บทที่ 957 ฉันแนะนำว่าเธออย่าดูถูกตัวเอง
“ทำไมหรอ?”
คมทิพย์เห็นนรมนหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไร พวกเราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ” นรมนระงับเรื่องนี้ลงไป
เรื่องเงินค่อยคิดหาวิธี ในบัตรของรมดาไม่รู้มีเงินอยู่เท่าไหร่ แต่ไปดูก่อนว่าคมทิพย์กับนักทำเพลงขั้นเทพคนนั้นมีวาสนาไหม
เห็นนรมนไม่ยอมพูด คมทิพย์เองก็ไม่ได้ถามมาก ทั้งสองลงไปห้องอาหารชั้นล่างกินอะไรนิดหน่อย จากนั้นก็ไป
บ้านของนักทำเพลงขั้นเทพตามที่อยู่ที่รมดาให้มา
น่าเสียดายที่ทั้งสองเคาะประตูอยู่ครึ่งวัน ด้านในกลับไม่มีคน ตอบรับ นรมนนึกว่าอีกฝ่ายไม่อยู่บ้าน โทรไปหาอีกฝ่าย ภายใน บ้านมีเสียงโทรศัพท์ดังสวนมา จากนั้นก็ถูกคนปิดไปอย่างหยาบ คาย
คมทิพย์กับนรมนมองหน้ากัน สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่าย ไม่อยากเกี่ยวพันกับพวกเขา
นรมนยังไม่อยากยอมแพ้ แต่ไม่นึกว่าคนทิพย์จะคว้ามือเธอ ส่ายหน้าแล้วพูด “ช่างเถอะ สิ่งของพวกนี้ก็ดูเป็นวาสนา”
“แต่ว่ายังไงพวกเราก็มาแล้ว ยังไงก็ต้องลองดู
นรมนไม่อยากยอมแพ้
นี่เป็นโอกาสของคนทิพย์ อีกอย่างเธอตอนนี้มีเรื่องมากมาย กดไว้อยู่ในตัว ต้องการเงินด่วน
คมทิพย์กลับส่ายหน้าพูด “อีกฝ่ายถ้าไม่อยากเจอพวกเรา จริงๆ พวกเราพัวพันเอาเป็นเอาตายแบบนี้ จะยิ่งทำให้เขาไม่ ชอบ ยังไงค่อยหาโอกาสคุยทีหลังดีกว่า”
“งั้นตอนนี้เธอจะทำยังไง?”
นรมนรู้สึกว่าโอกาสนี้ค่อนข้างน่าเสียดาย
คมทิพย์ยักไหล่ พูดยิ้ม “ช่วยไม่ได้นี่นา ไม่งั้นฉันก็ไปร้องเพลง ประจําร้าน หรือไม่ก็ไปเป็นศิลปินข้างถนน ไม่ได้แปลว่าไม่มี โอกาสเลยนะ”
เห็นคนทิพย์มองโลกในแง่ดีแบบนี้ นรมนนับถือเธอจริงๆ
“โอเค ถ้าเธอจะไปขายเพลงจริงๆ ฉันจะบรรเลงเพลงให้เธอ
“จริงด้วย ฉันลืมไปเลย เธอสีไวโอลีนได้ไม่เลวเลย ดูเหมือนจะ เป็นศิษย์ของครูกวินทร์?”
คำพูดนี้ของคนทิพย์ทำให้นรมนนึกถึงเนตรา
ถ้าเนตรารู้ว่าตนเป็นศิษย์ของครูกวินทร์ เกรงว่าเธอจะคิดว่า ตนใช้วิธีการทําให้เธอไม่สามารถเป็นศิษย์ของกวินทร์ได้
แต่ว่าเรื่องนี้มันแปลกมากจริงๆ
กวินทร์ถึงอย่างไรก็ปล่อยให้พ่อรมนพาเนตราไปแล้ว ก็พูดได้ว่าจะพิจารณารับเธอเป็นศิษย์ แต่ทําไมภายหลังถึงเปลี่ยนใจ
แล้วล่ะ”
ครูกวินทร์ไม่ใช่คนที่ไม่มีหลักการแบบนั้น
นรมนไม่เข้าใจ แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ไปถามไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าช่วง นักวินทร์มีงานบรรเลงเพลงที่ต้องดำเนินการ
เก็บเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว นรยมพูดยิ้ม “มีนักไวโอลินระดับราชา อย่างฉันมาบรรเลงเพลงให้เธอ ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่มีคนมา ติดตาม”
“นั่นเป็นธรรมดา ไปกันเถอะ ว่าที่นักไวโอลิน”
คมทิพย์ควงแขนนรมนอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินออกไป
ในตอนที่นรมนออกมายังคงมองประตูบ้านของนักทำเพลงขั้น เทพอย่างไม่ค่อยพอใจ ดวงตาเผยความแน่วแน่
เธอจะต้องหาโอกามาอีก ใช้ได้
ออกมาจากบ้านของนักทำเพลงขั้นเทพพร้อมกับคุมทิพย์ นร มนวางแผนที่จะไปซื้อไวโอลินหนึ่งเครื่อง
เธอรู้ว่าไวโอลินราคาไม่ถูก แต่ว่าเพื่อคมทิพย์แล้วเธอรู้สึกว่า
คุ้มค่า
ทั้งสองไปเลือกไวโอลินที่ร้าน กลับนึกไม่ถึงว่าจะเจอเนตราที่นี่ “อุ้ย ไม่ว่าใครก็มาดูไวโอลิน ทำไมหรอ? ซื้อไวโอลินหรอ? เธอสีเป็นหรอ?”
คําพูดเย้ยหยันออกมาจากปากเนตรา
อารมณ์รุนแรงของคมทิพย์ก็ระเบิดออกมา
“เธอหมายความว่าไง? ทั่วทั้งโลกเห็นว่ามีแค่เธอที่สีไวโอลิน ได้หรอ? น่าเสียดายนะ เธอจะมีดีแค่ไหน ครูกวินทร์ก็ไม่รับเธอ เป็นศิษย์อยู่ดีไม่ใช่หรอ?”
สีหน้าของเนตรโจมดิ่งลงทันที
“พวกเธออย่ากล้าพองใจเกินไปนัก ถ้ามีความสามารถ การ แข่งขันไวโอลินหลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนพวกเธอก็มาเข้าร่วม ถึง ตอนนั้นถ้าพวกเธอสามารถชนะฉันได้……
“จะเป็นยังไง?”
ประโยคนี้นรมนเป็นคนถาม
ตั้งแต่รู้ว่าสถานะและเบื้องหลังของเนตราไม่เรียบง่าย นรมน เกิดความสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้
ก่อนหน้านี้ตนเห็นแก่หน้าพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนไม่อยาก คิดเล็กคิดน้อยกับเธอ แต่ว่าตอนนี้ดูท่าจะไม่ได้แล้ว ถ้าหากเธอ เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพฤกษ์จริง นรมนจะไป ปล่อยเธอไว้เด็ดขาด
เนตรามองไปที่นรมน พูดยิ้มอย่างเย็นชา “เธอกล้ามาเข้าร่วม จริงๆหรอ? นรมน การแข่งขันไวโอลินเทียบกับการแข่งขัน ออกแบบรถยนต์ไม่ได้ ฉันเดาว่าแม้แต่ไวโอลินสียังไงเธอก็ไม่รู้ หรือเปล่า?”
งั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องกังวลแล้ว ขอเพียงเธอบอกรางวัลมาก พอ ถ้าฉันก้าวข้ามเธอได้ในการแข่งขัน เธอจะทํายังไง?”
“เธอจะให้ฉันทํายังไง?
เนตราดูจะมั่นใจในความสําเร็จด้านไวโอลินของตนมาก
นรมนยิ้มบางๆ แล้วพูด “ไม่ยัง เธอแค่ตอบคำถามฉันมาสาม ข้อก็พอ”
“นี่มันรางวัลอะไร?”
เนตราขมวดคิ้วเล็กน้อย ป้องกันนรมนโดยไม่รู้ตัว
“ทำไม? ไม่กล้าแล้ว? หรือจะบอกว่าความสำเร็จด้านไวโอลิน ของเธอคือความสามารถในการพูดโม้ของปากเธอ?”
วิธีการเชิงรุกของนรมนมีประโยชน์ขึ้นมาจริงๆ
เนตราคอเกร็ง พูดอย่างโมโห “มาก็มา ฉันกลัวเธอทำไม่ได้? นรมน ฉันจะบอกเธอให้ ตอนนี้ไวโอลินฉันอยู่ระดับสี่แล้ว เธอคิด จะก้าวข้ามฉัน? ชาติหน้าเถอะ เธอรู้ไหมว่าจะเลื่อนระดับไวโอลิน ไปอีกระดับมันลำบากแค่ไหน? ต่อให้เธอสีไวโอลินเป็น คาดว่า แค่ระดับแรก คิดจะก้าวข้ามฉันเป็นไปไม่ได้เลย ฉันแนะนำว่าเธอ อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าเลย
ได้ฟังว่าไวโอลินของเนตราไปถึงระดับสี่แล้ว ในใจของนรมน ก็สั่นเล็กน้อย
ไวโอลินเธอพึ่งจะระดับสาม
นึกถึงว่าภายในเดือนนี้ยกระดับไปหนึ่งชั้น ไม่ใช่เรื่องที่
ง่ายดายเลยจริงๆ
แต่เรื่องที่นรมนอยากรู้ก็จะต้องรู้ให้ได้
เธอมองไปที่เนตราพูดอย่างเย็นชา “เธอไม่ต้องสนหรอกว่าฉัน กระดับ ถึงยังไงดูคะแนนวันที่แข่งขันก็รู้แล้ว
“ดี คำพูดตัดสิน ฉันรอให้เธอก้าวข้ามฉันอยู่นะ
เนตราจากไปอย่างลำพองใจมาก
”
คมทิพย์มองดูแผ่นหลังของเธอ พูดขึ้นอย่างกังวล “นรมน ฉัน หุนหันพลันแล่นเกินไปหรือเปล่า? เนตรากล้ามาท้าประลองเธอ อย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ จะต้องแน่ใจมากแน่ๆ ถ้าเธอแพ้แล้วจะทำ ยังไง?”
“เมื่อกี้หล่อนก็ไม่ได้พูดว่าฉันแพ้แล้วจะทำยังไง นรมนยิ้มแย้ม
คมทิพย์ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าเนตราเหมือนว่าตั้งแต่ต้นจนจบล้วน รู้สึกว่าตนจะชนะ แต่พลาดว่าหลังจากนรมนแพ้แล้วจะมีโชค ชะตายังไง
“ยัยโง่เอ้ย”
เธออดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
“ฉันสงสัยจริงๆว่านิสัยแบบนี้ของเนตรามีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้ ได้ยังไง? เธอแน่ใจหรอว่าหล่อนเป็นคนเลวจริงๆ?
ดวงตาของนรมนหรี่เล็กน้อย พูดเสียงต่ำ “เบื้องหลังหล่อนมี คนสนับสนุนอยู่ ให้แผนการกับหล่อน เป็นธรรมดาที่จะมีชีวิต อย่างสงบมาจนถึงตอนนี้
“กล้าณรงค์คนนั้น?”
“อาจจะใช่ หรืออาจจะมีคนอื่นอีก ตอนนี้เรื่องราวมากมาย เหมือนจะพร่ามัว ดูไม่เข้าใจ พวกเราได้เพียงเดินไปคิดไปแล้ว
นรมนดึงมือของคนทิพย์ หลังจากพูดจบก็หันตัวไปเลือก
ไวโอลิน
ในเมื่ออยากที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน เธอก็ไม่อยากแพ้ให้กับ เนตราแต่ไวโอลินอันพิเศษของเธออยู่ที่อเมริกา แล้วยังอยู่ในมือ ของรเมศ
นรมนไม่อยากมีความเกี่ยวพันใดๆกับรเมศอีก ดังนั้นก็ซื้ออัน
ใหม่ไปเถอะ แต่เดินวนไปรอบนึงแล้ว นรมนก็หาอันที่ถนัดมือไม่ได้
“ไม่ถูกใจเลยหรอ? ไม่งั้นเราไปดูร้านอื่นกัน?”
คมทิพย์ไม่ค่อยเข้าใจไวโอลิน กระทั่งพูดได้ว่าเธอไม่เข้าใจ อะไรดนตรีเลย เพียงแค่สามารถร้องเพลงดังๆได้ไม่กี่เพลง เท่านั้น
ดังนั้น ในตอนที่นรมนบอกว่าจะให้เธอมาหานักทำเพลงขั้น เทพ คมทิพย์ยังคงรักษาท่าทีที่อยากจะลองดู ต่อให้อีกฝ่ายไม่ สนใจตน เธอก็ไม่โกรธ ถึงอย่างไรตนก็ไม่มีความเข้าใจที่กระจ่างเกี่ยวกับดนตรี
นรมนไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องไวโอลินกับคมทิพย์ยังไง แต่กลับ ยิ้มแล้วพูดไป “ไม่เป็นไร พวกเราค่อยๆเลือก ไม่รีบ
“ฉันไม่ได้รีบร้อนนะ”
คมทิพย์ไม่ได้รีบร้อนจริงๆ แต่นรมนกลับรีบร้อนนิดหน่อย
“เธอก็ ฉันว่าพวกเราไปดูที่บาร์หรือที่ไหนเสียหน่อยเถอะ ไม่ แน่ว่าเราอาจจะฝึกซ้อมเสียงของเธอได้
นโมนเลือกไวโอลินที่ถูกใจตัวเองไม่ได้ ก็ตัดสินใจปล่อยไว้ ชั่วคราว ไว้ค่อยถามร้านขายไวโอลินร้านอื่น
ตอนนี้เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องของคมทิพย์
แม้ว่าคมทิพย์จะไม่เก่งอะไรมากด้านดนตรี แต่เธอเคยฟังคม ทิพย์ร้องเพลงมาก่อน ผู้หญิงคนนี้ร้องเพลงนับว่าร้องเพลงดีมาก มีอารมณ์เป็นพิเศษ มีพลังเสียง แล้วน้ำเสียงก็ไม่เลว
เมื่อก่อนตอนที่ไม่ได้วางแผนจะเดินบนเส้นทางนี้ นรมนกก็ บอกว่าคนทิพย์มีศักยภาพในการเป็นนักร้อง แต่ว่าในตอนนั้น ไม่มีใครคิดเป็นจริงเป็นจัง
เห็นนรมนรีบร้อนพาตนออกไปจริงๆ คมทิพย์เองก็เก็บจิตใจ ล้อเล่นไป พูดเสียงต่ำ “งั้นพวกเราไปลองดู? แต่เธออย่าหวังมาก เกินไปนะ คนที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้มีมากมาย อย่างฉันเนี่ย ก็แค่ เพิ่มจํานวนเข้าไป
“อย่าพูดไร้สาระ ไปกับฉัน
นรมนลากเมทิพย์ไปที่บาร์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ที่นี่มี ที่ให้ร้องเพลง
หลังจากเข้าไป นรมนก็หาเจ้าของบาร์เจอทันที หวังว่าจะให้ คมทิพย์ได้ร้องซักเพลง
ในตอนแรกพูดอะไรเจ้าของร้านก็ไม่เห็นด้วย บอกว่าที่บาร์มี นักร้องประจำอยู่แล้ว พวกเขาไม่สามารถแหกกฎได้ แต่นรมน บอกว่าพวกเธอไม่ต้องการเงิน เพียงรู้สึกคันคอ อยากขึ้นไปร้อง ซักเพลงเท่านั้น
เจ้าของร้านถึงยินยอม เพื่อให้กำลังใจคมทิพย์ นรมนก็ขึ้นเวลาไปร้องกับเธอด้วย
ตอนบ่ายคนในบาร์ไปเยอะ คมทิพย์ตื่นเวลาเล็กน้อย
ทั้งสองเลือกเพลงที่ค่อนข้างโด่งดังหน่อย บรรยากาศก็ค่อน ข้างครึกครื้น
นรมนร้องนํา คมทิพย์ก็ร้องตาม
ตอนที่พึ่งเริ่ม คมทิพย์ยังปล่อยวางไม่ได้ น้ำเสียงยังไม่ค่อย เข้าที่ หลังจากร้องไปได้สามสี่ท่อนแล้ว คมทิพย์ก็รวมเข้าไปอยู่ ในบทบาทโดยสมบูรณ์ น้ำเสียงที่ไพเราะดึงดูดความสนใจของ ผู้คนมากมายในทันที
นรมนยิ้มบางๆ ค่อยๆระงับเสียงตัวเองให้ต่ำลง สุดท้ายก็หยุด การร้องเพลงลง ทั่วทั้งบาร์ล้วนเป็นเสียงของคนทิพย์
ไม่รู้ว่าใครใช้มือถือบันทึกฉากนี้ไว้ แล้วยังแชร์ลงอินเตอร์เน็ต ด้วยความรวดเร็ว
ตอนนี้เป็นยุคแห่งข้อความ ไม่นานนัก การร่วมกันร้องเพลง ของคมทิพย์กับนรมนก็โด่งดังขึ้นมาในอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
หลายทีมที่เข้าใจดนตรีและนักการตลาด ในนาทีแรกก็ติด
อันดับวีดีโอของพวกเธอไว้บนท๊อปซาจ
แน่นอนว่านรมนกับคุมทิพย์ไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้เลย
คมทิพย์เพียงแค่ไม่ต้องการให้นมนผิดหวัง จึงร้องอย่าง ทุ่มเทแรงใจ นรมนเพียงแค่รู้สึกว่าคมทิพย์ต้องการซักเวทีหนึ่ง เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ตอนนี้ดูท่าคะแนนกับผลลัพธ์จะไม่แย่นัก
เธอโค้งมุมปากยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ
ดูท่าคมทิพย์จะเป็นผู้หญิงที่เหมาะกับเวที เฉิดฉายอยู่ภายใต้ แสงไฟ
นรมนมองดูคมทิพย์โยกตัวไปกับเสียงเพลง ก็อดไม่ได้ที่จะ ถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ในตอนที่เธอวางแผนที่จะถอยลงไปเงียบๆ ส่งมอบทั้งเวทีให้ กับคมทิพย์ ประตูบาร์ก็เปิดออก ชายหญิงที่เดินเข้ามาทำให้ สีหน้าของเธอซีดขาวราวกระดาษทันที
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ