แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 912 ถ้าเทียบกับพี่ ฉันสู้ไม่ได้เลย



บทที่ 912 ถ้าเทียบกับพี่ ฉันสู้ไม่ได้เลย

นรมนรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่สามารถอดทนเอาไว้ได้ ในเมื่อรู้ แล้ว เธอจําเป็นต้องถามให้ชัดเจน

คิมเห็นนรมนร้อนใจ เธอถอนหายใจออกมา แต่ไม่ได้ตั้งอะไร

นรมนมาถึงห้องหนังสือ เธอเคาะประตู และได้ยินเสียงของคุณ ท่านตระกูลพรโสภณ “เข้ามา

เธอผลักประตูเข้าไป จากนั้นจึงปิดประตูลง คุณท่านตระกูลพรโสภณเพิ่งวางโทรศัพท์ลงก็เห็นนรมนเดิน เข้ามา เขารู้ว่าเธอจะถามอะไร

“เชษฐ์หนีไปแล้ว”

“อะไรนะ เป็นไปได้ยังไงคะ”

นรมนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

นาวินกับเธอใช้กำลังอย่างมากกว่าจะจับตัวเชษฐ์ได้ อีกอย่าง ยังมีคนของตำรวจคอยเฝ้าอยู่ด้วย ทำไมเขาถึงหนีไปได้ล่ะ

จิตใจของคุณท่านตระกูลพรโสภณรู้สึกหดหู่เหมือนกับนรมน

เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่ นี่คือเรื่องจริง ฉันว่าตอนที่ธรรศมา เขาก็น่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว แต่เขา เห็นเธออยู่ที่นี่จึงไม่ได้พูดอะไร กลัวว่าเธอจะร้อนใจ ฉันโทรหาบุ ริศร์แล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอก็อยู่ที่นี่ ห้ามไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะจับตัวของเชษฐ์ได้

“ไม่ได้!

นรมนรีบปฏิเสธ จนทำให้คุณท่านตระกูลพรโสภณโมโห “คําพูดของฉันไม่ได้ผลแล้วใช่ไหม”

“คุณตา เชษฐ์ ไม่เพียงแต่อยากจะจัดการหนู เขาอยากได้ ข้อมูลทางพันธุกรรมของตระกูลโตเล็กด้วย ครั้งนี้นาวินกับธิดา ทำร้ายเขา เขาต้องไม่ปล่อยสองคนนั้นไปง่ายๆ แน่ หนูหลบอยู่ที่ นี้ได้ แต่พวกธิดาจะทำยังไงคะ ตอนนี้ธิดาท้องอยู่ ในตอนนั้นพ่อ แม่ของนาวินก็ต้องลำบากเพราะของบุริศร์ ถ้าพวกเขาเป็นอะไร ไป บุริศร์จะทำยังไง เขาจะทำตัวยังไงล่ะคะ”

สิ่งที่นรมนพูดคุณท่านตระกูลพรโสภณไม่รู้ ถึงเธอจะพูดแบบนี้ คุณท่านตระกูลพรโสภณก็ไม่ยอมให้เธอไป

“ฉันไม่สนว่าเธอจะพูดยังไง ไม่ว่ายังไงเธอจะเป็นอะไรไปไม่

ได้”

“คุณตา! ธิดาเป็นน้องสาวแท้ๆ ของบุริศร์!”

นรมนมองคุณท่านตระกูลพรโสภณอย่างร้อนใจ

คุณท่านตระกูลพรโสภณถอนหายใจออกมา “เธอใจอ่อนเกิน ไป เธออยู่ที่นี่เถอะ ฉันจะให้โตบินไปรับพวกเขามา ไม่ยังไงเธอก็ ห้ามออกไป ที่นี่คือลานใหญ่เขตทหาร ฉันไม่เชื่อว่าเชษฐ์จะมี ความกล้าที่จะมาก่อเรื่องที่นี่!”
เมื่อนรมนได้ยินคุณท่านตระกูลพรโสภณเธอจึงเบาใจ

ขอบคุณค่ะคุณตา ถือโอกาสให้โตบินพากมลกับกิจจามา ด้วยสิคะ เมื่อกี้ตอนที่ฉันมา ฉันควรจะพาพวกเขามาด้วย”

“รู้แล้ว”

คุณท่านตระกูลพรโสภณส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

นรมนรีบกอดแขนของเขาอย่างออดอ้อน

“คุณตาดีที่สุดแล้ว”

“ไม่ต้องมาอ้อนเลย ฉันไม่หลงกลหรอก”

ถึงคุณท่านตระกูลพรโสภณจะพูดเช่นนี้ แต่รอยยิ้มกลับ ปรากฏอยู่ตรงมุมปากของเขา สองตาหลานเดินออกมาจากห้องหนังสืออย่างยิ้มแย้ม ทำให้

คนที่รออยู่ข้างนอกอย่างคมรู้สึกโล่งอก

คิมรู้ดีว่าพ่อเป็นคนยังไง นรมนก็เป็นคนที่นิสัยดื้อรั้น เธอจึง กังวลว่าทั้งสองจะผิดใจกัน คิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะเดินออกมา อย่างยิ้มแย้ม

“ทำให้แม่กังวลแล้วใช่ไหม”

นรมนรีบเดินมาหาคม

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเธอไม่มีอะไรกันก็ดีแล้ว”

ทั้งสามคนยิ้มกันอย่างอบอุ่น
จากคำสั่งของคุณท่านตระกูลพรโสภณ โตบินไปรับนาโน ธิดา กมลกับกิจจามา

ทันใดนั้นบ้านก็เต็มไปด้วยความคึกคัก

กมลมองคุณท่านตระกูลพรโสภณ จากนั้นจึงถามอย่างซุกซน

“คุณทวด หนูเล่นบอลในบ้านได้ไหม”

“ไม่ได้”

นรมนรีบพูดขึ้นมา

แต่ทว่าคุณท่านตระกูลพรโสภณหัวเราะออกมา จากนั้นจึงพูด ว่า “ได้สิ เธอจะเล่นอะไรก็ได้ แต่เล่นในลานบ้านของเราห้ามออก ไปไหน เข้าใจไหม

“เข้าใจค่ะ คุณทวดใจดีที่สุด”

กมลกระโดดโลดเต้นออกไป โดยมีโตหินเดินตามออกไป

กิจจาเงียบและดูทักษะทางการแพทย์ ทำให้นรมนรู้สึกเอ็นดู

บาดแผลของเขายังไม่หายดี นึกถึงคำพูดของหมอ เธอจึงกลัว

ว่าเขาจะเหนื่อยล้า เธอเอาแต่จ้องเขาและให้เขาพักผ่อนเยอะๆ

หลังจากที่นาวินกับธิดามาถึงที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง

นรมนรู้ว่าเธอไม่สามารถห้ามได้ เลยปล่อยให้พวกเขาทำ

นรมนที่มีเวลาว่างก็มีโอกาสมาอยู่เป็นเพื่อนคิม แต่เชษฐ์ยังไม่ ถูกจับ เธอจึงไม่สามารถออกไปไหนได้ ทำได้เพียงพูดคุยอยู่ใน บ้านเท่านั้น
นโมนได้ยินจากปากของคิมว่าพ่อของตัวเองเป็นคนยังไง รู้ถึง เรื่องราวความรักของทั้งสองคน และได้รู้เรื่องราวมากมายที่เธอ ไม่ได้รู้มาก่อนหน้านี้

คิมพูดไปพูดมาก็หลับไป

นรมนมองออกว่าจนถึงตอนนี้คิมก็ยังรักพ่อ

แต่เพราะความสัมพันธ์นี้การที่ต้องเผชิญอะไรเพียงคนเดียว มันเหนื่อยจนเกินไป

เธอหมผ้าให้คิม จากนั้นจึงย่องออกมา

ธิดาเห็นเธอเดินออกมา จึงยกซุปไก่มาให้เธอ “พี่สะใภ้ดื่มหน่อยสิคะ พี่ไม่ได้พักมาทั้งวันแล้ว

“ขอบใจนะ”

นรมนรับซุปไก่มาดื่ม เมื่อเห็นว่าธิดาเหมือนอยากพูดอะไร เธอ จึงอดถามไม่ได้ “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“พี่สะใภ้ ให้ฉันออกไปเถอะค่ะ บางทีการที่ฉันออกไป เชษฐ์ อาจจะออกมาก็ได้ ตอนนี้เขาหลบซ่อนตัวอยู่ ส่วนพวกเราอยู่ใน ที่แจ้ง ไม่มีทางทำอะไรเขาได้ อีกอย่างพี่ชายของฉันก็อยู่ต่าง ประเทศ ถ้าเกิดเขาติดต่อกับคนที่ประเทศ พี่ชายของฉันอาจจะ ตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่เหรอคะ”

เมื่อได้ยินธิดาพูดเช่นนี้ จิตใจของนรมนก็ไม่เป็นสุข แต่ทว่าเธอก็ยังส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ได้ ระหว่างที่บุริศร์ยังไม่กลับมา ฉันต้องดูแลความปลอดภัยของพวกเธอ ตอนที่เชษฐ์ ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เธอไม่ได้ช่วยเขา เขาไม่ปล่อยเธอไว้ แน่ ถ้าฉันให้เธอออกไปก็เท่ากับปล่อยเนื้อเข้าปากเสือ เธอคิดว่า ชีวิตต่อจากนี้ของฉันจะอยู่อย่างเป็นสุขเหรอ”

“แต่พี่ชายของฉัน…

“เธอไม่ต้องกังวลหรอก ฉันว่าบุริศร์มีวิธีแน่นอน ในเมื่อเขา สามารถพาคนไปทำลายฐานการวิจัยของเชษฐ์ได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเขาต้องมีวิธีรอดพ้นเรื่องนี้ ตอนนี้เราพยายามไม่ให้ตัว เองตกเป็นตัวประกันของเชษฐ์ อย่าให้เขาเอาเราไปข่มขู่บุริศร์ พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นเธอไม่ต้องคิดมาก เข้าใจไหม

นรมนตบไหลธิดาเบาๆ

ธิดาพยักหน้า

เธอมองนรมนแล้วพูดเบาๆ ว่า “พี่สะใภ้ ถ้าให้เทียบกับพี่ ฉัน สู้อะไรไม่ได้เลย ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง พี่สบายใจได้เลย

“โอเค กลับไปนอนเถอะ”

เมื่อเห็นว่าธิดากลับเข้าห้องไปแล้ว เธอจึงหยิบมือถือออกมา และเดินไปที่ระเบียง

เธอก็เป็นห่วงบุริศร์เหมือนกัน

วันนี้เธอยุ่งทั้งวันจนไม่มีเวลาโทรหาบุริศร์ แต่ว่าเธอก็ยังสงสัย

ในเมื่อบุริศร์สามารถโทรหาคุณท่านตระกูลพรโสภณได้ แล้วทำไมเขาถึงไม่บอกเธอตรงๆ ว่าให้อยู่ที่บ้านคุณตาล่ะ

เมื่อคิดได้เช่นนั้น บรมนจึงโทรออกไปหาบริศร์

แต่ทว่ากลับไม่มีคนรับสาย นรมนยังโทรไปหาอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ครั้งนี้กลับไม่มีแม้แต่ สัญญาณและบอกว่าไม่อยู่ในพื้นที่บริการ

อย่าบอกนะว่าเกิดเรื่องขึ้นกับบุริศร์

นรมนคิดอย่างเป็นกังวล

ไม่สามารถติดต่อบริศร์ได้ ทำให้นรมนนอนไม่หลับ

จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่ากลางคืนช่างยาวนาน

บริศร์บอกว่าเมื่อเรื่องทางนั้นแก้ไขได้ เขาจะพาพ่อของคน ทิพย์กลับมา

ตอนนี้ก็ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว เมื่อฟ้าสว่างเขาจะกลับมาใช่ไหม นรมนยิ่งร้อนใจก็ยิ่งรู้สึกว่าเวลามันช่างผ่านไปช้าเสียเหลือ

เกิน

ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะเช้า นรมนดวงตาหมองคล้ำ แป้งก็ไม่ สามารถปกปิดได้

คิมเห็นท่าทางอ่อนเพลียของเธอก็รู้สึกเห็นใจ

“นอนไม่หลับเหรอ”

“อั้ม”
นรมนรู้ดีว่าเธอไม่สามารถปิดบังได้ จึงทำได้เพียงยอมรับ “หนูมีเรื่องที่ต้องคิดเลยนอนไม่หลับ ไม่มีอะไรหรอก วันนี้หนู จะหาเวลานอน

เธอพูดอย่างยิ้มแย้ม

แต่คิมกลับพูดอย่างเป็นห่วงว่า “เดี๋ยวทานข้าวเสร็จก็ไปนอน มีเรื่องอะไรก็ยังมีแม่กับคุณตาคอยดูอยู่ อีกทั้งยังมีคุณลุงฝั่งพ่อ ของเธออีกสองคน อย่ากังวลไปเลย บริศร์ไม่ใช่คนธรรมดา เขา จะต้องไม่เป็นอะไร

“เข้าใจแล้วค่ะ”

นรมนยิ้มบางๆ แต่คนรู้ดีว่าเธอห้ามนรมนไม่ได้ เด็กคนนี้ดูเหมือนจะอ่อนโยน แต่แท้ที่จริงแล้วดื้อรั้นกว่าใคร

ธิดาพูดเหมือน โทษตัวเองว่า “พี่สะใภ้ เป็นความผิดของฉัน เอง ถ้าเมื่อวานฉันไม่พูดแบบนั้น พี่คงไม่เป็นกังวลแบบนี้”

“ไม่เกี่ยวกับเธอหรอก”

นรมนกุมมือของเธอ

นาวินพูดว่า “หรือจะให้ผมไปล่อเชษฐ์ออกมา เขาเกลียดผม มาก ถ้าผมออกไป…

“อยู่ที่นี่เถอะ ข้างนอกตำรวจเยอะแยะ พวกนายก็เห็นชัดแล้ว อยู่ที่นี่ ควรจะทำอะไรก็ทำ นาวิน หน้าที่ของนายก็คือดูแลธิดา และลูกๆ ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น
นรมนเห็นว่าการที่ตัวเองไม่ได้นอนมาทั้งคืนส่งผลต่อทุกคน ทําให้เธออดโทษตัวเองไม่ได้

“วางใจเถอะ เดี๋ยวฉันทานข้าวเสร็จแล้วจะไปนอน ไม่มีอะไร หรอก”

เมื่อเห็นนรมนพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงไม่พูดอะไรอีก

คุณท่านตระกูลพรโสภณไม่ได้พูดอะไร และดันกับข้าวตรง หน้าของตัวเองไปตรงหน้านรมน

เด็กทั้งสองคนยังไม่ตื่น คุณท่านตระกูลพรโสภณก็ไม่ได้บอก

ให้คนไปปลุก และบอกว่าเมื่อเด็กทั้งสองคนตื่นแล้วค่อยทํา อาหารให้ทาน เพราะทุกคนต่างก็มีเรื่องอยู่ในใจ ทำให้ทานอาหารด้วยความ

เงียบเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ นรมนกลัวทุกคนจะกังวล เธอจึง

กลับไปที่ห้องเป็นอันดับแรก

เธอดูมือถือ ไม่มีสายเข้าแม้แต่สายเดียว ข้อความและวีแซทก็

ไม่มี

นั่นหมายความว่าบริศร์ไม่ได้จับมือถือและไม่เห็นข้อความของ

เธอ

มีเรื่องอะไรเร่งด่วนขนาดนั้น

ถึงขนาดที่ไม่เอามือถือไปด้วย
หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาทำให้มือถือไม่อยู่กับตัว

นโมนพบว่าเมื่อเธอเริ่มจินตนาการ ก็เหมือนมีปีศาจร้ายมา ล้อมเธอไว้ ยิ่งทำให้เธอกังวลและไม่เป็นสุขขึ้นเรื่อยๆ เธอโยนมือถือไปบนโต๊ะและพรูลมหายใจออกมา เธอไม่กล้าบอกคนอื่นว่ารู้สึกเจ็บท้องเล็กน้อย

ไม่รู้ว่าลูกเป็นห่วงพ่อเหมือนกันกับเธอหรือเปล่า ถึงเป็นแบบนี้ นโมนพบบางสิ่งที่ทำให้เธอสงบใจและวางมันไว้บนเตียง

เธอลูบท้องของตัวเอง เธอรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ควรคิดมาก อีกอย่าง ลูกในท้องของเธอยังไม่มั่นคง

บรมนเอนลงบนเตียง

เธอทั้งง่วงและเหนื่อย แต่เมื่อหลับตาลงกลับไม่รู้สึกอยากนอน

เลยสักนิด ในหัวมีแต่ภาพของบุริศร์

ในขณะที่นรมนกำลังสะลึมสะลือ เหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียง มือถือดังขึ้น

เธอจับมือถือตามสัญชาตญาณ จากนั้นจึงกดปุ่มรับสาย

“ฮัลโหลบุรีศร์ ทำไมคุณถึงเพิ่งโทรกลับมาล่ะ คุณเป็นยังไง บ้าง”

เธอถามออกไปโดยอัตโนมัติ แต่น้ำเสียงของอีกฝ่ายทำให้ เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ