บทที่ 236 ตอนนี้ฉันยังเชื่อเธอได้อีกไหม
กิมจิได้ยินเสียงที่จริงจังหนักแน่นของนรมน จึงรู้ว่าเรื่อง นี้เป็นเรื่องใหญ่
เธอรีบตามตำแหน่งที่นรมนส่งมาจนเจอ โดยที่ด้านหลังมี คนตามอยู่สองสามคน ที่ดูก็รู้ว่าเป็นมวย
นรมนพอใจกับการวางแผนของเขา
กิมจิใส่ระบบติดตามในเครื่องโทรศัพท์ของนรมน แต่ เพื่อเป็นกรณีฉุกเฉิน กิมจิได้ให้ต่างหูคู่หนึ่งกับนรมนไว้
“ในนี้มีระบบติดตาม เพื่อในกรณีฉุกเฉิน”
เมื่อเห็นกิมจิรอบคอบเช่นนี้ นรมนก็พยักหน้าแล้วใส่ต่าง หูต่อหน้าเขา
“ประธานบุริศร์รู้ว่าท่านไปคนเดียวหรือเปล่า”
คำพูดของกิมจิทำให้นรมนชะงักอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า : “ฉันได้ส่งข้อความให้เขาแล้ว คิดว่าเขาคงจะตามมาถึงใน ไม่ช้า แต่ว่าฉันรอไม่ได้ ฉันต้องรีบไปก่อน”
“นายหญิงต้องระวังตัวนะ”
“รู้แล้ว! ให้คนของคุณตามฉันอยู่ห่างๆ อย่าให้คนอื่น
เห็น”
ในนี้มีเรื่องมากมายที่นรมนคิดไม่ตกและไม่เข้าใจ จึงได้ ให้คนของกิมจิตามดูอยู่ห่างๆ
กิมจิถ่ายทอดคำสั่งของเธอออกไป ในชั่วพริบตานั้น รถ หลายคันได้หันหัวกลับ จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในรถคันอื่น
นรมนบึงกับเทคนิคการซ่อนตัวของพวกเขา
กิมจิ พูดอย่างภาคภูมิใจว่า : พวกเขาเคยเรียนการ สืบสวนติดตามและการโต้กลับเมื่อโดนติดตาม นายหญิง วางใจได้เลย ปลอดภัยแน่นอน”
“รบกวนแล้วนะ รีบกลับไปเถอะ”
“นายหญิงระวังตัวด้วยนะ”
หลังจากที่กิมจิและนรมนได้แยกย้ายกัน นรมนก็มุ่งหน้า ไปยังชายหาด
ที่นี่มีชายหาดทั้งหมดสี่ที่ เธอไม่รู้ว่าแยมอยู่ชายหาดไหน เธอจึงต้องลองเสี่ยงดวงเท่านั้น
อันที่จริงการทำแบบนี้เป็นการทำให้เสียเวลา นรมนก็รู้ดี แต่ว่าเมื่อมาถึงจุดจุดนี้แล้ว ต่อให้เสียเวลาเธอก็ต้องตา มหาพ่อแม่ตัวเองให้เจอ
รถได้ขับมาถึงชายหาดตะวันออก
ที่นี่เป็นเขตวิลล่า
นรมนดูชายหาดทั้งสี่ที่มาแล้ว มีเพียงที่นี่ที่เป็นกลุ่มวิลล่า ถ้าต้องการซ่อนคนก็คงต้องเป็นเพียงที่นี่ สามที่อื่นนั้นล้วน แต่เป็นเพียงแค่ที่เล่นน้ำทะเลเท่านั้น ต่อให้ต้องการลักพา ตัว มันก็ต้องหลีกเลี่ยงไม่ใช่เหรอ
เธอไม่รู้ว่าตัวเองเดาถูกหรือไม่ แต่ก็ต้องมุ่งหน้ามาทางนี้เท่านั้น
หลังจากที่รถได้มาจอดอยู่ในเขตวิลล่า นรมนก็ประสบ ปัญหาขึ้น
ที่นี่มีวิลล่าตั้งมากมาย แล้วเป็นหลังไหนกัน
ถึงแม้จะเป็นหลังที่ติดกับทะเล แต่ก็มีตั้งหลายหลัง แล้ว เป็นหลังไหนกันที่พ่อกับแม่อยู่
นรมนเกิดความสับสนขึ้น
เธอขับรถจากวิลล่าหลังท้ายสุด ค่อยๆขับผ่านด้านหน้า ของแต่ละวิลล่า
วิลล่าเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่มีคนพักอาศัย ส่วนใหญ่ซื้อไว้ แล้วมาพักผ่อนช่วงเวลาว่าง มีเพียงไม่กี่หลังเท่านั้นที่มีคน รับใช้คอยทำความสะอาด ดูไม่ออกว่าในนั้นมีคนพักอาศัย อยู่หรือเปล่า
ทันใดนั้น นรมนก็เห็นเข้ากับรถที่คุ้นตา
นั่นเป็นรถของแยม !
นรมนได้หรี่ตามองเบาๆ
เป็นแยมที่ตลบหลังเขาจริงๆหรือ
หรือว่าจะเป็นแยมที่ลักพาตัวพ่อแม่ของเธอ
นรมนจอดรถสนิทแล้วลงจากรถ จากนั้นเดินไปยัง ทิศทางของวิลล่านั้น
วิลล่าไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เลวเลยทีเดียว สามารถซื้อบ้านที่นี่ได้ ต้องเป็นคนรวยแน่นอน และฐานะของแยมจะซื้อ บ้านที่นี่ก็เป็นแค่เศษเงินเท่านั้น
นรมนเดินมาถึงหน้าวิลล่าแล้วทำการกดกริ่ง
สักพักก็มีคนรับใช้มาอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วเปิดประตูให้
“คุณนรมนคุณมาแล้วเหรอ”
การเรียกนรมนของคนรับใช้ทำให้นรมนค่อนข้างจะ เข้าใจแจ่มแจ้ง
ดูเหมือนว่าตัวเองนั้นจะเดาถูกทางแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอยังนั่งปลอบใจตัวเองอยู่เลย ทั้งหมดเป็น
เพียงการคาดเดาของตัวเองทั้งนั้น หรือบางที่แยมจะตกอยู่ ในอันตรายจริงๆ หรือบางทีอาจไม่ใช่อย่างที่เธอคิด แยม
ไม่มีทางที่จะตลบหลังเธอ
แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างช่างดูน่าขำ
มิตรภาพและหัวใจของคนที่เธอคิดไปเองนั้น ไม่มีค่า พอที่จะกล่าวถึงในตอนนี้
นรมนเจ็บปวดมาก แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น
เธอเดินตามคนรับใช้มาถึงห้องรับรองแขก แล้วก็เห็น
แยม
แยมสวมชุดอยู่บ้านนั่งอยู่บนโซฟา และกำลังชงน้ำชาอยู่ เมื่อเห็นนรมน เธอก็ยิ้มเหมือนอย่างเคยแล้วพูดขึ้น : “นรมน มาแล้วเหรอ รีบมามะ ฉันเพิ่งต้มชาผู่เอ๋อร์เสร็จ เธอลองมา
ชิมดูสิ”
นรมนมองดูเพื่อนรักคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า แล้วจู่ๆรู้ก็สึกไม่ คุ้นหน้า
เป็นเพราะเธอนั้นเป็นคนหลอกง่ายเหรอ หรือว่าเธอนั้นมองคนในแง่ดีเกินไป
รู้จักกันมาห้าปี เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าห้าปีให้หลัง คนที่มา ตลบหลังเธอจะเป็นรเมศกับแยม
ความรู้สึกของการถูกคนใกล้ชิดทรยศนั้นช่างเจ็บปวด ทรมานเหลือเกิน
เมื่อเห็นนรมนไม่มีการขยับเขยื้อน สีหน้าท่าทางของแยม ก็แข็งกระด้างขึ้น แต่ยังคงยิ้ม : “เป็นอะไรไป”
“พ่อแม่ของฉันอยู่ที่ไหน”
นรมนไม่อยากจะอ้อมค้อมกับเธอ
ในเมื่อใจคนคิดไม่ซื่อ เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาภาพ ความลักษณ์อันงดงามแบบเดิมต่อไปอีก
มือของแยมหยุดชะงักลง และก้มศีรษะลงเล็กน้อย ทำให้
มองไม่เห็นถึงอารมณ์สีหน้าของเธอ
“รู้ทั้งรู้ว่าฉันโกหกเธอ ทำไมยังถึงมา”
“มาดูให้เห็นกับตาว่าสิ่งที่ฉันเดานั้นเป็นความจริงหรือไม่ และมาเพราะเป็นห่วงเธอ ถ้าหากว่าเธอตกอยู่ในภัย อันตรายจริง ถ้าฉันไม่มาจะรู้สึกระอากับรอยฟันในหัวใจ รอยนั้น”
นรมนพูดอย่างราบเรียบ แต่แยมนั้นยิ้มขึ้นอย่างขมขืน
“ตอนนี้ได้พิสูจน์การคาดเดาของเธอแล้ว เธอไม่เกลียด
ฉันเหรอ”
เธอเงยหน้าขึ้น
ความงามบนใบหน้ายังคงเป็นเหมือนเมื่อห้าปีก่อน แต่ ว่านรมนกลับรู้สึกไม่คุ้นหน้า
“เกลียดสิ แต่ฉันเกลียดตัวเองมากกว่า เกลียดที่ตัวเอง ใจดี ใสซื่อ ให้โอกาสเธอมาทำร้ายฉันและครอบครัวของ ฉัน ฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้เธอ ระหว่างเราห้าปีที่ผ่าน มานั้นทั้งหมดล้วนจอมปลอมเหรอ ทำไมต้องลงมือกับพ่อ แม่ฉัน รเมศยื่นข้อเสนออะไรให้เธออย่างนั้นเหรอ”
นรมนยิงคำถามรัวๆจนทำให้แยมไม่สามารถจะตอบ คำถามได้
เธอชี้ไปที่นั่งด้านหน้าแล้วพูด : “เธอนั่งลงแล้วคุยกับฉัน ดีๆ เธอไม่ต้องเป็นห่วง พ่อแม่เธอไม่เป็นอะไร พวกเขา สบายดี”
“ตอนนี้ยังเชื่อเธอได้อีกเหรอ”
นรมนพูดอย่างความประชดประชัน
เธอเจ็บปวดใจมาก!
ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูนิ่งๆ แต่ว่าฝ่ามือของเธอนั้นถูกเล็บ มือของตัวเองจิกจนเป็นแผลถลอกแล้ว
ห้าปีมานี้ นอกจากรเมศแล้วก็มีเพียงแยมที่เป็นเพื่อนรัก ชีวิตใหม่ของเธอคือแยมเป็นคนมอบให้
เขาให้ความงดงามบนใบหน้าเธอ ส่งเสริมการศึกษาให้
เธอ แม้แต่คำแนะนำปัญหาเกี่ยวกับการเรียนของเด็กๆ เธอ ก็จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองให้กับเธอ แต่ก็เพราะเพื่อนที่ใกล้ชิดคนนี้ ตอนนี้กลายเป็นที่ลักพา
ตัวพ่อแม่ของเธอ
ประสบการณ์ห้าปีที่ผ่านมาทำให้นรมนนิ่งและสงบพอ ทำให้เธอค่อยๆวิเคราะห์สถานการณ์ ไม่เช่นนั้นอาศัยแค่ การคาดเดาอย่างเมื่อสักครู่แล้วนั้น เธอแทบอยากจะฉีก แยมที่อยู่ตรงหน้า
แยมไม่ใช่ไม่เห็นถึงแววตาที่เคืองโกรธและแค้นของนร มน เธอแค่ตั้งใจทำเป็นไม่เห็น แต่ว่ามือที่ทำการชงชามี อาการสั่นเทาเล็กน้อย
“ชานี้ฉันต้มมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว เสียดายมากถ้าเธอ
ไม่ดื่ม”
แยมฝืนยิ้มขึ้น
นรมนนั่งลงตรงหน้าเธอ โดยที่ไม่ได้หันมองชาที่แยมได้ ชงให้เธอ”
“อยากรู้มากใช่ไหมว่าทำไม”
แยมในที่สุดก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้
เป็นเรื่องที่เหนื่อย ที่คนคนหนึ่งต้องทำเป็นเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น ต้องแสร้งฝืนตัวเองให้ยิ้มออกมา นรมนไม่มีการพูดจาใดๆ เธอสามารถมาที่นี่ได้ ก็เพื่ออยากรู้ความเป็นจริงทุกอย่าง และเธอก็รู้ว่า แยมจะเป็น บอกความจริงให้กับเธอ
แยมนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ มองดูใบหน้ารูปงามที่ไร้ที่ติของ นรมน แล้วพูดเสียงเบาๆ : “รู้ไหม เธอคือชิ้นผลงานที่ฉัน ภาคภูมิใจที่สุด เพื่อใบหน้านี้ของเธอแล้ว ฉันทุ่มเทความ พยายามทั้งหมด จนในที่สุดก็ออกมาแบบไร้ที่ติ แต่ว่าฉัน กลับนึกไม่ถึงว่าผลงานอันสวยงามที่ฉันทำออกมานั้น กลับ พังทลายความหวังทั้งหมดของฉัน”
“ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด”
นรมนฟังด้วยความมึนงง
เธอคือผลงานชิ้นเลิศของแยม ห้าปีที่ผ่านมาพวกเขา เปรียบเสมือนแขนขา เธอไม่รู้ว่าตัวเองไปทำลายความหวัง ของแยมตั้งแต่เมื่อไร
แยมมองดูท่าทางไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของนรมน สักพัก ใบหน้าก็ไม่สามารถที่จะแสดงเป็นมิตรต่อได้อีก จึงพูดด้วย สีหน้าบึงตึงว่า : เธอไม่รู้จริงเหรอ เธอไม่รู้จริงๆเหรอ ก็เพ ราะรเมศไง!”
นัยน์ตาที่บ้าคลั่ง แววตาที่โมโหดุดันของเธอ ทำให้นรมน
เข้าใจได้ในทันที
“เธอชอบราเมศเหรอ”
เธออึ้งเล็กน้อย
แยมยิ้มด้วยความขมขื่น : “ทำไม เธอบอกว่าฉันเป็นเพื่อน ที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ บอกว่าเธอเข้าใจฉันที่สุดไม่ใช่เหรอแต่เธอกลับไม่รู้ว่าฉันชอบรเมศเหรอ เธอรู้ไหมว่าเมื่อฉันรู้ ว่าผู้หญิงที่เขาช่วยเหลือออกมานั้นคือเธอ ฉันนั้นแทบไม่ อยากจะเธอจริงๆ ถึงขนาดที่ฉันอยากให้เธอตายด้วยซ้ำ”
“แล้วทำไมเธอยังช่วยฉัน”
ในใจของนรมนนั้นเย็นวาบ
อันที่จริงแยมไม่ชอบเธอตั้งแต่แรก
แต่ลึกๆแล้วเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน
ในเมื่อไม่ชอบเธอ แล้วทำไมต้องทรมานตัวเอง ไม่เพียง ช่วยเหลือเธอยังเป็นเพื่อนเธอด้วยใบหน้าที่เป็นมิตรเป็น เวลาตั้งห้าปี
นี่คือกลอุบายอะไร
คืออารมณ์แบบไหน
นรมนไม่รู้ รู้แค่ว่ามีเหงื่อเย็นชุ่มเต็มที่แผ่นหลัง
เธอช่างรู้สึกตัวช้าอะไรเช่นนี้
ถึงเพิ่งมารู้ความจริงทั้งหมดในวันนี้
หลังจากที่แยมได้ยินคำถามของนรมนแล้วก็เกิดความบ้า
คลั่ง
“เพราะอะไร ก็เพราะรเมศไง! เขาบอกกับฉันว่า ขอเพียง ให้ฉันช่วยเหลือเธอ ให้เขาทำอะไรก็ได้ นรมนเธอมีดีอะไร ถึงทำให้รเมศปฏิบัติกับเธอเช่นนี้ได้”
แยมรู้สึกไม่พอใจ
เธอรู้จักกับรเมศในงานบังเอิญ
เขาที่เป็นคนมีปัญญาความรู้ ดูดีมีสง่าและอ่อนโยนได้ ดึงดูดสายตาของแยม ถึงขนาดที่ว่าเพื่อรเมศแล้ว เธอสละ ทิ้งโอกาสไปศึกษาที่ต่างประเทศ
เธอดีกับเขามาก ดีจนลืมไปแล้วว่าตัวเป็นใครด้วยซ้ำ แต่ ว่าวันหนึ่งรเมศกลับพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับมา ผู้หญิงคนนี้ที่ ใบหน้าเสียโฉม รอยบาดแผลไหม้ทั่วตัว อีกทั้งยังเป็นผู้ หญิงตั้งครรภ์
ตอนนั้นแยมไม่ได้มีการระวังตัวนรมนใดๆ เพราะรเมศ บอกว่าเธอคือเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเขา เธอถูกสามี ตัวเองตลบหลัง จนเกือบจะต้องเสียชีวิตในเปลวเพลิง ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แยมรู้สึกเห็นใจนรมน และร
เมศต้องการที่จะช่วยนรมน จึงได้พูดกับแยมว่า ขอเพียง
สามารถช่วยเธอได้ จะให้เขาทำอะไรก็ยอม
เวลานั้น แยมจิตใจหวั่นไหวแล้ว
ถ้าหากช่วยผู้หญิงคนนี้ไว้ แล้วทำให้รเมศเป็นแฟนตัวเอง ได้อย่างนั้นทำไมเธอจะไม่ช่วยล่ะ
แต่แล้วอาการของนรมนกลับแย่ลง เนื่องจากไม่สามารถ ที่จะสละลูกในท้องของตัวเองได้ ทำให้เวลาในการช่วย เหลือล่าช้า จนในที่สุดแยมสังเกตเห็นความผิดปกติที่ร เมศมีต่อนรมน
เขารักเธอ!
ข้อมูลนี้ทำให้แยมไม่สามารถที่จะยอมรับได้ จนถึงขึ้นที่อยากจะให้นรมนตาย แต่ก็ถูกรเมศขัดขวางไว้ ด้วยการ รับปากอีกครั้งของรเมศ หนึ่งปีให้หลังแยมได้ช่วยนรมน ศัลยกรรมความงามบนใบหน้า เพื่อต้องการใกล้ชิดกับร เมศ เพื่อโอกาสที่จะได้เจอรเมศอีกครั้ง เธอจึงต้องเป็น เพื่อนกับนรมน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ