บทที่ 193 ตัดสินใจเลือกยาก
คุณนายตระกูลโตเล็กเห็นด้วยและเข้าใจว่ากมล ควรตรวจซ้ำ แต่เมื่อบุริศร์บอกว่าเธอต้องไปตรวจ ด้วย คุณนายตระกูลโตเล็กก็รู้สึกประหลาดใจ
“คนแก่อย่างฉันต้องตรวจอะไร?”
คุณนายตระกูลโตเล็กมีท่าทีปฏิเสธ
บุริศร์กุมมือของคุณนายตระกูลโตเล็กไว้แล้วพูด ว่า “แม่ครับ หลายปีมานี้ แม่อยู่ต่างประเทศมาตลอด ผมไม่รู้ว่าสุขภาพร่างกายแม่จะเป็นยังไงบ้าง ถึงแม้ว่า ตอนนี้ดูเผินๆแล้วจะยังสบายดีอยู่ แต่ว่าผมไม่ค่อย สบายใจเท่าไหร่ แม่เชื่อผมเถอะ ไปตรวจร่างกายได้ ไหมครับ?”
ความจริงแล้วคุณนายตระกูลโตเล็กไม่ชอบเข้า โรงพยาบาลมากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะกมล เธอก็คงไม่ไป ที่โรงพยาบาล พอเห็นท่าทางของบุริศร์แบบนี้ เธอก็ ครุ่นคิดอยู่สักพักจากนั้นจึงถามขึ้นมาว่า “ร่างกายฉันมี ปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่าครับ ก็แค่ตรวจร่างกายทั่วไป แม่อย่า
คิดมากเลย”
บุริศร์พยายามเลี่ยง
แต่คิดว่าคุณนายตระกูลโตเล็กเป็นใคร?
เธอมองมาที่บุริศร์ ดวงตาคู่นั้นคมกริบเป็นอย่างมาก จนบุริศร์แทบจะต้านทานไหว
“แม่–”
“ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?”
เมื่อบุริศร์เห็นคุณนายตระกูลโตเล็กยืนกรานจะรู้ ให้ได้ เขาจึงต้องบอกเรื่องผลตรวจที่โรงพยาบาล เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกับคุณนายตระกูลโตเล็กไป
ดวงตาของคุณนายตระกูลโตเล็กหรี่ลง แล้วพูด
ว่า “ตอนยังเป็นสาวฉันเคยกินยาจริงๆ แต่ไม่ใช่ยาพิษ อะไรทั้งนั้น มันเป็นยาจีน ตอนนั้นฉันกับพ่อแก แต่งงานกันมาตั้งหลายปีแต่ก็ไม่มีลูกสักที พวกฉันเลย ไปหาหมอ หมอบอกว่ากรุ๊ปเลือดของพวกฉันไม่ตรง กัน เลยมีลูกยาก ตอนนั้นฉันรู้สึกใจแทบสลาย ถ้า ชาตินี้ทั้งชาติผู้หญิงอย่างฉันไม่สามารถเป็นแม่คนได้ แล้วแบบนั้นฉันจะเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบยังไง? ฉัน ไปหาหมอมาทุกที่ กินสมุนไพรไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ ยังไม่เห็นผล จนกระทั่งได้เจอป้าโอ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของบุริศร์ก็พลันหรี่เล็กลง
“ป่าโอ?”
“ใช่! แกสงสัยมาตลอดไม่ใช่เหรอว่าทำไมฉันและ ตระกูลโตเล็กถึงได้ดีกับป้าโอเป็นพิเศษขนาดนั้น? ก็ เพราะว่าเธอทำให้ฉันมีลูก ทำให้ตระกูลโตเล็กมี ทายาท แกรู้ไหมว่าสิ่งนี้มีบุญคุณกับตระกูลโตเล็ก มากแค่ไหน? เพื่อให้ตระกูลโตเล็กมีทายาท ฉันถึงขนาดเคยจะหย่ากับพ่อของแก เพื่อให้เขาไปแต่งงาน ใหม่ แต่พ่อแกไม่ยอม สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่ใจร้ายกับ พวกเรา ถึงได้พาให้พวกเราได้มาเจอกับป้าโอ”
หัวคิ้วของบุริศร์เริ่มขมวด
“ป้าโอเก่งขนาดนั้นเลย? ถึงขนาดทำให้คนที่กรุ๊ป เลือดไม่ตรงกันอย่างพ่อกับแม่มีลูกได้?”
“ครอบครัวของเธอมีชื่อเสียงในเรื่องการรักษา ภาวะมีบุตรยาก ถือได้ว่าเป็นตระกูลแพทย์แผนจีน แต่ว่าธุรกิจครอบครัวกลับย่ำแย่ ป้าโอถูกคนไม่ดี ทำร้ายจนกลายเป็นคนเร่ร่อน ฉันกับพ่อของแกเลย ช่วยเธอเอาไว้ถือเป็นการตอบแทนที่เธอจัดหายาให้
พวกฉัน”
คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้คิ้วของบุริ
ศร์ยิ่งขมวดแน่น
“ยาอะไร? เอาไปให้หมอตรวจที่โรงพยาบาลได้ ไหม?”
“ไม่ได้ ยาจีนจะเอาไปตรวจที่โรงพยาบาลได้ยัง ไง? โรงพยาบาลไม่เชื่อเรื่องยาจีนหรอกตอนนั้นฉัน กับพ่อแกไม่มีทางเลือกจริงๆ เลยต้องกินยาของเธอ ยาพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นมรดกตกทอดมาจากตระกูล ของเธอ พวกฉันไม่กล้าไปขอดูหรอก ดังนั้นตั้งแต่ การเตรียมยา ผสมยา จนถึงการต้มยา ป้าโอทำคน เดียวทั้งหมด แต่อย่าว่าเชียวนะ ยาของเธอได้ผล จริงๆ ฉันกับพ่อแกกินยาอยู่ประมาณครึ่งปี ก็ท้องพวกแกจนคลอดออกมา เพราะงั้นป้าโอคือผู้มีพระคุณ กับตระกูลของเรา ตระกูลของเราห้ามทำไม่ดีกับเธอรู้ ไหม?”
เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กพูดถึงเรื่องในอดีต ก็ ยังคงปกป้องป้าโอเหมือนอย่างเคย
แต่ในใจของบุริศร์กลับไม่คิดอย่างนั้น
เมื่อก่อนเขาก็คิดว่าป้าโอดีกับตระกูลโตเล็ก แต่ว่า ตอนนี้ถ้าดูจากเรื่องที่เธอทำกับกานต์และนรมน บุริศร์ จึงไม่คิดว่าป้าโอหวังดีกับตระกูลโตเล็กขนาดนั้น
ยานั่นคืออะไรกันแน่?
จะเกี่ยวกับพิษที่อยู่ในร่างกายของคุณนาย ตระกูลโตเล็กหรือเปล่า? เรื่องทั้งหมดนี้บุริศร์ไม่เคย ตรวจสอบเลย เขาทำได้แค่พูดออกไปว่า “แม่กับพ่อ ใจกล้าเกินไปแล้ว ตอนนี้ในร่างกายแม่มีพิษอยู่ตั้งไม่รู้ เท่าไหร่ แม่เชื่อผมเถอะ ไปตรวจร่างกายดู ถ้า ร่างกายมีปัญหาจริงๆ เราจะได้รักษาได้ทัน ผมยังรอ ให้แม่ช่วยผมเลี้ยงลูกอยู่นะ แม่อย่าอู้สิ”
บุริศร์กกังวลเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นลูกชายเป็นกังวล คุณนายตระกูลโตเล็ก จึงไม่ดื้ออีกต่อไป
ได้แก้ไขความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกกับบุริศร์ สำหรับ เธอแล้วก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
“โอเคๆ ฉันจะไปตรวจ! แกก็อย่าเครียดมาก ฉันได้ยินมาว่าแกจับป้าโอไว้ ฉันรู้ว่าบางเรื่องเธอก็ทำเก็น ไป แต่ว่านะบุริศร์ ถ้าหาตัวนรมนเจอ ฉันว่าให้เงินเธอ สักก้อนหนึ่ง แล้วให้เธอกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด เถอะ เรื่องอื่นน่ะอย่าสืบหาเลย”
“แม่! เรื่องกานต์….”
“ฉันรู้ ฉันก็เจ็บปวดเรื่องกานต์เหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่าเราจะลืมบุญคุณที่เธอมีต่อตระกูลไม่ได้ เรื่อง กานต์ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบให้แกกับนรมนเอง ชีวิต ของฉันที่เหลือฉันจะทำดีกับนรมน ไม่ว่าเธอจะเจอ เรื่องอะไร ผ่านอะไรมา ฉันขอพูดไว้ตรงนี้ ว่านรมน จะเป็นสะใภ้ของตระกูลโตเล็กตลอดไป และเป็น ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของแกด้วย!”
เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กพูดมาถึงขนาดนี้ บุริศร์ จึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่เรื่องทำโทษป้าโอ เขาก็ยัง คงไม่ละทิ้งความคิดของตัวเอง
เมื่อเห็นว่าคุณนายตระกูลโตเล็กเข้าไปตรวจแล้ว สีหน้าของบุริศร์ก็เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
“ประธานบุริศร์ คุณยังกังวลอะไรอีกเหรอ? ตอน นี้นายน้อยกับคุณหนูก็ไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์ปี เตอร์สเบิร์กแล้ว เรามีอิสระอย่างสมบูรณ์แล้วด้วย ทำไมคุณยังเคร่งเครียดอยู่ล่ะครับ?”
“ฉันรู้แล้วว่านรมนอยู่ที่ไหน แต่ว่าการจะช่วยเธอ ออกมามันไม่ง่ายเลย ฉันเลยกำลังคิดว่าหลังจากช่วย นรมนออกมาแล้วค่อยให้กมลผ่าตัดดีไหม ถึงยังไงการผ่าตัดในครั้งนี้ นรมนก็รอมาตั้งห้าปี”
บุริศร์ห่วงหานรมเสมอ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอนี่เธอจะ เป็นยังไงบ้าง
เมื่อพฤกษ์ได้ยินที่บุริศร์พูด ก็นิ่งไปอย่างช่วยไม่
ได้ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างคาดเดาว่า “รเมศเหรอ
ครับ?”
“เขานั่นแหละ! แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องการให้คนไปล่อ เขาออกมา จะช่วยนรมนออกมาได้หรือไม่นั้น ฉันคง ต้องลองไปสำรวจดูก่อนถึงจะรู้”
“คุณไมค์ช่วยเราได้ไหมครับ?”
บุริศร์หรี่ตาลงทันที
“ได้สิ ได้อยู่แล้ว”
ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมา
เขาไม่เคยคิดอยากรบกวนความสัมพันธ์ทางนี้เท่า ไหร่ เพราะเขาไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์เหล่านี้ เร็วเกินไป แต่ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าไม่รบกวน คาดว่าคงจัดการได้ยาก
ผลตรวจของกมลออกมาแล้ว และสีหน้าของหมอ ก็ค่อนข้างแย่
“คุณบุริศร์ครับ เราไปคุยกันตรงนั้นดีกว่า”
เมื่อได้ยินที่หมอพูด บุริศร์ก็รู้ในทันทีว่ามีปัญหา แต่เขาก็ยิ้มพร้อมกับลูบหัวของกมลแล้วพูดว่า “กมลเก่งมาก! เดี๋ยวกมลไปเล่นกับพี่กิจจาสักพักนะโอเค ไหม? คุณย่าเข้าไปตรวจแล้วเหมือนกัน พอคุณย่า ออกมา กมลก็มาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่า คุณย่าอายุเยอะ แล้ว ต้องมีคนคอยอยู่ด้วย”
“ได้ค่ะ!”
กมลยิ้มอย่างร่าเริง จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง พร้อมกับกิจจา
ตอนนี้จึงเหลือแค่พฤกษ์ที่รอคุณนายตระกูลโต
เล็กออกมา
บุริศร์เดินตามคุณหมอมาจนถึงห้องทำงาน จาก นั้นก็เอ่ยถามอย่างเคร่งเครียดว่า “ร่างกายของลูกสาว ผมมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
หมอพยักหน้า
“คุณบุริศร์ ผมตรวจเจอยาปฏิชีวนะชนิดหนึ่งใน ร่างกายของคุณหนูกมล ยาชนิดนี้จะคอยยับยั้งการ ทำงานของยาที่ช่วยรักษาอาการป่วยของคุณหนูกมล และผมก็พบว่ามีการใช้ยาปฏิชีวนะชนิดนี้ในปริมาณที่ มากมาตลอด”
“หมายความว่ายังไง?”
หัวใจของบุริศร์บีบรัดในทันที
หมอคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า “พูด อย่างนี้แล้วกันครับ คนป่วยหนึ่งคน ถ้าใช้ยาปฏิชีวนะ ในการรักษาจะใช้ได้แค่ครึ่งหนึ่ง แต่คุณหนูกมลถูกใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาแบบเต็มตัว ในสถานการณ์ อย่างนี้ โดยทั่วไปแรกๆจะเห็นผลชัดมาก ต่อมาถ้ายัง ใช้วิธีนี้ตลอด ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกายเป็นอย่าง มาก โดยเฉพาะอวัยวะที่อ่อนแออยู่แล้วก็จะยิ่งทรุด โทรมลงมากกว่าเดิม พูดได้ว่าถ้าทำการรักษาแบบเมื่อ ก่อน คุณหนูกมลกก็ไม่จำเป็นต้องรีบหาไตมาเปลี่ยน ภายในสิบปี แต่เพราะจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นของยา ปฏิชีวนะชนิดนี้ ร่างกายของคุณหนูกมลจึงไม่ สามารถทนรับได้ไหว ไตเลยทรุดโทรมเร็วกว่าเดิม จากการทำงานของยาปฏิชีวนะ และนี่แหละครับคือสา เหตุหลักๆที่สุขภาพร่างกายของคุณหนูกมลไม่ดีขึ้น”
เมื่อฟังจบ บุริศร์ก็แทบคลั่ง
ใครเป็นคนทำคำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว รเมศยังไงล่ะ!
รเมศแสร้งทำเป็นคนดีต่อหน้านรมน พร้อมกันนั้น ก็แอบทำทุกวิถีทางเพื่อให้กมลจากโลกนี้ไปเร็วๆ
บางทีในสายตาของรเมศ ไม่ว่าจะเป็นกานต์หรือ กมล ก็คงเป็นแค่ตัวภาระ ภาระที่กมลได้มาจากเขา นรมนแสดงออกชัดเจนว่ารักเด็กสองคนนี้มากๆ เขาก็ เลยต้องใช้เด็กสองคนนี้เป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อที่จะ ควบคุมนรมน
ความคิดชั่วร้ายมาก!
ช่างเป็นคนเลวร้ายอะไรขนาดนี้!
บุริศร์กำหมัดแน่น แทบอยากจะฉีกรเมศเป็นชิ้นๆ กมลน่ารักและบอบบางขนาดนั้น ทำไมเขาถึงใจ ร้ายทำกับเธอได้ลงคอ?
ถึงจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของตัวเอง ก็น่าจะมีความรู้สึก
สงสารสักนิดก็ยังดี
เมื่อหมอเห็นบุริศร์โกรธถึงเพียงนี้ ก็ถอนหายใจ ออกมาแล้วพูดว่า “คุณบุริศร์ ผมมีคำแนะนำ แต่ไม่รู้ คุณจะเห็นด้วยหรือเปล่า”
“คุณพูดมาเลย”
บุริศร์เชื่อใจหมอในโรงพยาบาลของไมค์
หมอจึงพูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้คุณหนูกมลไม่เหมาะที่ จะทำการผ่าตัด ถึงแม้ว่าไตของเธอจะย่ำแย่จนถึงขั้น นี้แล้ว แต่ว่าสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้ไม่พร้อม รับมือกับความเจ็บปวดจากการผ่าตัดในครั้งนี้ ผม แนะนำให้คุณหนูกมลพักรักษาตัวไปก่อน อย่างน้อยก็ ให้ร่างกายของเธอได้เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาหลัง จากผ่าตัดไม่อย่างนั้นล่ะก็ต่อให้ผ่าตัดไป ก็คงไม่เห็น ผลสำเร็จอะไรหรอก”
“แต่ว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คุณหมอบอกว่าต้องรีบทำการผ่าตัด ไม่อย่างนั้นจะมี ชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”
คำพูดของบุริศร์ทำให้หมอไม่เห็นด้วยเป็นอย่าง มาก
“ไร้สาระมากครับ ตอนนี้ร่างกายของคุณหนูกมล ทำงานเกินขีดจำกัด ถ้าขืนผ่าตัดตอนนี้ล่ะก็ อย่าพูด ถึงเรื่องผ่าตัดสำเร็จเลยครับ จะลงจากเตียงผ่าตัดได้ ไหมก็ไม่รู้ อีกอย่างยาปฏิชีวนะที่พวกเขาใช้ใน ปริมาณมาก ก็ถือเป็นการทำลายร่างกายของคุณหนู กมลอีกรูปแบบหนึ่ง ช่วงนี้ผมว่าจะให้คุณหนูกมล หยุดใช้ยา เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูก่อนแล้วค่อย
วางแผนต่อไปว่าจะทำยังไง คุณบุริศร์เห็นด้วยไหม
ครับ?”
มาถึงขั้นนี้ เอาจริงๆบุริศร์ก็ตัดสินใจยากมาก เขาไม่ใช่หมอ ไม่รู้ว่าควรเชื่อใคร กมลอดทนมา ตั้งหลายปี ตอนนี้กลับมีแค่สองทาง เขาไม่แน่ใจเลย
“คุณหมอ ผมขอคิดก่อนได้ไหม?”
“ได้สิครับ”
หมอไม่ได้ปฏิเสธ
หลังจากที่บุริศร์ออกมาจากห้องทำงานของหมอ เขาก็บอกให้พฤกษ์รีบติดต่อผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกมา ตรวจกมล
ไม่ว่ายังไง เขาก็จะไม่ให้ลูกสาวของตัวเองต้องมี อันตรายใดๆทั้งสิ้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ