แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 131 เธอได้รับข่าวเร็วมาก



บทที่ 131 เธอได้รับข่าวเร็วมาก

“เกิดอะไรขึ้น?”

พฤกษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามบอดี้การ์ดที่ติดตาม ข้างกายด้วยจิตใต้สำนึก

บอดี้การ์ดรีบออกไปตรวจอย่างรวดเร็ว ตอนกลับ มาก็มีสีหน้าค่อนข้างลังเล

“มีอะไร?”

พฤกษ์รู้ว่าคนที่ตัวเองพาออกมามีนิสัยอย่างไร ท่าทางแบบนี้ ท่าทางลังเลไม่แน่ใจมันทำให้เขาค่อน ข้างแปลกใจและไม่สบายใจ

บอดี้การ์ดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดขึ้น “คนข้าง นอกคือป้าโอ ได้ข่าวว่าประธานบุริศร์เข้ามาในห้อง ผ่าตัด โวยวายอยากเข้ามา”

พฤกษ์พอได้ยินก็หงุดหงิดมาก

ป้าโอเป็นแม่นมของบุริศร์ ถึงแม้จะบอกว่าคราวที่ แล้วทำได้ไม่ดี ถูกนรมนไล่ออกไปแล้ว แต่สุดท้าย พฤกษ์ก็ไม่ได้พาป้าโอออกไปจากเมืองชลธี แต่หาบ้าน ว่างของตระกูลโตเล็กเตรียมให้ป้าโออยู่

ความรักที่บุริศร์มีต่อป้าโอพฤกษ์ก็รู้ถึงป้าโอจะ เป็นคนรับใช้ แต่พฤกษ์ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ป้า โอมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่คิดว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับ

นรมน
พฤกษ์มองนรมนด้วยความลำบากใจนิดหน่อย

“คุณนาย ขอโทษนะ ฉัน ….”

“บุริศร์เพิ่งประสบอุบัติเหตุ ข่าวของป้าโอได้รับเร็ว มาก ไม่นึกเลยว่าคุณรู้บริศร์อยู่ที่นี่แล้วมาตามหาเขา ทันที เป็นห่วงบุริศร์มากจริงๆ”

คำพูดนรมนทำให้พฤกษ์อึ้งไปเล็กน้อย ถึงได้รู้สึก ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อบุริศร์และนรมน พฤกษ์ จึงเตรียมที่อยู่ย่านชานเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลให้กับ ป้าโอโดยเฉพาะ คนที่นั่นไม่มากนัก แต่อากาศดีมาก เขาถึงขั้นหาคนรับใช้สองคนไปรับใช้ป้าโอ ตามหลัก การแล้วถึงป้าโอจะได้รับข่าว ก็ไม่สามารถมาได้เร็ว ขนาดนั้น นับประสาอะไรกับรู้ข่าวเร็วมากขนาดนั้น

ดวงตาของพฤกษ์เปลี่ยนไปนิดหน่อย

“คุณนาย คุณหมายความว่า…”

“ที่นี่คือโรงพยาบาล บุริศร์อยู่ในความช่วยเหลือ อยู่ ฉันไม่มีอารมณ์จัดการเรื่องพวกนี้ และไม่อยากให้ เขาได้รับการรบกวน คุณทำตามที่เห็นสมควรเถอะ”

นรมนค่อนข้างเหนื่อยนิดหน่อย

เธอรู้ว่าป้าโอมีพิรุธ แต่พฤกษ์เป็นคนคิดรอบคอบ เช่นกัน

ป้าโอดูแลบุริศร์ตั้งแต่ตอนที่บุริศร์ยังเดินไม่เป็นหลายปีมานี้ก็เป็นเหมือนแม่คนที่สองของบุริศร์ ถึง ก่อนหน้านี้ป้าโอจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอนัก แต่จุด ประสงค์ก็คือหวังดีกับบุริศร์ และป่าโอก็ไม่รู้จักตัวตน ที่แท้จริงของเธอด้วย

ตอนนี้บุริศร์นอนอยู่ด้านในเพื่อรักษาฉุกเฉิน นร มนไม่อยากมีความขัดแย้งใดๆ กับป้าโออีก มันจะทำให้ บุริศร์ลำบากใจ

ห้าปีที่ผ่านมานี้ เรื่องที่เธอทำให้บุริศร์ลำบากใจดู เหมือนจะมีไม่น้อย บุริศร์เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเธอ

สำหรับนรมนนี่มันมากพอแล้ว

ส่วนป้าโอ ค่อยว่ากันก็แล้วกัน ตอนนี้เธอไม่มีแรง จะทะเลาะอะไรกับป้าโอจริงๆ อีกอย่างกานต์ก็เพิ่ง กลับมา ต่อหน้าเด็ก เธอไม่อยากทำอะไรที่ไม่น่าดู

พฤกษ์เข้าใจความหมายนรมนทันที รีบหันตัวเดิน ออกไป ใช้เวลาไม่นานนัก ด้านนอกก็สงบลงอีกครั้ง กานต์ถามขึ้นอย่างค่อนข้างสงสัย “หม่าม คนข้าง

นอกคือใครอ่า?”

“ไม่ใช่เรื่องของลูก เหนื่อยไหม? เหนื่อยก็นอนนะ หม่ามื้อยู่นี้

เห็นกานต์มีท่าทางหาว นรมนก็สงสารมาก

“ไม่เหนื่อย ผมจะรอคุณบุริศร์ออกมาฮะ” ถึงกานต์จะพูดแบบนี้ แต่เปลือกตาลืมไม่ขึ้นแล้ว หลังจากเจอเรื่องราวมาทั้งวันแล้ว ตอนนี้ศีรษะกานต์ก็อยู่ในอ้อมแขนนรมนทีละนิด

เห็นลูกชายเป็นแบบนี้ นรมนก็ยิ้มเล็กน้อย และไม่ ได้พูดอะไร แต่กอดกานต์ไว้ในอ้อมแขน ให้เขานอน ด้วยท่าทางที่สบาย

จะให้ลูกเปลี่ยนคำไปเรียกบุริศร์ว่าพ่อน่าจะต้อง ใช้สักระยะเวลา นรมนไม่รีบ กลัวบุริศร์โกรธ แต่นี่คือ ทางที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ?

ในที่สุดกานต์ก็หลับไป ไม่มีความกังวลและหวาด

กลัว เขานอนหลับอย่างสงบ แต่มือเล็กคู่หนึ่งจับที่คอ

เสื้อนรมนไว้แน่น ดูออกว่าเขายังคงหวาดกลัวอยู่ นรมนลูบหลังเขาเบาๆ ให้การปลอบโยนเขานิด หน่อย ไม่นานนัก กานต์ก็หลับสนิท

พฤกษ์เห็นเธอเหน็ดเหนื่อย ก็พูดเสียงทุ้ม “เอา คุณชายกานต์ให้ผมอุ้มดีกว่า คุณเหนื่อยมากแล้ว”

“ไม่ต้องค่ะ”

หลังจากกานต์หายตัวไป ไม่มีใครสัมผัสความ เศร้าทางจิตใจได้ดีไปกว่านรมนแล้ว ตอนนี้ได้กอดร่าง เล็กของลูกชาย เธอไม่อยากปล่อยมือไปตลอดชีวิต จริงๆ

นรกมันว่างเปล่า เพราะปีศาจอยู่บนโลกมนุษย์

เธอไม่เคยคิดจะทำร้ายหรือวางแผนกับใคร แต่ เพราะกลายเป็นภรรยาของบุริศร์จึงถูกมองว่าเป็น หนาม เมื่อก่อนตัวเองอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นอะไร ตอนนี้มีลูก ไม่คิดว่าจะทำให้ลูกของตัวเองตกอยู่ในอันตราย จริงๆ นรมนรู้สึกว่าตัวเองอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว

เธอมีคนที่เธอต้องการปกป้อง ปล่อยให้ตัวเองถูก รังแกเหมือนแต่ก่อนได้อีกไม่ได้อีกแล้ว เธอรู้ความจริง ในการเป็นแม่ต้องแข็งแรง

กานต์หลับไปสักพักหนึ่ง แต่บุริศร์ก็ยังไม่ออกมา โทรศัพท์นรมนก็ดังขึ้น

กลัวว่าจะมีผลกระทบต่อการพักผ่อนของลูกชาย

เธอจึงต้องส่งกานต์ให้กับพฤกษ์

พฤกษ์ดูแลกานต์อย่างระมัดระวัง และนรมนเห็น หมายเลขโทรเข้าบนโทรศัพท์ ก็รีบรับสายแล้วเดินไป ที่มุมบันได

“รเมศเหรอ?”

“เจอกานต์หรือยัง?”

รเมศเป็นห่วงมาก เสียงก็แหบเล็กน้อย ฟังออกว่า เขาอาจจะไม่ได้นอนทั้งคืนเช่นกัน

นึกถึงตั้งแต่กานต์เกิดจนถึงตอนนี้ สิ่งที่รเมศทำ เพื่อลูกและเธอสามคน นรมนก็รู้สึกผิดในใจอยู่บ้าง

“เจอแล้ว หลับไปแล้ว โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่ ตกใจนิดหน่อย”

นรมนพูดเสียงทุ่ม ครุ่นคิดว่าควรเอ่ยปากอย่างไร กับรเมศดี
เธอรู้ว่ารเมศรู้สึกกับเธอ ห้าปีที่ผ่านมาเธอ พยายามให้รเมศไปรักผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถึง ขั้นแนะนำเพื่อนสาวให้กับรเมศ แต่หัวใจของรเมศก็อยู่ ที่พวกเธอสามคนเสมอ

ถ้าไม่มีบุริศร์ ผู้ชายอย่างรเมศ ไม่แน่เธออาจจะ

ตกหลุมรักก็เป็นได้ แต่น่าเสียดายที่ความรักมักมีความ

เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเสมอ รเมศได้ยินว่ากานต์ไม่เป็นอะไร ก็ถอนหายใจ

อย่างหนักหน่วง

“เมื่อวานกมลอารมณ์ไม่ดีมากๆ เธอบอกว่ารู้สึกมี เรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ฉันก็ทำได้แค่ปลอบเธอ เราห้ามความ รู้สึกถึงกันของแฝดไม่ได้ โชคดีที่กานต์ไม่เป็นอะไร ฉันก็วางใจ”

ได้ยินรเมศพูดถึงกมล นรมนก็พูดเสียงทุ้ม “ช่วงปี ที่ผ่านมานี้ขอบคุณที่คุณดูแลพวกเราสามคนด้วย โดย เฉพาะกมล ถ้าไม่มีคุณ ฉันก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี รเมศ ฉันอยาก…”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางก่อนนะ ทางนี้ยุ่งนิด หน่อย”

รเมศไม่รอให้นรมนพูดจบก็ขัดคำพูดของเธอ เขา รู้ว่าเธอจะพูดอะไร ในห้าปีที่ผ่านมาบทสนทนาแบบนี้มี ไม่น้อยกว่าร้อยครั้ง ทุกครั้งเขาต้องแสดงความกล้า อย่างมากในการทำให้ตัวเองยืนหยัดต่อไป
สุดท้ายแล้วผู้ชายที่ประสบความสำเร็จหลังจาก ถูกผู้หญิงคนหนึ่งปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า หัวใจเขาก็ เปราะบางมากเช่นกันนะโอเคไหม

นรมนรู้ว่าตัวเองทำร้ายรเมศอีกแล้ว เธอก็พูดขึ้น อย่างรู้สึกผิดนิดหน่อย “ขอโทษนะ รเมศ”

“อย่าพูดขอโทษฉัน คุณก็รู้ว่าฉันยินดีทำทุกอย่าง เพื่อคุณ”

“แต่ฉันปล่อยให้คุณเสียเวลาแบบนี้ต่อไปไม่ได้

คุณแม่คุณมาหาฉันหลายครั้ง รเมศ คุณก็อายุไม่น้อย

แล้ว ควรสร้างครอบครัวได้แล้ว”

นรมนรู้ว่ารเมศไม่อยากฟัง แต่เธอก็ต้องพูด

ก่อนหน้านี้ที่ไม่วางลงความรู้สึกมีต่อบุริศร์ เธอก็ ไม่อาจยอมรับรเมศ ไม่ใช่ว่ารเมศไม่ดี เขาดีเกินไป ทำให้เธอรู้สึกละอายใจ ผู้ชายแบบนี้ได้รับการปฏิบัติ จากผู้หญิงรักเดียวใจเดียว ไม่ใช่คนแบบเธอ ที่ในใจมี คนอื่น แถมยังพาลูกของคนอื่นมาฉุดรั้งเขาอีก

ตอนนี้รู้แล้วว่าความคิดของตัวเองไม่ได้เปลี่ยน เลยในห้าปีที่ผ่านมา มีแค่บุริศร์ที่เติมเต็มตำแหน่งใน หัวใจได้ เธอยิ่งไม่สามารถยืดเยื้อรเมศได้แล้ว

สุดท้ายรเมศก็ไม่สามารถหยุดนรมนพูดประโยคนี้ ออกมาได้ เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “คุณยกโทษให้ เขาแล้วใช่ไหม?”

นรมนเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น “เรื่องเมื่อห้าปีก่อนเป็นการเข้าใจผิด เขาไม่รู้อะไรเลย เขาไม่ได้มี ช่วงเวลาที่ดีในห้าปีที่ผ่านมา และเด็กๆ ก็ต้องการพ่อ”

“คุณก็รู้ว่าฉันเป็นพ่อพวกเขาได้ ถ้าคุณยินยอม” คำพูดของรเมศมีความเศร้านิดหน่อย

นรมนปวดใจแล้ว

ความรู้สึกที่มีต่อรเมศ เป็นความรักแบบครอบครัว เขาเหมือนพี่ชายที่ดีที่สุดของตน มักให้ความรู้สึก อบอุ่นและห่วงใยกับเธอเสมอ แต่อยู่กับรเมศ เธอไม่ได้ รู้สึกใจเต้น

บางทีครั้งแรกที่ได้เจอบุริศร์ เธอก็ให้หัวใจเธอกับ บุริศร์ไปแล้ว ไม่สามารถเสแสร้งกับผู้ชายคนอื่นบน โลกได้อีก

ไม่ว่าบุริศร์จะดีหรือร้าย จะรักเธอหรือใจร้าย หัวใจเธอก็เอากลับคืนมาไม่ได้แล้ว

“ขอโทษนะ รเมศ ขอโทษจริงๆ”

นรมนไม่รู้ว่านอกจากพูดขอโทษแล้วตัวเองจะ สามารถพูดอะไรได้อีก

รู้สึกติดหนี้รเมศมากเกินไป เรื่องนี้นรมนก็รู้ว่าชาติ นี้ตัวเองก็คืนไม่หมด บางครั้งเธอรู้สึกว่าพระเจ้าเล่น ตลกกับเธอ ในเมื่อให้เธอตกหลุมรักบุริศร์ ทำไมต้อง พาผู้ชายที่ดีและสมบูรณ์แบบอย่างรเมศมาเจอเธอ ด้วย?
รเมศเงียบไปสักพักหนึ่ง แล้วพูดเสียงทุ้ม “อย่าพูด ขอโทษแล้ว ในเมื่อคุณยอมรับเขา อีกไม่นานก็จะมาร รับกมลไปใช่ไหม?”

บุริศร์เป็นคนอย่างไรรเมศรู้อยู่แล้ว

เขา บุริศร์และนรมนล้วนเป็นเพื่อนนักเรียนตอน มหาวิทยาลัย ตกหลุมรักนรมนตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่นรมนตกหลุมรักบุริศร์ เขาก็ทำได้แค่อวยพรให้เธอ

คิดว่าห้าปีก่อนมันคือโอกาส สุดท้ายพระเจ้าก็

สงสารตัวเองแล้ว ไม่คิดเลยว่าเมื่อห้าปีก่อนมันคือไร้

ผลทั้งนั้น

บอกว่าไม่ผิดหวังก็โกหก แต่จะรับความเชื่อมั่น กลับมาได้อย่างไร?

รเมศถอนหายใจ แต่ก็สงสารนรมนเช่นกัน

“ถ้าต่อไปนี้เจ้านั่นมันรังแกคุณ ต้องบอกฉันนะ ฉัน จะไม่ให้อภัยมันเด็ดขาด”

“รเมศ ขอบคุณนะ”

ทันใดนั้นนรมนก็รู้สึกอยากร้องไห้

คิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่น่าสังเวชและ เจ็บปวดมากที่สุดในโลก แต่ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่า จริงๆ แล้วเธอเป็นคนที่โชคดีที่สุดคนหนึ่ง

“ไม่ต้องร้อง ห้าปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรฉัน ก็ไม่เคยเห็นคุณร้องไห้มาก่อน บางครั้งฉันก็หวังว่าคุณจะร้องไห้ในอ้อมแขนฉันได้บ้างจริงๆ แต่น่าเสียดายที่ คุณเข้มแข็งขนาดนั้น ไม่ให้โอกาสฉันสักนิดเลย บางที คุณอาจจะมอบความอ่อนแอให้แค่บุริศร์คนเดียว จังไร นรมน ไม่ว่าคุณจะเลือกยังไง แค่คุณมีความสุขฉันก็มี ความสุขแล้ว”

รเมศพูดจบก็วางสายไป แต่หางตาเปียกชื้นแล้ว สุดท้ายก็ไม่สามารถเก็บเธอไว้ได้เหรอ? แม้แต่ลูก บุญธรรมที่อยู่ด้วยกันมาห้าปีก็ต้องจากตนไปใช่ไหม?

จู่ๆ ในใจเขาก็เกิดความขุ่นเคือง ความขุ่นเคืองต่อ

บุริศร์!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ