แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 962 อย่างนั้นก็ทำให้ฉันสมหวังเถอะ



บทที่ 962 อย่างนั้นก็ทำให้ฉันสมหวังเถอะ

ชัยยศไปสืบข่าวแล้ว บุริศรเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดไม่ให้คลาด สายตา รู้สึกเป็นห่วงจนแทบหายใจไม่ได้

รมิดาทุ่มเทยื้อชีวิตนรมนเต็มที่ แต่มือที่กุมท้องไว้ทำอย่างไรก็ แกะไม่ออก

นี่คือความเป็นห่วงของคนเป็นแม่

บางทีตอนที่ถูกชนกระเด็น นรมนรู้แล้วว่าไม่มีวาสนาได้เจอ หน้ากับลูกแล้ว แต่เธอยังพยายามปกป้องลูกน้อยสุดแรงเกิด ตอนนี้เอง ดวงตาของรมดาก็มีน้ำตารื้นออกมา

“นรมน ปล่อยมือเถอะ ฉันถึงจะช่วยเธอได้ และให้เด็กได้ไป

อย่างสงบ”

เสียงของรมดาไม่ดังมากนัก เธอกระซิบข้างหูของนรมน เธอรู้ ว่านรมนได้ยินที่เธอพูด

เหมือนอย่างที่คิดไว้ ขอบตาของนรมนน้ำตาไหลเป็นสาย แรง ที่มือคลายลงมาก

รมิดาก็ทุกข์ใจมาก

เธอเคยผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วน แต่เหมือนการผ่าตัดเช่นนี้ พูด ตามจริงเธอไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ใช่ นรมน เธอ คงจะไม่รับเคสผ่าตัดเช่นนี้
ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน

นรมนยังคงสลบ การผ่าตัดของรมดาเริ่มขึ้นแล้ว การผ่าตัด ใช้เวลาชั่วโมงกว่าถึงจะเรียบร้อย ตอนที่นรมนถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด บุริศร์แทบจะยืนไม่ติด แล้ว

“เธอเป็นยังไงบ้าง”

“เธอปลอดภัยดี ส่วนเด็กไม่รอดค่ะ”

รมิดาเสียงไม่ดังนัก แต่หยุดที่ข้างหูของบุริศร์เหมือนฟ้าผ่า ตอนกลางวัน แม้เขาจะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังคงรับไม่ได้ เปิดเธอไว้ก่อนเถอะ ผมกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้

ตอนที่บุริศร์พูดเช่นนี้ เสียงแหบพร่า

รมิดามองเขา กระซิบถาม “พวกคุณเข้าใจผิดเรื่องอะไรกันแน่ คะ ถึงให้นรมนรู้ไม่ได้”

“ไม่ได้!”

“ทําไมคะ”

“มันเป็นเรื่องที่เธอรู้ไม่ได้

ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ รมิดาอยากจะซกคนเสียจริงๆ

“งั้นคุณจะปล่อยให้เธอเข้าใจผิดอย่างนี้ตลอดไปหรือคะ บุริ ศร์ คุณรู้มั้ย หลังจากผู้หญิงเสียลูกไป ความเข้าใจผิดระหว่างพวกคุณจะยิ่งมากขึ้นทุกที ไม่มีทางชดเชยได้ ถึงขั้นชาตินี้ไม่ได้ อยู่ด้วยกัน ในเมื่ออย่างนี้แล้ว คุณจะไม่พูดกับเธอให้รู้เรื่องหรือ คะ

บริศร์ มือแน่น

เขามองนรมนที่ยังสลบไสล กัดริมฝีปากจนขาด เลือดไหลซึม

ที่มุมปาก ดูออกว่าบริศ ทุกข์ทรมานแค่ไหน แต่ยังคงพูดหนักแน่น

“ร่างกายเธอบาดเจ็บหนักแค่ไหนครับ

“อายุครรภ์ยังน้อย อันตรายไม่มากค่ะ ฟื้นตัวได้เร็ว อีกอย่าง ฉันผ่าตัดแบบที่ไม่เจ็บ เลือดออกน้อย แต่บาดแผลทางใจและ อารมณ์ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเยียวยาเท่าไหร่

รมิดาเห็นบริศร์ไม่อยากพูด ก็ได้แต่ถอนหายใจ “อย่าทำร้าย เธออีกเลย ตอนนี้เธออ่อนแอมาก ก่อนผ่าตัด เธอยังปกป้องท้อง ไม่ยอมปล่อยมือ ผู้ชายอย่างพวกคุณไม่มีวันเข้าใจจิตใจของผู้ หญิงที่เป็นแม่ สร้างเด็กคนหนึ่ง ผู้ชายอาจใช้เวลาแค่สิบกว่า นาที แต่ผู้หญิงตั้งท้องเก้าเดือน ทะนุถนอมตลอดชีวิต ตอนนี้เธอ เป็นอย่างนี้ คุณอย่าทำให้เธอสะเทือนใจอีกเลย

พูดจบ รมิดาก็ให้คนพานรมนส่งไปห้องพักฟื้น

ดวงตาของบุริศร์เคร่งขรึม เขาเดินตามเข้าไป คอยเฝ้าดูแลนรมนไม่ห่าง นรมนรู้สึกตัวอีกครั้ง ไม่รู้ตัวเองอยู่ที่ไหน กระทั่งเห็นสายน้ำเกลือและฝ้าเพดานสีขาว ภาพเหตุการณ์ก็แล่นเข้ามาในสมอง

เธอแตะท้องตัวเองโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกแสนเศร้าเมื่อพบ ว่าไม่มีสัญญาณชีวิตของเด็กแล้ว

ในที่สุดเธอปกป้องลูกของตัวเองไม่ได้

บางทีอาจจะเป็นสวรรค์ลิขิต

หลังจากที่เธอรู้ว่าบริศ นอกใจ ตอนที่เธอไม่รู้จะจัดการกับ เด็กคนนี้อย่างไร เธอก็เจอกับอุบัติเหตุ พรากลูกที่ยังไม่ได้พบ หน้าไป

แม้ว่าในใจจะคิดเช่นนี้ ใจของนรมนยังคงเจ็บปวดรวดร้าวจน ยากที่จะทนรับไหว

เธออยากจะร้องไห้ แต่น้ำตากลับแห้งเหือด น้ำตาไม่ไหลสัก

หยด

เธอทำได้แค่นอนนิ่งๆ มองเพดาน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร ไม่ สนใจบุริศร์ที่อยู่ข้างๆ

บุริศร์เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ยิ่งรู้สึกเป็นทุกข์

“ถ้าคุณมีอะไรไม่สบายใจ คุณตีผมด่าผมก็ได้ แต่อย่าทรมาน ตัวเอง”

นรมนูทําเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด ยังคงเหม่อมองเพดาน

สีขาวราวหิมะ หมายถึงความบริสุทธิ์ ลูกของเธอจะไปสวรรค์มย
เธอไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่าแม่

ห้าปีก่อนเธอปกป้องลูกได้ แต่ห้าปีต่อมาเธอกลับไม่ได้เรื่อง

นรมนนอนนิ่งไม่พูดไม่จา

พยาบาลเข้ามา เปลี่ยนน้ำเกลือ ให้เธอ

รมิตาก็เข้ามา ตรวจอาการให้เธอ และพูดด้วย เธอก็เพียง พยักหน้านิดๆ ท่าทางเหมือนอ่อนล้ามาก

รอกระทั่งทุกคนออกไปแล้ว เหลือแต่บุริศร์คนเดียว นรมน หลับตาลงพักผ่อน เข้าสู่สภาพหลับสนิท

เธอไม่ร้องไห้ไม่ยิ้ม ไม่เอะอะโวยวาย กระทั่งไม่ปริปากสักคำ เดียว เธอเป็นอย่างนี้ทำให้บริศร์ทุกข์ใจ เป็นห่วง แต่ก็ไม่รู้จะทำ อย่างไร

ไม่มีหนทางอื่น เขาได้แต่ให้ชัยยศไปรับกมลมา ตอนที่นรมนเห็นกมล ดวงตาขยับนิดหนึ่ง สีหน้าก็ดีขึ้น แต่ยัง คงไม่มีแรง

“หม่ามี้ ไม่สบายหรือคะ”

“มาเร็วให้หม่ามี้กอด!!

นรมนยื่นแขนไปหาลูกสาว

กมลปีนขึ้นไปบนเตียงอย่างว่าง่าย ยื่นแขนไปกอดนรมนแน่น ตบหลังเธอเบาๆ กระซิบ “ หม่ามี้ไม่ต้องกลัว กมลจะอยู่เป็น เพื่อนค่ะ หนูรู้ฉีดยากินยาไม่สนุก แต่หม่ามแข็งแกร่งที่สุดใช่มั้ยคะ หม่ามีต้องผ่านไปได้แน่ กมลเป่าให้เพียงๆ ไม่เจ็บๆ

พูดแล้ว กมลก็ยื่นปากไปเป่าตรงแขนนรมนที่มีเข็มฉีดยา ท่าทางอย่างนั้นทำให้นรมนขอบตาแดง

“หม่ามีไม่เจ็บแล้ว ไม่เจ็บสักนิดเดียว”

เธอกอดกมลแน่น ในที่สุดก็ร้องไห้ออกมา

บริศ เห็นเธอร้องไห้ ค่อยโล่งใจ รีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้ แต่นร มนทำเหมือนไม่เห็นตัวเองดึงกระดาษทิชชูมาเช็ดน้ำตา ลูบหัว กมล “โรงพยาบาลมีแต่เชื้อโรค ลูกกลับไปกับคุณอาศัยยศเถอะ หม่ามีพักไม่กี่วันก็หายแล้ว รอ หม่ามหายป่วย หม่ามีจะกลับไป หาลูกดีมั้ยจ๊ะ ตอนที่หม่ามีไม่อยู่ ลูกต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟัง รู้มั้ย”

“รู้แล้วค่ะ งั้นหมาพักผ่อนเยอะๆ นะคะ”

“เกี่ยวก้อยค่ะ”

กมลยื่นนิ้วก้อยให้นรมน

นรมนเกี่ยวก้อยสัญญากับลูกสาวแล้ว กมลก็ถูกพาออกไป เธอด่าเขาก็ดี ตบเขาก็ช่าง ถึงอย่างไรก็ดีกว่าเย็นชาเช่นนี้ นโมนทําเหมือนเขาไม่มีตัวตน บุริศร์รินน้ำอุ่น ให้เธอ นรมนไม่รับ หลับตาลงนอนต่อ

บุริศร์ตอนนี้กลัวจริงๆ ที่จะต้องอยู่กับนรมนลำพัง
ตอนที่ผมทิพย์รู้ข่าวนรมนเกิดอุบัติเหตุก็รีบรุดมาเยี่ยม นรมน กำลังหลับอยู่

“ทำไมถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ เพราะฉันไม่ดีเอง ไม่น่าปล่อยเธอ ไปคนเดียว”

เห็นคนทิพย์โทษตัวเอง บุริศร์พูดเสียงเบา “ไม่เกี่ยวกับคุณ

“นรมนอารมณ์เป็นยังไงบ้าง “นอกจากไม่พูดกับผม ชอบนอนเป็นส่วนใหญ่ อย่างอื่นก็ปกติ

บริศร์รู้สึกน้อยใจ

คมทิพย์มองเขากระซิบ “เดี๋ยวฉันเกลี้ยกล่อมเธอละกัน

“ไม่ต้อง”

บุริศร์ก็ดื้อดึงเช่นกัน

ต่อให้นรมนไม่สนใจเขา เขายังคงเฝ้าดูแลเธอไม่ห่างอยู่ดี

นรมนไม่เถียงกับเขา แต่ก็ไม่ไล่เขาไป ยอมให้เขาดูแล เพียง แต่ไม่พูดจา กินอิ่มแล้วนอน นอนอิ่มแล้วกิน ร่างกายฟื้นตัวอย่าง รวดเร็ว

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ร่างกายของนรมนก็ดีขึ้นมากแล้ว เธอขอออกจากโรงพยาบาล

บุริศร์ถามรมิดาเมื่อรู้ว่านรมนออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านไปพักผ่อนได้ รีบจัดการรถกับเฮลิคอปเตอร์ วางแผนจะพานริมน กลับเมืองชลธี

นรมนกลับยื่นสัญญาหย่าให้บริศร์

“เราหย่ากันเถอะค่ะ”

นรมนพูดสงบเรียบเฉย อารมณ์ไม่แปรปรวน เหมือนความ รู้สึกจมดิ่งลงทะเลลึก นิ่งสงบไม่เคลื่อนไหว

บริศร์มือสั่น มองอักษรสัญญาหย่าตัวโตบาดตาเหลือเกิน เขา ไม่อาจยอมรับอยู่นานสองนาน

“ผมไม่ยอม”

“ฉันไม่ได้คิดจะหารือด้วย แค่แจ้งให้ทราบ ฉันจะไม่กลับไป เมืองชลธีกับคุณ ตอนนี้ฉันจะยังไม่บอกเด็กๆ และไม่แย่งสิทธิ์ เลี้ยงดูลูกๆ ฉันเชื่อว่าคุณหวังดีกับเด็กๆ ดูแลพวกเขาได้ ช่วงนี้ ฉันยุ่งเรื่องของตัวเอง อาจจะไม่มีเวลาดูแลพวกเขา ฝากคุณดูแล พวกเขาชั่วคราว รองานของฉันมั่นคง ฉันจะรับพวกเขามาเที่ยวที่

นรมนไม่สนใจที่บุริศร์ปฏิเสธ พูดตามความคิดของตัวเอง

ใจของบุริศร์เหมือนมีเลือดไหล

“ผมไม่มีทางยอมให้คุณลำบากที่เมือง คนเดียว ถ้าคุณไม่ อยากเห็นหน้าผม ผมเป็นฝ่ายไปก็ได้ ถ้าคุณอยากให้การงาน ก้าวหน้า ผมยกทั้งตระกูลโตเล็ก ให้คุณก็ได้”
“ฉันไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นจากคุณ และไม่อยากได้ความ สงสารของคุณ บุริศร์คะ ฉันอยู่กับคุณไม่หวังอะไรทั้งนั้น ตอนที่ ไปก็เหมือนกัน คุณก็รู้ แต่แรกฉันแต่งงานกับความรัก สามปีนั้น คุณไม่รักฉันแต่ฉันก็ยืนหยัดมาได้ เพราะฉันเชื่อว่าสักวันหนึ่งคุณ จะต้องซาบซึ้ง วันนี้เราต้องเลิกกันแล้ว ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่น เพราะความรู้สึกนั้นไม่เหลือแล้ว การแต่งงานที่มีความรักหวาน ช่น การแต่งงานที่ไม่มีความรักคือกรงขัง ทำไมพวกเราต้องขัง ตัวเองในกรงด้วยล่ะ ต่อไปถ้าคุณอยากแต่งงานใหม่ ฉันจะ อวยพรคุณ ขอแค่เธอดีกับเด็กๆ ก็พอ”

“ไม่มีผู้หญิงคนอื่น ผมไม่มีทางแต่งงานใหม่ นรมน ชาตินี้คุณ อยากจะหย่ากับผม เป็นไปไม่ได้!”

บุริศร์ร้อนใจ

นรมนยังคงพูดเรียบๆ ” แล้วแต่คุณ ช่วงครึ่งปีนี้ฉันจะยื่นเรื่อง ฟ้องหย่า ฉันไม่ต้องการสมบัติของคุณ ฉันเหนื่อยมามากแล้ว ลูก คนนี้ไม่อยู่แล้ว ฉันเสียใจมาก และทุกข์ใจมาก จนรู้สึกหมด เรี่ยวแรงแล้ว ไม่มีแรงจะทะเลาะกับคุณ และไม่อยากเถียงอะไร กับคุณอีก ฉันแค่อยากหย่า ถ้าคุณเคยรักฉันจริงๆ งั้นก็ทำให้ฉัน สมหวังเถอะ”

พูดจบ นรมนก็โทรไปหาคมทิพย์ ให้เธอมารับตัวเอง ตอนที่ผมทิพย์มาถึง เห็นท่าทางบริศร์หมดหวัง ก็ไม่รู้จะช่วย อย่างไร

“นรมน ฉันว่าเธอ…”
“แม้แต่เธอก็ไม่ต้องการฉันแล้วหรือ

ตอนที่นรมนมองคนทิพย์ คมทิพย์รู้สึกสงสาร ถึงกับพูดไม่ออก

“ฉันพาเธอไป

คมทิพย์ประคองนรมนจากข้างบุริศร์เดินออกไป

ทันใดนั้นบุริศร์จับมือของเธอ กุมมือแน่น กลัวว่าถ้าปล่อยมือ แล้วจะเสียเธอไปทั้งชีวิตนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ