แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1223 คุณคือไม้แขวนเสื้อจริงๆ



บทที่ 1223 คุณคือไม้แขวนเสื้อจริงๆ

“โอเคๆ คุณกินเถอะ”

บริศ ปล่อยมืออย่างรักใคร่ แต่พอนรมนคีบเสี่ยวหลงเปาขึ้น มา บุริศรก็พูดเรียบๆ “สาเหตุการตายของพรรษาออกมาแล้ว คุณแน่ใจยังจะกินอิ่มขนาดนั้นมั้ย

คำพูดนี้ทำให้นรมนวางเสี่ยวหลงเปาในมือลง

“คุณตั้งใจ!”

บุริศร์ไม่ปฏิเสธที่นรมนบน พยักหน้า “ใช่แล้ว ผมตั้งใจ เป็นไร ไป คุณไม่พอใจหรือ

นรมนรู้สึกว่าตอนนี้บริศร์ร้ายสุดๆ

เธอมองอาหารที่อยู่ตรงหน้า “รีบเก็บไป!”

“ก็ได้”

บริศ ถือออกไปข้างนอกมีพนักงานรออยู่แล้ว รับถาดในมือ ศร์ไป แล้วเดินออกไปจากห้องพักผ่อน

นรมนรู้สึกเสียใจไม่น้อย

พรรษาฆ่าตัวตายเพราะอะไรกันนะ

ตอนที่บุริศร์กลับมาเห็นนรมนเท้าคางข้างหนึ่ง หรี่ตากำลังคิดอะไรอยู่

เขากอดนรมนจากข้างหลัง

“ฉันไม่…”

“อย่าเพิ่งขยับ ผมแค่จะกอดคุณ

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนหยุดดิ้นรน ถอนหายใจเบาหา ตำแหน่งที่สบายพิง ในอ้อมกอดของเขา ถามเสียงเบา “พรรษา ฆ่าตัวตายไม่ใช่อุบัติเหตุใช่มั้ยคะ”

“อืม น่าจะเป็นเพราะกลัวเจตต์เห็นเขาตายน่าเวทนา ก็เลยซิง ฆ่าตัวตายก่อน อย่างนี้รักษาเกียรติเขาได้ และทําให้การตาย ของเขาปกติขึ้นหน่อย

บุริศร์ทำให้นรมนแปลกใจ

“เพื่อเจตต์หรือคะ”

“ถือว่าใช่ก็ได้ พรรษาผู้ชายคนนี้ทั้งชีวิตไม่ได้เรื่อง ทั้งกับคู่ ชีวิต และลูกชายแท้ๆ เลวสุดๆ แบบนั้น นี่คือมุมมองที่คนอื่นมอง เขา แต่นึกไม่ถึงตอนตายจะล้างมลทินให้ตัวเอง เพื่อลูกชายคน เดียวถึงกับทำอย่างนี้ ถือว่าเติมเต็มความสัมพันธ์พ่อลูกแล้ว”

บริศ พูดเสียงเบา น้ำเสียงแฝงความเจ็บปวด

นรมนเงียบงัน แต่เห็นด้วยกับที่บุริศร์พูด

“เจตต์ว่ายังไงคะ”

“ไม่รู้สิ ผมก็ไม่อยู่ วินเซนต์ก็ไม่ได้พูด เขาเจอเรื่องแบบนี้ต้องเสียใจแน่ๆ แต่ยังดีตอนนี้เขามีขวัญตาอยู่ด้วย ก็ยังดีหน่อย

นรมนได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ก็พยักหน้า

ใช่แล้ว ข้างกายเจตต์ยังมีขวัญตา

ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กที่น่าสงสารไม่มีคนรัก แต่เป็นผู้ชายที่มี ภรรยา

เรื่องนี้ทำให้นรมนรู้สึกสบายใจ

บริศ เล่ารายงานชันสูตรที่วินเซนต์บอกเขาให้เธอฟัง และพูด เรื่องความกังวลของตัวเองกับนรมน กลัวนรมนจะเป็นห่วง และ ยังให้เจตต์ไปตรวจร่างกายด้วย

นรมนเห็นเขาจัดการทุกอย่างเป็นอย่างดี ก็กอดแขนเขา ซุก หน้าพูดเสียงแผ่วเบา “คุณดีมากๆ ทั้งกับฉันและคนที่ฉันแคร์ บุรี ศร์ ขอบคุณค่ะ”

“ผัวเมียกันไม่ต้องขอบคุณหรอก คนที่คุณเป็นห่วงจะไม่ใช่คน ที่ผมเป็นห่วงหรือ”

ค่าพูดนี้ทำให้นรมนยิ้มที่มุมปาก

บุริศร์ คารมคมคายดี จนเธอเอาชนะไม่ได้

“ในเมื่อสั่งงานชัดเจนแล้ว พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้ว งั้นพวก เราต่อไปจะไปไหนดีคะ

นรมนยังจำคำพูดของบริศร์ก่อนกินข้าวได้ดี

แม้ว่าเธอจะเป็นห่วงเจตต์ และอยากรู้คำตอบ แต่เจตต์มีคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยอยู่ข้างๆ แล้ว แถมเหมาะสมยิ่งกว่าเธอ อีก อย่างบุริศร์ก็สั่งไว้แล้วหากมีเรื่องอะไรให้วินเซนต์ส่งข่าวแล้ว ตอนนี้เธอจึงอยากจะเที่ยวกับสามีและลูกๆ ให้มีความสุข นี่สิถึง จะสำคัญที่สุด

เห็นนรมนไม่สะเทือนอารมณ์มากนัก บุริศร์ยิ้มขยี้ผมสลายของ เธอ “พักผ่อนพอแล้วหรือ เดี๋ยวต้องใช้แรงนะ”

“คุณจะทําอะไร”

นรมนมองบุริศ ตระหนก ท่าทางระมัดระวังทำให้บริศร์พูดไม่

ออก

“นรมน ผมทําอะไร คุณต้องกลัวขนาดนี้เชียวหรือ

“ทำอะไรตัวเองไม่รู้หรือไง ! ฉันจะพักรบกับคุณอาทิตย์หนึ่ง

ไม่มีการต่อรอง

นรมนูพูดอย่างกังวลและเอาแต่ใจด้วย บุริศร์ส่ายหน้าเผลอยิ้มออกมา

“โอเคๆๆ พักรบๆ พอใจแล้วยัง

บุริศร์ให้คนส่งชุดออกกำลังกายมาให้

นรมนเห็นขนาดชุดของตัวเอง ก็รู้ว่ากิจกรรมต่อไปจะต้องใช้ ชุดออกกําลังกาย

เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็ว พอหันมาก็เห็นบุริศร์เปลี่ยนเป็นชุด ออกกําลังกายสีขาวแล้ว หล่อมาก
“คุณนี่เป็นไม้แขวนเสื้อจริงๆ ใส่อะไรก็มีสไตล์

“ผมถือว่าเป็นคำชมของคุณนายบุริศร์ละกัน วางใจเถอะ ผม จะพยายามให้มากขึ้น

บริศ พูดอย่างหน้าหนา ยั่วให้นรมนส่งสายตาดูถูก

“เด็กๆ ล่ะคะ”

“ยังหลับอยู่ พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ

ในห้องพักผ่อนนี้ค่อนข้างร้อน ร้อนจนทำให้นรมนเหงื่อออก บุ ริศ กลัวว่าเธอออกไปแล้วถูกลมพัดจะเป็นหวัดอีก

สองคนเดินออกจากห้องพักผ่อน มาที่ทางเดินข้างนอก ก็เห็น ทิวทัศน์โอบล้อมด้วยขุนเขาและน้ำใส

นรมนสูดลมหายใจลึก “อากาศของเมืองชลธีดีมาก แต่ก็ยังสู้

บนเขาไม่ได้นะคะ”

“แน่นอนสิ บนเขามีต้นไม้เยอะขนาดนี้ เป็นออกซิเจน ธรรมชาติ และยังไม่มีมลพิษ อากาศเมืองชลธีดีอย่างไร แต่ทุก วันก็มีไอเสียรถยนต์ปนเปื้อน พวกเราอยู่ที่นี่กันสองวันดีมั้ย

บริศร์ถามนรมน

นรมนรีบพยักหน้า “ก็ดีค่ะ พวกเราไม่รีบอะไร ที่นี่อากาศดี ขนาดนี้ ฉันชักอยากจะอยู่ที่นี่แล้ว แต่ภูเขาลึกอย่างนี้ไม่น่าจะมี ที่พักหรือเปล่า ฉันไม่เห็นที่มีโรงแรมอะไร อย่างมากก็แค่อนเซ็น หรือว่าเราจะพักกันที่อนเซ็นนี้สองวันคะ”
บุริศร์ยิ้ม “เป็นความลับ

“เชอะ”

นรมนูทําเสียงอึดอัด แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

อากาศสดชื่นทําให้จิตใจปลอดโปร่งจริงๆ

พวกกานต์พักหนึ่งก็ตื่นแล้ว ออกมาเดินเล่นก็เห็นนรมนกับบุรี ศร์ยืนอยู่ข้างนอกพูดจาหยอกล้อกันอยู่

ท่าทางของคุณบุริศร์ตอนนี้ดูรักใคร่ทะนุถนอม ความเย็นชา บนตัวจางหายไปไร้ร่องรอย พวกเขาเหมือนหนุ่มสาวจีบกัน สายตามีแค่กันและกัน ทำให้กานต์รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน

“พี่ ดูอะไรอยู่คะ”

กมลโผล่หน้ามาจากข้างหลัง แต่ถูกกานต์ดันกลับไป “พี่ ทำอะไรคะ ผมหนูยุ่งแล้ว”

กมลช่น ก็เห็นกานต์หันมา พูดเท่ๆ “พี่กินไก่เป็นเพื่อน เล่นกัน

“พี่พูดจริงเหรอคะ”

กมลตะลึง แล้วฉีกยิ้มกว้างสดใส

กานต์เห็นท่าทางน้องสาว ก็อดยิ้มไม่ได้ “งั้นไม่เล่นแล้วใช่มั้ย งั้นพี่ไป…

“ใครบอกว่าจะไม่เล่นล่ะคะ พี่ สองตัวมั้ย
กมลเขย่าแขนกานต์เอาใจ

กานต์เม้มปากยิ้ม “รอดูความสามารถเธอ”

รับประกันไม่ให้ผิดหวัง ลุย!”

กิจจาเห็นทั้งสองคุยกัน ก็อดที่จะอึ้งไม่ได้

“พวกเธอจะทําอะไรกัน

“พี่กิจจา พี่จะพาพวกเราเล่นกินไก่ รีบหามือถือเร็ว”

กมลทนเห็นกิจจาเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กไม่ได้ เอาแต่อ่าน

ข้อมูลการแพทย์

พวกเขาเด็กขนาดนี้ เดิมควรจะเป็นวัยเล่น ทำไมต้องใช้ชีวิต จิต ดเล่า

กิจจาถูกกมลลากมาเล่นด้วยก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หยิบมือถือ

ขึ้นมาเล่นกับพวกเขา

บุริศร์กับนรมนได้ยินเสียงของเด็กๆ ก็อึ้ง แต่ตอนที่หันไปดู เด็กๆ ก็เริ่มเล่นแล้ว ทำให้นรมนรู้สึกพ่ายแพ้

“ตกลงกันแล้วจะออกมาเที่ยวด้วยกันทั้งบ้าน แต่ทำไมฉันรู้สึก ว่าพวกเราถูกเด็กๆ แยกตัวล่ะ พวกเขาเล่นกันเองสนุกขนาดนี้ คิดถึงจิตใจแม่อย่างฉันบ้างมั้ย

บริศร์กลับรู้สึกขัน “อยากจะเล่นกับพวกเขาก็พูดมาเถอะ ทำไมต้องทำท่าน้อยใจให้ใครดูกัน

นรมนฉีกยิ้มทันที
“ไม่ใช่ทำให้สามีอย่างคุณดูหรือคะ ว่าไง คุณจะมาเล่นด้วย

บุริศร์ไม่เคยเล่นเกมอะไรกับเด็กๆ ในความทรงจำของเขา คอมพิวเตอร์ใช้ทํางาน มือถือใช้ติดต่องาน แต่เห็นสายตารอ คอยของภรรยา เขาก็พยักหน้าตกลงทำในเรื่องที่ไม่เคยทำมา ก่อน

“โอเค”

นรมนกลัวว่าบริศร์เปลี่ยนใจ ลากเขามาที่ตรงหน้าเด็กๆ อย่าง

รวดเร็ว

“ลูกๆ เล่นอะไรกันจ๊ะ หม่ากับแจ๊ดดื้อยากเล่นด้วย”

เมื่อนรมนพูดเช่นนี้ เด็กทั้งสามคนก็ชะงักไป

กมลรู้สึกตัวก่อนเป็นคนแรก

“แด๊ดดี้ แน่ใจจะเล่นหรือคะ”

บุริศร์ถูกลูกสาวมองจนรู้สึกเก้อเขิน

“พวกหนูสอนแด๊ดดี้ได้มั้ย”

บริศ พูดออกไปแล้ว กานต์ขมวดคิ้วทันที “คุณบุริศร์ อยากให้ พวกเราสอนงั้นหรือ

“ต้องสิ แด๊ดดี้เล่นไม่เป็น”
บุรีศรทำท่าน่ารักอย่างไม่อายต่อไป

กานต์มองบน หลีกทางให้ แล้วพูดกับกิจจา “พี่ครับ หน้าที่

ยากๆ ยกให้พละกัน พูดจบก็เดินมาหานรมน ถามขึ้น “หม่าม เล่นเป็นมั้ยครับ ผม สอนมั้ย”

บริศ รู้สึกเซ็ง

กานต์ดูถูกเขาแค่ไหน

นรมนพูดขึ้นอย่างมีความสุข “ดีจ้ะ ลูกสอนหน่อย

พวกเขาเข้าใจเกมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มเล่น

“ไปเลย ซ้ายๆ หม่าม หลบเร็ว! เย้ เสร็จแล้ว!”

กมลตะโกนเสียงดังตื่นเต้น

ทนดูการเล่นของนรมนไม่ไหวจริงๆ เหมือนเป้าเคลื่อนที่ พอ ออกไปก็ถูกอีกฝ่ายกำจัด

กานต์ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

“หม่ามี้ พักหน่อยดีมั้ยครับ

“เอ๋ หม่ามีไม่อยากพัก หม่ามีไม่เชื่อแล้ว พวกนี้ทำไมต้องรังแก หม่ามี้คนเดียว หึ!”

นรมนพูดแล้วไม่ยอมแพ้ปีนขึ้นมาอีกครั้ง แต่เดินไปได้ไม่กี่ ก้าวก็ต้องเสียหน้าอีกแล้ว
กานต์ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

ตอนนี้เขาเสียใจแล้ว จริงๆ เลย เขาเสียใจที่สอนหมาเล่น เกม เมื่อกี้เขาควรจะเลือกคุณบุริศร์ถึงจะถูก

บริศ เห็นนรมนยิ่งแพ้ยิ่งสู้ ก็อดหัวเราะไม่ได้ “พวกเธอดูอะไร อยู่ หม่ามีของเธอถูกฆ่า พวกเธอยังมีแก่ใจดูหม่ามีอีกหรือไม่รู้ จัก ช่วยเหลือหรือไง ไม่รู้จักวางแผนหรือไง”

พูดอย่างนี้ รู้สึกว่านรมนไม่ได้เรื่องถูกฆ่าแล้ว ยังเป็นความผิด ของพวกเขาหรือ

แต่กานต์กับกิจจาปรับแผนสู้อย่างรวดเร็ว เล่นเกมอีกครั้ง สภาพการณ์ก็เปลี่ยนไป

เกมนี้เล่นต่อไป ทุกคนไม่รู้สึกอยากเลิก ตอนนี้เอง พนักงานก็ เคาะประตูห้องพักผ่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ