ไม่ได้ยินตำตอบของบุริศร์ นรมนก็รู้ว่าบุริศร์มี เรื่องในใจเยอะมาก เธอถอนหายใจเบาๆและพูดว่า “ที่จริงฉันก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดีค่ะ คุณอย่ากังวลให้มัน มากเลยค่ะ ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันจะอยู่กับคุณจนแก่ เฒ่า ก็จะต้องทำได้แน่นอน ตอนนี้คุณจัดการเรื่อง ของคุณดีๆก็พอแล้ว ฉันรอคุณค่ะ”
“อืม” บุริศร์พยักหน้า
เขาไม่รู้ตอนนี้ยังสามารถพูดอะไรได้อีก ได้ ภรรยาแบบนี้ ยังต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก? พูด มากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้เขาได้แต่รีบ จัดการปัญหาของตัวเองเสร็จ จากนั้นก็พานรมน กลับบ้าน
“วางสายแล้วนะคะ พรุ่งนี้ค่อยติดต่อกับคุณ ใหม่” เพราะยังไงซะนี่ไม่ใช่มือถือของตัวเอง อีกอย่าง คุยสายนานเกินไปมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเปิดเผย
หลังจากนรมนวางสาย รู้เสียเศร้าใจเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่แยกจากกับบุริศร์
ครั้งก่อนหลังจากถูกบุริศร์ช่วยออกมาจากFallen heaven เธอนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้แยกจาก กับบุริศร์อีกแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งจะกี่วันเอง พวกเขาก็ แยกจากกันอีกแล้ว
อยากอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า อยู่ด้วยกันทั้งชีวิต ทำไมมันยากขนาดนี้?
ความดื้อดึงที่รเมศมีต่อความรักทำให้นรมนค่อน ข้างหมดคำพูด แต่กับวิธีการของรเมศ เธอก็ยังไม่ กล้าชะล่าใจอยู่ดี
ไม่รู้เพราะมีเรื่องในใจมากเกินไป หรือเพราะได้ นอนไปสักพักแล้ว ตอนนี้นรมนไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด
เธอคลุมผ้าห่มไว้ผืนนึงนั่งอยู่บนโซฟา รู้สึกอยู่ ในสไตล์การตกแต่งแบบนี้ สามารถบรรเทาอารมณ์ ของตัวเองไม่มากก็น้อย
ตอนนี้ไหนๆก็ว่างอยู่ เธอจึงเอากระดาษวาดรูป และดินสอมา ในหัวมีความคิดโผล่ขึ้นมาบ้าง ก็เลย เริ่มนั่งวาดรูปอยู่ที่โต๊ะน้ำชา
ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอง่วงแล้ว จึงนั่งอยู่บนพื้น นอน หลับคาโต๊ะน้ำชาไปเลย
หลังจากคิมตื่น เห็นนรมนนอนคว่ำหน้าอยู่บน โต๊ะน้ำชา เธอรู้สึกประหลาดใจมาก
ผมยาวสลวยบังใบหน้าเธอไว้ แต่กลับบังความสวยของเธอไม่อยู่
คิมเดินมาที่ข้างกายเธอ นี่ถึงพบว่ารูปที่นรมน วาดล้วนเป็นโครงร่างของรถยนต์หมด
รถหลากหลายชนิด รถสปอร์ต รถเก๋ง และรถ ออฟโรด นาๆชนิด แต่ส่วนใหญ่ก็ใกล้เคียงกัน เหมือนล้วนอยากจะดีไซน์ออกมาเป็นชุดเดียวกันยัง ไงอย่างงั้น
ลายเส้นวาดรูปของนรมนละเอียดอ่อนมาก แต่ก็ แฝงด้วยความแข็งแกร่งเสี้ยวนึง ยากมากที่จะดูออก ว่าวาดออกมาจากมือของผู้หญิงคนนึง
บางทีอาจจะเพราะชอบวาดรูปเหมือนกัน ไม่นึก เลยว่าคิมจะหยิบรูปขึ้นมาดูอย่างละเอียด
ฝีมือการวาดภาพของเด็กคนนี้เก่งไม่เบาเลย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนเด็กต้องผ่านการฝึกฝน เฉพาะทางมาแน่นอน ถึงว่าล่ะสามารถดูความ อ้างว้างและความเศร้าจากในภาพของเธอออก
คิมยิ้มอย่างปลื้มใจ
เธอหยิบผ้าห่มผืนนึ่งมาห่มให้นรมน จากนั้นก็ วางภาพวาดไว้ข้างๆ ทีนี้ถึงได้เข้าไปที่ห้องครัว
ห้องครัวถูกนรมนเก็บกวาดจนสะอาดสะอ้าน
แล้ว
ดูท่าแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักความสะอาดอยู่ จุดนี้ดีกว่าตุลยา ลูกสาวเธอเยอะเลย คิมค่อนข้างที่จะชื่นชมนรมนขึ้นมาอีกครั้ง เธอเปิดตู้เย็นออก ทำของกินเล็กน้อย จากนั้นก็ ยกมาวางที่โต๊ะอาหาร
นรมนถูกกลิ่นหอมของอาหารปลุกจนตื่น “หอม จังเลย!” เธอพูดออกมาคำนึงอย่างห้ามใจไม่ได้ ที่นี้ ถึงหันไปมอง พอหันไปก็เห็นคิมได้ทำกับข้าวเสร็จ เรียบร้อยแล้ว และกำลังยิ้มให้เธออยู่
“รีบลุกขึ้นมาล้างมือทานข้าวเถอะ ทำไมมานอน อยู่ที่ห้องรับแขกได้ล่ะ?”
นรมนเกาศีรษะด้วยความเก้อเขิน “ไม่รู้ค่ะ อาจ จะเพราะง่วงเกินไปค่ะ” เธอเกาศีรษะของตัวเอง จาก นั้นก็วิ่งไปที่ห้องน้ำโดยเร็ว
“ในตู้มียาสีฟันและแปรงสีฟันชุดนึง เป็นของที่ ซื้อมาใหม่ ยังไม่เคยใช้เลย หนูใช้ได้นะ”เสียงของคิ มก้องมา ทำให้นรมนหยุดนิ่งไปครู่นึง
ทีนี้เธอถึงพบว่าตัวเองไม่ได้พกอะไรมาเลย และ ไม่มีอะไรเลยด้วย ดีที่บ้านของคิมมีเตรียมพร้อม
“ขอบคุณค่ะคุณน้าคิม” นรมนก็ไม่เกรงใจแล้ว
เธอหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันใหม่ออกมาก็เริ่มใช้เลย
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ นรมนออกมาก็ เห็นคิมเอาเครื่องสำอางออกมา
“ใช้ของน้าเถอะ ถ้าหนูไม่รังเกียจที่เคยแกะใช้
แล้ว”
“ไม่รังเกียจค่ะ” เวลานี้แล้ว นรมนยังจะรังเกียจ อะไรได้อีก? เธอดูเครื่องสำอางที่คิมใช้ไปครู่นึง ไม่ใช่แบรนด์เนม แต่เหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิต ในประเทศ
“คุณน้าคิมใช้เครื่องสำอางที่ผลิตจากใน ประเทศเหรอคะ?”
“ทำไม? หนูใช้ไม่ชินเหรอ?”คิมนึกว่าเธอใช้ไม่ ชิน เพราะเครื่องสำอางของตัวเองถูกตุลยารังเกียจ อยู่เรื่อยเลย ถึงขั้นเกลี้ยกล่อมให้เธอเปลี่ยนไม่เพียง แค่ครั้งเดียว บอกว่าอยู่อเมริกาก็ต้องใช้เครื่องสำอาง แบรนด์ดังอะไรหน่อยสิ แต่ไม่ว่ายังไงคิมก็คือไม่ ชอบ
นรมนรีบสายหัวและพูด “เปล่าค่ะๆ หนูแค่รู้สึก เหนือความคาดหมาย ดูฐานะและการแต่งตัวของ คุณน้า น่าจะถือว่าเป็นคนสังคมชั้นสูงมั้งคะ? น้อย มากที่คนสังคมชนชั้นสูงจะใช้แบรนด์ที่ผลิตใน ประเทศค่ะ”
“บางครั้งของเก่าถึงจะเป็นของที่ดีที่สุดนะ”แค่ พูดคำเดียว ก็ทำให้นรมนเห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ใช่ค่ะ ที่จริงสินค้าของประเทศเราดีใช้ได้เลย ค่ะ หนูเป็นคนนึงที่ใช้ของนอกไม่ชินค่ะ”ระหว่างนร มนพูดก็เริ่มเช็ดหน้าขึ้นมา
กลิ่นของเครื่องสำอางเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่น หอมชวนหลงใหลมาก
นรมนตบหน้าตัวเองเบาๆ จริงจังและละเอียด มาก ไม่มีการทำลวกๆและรู้สึกไม่สบายใดๆเลย คิมเห็นเธอชอบจริงๆ ทีนี้ถึงยิ้มออกมา “หนูมา
เที่ยวที่อเมริกาเหรอ?”
“ถือว่าใช่ค่ะ แต่ว่าหนังสือเดินทางอะไรหายหมด เลย ตอนนี้ไปไหนก็ไม่ได้แล้วค่ะ หวังว่าคุณน้าคิมจะ รับหนูไว้สักสี่ห้าวัน ได้มั้ยคะ?”นรมนรู้สึกว่าถึงแม้ พฤติกรรมของคิมจะแปลกประหลาดไปหน่อย แต่ น่าจะเป็นคนดีอยู่
คิมพยักหน้าและพูด “หนูจะอยู่ก็อยู่เถอะ ปกติที่ นี่ก็ไม่มีใครมา แค่น้าตัวคนเดียว ขอแค่หนูไม่รังเกียจ ที่น้าน่าเบื่อเกินไปก็พอแล้ว”
“ไม่ค่ะ”นรมนยิ้มอ่อนๆ ทีนี้ก็เช็ดหน้าเสร็จ เรียบร้อยแล้ว
เธอจัดวางเครื่องสำอางของคิมกลับไปที่เดิม เหมือนก่อนหน้านี้ ทีนี้ถึงนั่งอยู่ที่ตรงหน้าของคิมและ เริ่มทานข้าว
กับข้าวที่คิมทำเป็นอาหารเช้าสไตล์จีนที่ค่อน ข้างธรรมดาข้าวต้มถ้วยนึ่ง ยำจานนึง ข้างๆมี ซาลาเปาวางอยู่หลายลูก
นรมนดีกว่าตัวเองได้กลับมาในประเทศแล้วขัดๆ และอยู่แค่ข้างกายพ่อแม่นี่เอง
ยากที่จะจินตนาการอยู่อเมริกายังสามารถได้ ทานอาหารเช้าแบบนี้
“คุณน้าคิม คงคิดถึงในประเทศมากเลยใช่มั้ย คะ?” คำพูดของนรมนทำให้คิมหยุดนิ่งไปครูนึง จาก นั้นถึงพูด: “ทำไมล่ะ?”
“ไม่ว่าใครที่มาอเมริกาเป็นเวลานานขนาดนี้ ล้วน ค่อยๆถูกปรับให้เหมือนกัน อาหารเช้าสไตล์จีนที่ต้น ตำรับขนาดนี้ น้อยมากที่จะมีคนยืนหยัดแล้วค่ะ แต่ก็ ไม่ตัดออกว่าคุณน้าคิมทำเพื่อหนูโดยเฉพาะค่ะ
“เธอไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก”คิมยิ้ม
นรมนก็ไม่แคร์
เธอรู้สึกอยู่กับคิมสบายมาก ไม่มีความรู้สึก จำกัดระหว่างผู้อาวุโสกว่าและเด็กกว่ากลับมีความรู้สึกสนิทชิดเชื้อและสงบสุขเพิ่มมากขึ้นเสี้ยวนึง
“คุณน้าคิมคะ ตุลยาก็ชอบทานอาหารพวกนี้มั้ย
คะ?”
“เฮ้อ เธอไม่ชอบทานหรอก”คิมถอนหายใจเล็ก น้อย
“เธอชอบผจญภัย ชอบสิ่งใหม่ๆ ชอบทุกอย่าง ของอเมริกา บางครั้งน้าก็ยังสงสัยเลยว่าเธอเป็นลูก ของน้าจริงๆหรือเปล่า?”
ตอนที่พูดถึงตุลยา คิมแฝงด้วยความจนปัญญา เสี้ยวนึง แต่ว่าดูออกว่าเธอรักตุลยามาก
นรมนนนึกถึงแม่ตัวเองอย่างห้ามใจไม่ได้
“คุณน้าทำให้หนูนึกถึงแม่ของหนูเลยค่ะ ก็ไม่รู้ ว่าแม่หนูกลับถึงบ้านหรือยัง?”นรมนถอนหายใจ
ตอนที่ให้พ่อแม่นรมนและลูกไปจากอเมริกานี่ เด็ดขนาดขนาดนั้น ก็ไม่รู้ตอนนี้พวกท่านกลับไป หรือยัง ธรณีจะสามารถดูแลพวกท่านได้ดีหรือเปล่า ตอนนี้มือถือของเธอก็หายไป ติดต่อกับพวกท่านไม่ ได้ นรมนเป็นห่วงจริงๆ
“คุณน้าคิม หนูโทรศัพท์หน่อยได้มั้ยคะ?โทร ต่างประเทศค่ะ แต่ว่าตอนนี้หนูไม่มีตังค์จ่ายค่าโทร ค่ะ”นรมนพูดอย่างจริงจัง
ทันใดนั้นคิมยิ้มขึ้นมาทันที “น้าไม่ขัดสนค่าโทร ของหนูหรอก โทรเถอะ”คิมหยิบโทรศัพท์ออกมา จากตู้ที่อยู่ด้านหลังเละยื่นให้กับนรมน
“ขอบคุณค่ะคุณน้าคิม”นรมนรีบรับโทรศัพท์ไว้
เธอไม่ได้โทรหาพ่อหรือว่าแม่ และไม่ได้โทรหา คุณนายโตเล็ก ถ้าพวกท่านยังอยู่บนเรือ ถ้าพวกท่าน ยังไม่ได้ถึงอย่างปลอดภัย ถ้าอย่างนั้นเธอโทรไปมี แต่จะสร้างปัญหาให้พวกท่าน
นรมนได้โทรหาเบอร์ของธรณีอย่างไว
เสี้ยววินาทีที่โทรศัพท์ถูกรับสาย เสียงของธรณี ได้ก้องมา
“ไม่ทราบว่าใครครับ?”เขาค่อนข้างแปลกใจ นี่ เป็นเบอร์ต่างประเทศจะเป็นใครได้นา?
นรมนไม่รู้จะพูดกับธรณียังไง ได้แต่กระแอมที นึ่งแล้วพูด “คุณชายธรณี ฉันเองค่ะ นรมน
“นรมน?คุณไม่ได้กลับมาเหรอครับ?”ธรณีนึกว่า เธอจะกลับมาพร้อมเด็กๆ
นรมนส่ายหัวและพูด “มีเรื่องอย่างอื่นนิดหน่อย ค่ะ ฉันก็เลยยังไม่ได้กลับค่ะคุณชายธรณี พ่อแม่ ของฉันกลับไปหรือยังคะ?”
“ยังครับ แต่ผมได้รับโทรศัพท์จากบุริศร์แล้ว ผมจะจัดเตรียมให้เรียบร้อยครับ ตอนนี้ทางฝั่งคุณเป็น ยังไงบ้าง?ผมได้ยินมาว่าบุริศร์เจอปัญหานิดหน่อย ต้องการให้ผมช่วยอะไรมั้ย?”
“คุณนึกว่าอิทธิพลของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ของเมืองชลธีใหญ่คับฟ้าจริงๆเหรอ พวกเราเจอ ปัญหาที่อเมริกานิดหน่อย คุณอยู่เมืองชลธีก็จะ สามารถช่วยพวกเราแก้ไขได้งั้นเหรอคะ? คุณชาย ธรณี คุณช่วยดูแลคนในครอบครัวของฉันดีๆก็ พอแล้วค่ะ เดี๋ยวรอฉันกับบุริศร์กลับไป ฉันจะขอบ คุณๆอย่างดีเลยค่ะ นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที
มือของคิมสั่นขึ้นมากะทันหัน ตะเกียบตกลงบน โต๊ะอาหารทันที และส่งเสียงใสๆออกมา
“คุณน้าคิม เป็นอะไรไปคะ?หนูกระทบโดนคุณ น้ำใช่หรือเปล่าคะ
“อ้อ ไม่เป็นไรจ้า สีหน้าของคิมดูไม่ค่อยดี ดูออก ว่าค่อนข้างตื่นตระหนก
เธอรีบหยิบตะเกียบขึ้นมาและคีบผักใหม่อีกครั้ง แต่คืบยังไงก็คืบไม่ขึ้นมา
นรมนเห็นแล้ว ค่อนข้างพูดอย่างเกรงใจ “คุณชายธรณี ทางฝั่งฉันมีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวค่อย คุยกับคุณนะคะ คุณช่วยฉันดูแลคนในครอบครัวฉัน ดีๆน้า ขอบคุณนะคะ
“คุณเกรงใจเกินไปแล้ว เดี๋ยวค่อยติดต่อครับ”
“ไว้ค่อยคุยกันค่ะ” นรมนวางสาย เห็นแววตา ของคิมค่อนข้างเหม่อลอย เธอนึกถึงรูปถ่ายที่ชินทร เอาออกมาอีกครั้ง เธอถามขึ้นมาคำนึงอย่างห้ามใจ ไม่ได้
“คุณน้าคิม คุณน้ารู้จักชินทรใช่มั้ยคะ?”คำพูดนี้ ทำให้สีหน้าของคิมเปลี่ยนไปทันที
“หนูรู้จักชินทรได้ยังไง?”เธอจ้องมองนรมนไว้
แววตานั่นน่ากลัวมาก
นรมนไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าตัวเองได้แหย่โดนรังต่อ หรือเปล่า แต่ในเมื่อถามออกมาแล้ว ก็ต้องถามให้รู้ แน่ชัด
เธอกระแอมที่นึ่งและพูด “หนูรู้จักน้องชายของ ชินทร ธรณีค่ะ เมื่อไม่นานมานี้หนูไปที่ตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา เคยเห็นรูปถ่ายใบนึงในภาพวาดของชิน ทร ผู้หญิงที่อยู่ในรูปนั้นหน้าตาคล้ายคุณน้านิด หน่อย ไม่ทราบว่าเป็นพี่น้องหรือว่าอะไรของคุณน้า หรือเปล่าคะ?”
นรมนไม่กล้าถามว่านั่นคือคิมหรือเปล่า เพราะ ยังไงซะก็นานหลายปีแล้ว ตอนนี้คิมก็แก่ขึ้นตั้งเยอะ แค่หน้าคล้ายกันมากเฉยๆ
แต่ใบหน้าในรูปถ่ายใบนั้นก็ค่อนข้างคล้ายคลึง กับหน้าตาเดิมของเธอ เพราะฉะนั้นนรมนถึงค่อน ข้างแปลกใจ
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ แววตาของคิมเบลอๆ เธอ พูดเสียงต่ำ “ชินทรเหรอ? นั่นรู้สึกจะเป็นเรื่องของ ชาติที่แล้วๆ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ