บทที่ 195 มีคนเข้ามา
คิดมาถึงตรงนี้นรมนก็หาวิธีฆ่าตัวตาย
มือและเท้าของเธอถูกมัดเอาไว้อยากกรีดข้อมือก็ คงทำไม่ได้ ปากของเธอก็ถูกอุดเอาไว้ กัดลิ้นตายก็ คงทำไม่ได้อีก แล้วเธอควรทำยังไงดี?
ชนผนัง?
ถ้าชนผนัง ระยะห่างของเธอในตอนนี้ค่อนข้าง ไกล อีกอย่างก็ไม่สามารถขยับตัวได้ด้วย
นรมนรู้สึกว่าตัวเองน่าเวทนาเป็นที่สุด ขนาดจะ ฆ่าตัวตายยังทำไม่ได้เลย
รเมศอำมหิตอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย
เธอมองเพดานอย่างสิ้นหวัง มองไปมองมาก็รู้สึก ตาลาย รู้สึกเหมือนมีใครแยกเพดานออกจากกัน
แต่จะเป็นไปได้ยังไง?
ที่นี่คือห้องใต้ดิน เพดานที่นี่ก็เป็นแค่ด้านล่างของ พื้นเท่านั้น
นรมนกะพริบตาอีกครั้ง ก็รู้สึกเหมือนเพดานขยับ
จริงๆ
“แค่กๆ!”
นรมนไอออกมา แม้จะไม่มีใครได้ยินเสียงไอของ เธอ แต่เธอก็ยังอยากส่งเสียงออกไปให้ได้มากเท่าที่จะทำได้
เสียงเท้าข้างนอกไม่มีแล้ว แสดงว่าตอนนี้ไม่มีใคร อยู่ข้างนอกแล้ว
นรมนจ้องเพดานตาไม่กะพริบ จนเมื่อเพดานถูก แยกออกจริงๆและมีหัวของใครบางคนโผล่ออกมา เธอถึงได้ตกใจเบิกตากว้าง
มีคนเข้ามาจริงๆด้วย!
อีกอย่างยังเข้ามาด้วยวิธีแบบนี้อีก!
นรมนทั้งตกใจทั้งดีใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอ เห็นหน้าของคนคนนั้น ดวงตาของเธอก็เอ่อคลอไป
ด้วยน้ำตา
บุริศร์!
เขามาแล้ว!
เขามาช่วยเธอแล้ว!
ครั้งก่อนเขาเจอเธอจริงๆใช่ไหม?
หลังจากที่บุริศร์ย้ายอิฐบนเพดานออกก็รู้สึกได้ถึง สายตาที่มองตามเขาตลอด เขามองลงไปข้างล่าง ก็ พบกับภาพที่ทำให้ดวงตาของเขาแทบบอด หัวใจของ เขาเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก
ไอ้รเมศไอ้เลว!
เขากล้าทำกับนรมนถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
นรมนถูกเชือกเส้นใหญ่มัดเอาไว้บนเตียง ปากก็ ถูกปิดเอาไว้ บริเวณข้อมือข้อเท้ามีแต่รอยเลือดสีเข้ม กระตุกต่อมโมโหของบุริศร์ได้เป็นอย่างดี
เขาเคยคิดหลายครั้งว่าจะได้เจอนรมนในสภาพ แบบไหนบ้าง แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นสภาพที่น่า สะเทือนใจเหมือนในตอนนี้ มันทำให้เขาเจ็บลึกถึงขั้ว หัวใจ
บุริศร์กระโดดลงมาข้างล่างด้วยความรวดเร็ว
สายตาของนรมนจดจ้องบุริศร์เอาไว้ตลอด กลัว ว่าถ้ากะพริบตา แล้วคนตรงหน้าจะหายไป กลัวว่าทุก อย่างที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นเพียงภาพลวงตา
“นรมน!”
บุริศร์รีบเข้ามาหาเธอด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็ แกะสิ่งที่ปิดปากเธอออกให้
“บุริศร์!”
เสียงของนรมนแหบแห้ง ร่างกายผอมแห้งจนไม่ เหลือเคล้าเดิม
มือของบุริศร์สั่นเทา
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้? รเมศชอบคุณไม่ใช่เหรอ? ทำไมไอ้ชาติหมานั่นทำกับคุณอย่างนี้? ผมจะฆ่ามัน! ผมจะฆ่ามันให้ตาย!”
ร่างกายของบุริศร์สั่นไปมหด จากนั้นเขาก็ค่อยๆแกะมัดให้นรมนอย่างระมัดระวัง
นรมนโถมตัวเข้าสู้อ้อมกอดของเขาทันที
เมื่อเธอได้กลิ่นที่คุ้นเคย ได้สัมผัสอกแกร่งที่แสน อบอุ่น นรมนก็รู้สึกราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง
สิ่งที่ได้ประสบพบเจอมาตลอดทำให้เธอไม่กล้า เชื่อว่าจะยังมีชีวิตรอดได้เจอบุริศร์ พอตอนนี้ได้มาเจ อจริงๆ ก็รู้สึกราวกับฝันไป ไม่เหมือนความจริงเลยสัก นิด
บุริศร์ถูกเธอกอดรัดจนหายใจลำบาก แต่ก็ไม่ได้
ดันเธอออก
นรมนผอมลงไปมาก
ไม่มีน้ำมีนวลเหมือนเมื่อก่อน
เขาไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานรมนต้องลำบาก มากขนาดไหน แต่แค่คิดก็พอจะรู้ ว่าเธอต้องทนแบก รับมันไว้มากเท่าไหร่
เขาไม่กล้าถาม ว่านรมนผ่านอะไรมาบ้าง เขากลัว ว่าหลังจากได้ฟังตัวเองจะรับไม่ไหว
“ผมมาพาคุณกลับบ้าน”
เสียงของบุริศร์สั่น เจือปนไปด้วยเสียงสะอื้น
ดีจริงๆ!
ในที่สุดก็หาเธอเจอ!
ในที่สุดก็ตามหานรมนที่ยังมีชีวิตเจอ สิ่งนี้สำคัญ กว่าสิ่งไหน เทียบกับสิ่งอื่นแล้ว สิ่งไหนก็ไม่สำคัญเท่า
นรมนไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่ร้องไห้ ร้องจน เสียงแหบแห้ง ทั้งท้อแท้เสียใจ ขณะเดียวกันก็ดีใจที่ หาทางเอาชีวิตรอดเจอ และวินาทีที่เห็นบุริศร์หัวใจ เธอก็สั่นไหวในทันที
ณ วินาทีนี้ เธอเพิ่งได้รู้ตัว ว่าตัวเองรักผู้ชายคนนี้
มาก
นรมนร้องไห้อยู่ดีๆ จู่ๆก็จูบบุริศร์
กลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้บุริศร์ชะงักไป ต่อมาเขาก็ตอบรับเธออย่างแผ่วเบา กลัวว่าจะสัมผัส
ถูกบาดแผลบนร่างกายของเธอ
นรมนดูดเม้มอย่างเต็มแรง เธออ้อนขอมัน ราวกับ เป็นคนโลภมาก ราวกับเป็นคนกำลังจมน้ำ ต้องการ บางสิ่งบางอย่างมายืนยันว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นความจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา
บุริศร์หายใจหอบ
สุดท้ายเขาจำต้องค่อยๆดันนรมนออกเบาๆ แล้ว พูดว่า “เรากลับบ้านกัน คุณอยากทำอะไร ผมก็จะทำ กับคุณทั้งหมด”
นรมนราวกับเด็กเอาแต่ใจ กะพริบดวงตาพราว หยาดน้ำมองมาที่เขาปริบๆ ทำให้อารมณ์ของเขาร้อน รุ่ม จนแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่
แต่เขารู้ดี ว่าตอนนี้ยังอยู่ในถิ่นของรเมศ เพราะ ฉะนั้นรเมศสามารถกลับมาที่นี่ได้ทุกเวลา
บุริศร์ลุกขึ้น ก็พบว่านรมนกำชายเสื้อของเขาเอา ไว้แน่น พร้อมกับมองมาที่เขาเหมือนเด็กถูกทิ้ง
เขารู้สึกปวดหน่วงหัวใจจนแทบหายใจไม่ออก
“ผมไม่ทิ้งคุณหรอก จะไม่ทิ้งคุณอีกแล้ว ทั้งชีวิต ไม่ว่าจะไปที่ไหน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะอันตรายสัก เท่าไหร่ ผมก็จะกุมมือของคุณเดินไปด้วยกัน นรมน ผมจะพาคุณขึ้นไป คุณยังเหลือแรงอยู่ไหม?”
เสียงพูดของบุริศร์ทั้งแผ่วเบา และอบอุ่น ตั้งแต่ที่ นรมนรู้จักบุริศร์มา เธอไม่เคยได้ยินเขาพูดเสียงอ่อน โยนกับเธอเหมือนอย่างตอนนี้เลย
เธอยังคงล่องลอย แต่ทว่าก็พยักหน้าให้ แต่ตอน ที่ลุกขึ้น ร่างทั้งร่างก็แทบทรุดลงกับพื้น
เพราะหลายวันที่ผ่านมาเธอถูกขังอยู่ตลอด ร่างกายของนรมนจึงไม่มีแรงเลยสักนิด อีกอย่างการ เข้าน้ำเกลือก็ทำให้เธอสำรองแรงกายเอาไว้ไม่ได้มาก
เท่าที่ควร
บุริศร์กอดเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็รู้สึก เหมือนกำลังกอดใบไม้ที่เบาแสนเบา จนเขาอดสงสาร ไม่ได้
เขาหรี่ตาลง จากนั้นก็แบกนรมนขึ้นหลัง แล้วเดิน ขึ้นไปข้างบนทีละก้าวช้าๆ
นรมนซบอยู่บนหลังของเขา เธอรู้สึกว่าแผ่นหลัง ของบุริศร์ทั้งกว้าง ทั้งปลอดภัย และทำให้เธออุ่นใจ
เธอกอดรอบคอของเขาเอาไว้แน่น น้ำตาทำให้ ดวงตาทั้งสองข้างพร่าเบลอไปหมด
หลังจากที่บุริศร์แบกนรมนขึ้นหลัง นรมนถึงได้ พบว่า ตรงนี้คือบ่อน้ำใต้ดิน
บ่อน้ำใต้ดินของที่นี่เชื่อมต่อกับทุกทิศทาง ไม่ จำเป็นออกทางประตูหลักของตระกูลวัชโรทัยก็ได้ แต่มีข้อเสียอย่างหนึ่ง นั่นก็คือต้องงอตัวถึงจะสามารถ ปืนออกไปได้
เมื่อคิดว่าบุริศร์เข้ามาด้วยวิธีแบบนี้ จมูกของนร
มนก็เริ่มแสบร้อนอีกครั้ง
“วางฉันลง ให้ฉันเดินเอง”
เสียงของนรมนเบามาก ถ้าไม่ใช่ว่าเธออยู่ใกล้บุริ ศร์ บุริศร์ก็คงไม่ได้ยินเสียงของเธอ
เขาส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ผมจะแบกคุณกลับ” ถึงประโยคนี้จะดูเรียบๆ แต่ก็ทำให้นรมนประทับ
ใจ
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรมากมายแต่หัวใจกลับรู้สึก หวั่นไหว
ความรู้สึกล้ำค่าที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ทำให้ พวกเขากุมมือกันเอาไว้ ค่อยๆกระชับจนแนบแน่น
ใช้เวลาปืนออกมาประมาณครึ่งชั่วโมง หัวเข่า ของบุริศร์เสียดสีจนเลือดไหล แต่เขาไม่สนใจ ทั้งร่าง ของเขาเปียกโชก เหงื่อหยดลงบนมือของนรมน ความรู้สึกที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้กระจายอยู่ รอบกายของกันและกัน
เมื่อทั้งสองปืนออกมาจากบ่อน้ำใต้ดินได้ เพราะ ว่านรมนไม่ชินกับแสงแดดจึงหรี่ตาลงทันที
บุริศร์รีบถอดเสื้อตัวนอกไปคลุมหน้าผากให้เธอ
“ขึ้นรถก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“อืม!”
นรมนพยักหน้า ราวกับเด็กดี แต่ทว่าท่าทางแบบ นี้ของเธอกลับทำให้บุริศร์สงสาร
เขาอุ้มนรมนขึ้นมา จากนั้นก็เดินตรงไปที่รถด้วย ความรวดเร็ว พร้อมทั้งไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยให้นร มนด้วย แล้วถึงได้เหยียบคันเร่งขับรกออกไปจาก อาณาเขตของตระกูลวัชโรทัย
เมื่อกลับมาถึงโรงพยาบาล บุริศร์ไม่ได้รีบให้นร มนได้เจอกับกมล และไม่ให้คุณนายตระกูลโตเล็กเจอ พวกเขาด้วย
เขาหาห้องให้นรมนได้อยู่คนเดียว และลงมือ เตรียมน้ำในอ่างให้นรมน พร้อมทั้งอาบน้ำให้เธอ ในระหว่างที่ไอน้ำกำลังกรุ่น บุริศร์ก็มองเห็นรอย
แผลจางๆบนตัวของนรมน ดวงตาของเขาหดเกร็งทันที
“รเมศทำเหรอ?”
“เปล่า คนของFallen heavenทำนะ มันผ่านมา แล้วล่ะ ฉันไม่เจ็บแล้ว”
นรมนพูดอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เขาสงสารจนทนไม่ไหว บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร แต่การกระทำยิ่งอ่อนโยน
มากขึ้น
เขาปฏิบัติต่อนรมนราวกับเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง
เมื่อนรมนเห็นท่าทางของเขาในตอนนี้ จู่ๆก็พูด เสียงเบาขึ้นมาว่า “คุณไม่ต้องระมัดระวังกับฉันขนาดนี้ ก็ได้ บุริศร์ นอกจากได้แผล ฉันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ฉันก็ยังเป็นของคุณ”
บุริศร์น้ำตาเอ่อคลอทันที
“ถึงคุณจะผ่านอะไรมา ผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปโทษคุณ หรอก เป็นผมที่ปกป้องคุณไม่ได้ เป็นผมที่ทำให้คุณ ต้องแบกรับทุกอย่างแบบนี้”
ดวงตาของบุริศร์แดงก่ำ
นรมนยื่นมือออกไป ปิดปากของบุริศร์เอาไว้อย่าง แผ่วเบา “รู้อะไรไหม? ตอนที่ฉันถูกขายขึ้นเรือ ฉันได้ เห็นคนรอบข้างตายไปด้วยสาเหตุมากมายชีวิตของคน คนหนึ่งในสายตาของคนพวกนั้นก็เป็นแค่มดตัวหนึ่งพอตายก็ถูกโยนทิ้งจมหายไปกับทะเลไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาหายไปไหน แม้แต่คนในครอบครัวก็ตามหา ศพของพวกเขาไม่เจอ ในทุกๆวันฉันกลัวมาก กลัวว่า คนถัดไปจะเป็นฉัน กลัวว่าคนที่ถูกโยนลงไปจะเป็น ฉัน คนที่ฉันคิดถึงมากที่สุดในแต่ละวันก็คือคุณ บุริ ศร์ ไม่ว่าจะห้าปีก่อนหรือห้าปีให้หลัง คนสุดท้ายที่ฉัน คิดถึงก็ยังคงเป็นคุณ”
“นรมน”
บุริศร์ไม่รู้ว่าในใจกำลังรู้สึกอย่างไร ตื้นตันใจ ทุกข์ใจ หรือเจ็บปวดใจ
ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเจอกับความเจ็บปวดแบบไหน มาบ้าง ถึงได้ฝันร้ายอย่างนี้
“ไม่เป็นไรแล้ว เราได้กลับบ้านแล้ว ต่อไปนี้ผม จะไม่ให้ใครก็ตามมารังแกคุณอีก”
เขากอดนรมนแน่น
นรมนผอมจนเหลือแต่กระดูก สูญเสียความ สวยงามอย่างที่เคยมีไปหมด แต่ว่าบุริศร์ไม่ได้รู้สึกว่า เธอดูน่าเกลียดเลยสักนิด
นี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่พวกเขาปฏิบัติต่อกัน ด้วยใจจริง ไม่มีความสั่นไหวใดๆ มีแต่รักสุดหัวใจจน น้ำตาแทบไหล
บุริศร์เห็นรอยแผลไฟลวกเมื่อห้าปีก่อนบน ร่างกายของนรมน ถึงแม้นรมนจะปกปิดแผลนั้นด้วยรอยสัก เขาก็ยังเห็นมันอย่างชัดเจน
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมนรมนถึงได้มีรอย สักทั่วร่างกาย ทั้งๆที่เคยเกลียดรอยสักขนาดนั้น ที่แท้ก็เพราะว่าเธอยังอยากจะแสดงด้านที่งดงามที่สุด ของเธอให้เขาได้เห็น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ