แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 141 ชั่วชีวิตนี้หัวใจของผมเต้นเพราะผู้ หญิงแบบคุณคนเดียวเท่านั้น



บทที่ 141 ชั่วชีวิตนี้หัวใจของผมเต้นเพราะผู้ หญิงแบบคุณคนเดียวเท่านั้น

“คุณอยากทำอะไร?” นรมนตื่นเต้นเล็กน้อย

“คุณรู้สึกอย่างไรหล่ะครับ? คุณนายบุริศร์! I3D

กล่องเสียงของบุริศร์แหบแห้งอีกครั้ง

นรมนรู้สึกว่าตัวเองอยู่ต่อหน้าบุริศร์เหมือนกับ กระต่ายตัวน้อยซึ่งไร้ที่พึ่ง เธอผลักบุริศร์ออกไปอย่าง กะทันหันและพูดว่า “ฉันหิวแล้ว ฉันต้องการทานอะไร สักหน่อย”

“ผมก็หิวแล้วเช่นกัน” %3D

บุริศร์จับมือเธอเอาไว้อย่างทันเวลา

นรมนกลับรู้สึกว่าอุณหภูมิที่ฝ่ามือของเขาร้อนระอุ ทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรงทำตา

“ขอร้อง รบกวนคุณจำไว้ด้วยว่าตัวเองเป็นผู้ป่วย จะได้มั้ยคะ? ”

นรมนไม่สามารถปฏิเสธจนเกินงาม แต่ว่าเธอเป็น ห่วงร่างกายของบุริศร์มากเลยจริงๆ

เห็นว่านรมนเอ็นดูจริงๆ บุริศร์ก็ไม่ล้อเล่นกับเธอแล้ว จับมือเธอไว้และเดินมาที่โต๊ะ ทั้งคู่ทานอาหารเช้า แบบเงียบสงบเรียบร้อยแล้ว

“ถ้าหากคุณไม่เหนื่อย เราคุยกันเรื่องภาพดีไซน์ กันซะหน่อยนะ?

หลายวันมานี้เรื่องหยุมหยิมเยอะมากเลยทีเดียว จึงทำให้นรมนเสียการเสียงานของตัวเองไปเลย ตอน นี้คิดถึงจุดประสงค์ที่ตัวเองมาที่เมืองชลธีในวันนี้ เธอ คิดอยู่ว่าจะฉวยโอกาสตอนที่ได้รับบาดเจ็บนี่แหละ รีบ ทำภาพดีไซน์ออกมาจะดีมากเลยทีเดียว

บุริศร์ถึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องนี้

“เวลาแบบนี้คุณยังนึกถึงงาน ดูท่าเป็นผมเองที่

ไม่มีความพยายามเอาซะเลย

บุริศร์พูดอย่างหดหูใจ เขารู้สึกว่าเสน่ห์ของเขาสู้ เมื่อก่อนไม่ได้เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นทำไมนรมนยังมีกระ จิตกระใจคิดเรื่องภาพดีไซน์อีกหล่ะ?

เมื่อก่อนนรมนเห็นเขาปุ๊บก็ไม่คิดอะไรทั้งนั้น

มองเห็นหน้าตาที่เอาแต่ใจของบุริศร์อย่างกับเด็ก นรมนพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ประธานบุริศร์ คุณคิดดีหรือ ยัง ฉันเป็นดีไซเนอร์รถยนต์ที่คุณเชิญให้มาร่วมงาน ด้วยกัน ตอนนี้เวลาที่เซ็นสัญญาการร่วมงานก็ใกล้เข้า มาทุกทีแล้ว ภาพกระดาษการดีไซน์ยังไม่มีวี่แววเลย แม้แต่นิดเดียว ถึงตอนนั้นรเมศทางนั้นฉันไม่รู้จะ อธิบายกับเขายังไง”
ได้ยินนรมนพูดถึงรเมศอีกครั้ง ครั้งนี้บุริศร์ทนไม่ ไหวอีกแล้ว

เขาเข้าใกล้นรมนอีกครั้ง พูดแบบชัดถ้อยชัดคำว่า “รเมศมีบุญคุณกับคุณและลูกก็จริง แต่ว่านรมน ผมก็ เป็นลูกผู้ชายคนนึงนะ ผมอิจฉาเป็น ผมซาบซึ้งใจที่ เขาทำเพื่อคุณกับลูก แต่ว่าก็แค่ซาบซึ้งใจเท่านั้น คุณมี ความรู้สึกกับเขายังไงผมไม่สน แต่ว่าผมจะไม่ปล่อย มือของคุณและลูกเด็ดขาด ไม่เด็ดขาด! ”

นรมนเห็นเขาจริงจังขนาดนี้ จู่ๆก็พูดอย่างยิ้มแย้ม ว่า “รเมศเป็นเพื่อนสนิทของฉัน หรือพูดว่าเป็นพี่ชาย จะแม่นยำกว่า ห้าปีที่ผ่านมานี้ เขาก็เหมือนกับญาติพี่ น้องคอยปกป้องฉันกับลูก สิ่งที่ฉันติดค้างเขาไว้ทั้ง ชีวิตก็ชดใช้ไม่หมด ถ้าหากคุณหวังดีกับฉันจริงๆ ก็ อย่าทำให้ฉันลำบากใจเลย ฉันเป็นดีไซเนอร์บริษัท H Jกรุ๊ปจำกัดเป็นคนที่ถูกสั่งมาให้ร่วมงานกับคุณ ใน เรื่องงานฉันยังหวังว่าเราจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ได้ มั้ยคะ? ”

บุริศร์ไม่เคยเห็นนรมนเป็นแบบนี้

ตอนที่เธอพูดถึงเรื่องงาน ใต้ตานั้นเหมือนเปล่ง ประกายแสง การชื่นชอบในอาชีพและการกระตือรือ ร้นต่องานแบบนั้นทำให้บุริศร์หลงใหลในทันทีทันใด TI

“คุณชอบดีไซน์รถยนต์มากเลยหรือ?

“ถือว่าใช่นะ ตอนที่เริ่มได้สัมผัสเป็นเพราะว่าคุณ

นั่นแหละ คุณชอบดีไซน์รถยนต์ กลับบ้านทุกครั้งก็ทำพวกภาพดีไซน์ ตอนนั้นถึงแม้ฉันดูไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม แต่ว่ายังคงรู้สึกว่าสิ่งที่คุณวาดออกมาสวยที่สุดแล้ว ต่อมาตอนที่อยู่ต่างประเทศ รเมศพูดว่าฉันต้องมีอาชีพ ติดตัว แบบนี้ถึงจะทำให้อนาคตของฉันกับลูกสามารถ ยืนอยู่ในสังคมได้ ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จู่ๆหัว สมองข้างในก็มีภาพกระดาษของคุณเหล่านั้นปรากฏ ออกมา ฉันพบว่าฉันถึงขั้นชอบลายเส้นเหล่านั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นฉันจึงไปสมัครสอบอาชีพดีไซน์รถยนต์ อาชีพนี้ พูดความจริงเลยนะ มีแต่เข้าไปสัมผัสจริงๆ ถึงได้รู้ว่าในอาชีพนี้ไม่ได้สวยเริ่ดเหมือนกับภายนอก” พูดถึงสิ่งเหล่านี้ นรมนพูดอย่างสง่าผ่าเผย

มองดูสีหน้าท่าทางที่มั่นใจและพูดอย่างมีความสุข ของนรมน บุริศร์ถึงจะพบว่าเธอเป็นหยกเจียระไนชิ้น นึ่ง ห้าปีก่อนเธอยังไม่ได้ถูกเจียระไน เพราะฉะนั้นจึง ยังไม่ค่อยสะดุดตาซะเท่าไหร่ หลังจากห้าปีหลังของ วันนี้ เธอก็เหมือนกับดาวรุ่นใหม่ที่ค่อยๆโลดแล่นออก มา มากพอที่จะดึงดูดสายตาของผู้ชายทั้งหมด

จู่ๆเขาก็มีความรู้สึกอันตรายอย่างนึงเกิดขึ้น

“นรมน รับปากผมนะ ไม่ว่าใครจะจีบคุณก็ตาม คุณก็ต้องปฏิเสธ คุณต้องจำไว้นะ กานต์มีแต่อยู่กับผม และคุณถึงจะมีความสุข”

บุริศร์เองก็ยังดูถูกดูแคลนตัวเองเลย ถึงขั้นเอา เด็กมาเป็นเกราะป้องกัน แต่ว่าแล้วไงหล่ะ?

ขอแค่สามารถรั้งนรมนเอาไว้ ต่อให้ตอนนี้เขาต้องแปลงร่างเป็นคนขี้โกงเขาก็ยอมทั้งนั้น

ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นแบบนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ดูถูกดูแคลนตัวเองเหลือเกิน แต่ว่า ความหวานชื่นในใจไม่สามารถมองข้ามไปเลยจริงๆ

นรมนมองดูเขาและพูดอย่างหมดหนทาง “คุณคิด ว่าทุกคนเป็นเหมือนคุณเหรอ ชอบผู้หญิงที่มีลูกติด? ” %3D

“ผู้หญิงมีลูกติดย่อมมีข้อดีและเสน่ห์ในตัว ยิ่งไป กว่านั้นคุณกลับมาปุบผมก็รู้เลยว่าเป็นคุณ ไม่อย่างนั้น คุณคิดว่าผู้หญิงที่สุ่มสี่สุ่มห้าก็สามารถทำให้ผมหวั่น ไหวงั้นเรอะ?”

บุริศร์เอามือของนรมนวางไว้ตรงหน้าอกของตัว

เอง

ที่นั่นอุ่นๆ และมีความชื้นอยู่ด้วย

นรมนอยากดึงมือกลับมา กลับได้ยินบุริศร์พูดว่า ” หัวชั่วชีวิตนี้หัวใจของผมเต้นเพราะผู้หญิงแบบคุณคน เดียวเท่านั้น หากว่าคุณไม่เอาผมแล้ว ผมก็คือซอมบี้ที่ ไร้วิญญาณ”

เขาพูดอย่างจริงจังมาก ตาทั้งคู่ที่เฉี่ยวมีเวทมนตร์ ถึงขั้นทำให้นรมนเอ็นดูอย่างกะทันหัน เธอคิดถึงตอนที่รเมศพูดเรื่องห้าปีที่ผ่านมานี้บุริศร์

เองนั้นใช้ชีวิตเหมือนกับหุ่นยนต์ เธอยิ่งใจอ่อนและ

เอ็นดูมากขึ้น

“ขอแค่คุณไม่ทิ้งผม ผมก็จะไม่ทิ้งคุณ ทั้งชีวิตที่เหลือไม่นานนัก ผมหวังว่าจะเดินต่อไปพร้อมกับคุณ”

“นรมน! ”

บุริศร์กอดเธอเอาไว้แน่นๆ

ครั้งนี้นรมนไม่ได้ผลักเขาออกไป ฟังเสียงเต้น หัวใจของเขา จู่ๆหัวสมองข้างในก็มีความคิดออกมา

“บุริศร์ ฉันมีความคิดแล้ว”

เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ ความดีใจที่ใต้ตา ซ่อนเอาไว้ไม่ได้

“มีความคิดอะไร? อยากนอนใต้ผ้าห่มสองต่อสอง

กับผมหรอ?”

บุริศร์พูดแบบคนขี้โกง กลับยั่วโมโหให้นรมนต้อง

จ้องหน้า

“จริงจังหน่อยสิ ฉันหมายถึงภาพดีไซน์ ฉันมีความ คิดใหม่กับรถยนต์ใหม่ คุณรอฉันแป๊บนึงนะ!

เธอเหมือนกับเด็กๆที่ตื่นเต้น จู่ๆก็ผลักบุริศร์ออก ไป และเอากระดาษกับปากกาออกมาอย่างเร่งรีบ ก้ม ลงบนโต๊ะและวาดออกมา

ที่อ้อมกอดเสียอุณหภูมิไปแล้ว ในชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าท่าทางของบุริศร์ก็เสียอกเสียใจ

จู่ๆเขารู้สึกว่ามีภรรยาที่มากความสามารถแบบนี้ อาจไม่ใช่เรื่องดีก็ได้

เธอถึงขั้นมีความคิดอย่างหนึ่งก็ผลักเขาออกไปเลย?

แต่ว่าบุริศร์ก็ไม่ได้รบกวนนรมน

เขาพิงอยู่ที่หัวเตียงแบบสบายๆ มองดูท่าทางที่ จริงจังของนรมนอย่างไม่ให้คลาดสายตา จู่ๆเกิดรู้สึก ว่าอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กันอย่างเงียบๆและมีความ

สุข

ขณะที่พฤกษ์เข้ามาอีกครั้ง สิ่งที่เห็นก็คือภาพ แบบนี้ เขาไม่อยากขัดจังหวะที่กะหนุงกะหนิงของบุริ ศร์ แต่ว่ามีเรื่องบางอย่างไม่แจ้งให้ทราบไม่ได้

ขณะที่พฤกษ์กำลังลังเลอยู่ว่าจะเรียกบุริศร์ดีมั้ย บุริศร์ก็หันมามองเขานึงครั้ง และไม่พอใจอย่างชัดเจน

พฤกษ์จับจมูกแบบเขินๆ รู้สึกว่างานของตัวเองยิ่ง อยู่ยิ่งยากขึ้นทุกวัน

ในที่สุดบุริศร์ก็ลงจากเตียงอย่างเบาเสียง ส่ง สัญญาณให้พฤกษ์ออกไปคุยกันข้างนอก

ประตูห้องค่อยๆปิดลงไป นรมนกลับไม่พบอะไร เลย เธอจมอยู่กับความคิดของตัวเอง อยู่ในอาการที่ ลืมตัวโดยสิ้นเชิง

บุริศร์เห็นว่านรมนไม่เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด จึง เกิดความเสียใจและรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายเป็น ธรรมดา แม้แต่สายตาที่ใช้มองพฤกษ์ก็ไม่ค่อยเป็นมิตร ซะเท่าไร

“ธุระอะไรต้องให้นายวิ่งมาด้วยตัวเอง?
พฤกษ์ก็รู้ดีมารบกวนบุริศร์ในเวลาแบบนี้เท่ากับ หาที่ตายชัดๆ เพียงแต่ว่าเขาก็น่าเห็นใจ

“ประธานบุริศร์ครับ ป้าโอป่วยครับ” บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ป่วยยังไง? ไม่ไหวก็ส่งโรงบาลซะ”

กับป้าโอ บุริศร์ยังโกรธเคืองอยู่ แต่ว่าเธออยู่กับ ตัวเองมาตั้งหลายปีแล้ว ความผูกพันที่บุริศร์มีต่อเธอ ค่อนข้างพิเศษ เพียงแต่ว่าเรื่องที่เธอทำกับนรมน บุริศร์ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

พฤกษ์กลับพูดเสียงทุ้มต่ำ “เป็นตายร้ายดีป้าโอก็ ไม่ยอมไปโรงบาลครับ ตัวร้อนจนน่าตกใจ ที่สำคัญไม่ ให้คนข้างๆเข้าใกล้อีกด้วย แล้วก็ไม่ทานยา พูดแต่ว่า ต้องการพบคุณ”

บุริศร์ขมวดคิ้วแน่นขึ้น

เขารู้ดีนี่เป็นหมากที่ป้าโอบีบบังคับให้เขาปรากฏ

ตัว

แต่ว่ารู้ก็ส่วนรู้ บุริศร์ก็ยังเข้าใจดี ตัวเองต้องเผชิญ หน้ากับป้าโอสักวัน หลบหน้าแบบนี้ตลอดไปก็ไม่ใช่ ทางออก

มองดูนรมนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างจริงจัง บุริ ศร์พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “นายอยู่ปกป้องคุณนายที่นี่ ฉันไป พบป้าโอ”
%3D “ประธานบุริศร์ครับ คุณคนเดียวหรือครับ? ”

พฤกษ์กังวล

บุริศร์กลับพูดแบบไม่มีอะไร “นายรู้สึกว่าป้าโอจะ ทำร้ายฉันหรือ?

เธออาจ จะไม่ชอบคุณนาย แต่ว่ากับฉันเธอจริงใจ และซื่อสัตย์ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร อีกอย่าง ต่อให้ เธอต้องการทำอะไรฉัน นายรู้สึกว่าลูกผู้ชายทั้งแท่ง อย่างฉันจะเสียเปรียบหรือ?”

คำพูดนี้ทำให้พฤกษ์ไม่สามารถโต้กลับ

“แต่ว่าที่ตัวคุณมีบาดแผลอยู่ คุณหมอพูดว่าต้อง พักฟื้นเงียบๆ”

“ตอนนี้ข้างนอกมีเรื่องตั้งมากมายก่ายกอง

สามารถพักฟื้นเงียบๆก็แปลกแล้ว ที่สำคัญฉันต้อง กำจัดความอันตรายที่อยู่ข้างกายนรมนและกานต์ออก ไปโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่สบายใจ”

บุริศร์พูดคำนี้จบ มองดูนรมนอีกครั้ง

พฤกษ์ยังอยากพูดอะไรอีก กลับถูกบุริศร์ห้าม ปรามไว้

“หากว่านายหวังดีกับฉันจริง ก็ปกป้องคุณนายดีๆ ตอนนี้เธอไม่สามารถเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้นมา”

ครับผม!

พฤกษ์ ไม่พูดอีกแล้ว บุริศร์เปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งชุด ทีแรกกะจะพูดกับนรมนสักคำ แต่ว่าเห็นว่าเธอกำลังวาด ภาพอย่างจริงจัง เขาก็เลยไม่อยากรบกวนเธอ จึงเดิน ออกไปแบบเบาๆ

หลังจากบุริศร์ออกไปได้ไม่นาน ธรณีก็มาแล้ว พฤกษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ขวางเขาเอาไว้ข้างนอก

“คุณชายธรณีครับ คุณนรมนกำลังยุ่งๆอยู่ครับ ไม่ พบแขก ประธานบุริศร์มีธุระออกไปแล้ว ถ้าหากคุณมา หาประธานบุริศร์ รบกวนมาวันหลังก็แล้วกันนะครับ”

การขัดขวางของพฤกษ์ทำให้ธรณีไม่ค่อยพอใจ

มากนัก

“ฉันมีธุระหาคุณนรมน”

“ผมพูดแล้ว คุณนรมนกำลังยุ่งๆอยู่ ไม่พบแขกใน

ตอนนี้”

พฤกษ์ตอบกลับอย่างเป็นทางการในที่สุดก็ยั่วให้ ธรณีโมโหจนได้

“พฤกษ์ นายคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรนายใช่มั้ย? ”

“ไม่บังอาจครับ คุณชายธรณีอยู่ที่เมืองชลธีใคร จะกล้ามีเรื่องด้วยหรือครับ? ผมก็แค่ทำตามหน้าที่ของ ผมเท่านั้น รบกวนคุณชายชลธีเข้าใจด้วยครับ”

หลายปีมานพฤกษ์อยู่กับบุริศร์ก็เคยเจอกับมรสุม ต่างๆนาๆ ไล่คนเจ้าเล่ห์ออกไปยังไง เขาทำได้อยู่แล้ว

ขณะที่ธรณียังอยากพูดอะไรอีก ซึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางนี้

“คือโรงบาลนี้ใช่รึเปล่า? ”

“น่าจะใช่ ลองหาใครสักคนถามดูสิ” คนที่มาพูดไปด้วยและเดินไปด้วย ธรณีขมวดคิ้วอย่างเข้มขรึม

“ที่นี่คือที่ไหน? ทำไมปล่อยให้ใครต่อใครก็มาที่ ชั้นนี้? พยาบาลหละ?”

ธรณีอยากให้พยาบาลขับไล่คนออกไป พฤกษ์ กลับเข้าไปต้อนรับอย่างผิดปกติ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ