แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 659 สิ่งที่พวกเขาต้องการคือเวลา



บทที่ 659 สิ่งที่พวกเขาต้องการคือเวลา

ความเร็วของบริศร์ยังคงเร็วมาก

เขาก็เพียงแค่ตัดสินใจชั่วคราวว่าจะอยู่กับนรมนเป็นเวลาเจ็ด วัน เพราะกลัวว่าหากเกิดอะไรขึ้นมาจริง ๆ แม้แต่ความทรงจำ ทั่วไปของพวกเขาก็ไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่

นึกย้อนกลับไปหลังจากนรมนแต่งงานกับเขา พวกเขามีช่วง เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันน้อยมาก ๆ น้อยจนเขาสามารถนับนิ้วได้เลย

วันนี้ไม่เพียงแค่เรื่องของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้เขารู้สึก ติดค้างนรมน แค่เพียงแปดปีหลังจากการแต่งงาน นรมนคลอด ลูกชายหญิงให้แก่เขาคู่หนึ่ง เขาติดค้างนรมนมากเกินไปจริง ๆ

มองดูสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงบนมือถือ บุริศร์รู้สึกว่า

เลือกไม่ถูก

มือของเขาสั่นเล็กน้อย เขาส่งมือถือให้พฤกษ์เป็นอย่างแรก

“พฤกษ์ นายคิดว่าในเวลานี้ ควรไปเที่ยวที่ไหนดี? ” พฤกษ์อึ้งไปสักพัก รีบถามว่า “ประธานบริศร์ ท่านจะให้ผมลา หยุด ให้ผมไปเที่ยวกับคุมทิพย์ใช่ไหมครับ?

“คิดอะไรเนี่ย? ฉันจะไปเที่ยวกับนรมน นายเฝ้าบริษัทให้ดี นะ”

คำพูดของบริศ ทำให้พฤกษ์เหี่ยวแห้งทันที
“ประธานบริศร์ ท่านอย่าเป็นแบบนี้สิครับ บริษัทเป็นของท่าน นะครับ”

“ถ้านายต้องการ ฉันยกให้นายได้เลยนะ ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา ดูแลเรื่องเหล่านี้”

บริศ พูดออกมาคือความจริง

พฤกษ์หดหู่ใจยิ่งกว่าเดิม

“เอาเร็วเข้าสิ เที่ยวที่ไหนดี? ฉันจะจองตั๋วเครื่องบิน

“จองตั๋วเครื่องบิน? ไม่นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปเหรอครับ? ” พฤกษ์ถามอย่างไม่สบายใจ

บริศร์มองทางเดินด้านนอก และตอบอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่นั่ง ฉันจะพานรมนไปใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ฉันอยากลองสัมผัสกับ เธอว่าสามีภรรยาทั่วไปพวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร

“สามีภรรยาทั่วไป? ชีวิตที่เรียบง่ายแค่ได้อยู่กับคนที่เรารัก และมีปัจจัยสี่ที่เพียงพอ มันมีอะไรดีครับ”

คำพูดของพฤกษ์ทำให้บริศร์มึนงงไปสักพัก

ชีวิตที่เรียบง่ายแค่ได้อยู่กับคนที่เรารักและมีปัจจัยสี่ที่เพียง

พอ?

ก็ไม่มีอะไรไม่ดีไม่ใช่เหรอ?

เพียงแค่สองคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ ถึงแม้อยู่บ้านก็ เป็นวันหยุดพักผ่อน เพียงแต่บุริศร์ยังนึกถึงเมื่อตอนเพิ่งแต่งงานแววตาของนรมนที่อยากจะไปฮันนีมูน

เขาติดค้างฮันนีมูนกับนามน

บุริศร์พูดเสียงเบา “สถานที่ที่มีทัศนียภาพค่อนข้างสวยงามคือ ที่ไหนเหรอ? ”

“ถ้าพูดถึงสภาพอากาศที่ค่อนข้างสบาย ก็คงเป็นยูนนาน สิบ สองปันนาอาหารอร่อย เมืองลี่เจียงเมืองต้าหลี่ ก็เที่ยวสนุกดี ครับ ทําให้คนรู้สึกผ่อนคลาย

คําตอบของพฤกษ์ทำให้บริศร์ตัดสินใจได้

“งั้นช่วยจองตั๋วเครื่องบินสองใบไปยูนนาน ให้ฉันหน่อย ขอ เร็วที่สุด ทางที่ดีวันนี้สามารถออกเดินทางได้

พูดจบ บุริศร์ก็วางสาย

ทางฝั่งพฤกษ์รีบจัดเตรียมทันที

เมื่อบริศร์กลับมาถึงห้องผู้ป่วย ก็เห็นนรมนใจลอยออกไปนอก หน้าต่าง

แววตาของเธอมีความกลุ้มใจเล็กน้อย

แต่ก่อนนรมนไม่ค่อยใจลอย แต่ตอนนี้เขามองภาพด้านหลัง ของนรมนแต่ลำพัง ทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างไม่สามารถ บรรยายได้

บริศร์ก้าวขึ้นไป โอบกอดนรมนเบา ๆ จากด้านหลัง นรมนตะลึงทันที รู้สึกถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย เดิมคิดจะดิ้นหนีแต่กลับเงียบไม่พูดจา

“เวลาเจ็ดวันเริ่มตั้งแต่วันนี้เหรอ?

ภาษามือของนรมนทำให้หัวใจของบุริศร์เจ็บปวดอีกครั้ง

“หรือว่าต้องพูดแบบนี้ ทำแบบนี้คุณถึงจะไม่รู้สึกอึดอัด? ถ้า หากใช่งั้นผมก็จะตามใจ

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนเงียบไปอีกครั้ง

เธอไม่ต้องการทำร้ายหัวใจของบุริศร์ เธอก็รู้ว่าบางครั้งคำพูด ก็คือมีดที่อ่อนนุ่ม แต่ทำร้ายคนโดยมองไม่เห็น ทำให้คนเจ็บ ปวดจนร้องไม่ออก

เธอไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ

“เอาเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ว่าคุณต้องการทำอะไร ผมไม่ สนใจทั้งนั้น ในเมื่อพวกเรายังต้องอยู่ด้วยกันเจ็ดวัน จริงไหม?

บุริศร์ยิ้มอย่างไม่แยแส

นรมนสามารถมองเห็นความขื่นขมภายใต้รอยยิ้มของเขา

เธอเองก็รับไม่ได้

“พวกเราไปยูนนานกันดีไหม? ผมจำได้ว่าตอนที่พวกเราเพิ่ง จะแต่งงานกัน คุณอยากไปฮันนีมูน แต่ตอนนั้นผมยุ่งมาก จึงไม่มี เวลาไป จนล่าช้ามาแปดปี พวกเราอาศัยโอกาสนี้ ไปเที่ยวน นานกันดีไหม? ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนนิ่งไปอีกครั้ง
โชคดีที่เขายังจำได้ว่าแปดปีก่อนยังไม่ได้ไปฮันนีมูน น่าจะ ไม่ใช่เพราะยุ่ง แต่เพราะตอนนั้นไม่อยากไป

ในเมื่อตอนนั้นบุริศร์ยังไม่รู้หัวใจตัวเอง

วันนี้สามารถพาไปฮันนีมูนได้สักครั้ง เธอก็รู้สึกดี พยักหน้า ทันที

พฤกษ์ส่งหมายเลขยืนยันตัวเครื่องบินมาให้เรียบร้อย

บริศร์ถามอย่างอ่อนโยน “ต้องการสิ่งของอะไรอีกไหม? ถ้า ไม่ต้องการ พวกเราออกเดินทางตอนนี้ได้เลย”

“แล้วลูก ๆ ล่ะ? ”

นรมนยังคงรู้สึกเป็นห่วง

“วางใจเถอะ ผมติดต่อเรียบร้อยแล้ว จะมีพี่เลี้ยงมาดูแลพวก

เขา”

“กมลล่ะ?

“ก็หาพี่เลี้ยงให้แล้วเหมือนกัน วางใจเถอะ ไปแค่เจ็ดวันเอง ไม่มีเรื่องอะไรหรอก

บุริศร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่านรมนจะสามารถเป็นห่วงเขาได้ เหมือนเป็นห่วงลูก ๆ

คิดไม่ถึงว่าเขาจะทิ้งลูก ๆ

เห็นเขาจัดการทุกอย่างดีแล้ว นรมนจึงส่งข้อความหาคมทิพย์ บอกว่าจะออกไปข้างนอกไม่กี่วัน บอกให้เธอไม่ต้องเป็นห่วงตนเอง

คมทิพย์ไถ่ถามว่าเธอจะไปที่ไหน แต่เธอไม่ได้ตอบ

บริศ พานรมนออกเดินทางทันที

หลังจากที่ปัญญ์กับคมทิพย์รู้ว่านรมนออกไปกับบุริศร์ คม ทิพย์ก็โมโหอย่างยิ่ง

“พฤกษ์ บุริศรลักพาตัวนรมนไปอีกแล้วใช่ไหม? ฉันจะบอก คุณ ให้นะ ครั้งนี้ไม่ว่าจะพูดอะไร บุริศร์จะทำอะไร นรมนไม่ สามารถอยู่กับเขาได้

คมทิพย์โทรศัพท์หาพฤกษ์อย่างโมโหจนหายใจแทบไม่ทัน คนทั้งคนแทบจะกระโดดขึ้นไป

พฤกษ์นวดขมับ กล่าวว่า “ที่รัก พวกเขาแค่ไปเที่ยวชดเชยฮัน

นีมูนกัน คุณอย่าเป็นกังวลได้ไหม? มันเป็นเรื่องความรักความ

ผูกพันของพวกเขา”

“ไร้สาระ ! อะไรของพวกเขาเอง นรมนทุ่มเทไปเท่าไหร่เพื่อ ความรักความผูกพันนี้? เธอชอกช้ำระกำใจ คุณจะไปเข้าใจ อะไร? หรือต้องการให้นรมตายอยู่ที่ตระกูลโตเล็กถึงจะ พอใจ? ”

คมทิพย์ส่งเสียงโวยวาย และวางสายไปทันที

“พวกเขาไปไหนกันเหรอ? ”

คมทิพย์พูดว่าต้องการหาที่อยู่ของนรมน กลับถูกปัญญ์ห้ามเอาไว้

“พี่ครับ พี่พฤกษ์พูดถูกแล้ว เรื่องความรักและความผูกพันเป็น เรื่องของพวกเขา ผมมองออก พื้นรมนรักประธานบริศร์ และ ประธานบริศร์ก็มีรักเดียวใจเดียวให้แก่พี่นรมน “แล้วยังไงต่อ? ถึงแม้จะรักกันอย่างลึกซึ้งแล้วจะเป็น

อย่างไร? พี่ไม่อยากเห็นนรมนถูกทำร้ายอีก แกเข้าใจไหม? ”

คมทิพย์นั่งลงบนม้านั่งทันที รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

ปัญญ่เห็นคนทิพย์เป็นแบบนี้ จึงก้าวขึ้นไปนั่งลงข้าง ๆ เธอ และกล่าวเสียงเบาว่า “ผมเข้าใจครับ พี่อยากให้พี่นรมนแบกรับ ความทุกข์ยากในบั้นปลายชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมด แต่ว่าพี่ครับ พี่ เคยคิดบ้างไหม ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ถึงแม้พี่นรมนจะ หย่ากับประธานบริศร์จริง ๆ เธอจะมีความสุขไหม? ลูก ๆ ที่เธอ เป็นห่วงจะสบายใจไหม? ประธานบริศร์ไม่ใช่ผู้ชายห่วย ๆ ถ้าจะ บอกว่าเขาเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่สนใจความเป็นความตายของ ภรรยา ก็คงหย่าไปแล้ว แต่พี่ลองคิดดูสิ พี่สามารถอยู่เป็นเพื่อน เธอได้นานแค่ไหน? พี่ก็ต้องแต่งงาน พี่ก็ต้องมีครอบครัวเป็น ของตัวเอง มีลูกเป็นของตัวเอง ถึงตอนนั้นพี่นรมนจะทำ อย่างไร? เธอจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับลูก ๆ อย่างโดดเดี่ยวและยาก ล่ามาก นี่คือสิ่งที่ต้องการเหรอครับ? ”

คมทิพย์พูดไม่ออกทันที เธอไม่อยากให้เป็นแบบนี้! แต่ว่า…….
“พี่ อย่าไปยุ่งเลย พวกเขาสองคนสามารถจัดการกันได้

คำพูดของปัญญ์ฟังแล้วไม่ระรื่นหูของคมทิพย์เป็นพิเศษ “บุริศร์ต่อยแก ทําไมแกยังช่วยพูดให้เขาอีก แกไม่เคารพตัว เองเลยเหรอ? ”

ปัญญ์กลับตอบด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเขาไม่ค่อยผม ผมคงไม่พูด แบบนี้ ก็เพราะเขาแคร์พี่นรมน ผมถึงวางใจให้พี่นรมนไปกับเขา ปัญหาในใจของพี่นรมนต้องให้พวกเขาผ่านไปได้ด้วยตนเอง แต่ พี่ต้องให้เวลาพวกเขา ผมตรวจสอบมาแล้ว ตอนเกิดเรื่องขึ้นกับ พี่นรมน ประธานบริศร์กำลังทำธุระอยู่ในเขตทหาร ชายผู้ สามารถละทิ้งครอบครัวของตนเองเพื่อเขตทหาร พี่คิดว่าเขาไม่ คู่ควรที่จะมอบความไว้วางใจให้ดูแลใครสักคนไปตลอดชีวิตเห รอ? ตอนนี้ประธานบริศร์ได้วางทุกสิ่งทุกอย่างลงหมดแล้ว เขามี เวลาอยู่กับพื้นรมนเยอะมาก สามารถชดเชยส่วนที่ขาดให้แก่เธอ ได้ แล้วทําไมพี่ต้องขัดขวางด้วยครับ?

“ฉันทำเพื่อนรมน

ความโกรธของคนทิพย์ลดน้อยลง

ปัญญ์รู้ดี อันที่จริงคมทิพย์ก็รู้สึกลังเล

เขาพูดต่อว่า “ถ้าพี่ต้องการทำเพื่อเธอจริง ๆ ก็ควรจะปล่อย มือซะ ประธานบริศร์เป็นผู้ชายที่จริงจัง แต่ใครก็ไม่กล้ารับรองว่า รอบตัวของผู้ชายที่จริงจังจะไม่มีคนต่ำทรามจริงกับต่ำทราม ปลอมอยู่ เขาจะคิดได้อย่างไรว่าเรื่องนี้จะพัฒนาจนกลายเป็น แบบนี้ได้? หรือจะพูดอีกอย่าง ทั้งหมดนี้พี่นรมนเป็นคนเลือกเองเธอรู้ตัวตนสองชั้นของบุริศร์อย่างชัดเจน แต่ยังคงยินดีที่จะเป็น เมียทหารเหมือนเดิม นั่นหมายความว่าอะไร? หมายความว่า เธอรักประธานบริศร์ ความรักเป็นคำที่มหัศจรรย์มาก สามารถ ทำให้คนเอาชนะอุปสรรค ผ่านพ้นความยากลำบากทั้งหมดได้ และสามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นศัตรูได้เช่นกัน และต้องอยู่ กับความทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิต หรือว่าพี่ต้องการให้พื้นรมนอยู่ กับความเสียใจและความเจ็บปวดไปทั้งชีวิต? พวกเขารักกัน ตอนนี้สิ่งที่ต้องการที่สุดก็คือเวลา

“เอาล่ะ ๆ รู้แล้วว่าแกพูดได้ เข้าใจความรักแบบนี้ เมื่อไหร่แก จะพาแฟนกลับมาให้พ่อแม่สักคนล่ะ? สองสามวันก่อนพ่อกับแม่ โทรกลับมา ถามว่าแกมีแฟนหรือยัง ปัญญ์ถ้าแกยังไม่หาแฟนอีก พ่อแม่จะคิดว่าแกเป็นเกย์แล้วนะ!

คมทิพย์เปลี่ยนเรื่องทันที

ปัญญ์คิดไม่ถึงว่าหัวข้อจะเปลี่ยนไปได้รวดเร็วเช่นนี้ แถมยัง

ซัดสาดเข้ามาอย่างรุนแรง จนต้องร้องคร่ำครวญอยู่พักหนึ่ง

“พี่ พี่อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม? ”

“ไปเถอะ กลับบ้านไปหาพ่อแม่กับพี่

คมทิพย์ดึงข้อมือของปัญญ์ทันที พยายามลากไปที่บ้าน

เมื่อนรมนกับบริศร์มาถึงสนามบิน นรมนก็รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนบุริศร์จะรู้ว่านรมนคิดอะไรอยู่ จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ไม่ใช่ประธานบริศร์ และไม่ใช่ประธานนรมน พวกเราเป็นแค่สามีภรรยาทั่วไป ไปเที่ยว เหมือนคนทั่วไปดีไหม? ”

นรมนนิ่งไป เพียงแต่ยังพยักหน้า

ก่อนที่จะแต่งงานกับบริศร์ เธอก็นั่งชั้นประหยัด หลังจากขึ้นเครื่องบิน นรมนก็อึ้งไปอีกครั้ง บุริศร์ก็อึ้งเหมือนกัน

พฤกษ์อยากให้เขาได้สัมผัสชีวิตจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะจองชั้น ประหยัดให้จริง ๆ

มองดูชั้นประหยัดที่เบียดเสียด บุริศร์รู้สึกหดหู่ใจ ขายาว ๆ ของเขาบินหกชั่วโมงจะไม่พิการไปเลยเหรอ? ดูเหมือนนรมนจะมองความอึดอัดใจของเขาออก เธอทำภาษา

มือด้วยรอยยิ้ม “อยากจะอัพเกรดที่นั่งไหม?

มองเห็นแววตาหยอกล้อของนรมน บุริศร์กัดฟันตอบว่า “ไม่ ต้องหรอก ห้องโดยสารชั้นประหยัดก็ค่อนข้างดีอยู่นะ

นรมนก็ไม่ได้โต้เถียง ตรงกันข้ามกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่าง ไม่มีสาเหตุ

เหมือนเธอกลับไปสมัยเป็นเด็กมหาลัย กลับไปในสมัยที่เบียด เสียดกับคนทิพย์ในชั้นประหยัดเพื่อออกไปท่องเที่ยว

นรมนหาที่นั่งของตนเองกับบริศ เจออย่างคุ้นเคย
บริศ เห็นว่านรมนนั่งด้านใน ส่วนที่นั่งของตนเองอยู่ด้านนอก คิดไม่ถึงว่าจะมีอีกที่กั้นไว้ตรงกลาง

เขาอยากจะโมโหทันที

นพฤกษ์ทำอะไรของเขา

จองตั๋วไม่ควรจองติดกันหรือไง?

ตรงกลางมีคนกันเอาไว้นี่มันอะไรกัน?

ในขณะที่บุริศร์กำลังมึนงง ก็มีผู้ชายตัวสูงใหญ่คนหนึ่งเดินเข้า มา นั่งลงข้างนรมนทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ