แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 203 หม่ามี้สวยที่สุด



บทที่ 203 หม่ามี้สวยที่สุด

คุณนายตระกูลโตเล็กออกไปจากห้องผู้ป่วย นร มนเข้ามาที่ขอบเตียงของกมล

“หม่าม ทำไมคุณถึงผอมจัง? ฉันแทบไม่รู้จักแล้ว เป็นเพราะดูแลพี่ชายที่ป่วยหรือเปล่า?”

กมลเจ็บปวดใจเลยยื่นมือเล็กๆของเธอออกมา และสัมผัสใบหน้าของนรมนเบาๆ

มือของเธอเย็นมาก และไม่อบอุ่นเท่าเด็กปกติ ทั่วไป

นรมนมักจะคิดว่าเป็นความผิดของตนเอง แต่ตอน นี้เขารู้แล้วว่ามันเกิดจากหลายสาเหตุ

เธอรู้สึกอึดอัด โทษตัวเอง เสียใจ และเจ็บปวด มากกว่า เมื่อเธอได้ยินคำพูดของกมล ยิ่งไปกว่านั้นเธอ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เพียงแค่กอดกมลเบาๆไว้ในอ้อม แขน

“กมลคิดว่าหม่ามีขี้เหร่หรือเปล่า”

“ไม่นะ หม่ามสวยที่สุดเสมอ และฉันก็คิดถึงหม่ามี้ มากๆเลยด้วย!

กมลหดตัวลงในอ้อมแขนของนรมนและออดอ้อน

สามารถรู้สึกถึงการชักกระตุกของร่างกายของกมล

บางทีในเวลานี้กมลแทบจะทนความเจ็บปวดไม่ไหว แต่

จะยิ้มตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เผชิญกับชีวิตแบบนี้
เธอถามอย่างเปรียว “กมล เจบใหม?

“ไม่เจ็บค่ะ”

กมลยังคงยิ้ม และค่อนข้างจะฝืนยิ้ม

ในที่สุดน้ำตาของนรมนก็อดไม่ได้ที่จะไหลลงมา

“เมื่ออยู่ต่อหน้าหม่ามี้ไม่จำเป็นต้องอดทนก็ได้ หม่ามีรู้ว่า กมลเจ็บปวดมากใช่ไหม? กมลเก่งมาก หม่า มีดีใจมาก แต่หม่ามไม่อยากให้กลมเก็บมันไว้คนเดียว บอกหม่ามี๊นะว่าเจ็บไหม?”

“เจ็บ!”

กมลลดรอยยิ้มลง จมูกก็โด่งขึ้น และร่างกายก็ เข้าใกล้นรมนโดยไม่ได้ตั้งใจ

“หม่ามี้ ฉันไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่มาที่นี่ร่างกายก็ เจ็บปวดมาก แต่คุณย่าและแด๊ดดี้ดีกับฉันมากขนาด นั้นพี่กิจจาก็คอยปลอบฉัน ถ้าพูดว่าเจ็บฉันกลัวว่า พวก เขาจะเกลียดฉัน”

“เด็กโง่ ไม่มีใครเกลียดคุณเลย แด๊ดดี้กับคุณย่า และหม่ามี้กับพี่กิจจาจะชอบและชอบกมลมากๆ หม่ามี รู้ว่ากมลเจ็บ หม่ามีก็เจ็บ หม่ามี้ไม่สบายแล้วเหมือนกัน เหมือนกับกมล ต้องการรักษา แต่เราต้องชนะตนเองให้ ได้ก่อน เข้าใจไหมคะ?”

นรมนสัมผัสไปที่ผมของกมลด้วยความทุกข์ ทรมาน รู้สึกอึดอัดมาก
กมลเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นมองไปที่นร มน และถามเบาๆ “หม่ามี พ่อบุญธรรมไม่ชอบกมลแล้ว ใช่ไหม? เป็นเพราะโรคของกมลไม่สามารถรักษาให้ หายได้ ดังนั้นพ่อบุญธรรมจึงไม่เอากมลแล้ว”

“ไร้สาระ กมลน่ารักขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็ชอบกมล ทั้งนั้น”

ภายในใจของนรมนรู้สึกซับซ้อนมาก

เธอตั้งใจจะบอกกมลถึงสิ่งที่รเมศทำกับเธอ แต่คำ พูดของคุณนายตระกูลโตเล็กก่อนที่จะออกไปทำให้ เธอตื่น

เด็กนั้นไร้เดียงสาเพียงใด

ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ในความคิดของกลมรเมศ เกือบจะเทียบเท่ากับการดำรงอยู่ของพ่อบังเกิดเกล้า ตอนนี้ถ้าบอกความจริงกับกมลไม่รู้ว่ากมลจะรับได้ไหม

ณ จุดนี้ คุณนายตระกูลโตเล็กมีความรอบคอบ มากกว่าที่เธอคิด กมลไม่รู้สึกดีขึ้นเพราะคำพูดของนร มน เธอกระซิบเบาๆ “ฉันได้ยินคุณน้าไพลินพูดกับคน ไม่ดีพวกนั้น จะต้องหาฉันให้เจอ และอย่าปล่อยให้ฉัน มีชีวิตอยู่ คุณน้าไพลินเป็นเลขาของพ่อบุญธรรม พ่อ บุญธรรมคงจะไม่ชอบฉันแน่นอน ตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บ ปวดมาก คงจะรักษาไม่หายแล้วใช่ไหม?”

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”

นรมนไม่รู้ว่ากมลเคยได้ยินเรื่องไม่ดีอะไรมาบ้างสักพักรู้สึกทุกข์ใจมากขึ้น

กมลจับมือนรมนแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร หม่า มี ถ้า ฉันรักษาไม่หายจริงๆ ฉันก็ไม่รักษาแล้ว หม่ามี้พาฉัน กลับบ้านดีไหม? ฉันคิดถึงพี่ชายแล้ว พี่กิจจาบอกว่าจะ พาฉันไปสวนสนุก ฉันรู้ว่าร่างกายของฉันไม่พร้อม แต่ ฉันสามารถไปดูได้ ถ้าฉันรักษาไม่หายจริงๆ หม่ามี้ห้าม ร้องไห้นะ ยังมีพี่ชายอยู่กับหม่ามี้ หม่ามี้ไม่ได้อยู่คน เดียว”

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ?”

นรมนอุ้มกมลไว้ในอ้อมแขน และน้ำตาไหลลงมา โดยไม่รู้ตัว

“กานต์คือกานต์ คุณคือคุณ พวกคุณต่างก็เป็นลูก รักของหม่าม ไม่มีใครสามารถแทนที่ใครได้! หม่ามี้ ต้องการให้คุณมีชีวิตอยู่ดีๆ ต้องการให้คุณมีชีวิตที่มี ความสุขและมีสุขภาพดี คุณทำได้ กมล แด๊ดดี้ของ คุณเป็นประธานของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด ไม่ว่ายังไง เขาก็จะรักษาคุณให้ได้ ถ้าคุณเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หม่า มีจะทำอย่างไร?”

เสียงของนรมนนั้นแหบแห้ง และสำลักเบาๆ

พระเจ้าปฏิบัติต่อเธอไม่ดีจริงๆ หลังจากความยาก ลำบากมากมาย เพราะอะไรลูกของเธอถึงไม่ดีขึ้นบ้าง เลย?

กมลเห็นว่านรมนกำลังร้องไห้ และรีบร้อนอยากจะเช็ดน้ำตาให้กับเธอ

“หมาไม่ร้อง กมลไม่เจ็บ ไม่เจ็บจริงๆ” ใบหน้า ของเธอซีดมาก และฝ่ามือก็ถูกเล็บแทงจนฉีดไปหมด สีแดงสดนั้นทำให้นรมนเจ็บปวดมาก

“เจ็บก็ไม่เป็นไร หม่ามี้จะอยู่กับคุณ จากนี้ไป ไม่ว่า คุณจะอยู่ที่ไหน หม่ามี้จะอยู่กับคุณ”

นรมนกอดกมลไว้แน่นๆ

หลังจากนั้นกมลก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก กระ ซิบเบาๆว่า “หม่า มี้ ฉันอยากฟังคุณร้องเพลง”

“ได้สิ กมลอยากฟังอะไร?

“หม่ามีร้องอะไรกมลก็ชอบฟัง”

กมลนอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของนรมน ร่างกาย

ของเธอสั่นไปหมด

น้ำตาไหลอยู่ในดวงตาของเธอแล้ว แม้กระทั่ง เหงื่อที่หน้าผากเป็นชั้นๆ แต่เธอก็อดทนที่จะไม่ร้องไห้

ออกมาเลยสักนิด

นรมนหวังว่าเธอจะร้องไห้ออกมา ถ้าเธอร้องไห้ บางทีเธออาจจะไม่รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่ ดูอีดอาดนี้ทำให้เธอแทบจะเป็นบ้า

แต่เธอตกลงตามคำขอของกมล

“ด้านนอกศาลาริมถนนสายเก่า ภูมิทัศน์เป็นสี

ฟ้า..”
นรมนฮัมเพลงโปรดของกมลเบาๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

บุริศร์เห็นฉากนี้ด้านนอก ใจแทบสลาย

เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ตนเองทำไม่ได้มาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ในสถานการณ์เช่นนี้เขากลับทำอะไรไม่ได้ เลย

ผู้หญิงสองคนในนั้นคือคนที่สำคัญที่สุดของเขา แต่ตอนนี้นี้เขาได้แต่เฝ้ามองอยู่ที่นี่ อย่างทรมาน และ ไม่มีวิธีอะไรเลย

คุณนายตระกูลโตเล็กถอนหายใจเบาๆ และกล่าว ว่า “ในเวลาแบบนี้ มีเพียงนรมนเท่านั้นที่สามารถทำให้ กมลอดทนได้”

“แต่นรมนก็เป็นผู้ป่วยเช่นกัน เธออ่อนแอมาก และ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็กินอะไรไม่ลงเลย แม่ คุณว่าฉันทำ อะไรผิดในชาติที่แล้วหรือเปล่า ชาตินี้พระเจ้าถึง ลงโทษภรรยาและลูกแบบนี้?”

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”

คุณนายตระกูลโตเล็กรู้ว่าความสามารถในการ อดทนของบุริศร์นั้นแข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้เธอทรุด ลงไปบ้างแล้ว

สิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่สามารถแบกรับมันได้ เพียงคนเดียว

ไม่รู้ว่าพฤกษ์เมื่อไหร่จะกลับมา เขายืนอยู่ข้างหลังบุริศร์ และกระซิบว่า “ประธานบุริศร์ ผู้เชียวชาญอยู่ที่ นี่แล้ว”

“เชิญเร็วเข้า!”

ในเวลานี้ นรมนกรีดร้อง ทำให้บุริศร์และอื่นๆ ตกใจมากจึงรีบดันเข้าไป

“z เกิดอะไรขึ้น?”

“กมลหมดสติไปแล้ว”

ดวงตาของนรมนเต็มไปด้วยน้ำตา และมือก็จับร่า งบางๆของกมลไว้แน่นๆ แต่ร่างกายของเธอยังคง

กระตุก

“ส่งเข้าห้องผ่าตัดเร็ว!”

บุริศร์อุ้มกมลขึ้นมา และรีบวิ่งไปที่ห้องผ่าตัด

“พฤกษ์ พาผู้เชี่ยวชาญตรงไปที่ห้องผ่าตัดทันที”

บุริศร์กล่าวขณะวิ่ง

“ใช่”

พฤกษ์ไม่กล้าชักช้า หันหลังและวิ่งไป

นรมนต้องการที่จะทำตามไป แต่เมื่อเขาลุกจาก เตียงเขารู้สึกเวียนหัว และเกือบจะล้มลงกับพื้น โชคดี ที่มีคนช่วยเธอไว้

“ไม่ต้องกังวล บุริศร์ได้เตรียมการไว้แล้ว กมลจะ ไม่เป็นอะไรแน่นอน ฉันสัญญากับคุณ แม้ว่าตระกูลโตเล็กจะพังพินาศ ก็ต้องรักษากมลให้หายดีจนได้

คุณนายตระกูลโตเล็กดังขึ้น และนรมนก็รู้สึก สะเทือนใจมาก

“ขอโทษ ห้าปีที่ผ่านมาฉัน…”

“สิ่งที่ผ่านไปก็ผ่านไปแล้ว ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด ตอนนี้เราทุกคนก็ทำเพื่อกมล นรมน แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่า คุณมีประสบการณ์อะไรมาบ้าง แต่คุณก็เป็นแม่ ใน ตอนนี้กมลต้องการคุณ แต่ร่างกายปัจจุบันของคุณ คุณไม่สามารถไปหากมลได้ คุณเข้าใจไหม?”

สิ่งที่คุณนายตระกูลโตเล็กพูดคือความจริง นรมนรู้สึกเจ็บปวดใจมาก แต่ยังคงพยักหน้า “ฉันรู้ ฉันไม่เป็นไร ฉันเพียงไม่สามารถผ่าน อุปสรรคทางจิตใจได้ ฉัน…”

“ลองคิดดูสิสิ่งที่คุณบอกว่าเรื่องที่เคยประสบ เหล่านั้นมันสำคัญกว่ากมลย่างนั้นเหรอ?”

ในสายตาของคุณนายตระกูลโตเล็กมีความหมาย บางอย่าง แต่ทันใดนั้นก็กระทบใจของนรมน

ไม่มีใครในโลกนี้สำคัญไปกว่ากมลและกานต์อีก แล้ว

“กมลคือชีวิตของฉันสำหรับฉัน”

“แล้วสิ่งที่คุณเคยประสบมาก่อนไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อะไร อันที่จริงก็ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ? ตราบใดที่ตัวคุณไม่กลัว ตัวคุณแอาชนะตนเองได้ล่ะก็ ไม่มีอะไร สำคัญอีกต่อไปแล้ว กมลแข็งแกร่งมาก และสามารถ สอนลูกให้เป็นแบบนี้ได้ แสดงว่าคุณเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ มาก ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ฉันขอบคุณสำหรับตระกูลโต เล็ก เธอถือมั่นตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อคุณ เพื่อกานต์ เธอไม่ร้องไห้เลย จริงหรือที่เขาจะไม่เจ็บ? นรมน เรื่อง บางอย่าง นอกจากตนเองแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วย คุณได้ และฉันเชื่อว่า สามารถสอนกมลได้ดีขนาดนี้ ตัวคุณเองก็สามารถเอาชนะตนเองได้ไม่ใช่เหรอ?”

คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้นรมนรู้สึก ละอายใจเล็กน้อย

“ขอโทษค่ะ คือฉันคิดไม่ได้เอง”

“ไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน คุณไม่ได้ทำผิดต่อใคร ทั้งนั้น ในทางกลับกันพวกเราต้องขอโทษคุณด้วยซ้ำ ตระกูลโตเล็กขอโทษคุณ แต่คุณต้องให้เวลาพวกเรา ในการชดเชยใช่ไหม? บุริศร์เป็นเหมือนศพที่ตายแล้ว ในห้าปีที่ผ่านมา ฉันไม่ได้สนใจการแต่งงานของพวก คุณเมื่อห้าปีก่อน คือฉันคิดว่าพวกคุณจะไม่ลงเอยกัน บุริศร์ไม่ใช่เด็กผลีผลาม แต่กลับผลีผลามแต่งงานกับ คุณ ตั้งแต่แต่งงานกับคุณ บุริศร์ก็เปลี่ยนไป เพียงแค่ ตัวเขาเองไม่รู้ ไฟไหม้ในครั้งนั้นอย่างแปลกอยู่ พวก เราไม่มีเวลาไปตรวจสอบเรื่องนี้ คุณต้องเก็บพลังงาน ไว้บ้าง และค้นหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอน นั้น? และกานต์ ฉันยังไม่เห็นหลานชายของฉัน และ ตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วมีหลายสิ่งรอคุณอยู่นรมน กมลทางนี้ไม่มีปัญหา เชื่อ

ฉัน เชื่อบุริศร์ และเชื่อในความแข็งแกร่งของตระกูล โตเล็ก สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือปล่อยให้ตัวเองกิน ใน เวลานี้ บุริศร์เหมือนถูกแยกร่าง”

มีร่องรอยของการขอพรอยู่ในดวงตาของคุณนาย ตระกูลโตเล็ก

ทันใดนั้นนรมนก้เข้าใจ

บุริศร์ก็เหมือนกับเธอ เป็นพ่อแม่ของเด็กๆ แม้ว่ามี ความรับผิดชอบไม่มากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แต่ก็เป็น เพราะบุริศร์ไม่ทราบการดำรงอยู่ของเด็กๆ

ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ตัวเองยังไม่ได้เข้าใกล้ความรับ ผิดชอบของการเป็นพ่อ กานต์ก็หายตัวไปจากใต้จมูก ของเขาอย่างไร้ร่องรอย และกมลก็กลายเป็นแบบนี้

หากเธอมีปัญหาใดๆในตอนนี้ ใครจะมารับประกัน ได้ว่าบุริศร์สามารถทนได้?

เป็นเวลาสามวัน เธอทำร้ายตัวเอง และทำร้ายบุริ ศร์ เขาแทบจะไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่ม ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น อ่อนล้ามานาน ตอนนี้กมลก็กลายเป็นแบบนี้อีก เผื่อว่า เธอล้มลงไปอีก มันจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะครอบงำ บุริศร์หรือไม่?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ