แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 856 เชื่องราวกับแกะน้อย



บทที่ 856 เชื่องราวกับแกะน้อย

“เป็นอะไรไปคะ? เกิดอะไรขึ้น?

นรมนอดไม่ได้ที่จะถาม เมื่อใบหน้าของบริศร์ไม่ค่อยดีนัก

บริศ ยิ้มอย่างรวดเร็ว ก่อนพูดว่า “ไม่มีอะไรครับ คุณอยู่กับ คุณตาและคุณปู่เถอะ เดี๋ยวผมไปก่อน

“ค่ะ”

นโมนพยักหน้า

ในเมื่อบริศ ไม่พูดอะไร นรมนรู้สึกว่าตัวเขาเองคงสามารถ จัดการมันได้ดี

เมื่อเห็นว่าบุริศร์ไปแล้ว คุณท่านพรโสภณจึงพ่นลมหายใจ ก่อนพูด “เด็กหนุ่มนี่ตอนที่อยู่ในเขตทหารตอนแรกหัวแหลมมาก ทำไมเมื่อมาอยู่ในมือหนู ถึงเรื่องราวกับแกะตัวน้อย ไม่ชินเลย จริงๆ”

คิมไอก่อนพูด “พ่อคะ พูดอะไรกัน? นรมนเป็นหลานสาวของ พ่อนะ หวังจะให้บริศ เป็นหมาป่ากับหลานสาวพ่อหรือ?”

“ก็จริง ฉันคิดผิดไป

คุณท่านพรโสภณรีบขอโทษ

นรมนมองออก พวกเขาชอบเธออย่างใจจริง เลยไม่ได้สนใจ
“โอเค หนูไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนพวกเรา ระหว่างทางเหนื่อย แย่เลย รีบไปพักผ่อนเถอะ”

คิมมองไปที่รอยคล้ำใต้ตาของนรมน อย่างเศร้าใจ

“ไม่เหนื่อยค่ะ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนเอง

นโมนทําใจทิ้งพวกเขาไม่ลง พูดตามตรง สถานการณ์ของคิม ตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้นานแค่ไหน นรมนไม่คิดและไม่กล้า จากไป เธอกลัวว่าหากเธอไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับคิม

คิมรู้ว่านรมนคิดอะไรอยู่ เธอพูดเสียงต่ำ “สบายใจเถอะนะลูก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่หรอก อย่างน้อยก็จะสบายดีก่อนวัน แข่งขันของหนู แม่สัญญา”

“เอาละ แม่ของหนูพูดขนาดนี้แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรหรอกนะ อีก อย่าง ที่นี่ไม่ใช่มีมิลินอยู่หรอกหรือ? มิลินจะกลับมาเมื่อไหร่?

คุณท่านพรโสภณเฝ้าภาวนาให้มิลินอยู่ข้างคิมตลอดเวลา นรมนรู้ว่ามิลินทำอะไร แต่กลับพูด “น่าจะกลับมาแล้ว ถ้า อย่างนั้นหนูกลับไปพักก่อน”

“ไปที่ไหนหรือ?”

คุณท่านพรโสภณเห็นนรมนกำลังเดินออกไป เขาจึงอดไม่ได้ที่ จะถาม

นรมนพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ห้องของตาที่นี่มีไม่มาก ตอนนี้ แม่กลับมาแล้ว ดังนั้นหนูต้องกลับไปบ้านโตเล็ก”
“พูดอะไรน่าตกใจอย่างนั้นกัน ห้องของแม่หนูยังคงเป็นของ เธอ แต่ห้องของหนู ตาตกแต่งไว้แล้ว พวกเราขึ้นชั้นสองกัน เถอะ”

“ซันสอง?”

นรมนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เธอคิดว่าชั้นสองเป็นเพียงทํางานหรืออะไรบางอย่าง เธอไม่ เคยเห็นใครขึ้นไปที่นั่นเลย

คิมยิ้มก่อนพูด “ตอนนั่นคนในบ้านเยอะมาก มีแม่ เทย่า ต่างก็ อยู่ หนูคิดว่าแค่หนูคนเดียวก็เต็มแล้วเหรอ? แต่เมื่อก่อนแม่อยู่ที่ ชั้นสองของบ้าน หลายปีแล้ว ที่คุณพ่อไม่ได้เปิด”

เมื่อคุณท่านพรโสภณได้ยินคนพูดเช่นนี้ เขาถอนหายใจก่อน พูด “มีบางอย่างที่ปล่อยวางไม่ได้และตอนนี้ก็อยากปล่อยวาง พ่ออายุเท่านี้แล้ว จะสนใจอะไรอีก ฉันได้ให้ใครมาตกแต่งใหม่ แล้ว ไม่ต้องห่วง จะไม่มีเงาหรือกลิ่นอายของใครอยู่แน่นอน”

นรมนรู้ดีว่าคุณท่านพรโสภณทำอะไรรวดเร็วเฉียบขาด เธอจึง ไม่พูดอะไร ลงมาข้างล่างเพื่อพักผ่อนโดยโตน

ห้องนี้ได้รับการตกแต่งใหม่จริงๆ ดูไม่ออกถึงเค้าลางของห้อง เก่า แต่เวลาปรับปรุงไม่ควรสั้น

โตษินมองไปยังนรมน ก่อนถาม “คุณหนู พอใจไหมคะ? อันที่ จริงเจ้าบ้านตกแต่งเสร็จเมื่อห้าปีที่แล้ว

“ห้าปีที่แล้ว?”
นรมนแปลกใจเล็กน้อย

โต นพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ เมื่อตอนคุณหนูแต่งงาน เจ้า บ้านก็เตรียมพร้อมเสร็จแล้ว เดิมทีวางแผนจะไปรับคุณหนู แต่ เมื่อคิดไปคิดมา ไม่มีข่าวของคุณหนูใหญ่ เขาไม่รู้ว่าเขาควร อธิบายฐานะของเขาอย่างไร เขาเลยหยุด แต่ภายในปีที่ผ่านมา นี้ เจ้าบ้านไม่เคยปล่อยความสนใจจากคุณหนู แต่มันก็มีบาง เรื่องที่มันเหนือบ่ากว่าแรงของเขา หวังว่าคุณหนูจะไม่โทษเจ้า บ้านนะคะ”

“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

ตอนนั้นรมนหวงแหนความรักอันล้ำค่าของครอบครัว ไม่สน เรื่องในอดีตว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่พูดไปทั้งหมด? บ้านไม่ใช่ สถานที่แห่งการให้เหตุผล แต่เป็นสถานที่แห่งความรัก ยากที่จะ สับสนสักหน่อยก็ดี

โตษินถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่า นรมนไม่ได้ ตำหนิ

“ครอบครัวมีผู้หญิงไม่มากนัก เรื่องของคนใช้ เจ้าบ้านไม่เคย ว่าจ้างผู้หญิง บางครั้งสาวใช้ก็ทำงานพาร์ทไทม์ด้วย เจ้าบ้าน บอกแล้ว ให้คุณหนูวันนี้น้อยใจสักหน่อย พรุ่งนี้ให้ฉันไปหาแม่ บ้านมา ตอนนี้พยาบาลของคุณหนูได้รับบาดเจ็บ และต้องหานัก โภชนาการมาเพื่อติดตามคุณหนู”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ โตษินพูด นรมนก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่จําเป็น หรอกค่ะ ฉันทำด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั่น บุริศร์ไปหาแล้ว รอให้เขากลับมาค่อยพูดอีกครั้ง”

“โอเค คุณหนู ถ้าอย่างนั้นคุณพักผ่อนก่อน ต้องการอะไรก็ เรียกฉันนะคะ ฉันจะไปจัดการเรื่องราวในบ้านชั่วคราว ฉันขอลา ไปก่อน”

โตนออกไปด้วยท่าทางเคารพ

นรมนมองไปยังห้อง ปรับความคุ้นชินกับแสงไฟ จากนั้นจึงนั่ง ลง

อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมใหม่ ตอนแรกนรมนง่วงมาก แต่ตอนนี้กลับนอนไม่หลับ

เธอคิดถึงสีหน้าของบริศ เมื่อเขาจากไป แม้ว่าเขาจะบอกว่า ไม่เป็นไร แต่นรมนก็ยังกังวลเล็กน้อย

เธอมักจะรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างถูกละเลย แต่เธอคิดไม่

ออก

การตั้งครรภ์ทำให้ความสามารถของสมองของผู้หญิงลดลง แถมช่วงนี้เกิดเรื่องหลายอย่าง นรมนยวดขมับของตัวเอง ก่อน จะเปิด โน้ตบุ๊ก

คุณท่านพรโสภณก็ถือเป็นนักเคลื่อนไหว เธอไม่ได้ไปที่ยูน นานและย้ายทรัพย์สินทั้งหมดของเธอไป และเธอไม่รู้ว่าบุริศร์ อนุญาตหรือไม่

นรมนเปิดคอมพิวเตอร์ดูภาพวาดที่คุ้นเคย และรู้สึกสงบขึ้นใน ทันใด ร่างเบื้องต้นของเธอเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และตอนนี้รายละเอียดบางอย่างจําเป็นต้องได้รับการเสริม เช่นเดียวกับ แนวคิดใหม่บางอย่างที่ ที่นรมนต้องการเพิ่มเข้าไป

นรมนก้มศีรษะลงและเริ่มออกแบบ แค่เพียงครู่เดียวเธอก็ หลงลืมเวลาไปเลย

คิมและคุณท่านพรโสภณยังคงนั่งคุยกันอยู่ด้านล่าง แต่คนที่ ยังมองไปห้องด้านบนเป็นครั้งคราว ก่อนจะพบว่าไฟยังคงสว่าง อยู่ เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หนูจะขึ้นไปดูลูก เด็กคนนี้ลืมปิดไฟ ไหม? เปิดไฟนอนไม่ดีไม่ดีกับประสาทนะ”

“ให้โตบินไปดู ลูกพักผ่อนเถอะ”

คุณท่านพรโสภณพูดออกมาทันที พูดจบจึงรู้สึกอึดอัดใจ

คิมยิ้มก่อนพูด “ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมคะว่าไม่มีผู้หญิงในบ้าน มันเป็นอย่างไร? ต่อจากนี้ไปก็ยังจะมีหลานเขยอยู่อีก เมื่อถึง ตอนนั้นจะให้ผู้ชายมอมแมมอย่างโตหินเข้าไปดูพวกเขาในห้อง หรือ?”

“โอเค พรุ่งนี้พ่อจะให้โตบินไปหาคนมาเพิ่ม แต่ไม่ให้เขาหาผู้ หญิงมามากนัก แต่พูดตรงๆ พ่อไม่ค่อยชินกับการที่มีผู้หญิงใน บ้าน”

เมื่อได้ยินสิ่งที่คุณท่านพรโสภณ คิมก็ยิ้ม “หนูกับนรมนเป็นผู้ หญิง พ่อก็ไม่ชินหรือ? ถ้าไม่ชิน หนูกับนรมนจะย้ายออก

“พูดเรื่องอะไร?”

จู่ๆ ใบหน้าของคุณท่านพรโสภณก็เคร่งเครียด
แต่เมื่อเขาเห็นคิมยิ้ม คุณท่านพรโสภณก็หยุดโกรธทันใด

“โอเค ไปพักเถอะ พ่อจะทําอาหารให้กิน พ่อจําได้ว่าหนูชอบ กินบะหมี่ผัดมากที่สุด ไม่ใช่เหรอ?”

ร่างกายของคิมหยุดกะทันหัน ความคิดราวกับกระแสน้ำที่ จู่โจมมา

ตอนเด็กคุณท่านพรโสภณมักจะมีภารกิจ ไม่เจอตลอดทั้งปี เมื่อกลับมาก็มาอย่างรีบๆ ความทรงจำในวัยเด็กของคิมคือ บะหมี่ผัดของพ่อ

ราวกับว่าได้เห็นพ่อ หลังจากกินบะหมี่ผัด

หลายปีผ่านไป คุณท่านพรโสภณยังจำได้ว่าเธอชอบทานอะไร ที่สุด จมูกเธออดแสบร้อนไม่ได้

“พ่อ ไม่ต้องยุ่งเลย หนูไม่หิว หนูทำเองได้นา

คิมพูดพลางเหยียดกายลุกขึ้น แต่กลับถูกพ่อของเธอตั้งเอาไว้

“นั่งดีๆ หลายปีมาแล้ว พ่อไม่ได้ทำอาหารให้ลูกอย่างจริงๆ จังๆสักที พอละเลยหน้าที่

คุณท่านพรโสภณพูดจบ หางตาของเขาก็ขึ้นเล็กน้อย

หัวใจของคิมก็ท่วมท้นเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างก็ดื้อรั้น ถ้า ไม่ใช่เพราะนรมนในครั้งนี้ บางทีพวกเขาอาจจะยังไม่ได้เผาผีกัน ด้วยซ้ำ แต่ต่างคนก็ต่างรู้แจ้ง ในใจพวกเขายังคงห่วงใยกันและกันเสมอ
คุณท่านพรโสภณยืนกราน คิมก็ไม่ห้าม เมื่อบะหมี่ผัดมาเสิร์ฟ ตรงหน้า นํ้าตาของคิมก็คลอเบ้า

คุณท่านพรโสภณหาราวไม่เห็น หมุนกายไปเช็ดเบาๆที่หางตา ผ่านไปหลายปี ในที่สุดหัวใจที่อ้างว้างดวงนี้ก็ถูกเติมเต็ม

นรมนไม่รู้ว่าสถานการณ์ของคนด้านล่างเป็นอย่างไร เมื่อเธอ ทุ่มเทให้กับการออกแบบ เธอก็ลืมเวลาไปเลย ช่วงนี้เรื่องราว มากมาย การออกแบบของเธอก็หยุดลง ตอนนี้การแข่งรอบแรก มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นรมน รู้เรื่องนี้ในใจดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะ รู้สึกกังวลเล็กน้อย

หลังจากที่เขียนแบบออกแบบเสร็จแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ต้องปรับปรุงในภายหลัง

เมื่อนรมนทุ่มเทกับการทำงาน ด้านนอกที่มีเสียงเคาะประตู

เธอไม่แม้แต่จะเงยหน้า “เข้ามาค่ะ”

คิมยกชามบะหมี่ผัดเข้ามา เมื่อเห็นนรมนร่างแบบออกแบบ ด้วยความตั้งใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เด็กคนนี้นี่ เพิ่งลง จากเครื่องบิน ก็เหนื่อยพออยู่แล้ว พักก่อนไหมแล้วค่อยทำ

“รู้แล้วน่าแม่ หนูมีนิดหน่อย ทำเสร็จแล้วค่อยพัก” นรมนยังคงไม่แหงนหน้าขึ้นมามอง แรงบันดาลใจจะหายวับไป แต่เมื่อนรมนวาดเสร็จ คิ้วของเธอก็ขมวดเข้าด้วยกัน
“เป็นอะไรลูก?”

เมื่อมเห็นท่าทางนรมน เธอรีบถาม

นรมนถอนหายใจ รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกค่ะ แต่ช่างมัน เถอะ ค่อยทําแล้วกัน” พูดจบ เธอก็เธอพิมพ์ภาพวาดการออกแบบ จากนั้นมองดู

บะหมี่ผัดในมือของแม่ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหิว

“หอมจัง แม่ทําเองเหรอคะ?”

“ตาของลูกทํา”

คำพูดของคิมทำให้นรมนชะงัก

“ตา? เขาทําอาหารเป็นด้วย”

คิมยิ้ม “คนที่เคยอยู่ในเขตทหารคาดว่าคงทำเป็นนะ แต่แม่รู้ แค่ว่าคุณตาทำได้แค่บะหมี่ผัด

“อย่างนั่นก็ไม่เลว”

นรมนกินไปพลางรู้สึกถึงความอบอุ่นในหัวใจ ราวกับอุณหภูมิ ของเส้นบะหมี่ซึมเข้าสู่ผิวหนังทีละน้อยและละลายเข้าไปใน เส้นเลือด

“กินเสร็จแล้วก็พักผ่อน บุริศร์กลับมาไหมคืนนี้?”

คำพูดของคิมทำให้นรมนนิ่งไป

กลับมาไหม?
ไม่เคยได้ยินบริศ พูด

ถ้าบุริศร์ไม่กลับมาจะสามารถไปที่ไหนละ

เธออดคิดไปถึงท่าทางก่อนหน้าบุริศร์จะรับโทรศัพท์ไม่ได้ ตอนนี้เวลาผ่านไปนานแล้ว บุริศร์ยังไม่โทรมาหาเธอเลย บอก ตัวเองว่าจะกลับหรือไม่ ใจของนรมนอดเป็นห่วงไม่ได้

หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ