพราะเรื่องของตัวเอง ไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกเกรงใจมาก

นรมนกลับโบกมือ แล้วให้ สมจิตอยู่ในห้อง ส่วนตัวเองออก ไปจัดการขั้นตอนอยู่โรงพยาบาล

หลังจากเธอพ้นสายตาของธิดาแล้ว บรมนก็โทรไปหาธรณี

“อาเล็ก ฉันมีเรื่องอยากจะขอให้อาช่วยค่ะ”

“มีเรื่องอะไรหรือ”

ขอแค่นรมนขอร้องธรณีไม่เคยละเลย

นรมนกระซิบ “ฉันอยากได้ที่ปลอดภัยที่ไม่มีใครรู้ เหมาะให้ คนท้องพักฟื้น อาพอจะช่วยได้มั้ยคะ”

“อามีที่แบบนั้นอยู่ เดี๋ยวจะไปจัดการให้ จะไปเมื่อไหร่ล่ะ

“อีกชั่วโมงนึงค่ะ”

“โอเค”

หลังจากพูดคุยเสร็จแล้ว นรมนก็ไปทำเรื่องพักในโรงพยาบาล แล้วกลับไปห้องตรวจ

“ทำเรื่องเสร็จแล้ว ตอนนี้สภาพของธิดาต้องให้สารอาหารมั้ย”

โพนี่เข้าใจดี

“ต้องการสิ ถึงจะทําเรื่องอยู่โรงพยาบาลแล้ว ฉันจัดที่นอนให้ พวกเธอละกัน ฉันจะให้พยาบาลไปจัดการให้ธิดาไม่ต้องกังวล พักผ่อนเต็มที่ จิตใจมีความสุขถึงจะดีกับเด็กๆ

โพนี่พูดอย่างอ่อนโยน

ธิดารีบพยักหน้า

ทั้งสองคนไปห้องพักคนไข้

ไม่นานพยาบาลก็เข้ามาให้สารอาหารธิดา

ผ่านไปราวสิบกว่านาที ธิดาก็รู้สึกง่วงนิดหน่อย เธอหาว “พี่สะใภ้ฉันง่วงนอนแล้ว ฝากบอกแม่หน่อยนะคะ ฉัน

อยู่ที่นี่”

“ได้จ้ะ พักผ่อนเถอะ”

นรมนคลุมผ้าห่มให้เธอ ธิดาก็ผล็อยหลับไป

เธอเห็นธิดาหลับสนิทแล้ว ถึงออกจากห้อง

โพนี่ยืนรอข้างนอก

“เป็นยังไงบ้าง”

“แพรวาลงมือแล้ว ฉันกลัวธิดาอยู่ที่นี่จะถูกใช้เป็นตัวประกัน ก็ เลยคิดว่าจะส่งเธอไปที่อื่น ยานอนหลับในสารอาหารของเธอไม่กระทบกับเด็กใช่มั้ย”

นรมนค่อนข้างเป็นห่วง

โพนส่ายหน้า “ไม่มีผลอะไร แต่เวลาที่หลับไปอาจจะไม่นาน

มาก”

“ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไร มีเรื่องอะไรเธอบอกฉันได้

“โอเค”

นรมนยิ้มบางๆ แล้วโทรไปหาธรณี ขอที่อยู่ที่นั่น แล้วขอให้โพ นี่ใช้รถพยาบาลปิดบัง ส่งตัวธิดาไปที่นั่นทันที

เสียงรถพยาบาลดังหวอขับออกไป ใจของนรมนถึงค่อยนิ่งลง

บ้าง

สมจิต มองเธอไม่เข้าใจ “เธอเป็นลูกสาวของแพรวา คุณยังดี

กับเธอขนาดนี้ ถ้าเกิดเธอรู้ว่าคุณทำอะไรแม่ของเธอ คุณคิดว่า

เธอจะไม่เกลียดคุณหรือคะ”

“ตอนนี้มัวแต่คิดมากไม่ได้แล้ว ฉันรู้แต่ว่าจะให้เธอเป็น อันตรายไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่น วันหลังค่อยว่ากันเถอะ”

“นาวินล่ะคะ เขาเป็นสามีของธิดา ธิดานอนโรงพยาบาล เขา จะต้องมาดูแลเมียตัวเอง ประวัติอยู่โรงพยาบาลเป็นของธิดา แต่ เธอกลับไม่อยู่ที่นี่ คุณจะอธิบายกับนาวินยังไงคะ หรือคุณคิดว่า แพรวา เป็นพวกเดียวกันกับนาวิน ถึงได้ปิดบังนาวินด้วยสมจิตพูดจบ ก็เบิกตาโตทันที คงไม่ใช่อย่างนี้จริงๆหรอกนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ