แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 844 ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ



บทที่ 844 ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ

“ฉันเจอแม่ฉันไม่ได้ ให้ฉันเจอมิลินหน่อยได้ไหม? ให้ฉันวิดีโอ คอลกับเธอก็ได้ ฉันมีเรื่องอยากถามเธอ ได้ไหมคะ?”

คําขอของนรมนดูจริงใจและรีบเร่งต่อหน้าคุณท่านพรโสภณ

คุณท่านพรโสภณชะงักไป พูดเสียงทุ้ม “เกรงว่าหล่อนจะเจอ เธอไม่ได้”

“ทำไมคะ? ระหว่างฉันกับเธอเราไม่ได้มีความคับข้องใจอะไร กัน”

เรื่องนี้นรมนไม่เข้าใจ

คุณท่านพรโสภณส่ายหน้า “ฉันไม่แน่ใจ แต่ตอนที่หล่อน สัญญาว่าจะดูแลแม่เธอ เงื่อนไขเดียวที่ให้ฉันคือไม่อยากเจอเธอ อีกตลอดชีวิต ”

“ว่าไงนะ?”

นรมนตกใจจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว

หรือเพราะตอนอยู่เมือง ตนไม่ไว้หน้าเธอ เธอก็เลยไม่อยาก เจอตนไปตลอดชีวิตแล้ว?

มิลินไม่ได้เป็นคนใจแคบแบบนี้นะ

“คุณตา คุณสามารถ…….
“ไม่มีทางเลือกจริงๆ นี่เป็นเงื่อนไขที่ฉันสัญญากับหล่อน บางที ผ่านไปสักพักฉันจะลองอีกครั้ง ตอนนี้ไม่ได้จริงๆ ฉันก็เหนื่อย แล้ว เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ”

เห็นได้ชัดว่าคุณท่านพรโสภณกำลังไล่

นรมนรู้ว่าตัวเองอยู่ต่อไปก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไร จึงพูดกับคุณ ท่านพรโสภณหนึ่งคำ จากนั้นก็ออกไปจากห้อง

ปากลับมาพอดี เห็นนรมนมีท่าทางตื่นตระหนก อดไม่ได้ที่ จะถามขึ้นอย่างกังวล “คุณนาย คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

“เหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อนสักพัก

นรมนกลับไปที่ห้องคุณแม่

ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดของคุณท่านพรโสภณ เขาบอกว่าคิม เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เขาบอกว่า ตอนคิมออกไปจากเมืองชลธีก็รู้แล้ว

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกแสบจมูก

เมื่อก่อนตอนที่คิมสุขภาพแข็งแรง นรมนไม่รู้สึกว่าแม่คนนี้ สำคัญมากขนาดนั้น ตอนที่หล่อนบอกว่าจะออกไปจากเมืองชล เพื่อเดินทางท่องเที่ยว เธอถึงขนาดเสียใจแค่ครู่เดียว ไม่ได้รู้สึก ว่าคนคนนี้มีตำแหน่งอะไรในชีวิตตน

ด้วยสายเลือด หล่อนให้กำเนิดเธอ ให้ชีวิตเธอ แต่ในช่วง สามสิบปีที่ผ่านมานี้ พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนเป็นคนให้ความ รักพ่อแม่แก่เธอ เธอใช้ชีวิตมีความสุขมาก จึงเย็นชาและเฉยเมยต่อค็มมาตลอด แม้จะมีความรักของครอบครัว ก็ไม่ได้รู้สึกว่า สำคัญขนาดนั้น และลูกอีกคนที่หล่อนให้กำเนิดก็ยังสร้างความ เดือดร้อนเพิ่มให้กับตนอีก

นรมนถึงขนาดรู้สึกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ไม่ใช่เพราะจรรยาบรรณทางสังคม เธอไม่รู้ว่าตนจะติดต่อกับคิม เยอะหรือเปล่า แต่เมื่อรู้ว่าหล่อนจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน ในที่สุด นรมนก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งในก้นบึงจิตใจ

ความเจ็บปวดนั้น เหมือนเถาวัลย์ที่มีหนามพิษ โอบล้อมเธอไว้ แน่นทีละวง มันแน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่นจนทำให้เธอ แทบหายใจไม่ออก

เธอดึงคอเสื้อตัวเอง แต่ก็ยังคงรู้สึกอึดอัด

ทำไมถึงเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ล่ะ?

หล่อนยังอายุน้อยมาก แถมยังจิตใจกระฉับกระเฉงมาก

คุณท่านพรโสภณบอกว่าชีวิตของคิมขมขื่น ตอนแรกนรมน ไม่รู้สึก แต่ตอนนี้จู่ๆ ก็รู้สึกเศร้าอย่างสุดซึ้ง

ความรู้สึกกลัวและความเศร้าที่แตกต่างกัน ทำให้นรมนเจ็บ จนแทบหายใจไม่ออก

คิมมีลูกสาวสองคน แต่กำลังจะตาย แต่กลับเลือกตั้งใจจะ ตายช้าๆ อย่างโดดเดี่ยวในสถานที่ที่ไม่มีใครไม่ให้ใครรู้ไม่ว่า นรมนจะคิดอย่างไรก็รู้สึกแสบจมูก

ปาณีไม่ไว้วางใจนรมน เมื่อเดินมาที่ห้องนรมนก็เห็นนรมนร้องไห้

เธอร้องไห้ไร้เสียง ถึงขนาดเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่การร้องไห้ แบบนี้ ทำให้ปาณีรู้สึกค่อนข้างกังวล

“คุณนาย คุณเป็นห่วงประธานบริศร์เหรอ? คุณไม่ต้องเป็น ห่วงนะ ประธานบริศร์มีความสามารถ เขาจะต้องมารับคุณได้ แน่นอน”

ปาณีคาดเดาไปเอง

นรมนไม่ได้ปฏิเสธ และไม่ได้พูด มองออกไปนอกหน้าต่าง แบบนั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ด้านนอกไม่รู้ว่าฝนตกตั้งแต่เมื่อไร มีหมอกลง ยิ่งทำให้นรมน อารมณ์ไม่ดีขึ้นไปอีก

เธออยากเจอคิม อยากเจอมากจริงๆ แต่เธอก็รู้ว่าถ้าไม่ได้รับ การอนุญาตจากคุณท่านพรโสภณ เธอก็เจอไม่ได้ และไม่ สามารถเจอได้

นรมนมองรูปเดี่ยวที่โต๊ะหัวเตียง น้ำตาร่วงเหมือนลูกปัดด้าย

ขาด

เธอสามารถทําทุกอย่างสุดชีวิตได้ แต่ไม่สามารถแย่งชิงคน มาจากยมราชได้

ทําอย่างไรดี?

โชคชะตาแม่ลูกระหว่างเธอกับคิมมันตื้นเขินขนาดนี้จริงๆเหรอ?

เธอไม่ได้ติดต่อกับหล่อนอย่างเต็มที่ ไม่ได้อยู่กับหล่อนอย่าง เต็มที่ ยิ่งไม่ได้ซุกในอ้อมกอ หล่อนออดอ้อนเหมือนเด็กคนอื่น ทําไมหล่อนจะจากโลกใบนี้ไปแล้วล่ะ?

บางทีหลังจากการเสียสละของคุณพ่อ คุณแม่ก็เป็นทุกข์ หล่อนแค่มีชีวิตรอดไปวันๆ แต่ตอนนี้ ในที่สุดหล่อนก็ไม่จำเป็น ต้องรอแล้ว ในที่สุดก็จะไปหาคุณพ่อแล้ว?

จากนี้เป็นต้นไป เธอก็จะกลายเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่แล้วใช่

ไหม?

เป็นครั้งแรกที่นรมนรู้สึกเหมือนเร่ร่อน

ความรู้สึกนี้พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนไม่สามารถเติมเต็มได้ สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บ ปวดบีบหัวใจ

นรมนไม่ได้สนใจปาณี นอนลงไปบนเตียงเอง คว้าผ้าห่มไว้ แน่นแล้วคลุมศีรษะตัวเอง สูดดมกลิ่น ราวกับกำลังซุกอยู่ในอ้อม กอดคุณแม่

ในหัวสมองของเธอนึกย้อนถึงเสียงและรอยยิ้มของคิมโดย อัตโนมัติอย่างอดไม่ได้

จริงๆ แล้วคิมเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อมาก เธอยิ้มน้อยมาก วันๆ ทำแต่หน้านิ่ง ไม่รู้ว่าเพราะเป็นนักการทูต หรือว่าเพราะสูญ เสียคนรักก็เลยรู้สึกหดหู่ใจ
นโมนจําได้ ครั้งแรกตอนที่เธอได้เห็นคิม คิมเห็นตัวเอง ตอนที่ มรู้ว่าตัวเองเป็นลูกสาวหล่อน

คิม ในตอนนั้น รอยยิ้มสดใสมาก ทำให้รู้สึกอบอุ่น แต่ตั้งแต่นี้ เป็นต้นไปตนจะไม่ได้เห็นอีกแล้วเหรอ?

นรมน ผ้าห่มแน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้น

ปาณีตกใจกลัวอย่างแท้จริง

“คุณนาย คุณเป็นอะไร? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ฉันไป ต้มยาบำรุงครรภ์แล้ว คุณดื่มสักหน่อยดีไหม? อารมณ์คุณแบบนี้ ไม่ดีต่อทารกในครรภ์นะ”

แต่ไม่ว่าปาณีจะพูดอย่างไร นรมนก็ไม่หยุดร้องไห้

ใช่แล้ว ครั้งหนึ่งเธอเคยขดตัวแบบนี้อยู่ในท้องคุณแม่ ครั้ง หนึ่งเคยทรมานคิมมาสิบเดือน ทำให้หล่อนเจ็บปวดอย่างมาก ในการคลอดตน ตอนนี้หล่อนป่วยแล้ว แต่ตนกลับนั่งอยู่ตรงนี้ อย่างช่วยไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถทำอะไรได้

นรมนรู้สึกว่าตัวเองอกตัญญูเกินไปแล้ว

ไม่!

เธอไม่อยากนั่งรอชะตาอยู่ที่นี่แล้ว เธออยากเจอคิม

นรมนไม่เคยหนักแน่นขนาดนี้มาก่อน

แต่ที่นี่คือตระกูลพรโสภณ รอบนอกเต็มไปด้วยบอดี้การ์ด ถึง เธอจะมีสามหัวหกแขน ก็ไม่อาจจะบินออกไปจากที่นี่ได้
บุรีศร์ออกไปแล้ว เธอออกไปเองไม่ได้ อาการป่วยของดินใน ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว เธอควรทำอย่างไรดี?

ปาณีเห็นนรมนไม่พูด ก็รีบวางยาบำรุงครรภ์ไว้บนโต๊ะ ตอนที่ จะออกไปตามหาใครสักคน ในที่สุดก็ได้ยินนรมนเอ่ยปาก

เสียงของเธอแหบพร่าอย่างมาก ฟังออกว่ากำลังพยายาม

อย่างเต็มที่ในการอดทนกับอะไรบางอย่าง

เธอพูดขึ้น “ปาณี ฉันไม่เป็นอะไร แค่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ “คุณนาย อารมณ์ของคุณเศร้าเกินไป ฉันกังวล……

“ไม่มีอะไรต้องกังวล แค่รู้อะไรบางอย่างแล้วเศร้า เธอไม่ต้อง เป็นห่วงนะ ฉันหลับสักหน่อยก็พอ ตอนนี้เธอออกไปได้ไหม? ได้ โปรดช่วยฉันปิดประตู ปิดไฟด้วย ฉันอยากนอนให้เต็มที่ ฉัน เหนื่อยมากเลย”

เสียงนรมนค่อนข้างไม่มีแรง เหมือนเหนื่อยสุดขีดจริงๆ ถึงแม้ปาณีจะเป็นห่วง แต่นรมนเป็นแบบนี้ ก็ทนพูดอะไรไม่ได้

“ก็ได้ คุณนาย คุณดื่มยาบำรุงครรภ์แล้วฉันจะกลับไปได้ ไหม?”

ในเวลานี้ นรมนไม่ได้ปฏิเสธอีก เธอยกผ้าห่มนั่งขึ้นมา หยิบยามาทันที ดื่มอีกๆ ลงไป จากนั้นก็ เอาชามให้ปาณี

ยาที่ขมนั้น นรมนไม่พูดอะไรจริงๆ ทานเข้าไปทันที
ปาณีมองออกว่าเธออารมณ์ไม่ดี และไม่สะดวกที่จะพูดอะไร อีก ถือชามเดินออกไป

คุณท่านพรโสภณรออยู่ด้านนอก เห็นปาณีออกมาแล้ว ในมือ ถือชามเปล่า ก็ถามอย่างเป็นห่วง “ดื่มแล้วเหรอ?”

“ดื่มแล้วค่ะ ฉันใส่ยาระงับประสาทเข้าไปในนั้น คืนนี้คุณนาย

น่าจะนอนกลับได้ดี”

ปาณีกับคุณท่านพรโสภณไม่เข้ากัน แต่ตอนนี้ร่วมมือกันอย่าง ผิดปกติ

หัวใจของคุณท่านพรโสภณที่แขวนอยู่ก็วางลงในที่สุด แต่ มองปาณีแล้วพูดเสียงทุ้ม “คืนนี้รบกวนเธอนอนตรงทางเดิน หน่อยสิ จะได้คอยฟังความเคลื่อนไหวข้างในได้ตลอดเวลา ฉัน กลัวหล่อนจะ.……………

กลัวอะไรคุณท่านพรโสภณไม่ได้พูด แต่ความห่วงใยลึกซึ้งใน ดวงตาทำให้ปากคลายความเป็นศัตรูกับเขาไม่น้อย

“ฉันรู้แล้วค่ะ”

“เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันให้คนปรับอุณหภูมิทางนี้แล้ว เธอจะ ไม่เป็นหวัด ฉันสั่งคนเอาผ้าห่มมาให้แล้วด้วย”

“ขอบคุณค่ะ”

ปาณีก็ไม่ได้กลับห้อง นั่งอยู่ตรงทางเดินโดยตรง นรมนดื่มยาบำรุงครรภ์แล้ว ก็สวมรองเท้าแตะเข้านอนทันทีห่มผ้าคลุมตัวเอง กลิ่นผ้าห่มทำให้นมนรู้สึกเกิดภาพลวงตา รา วกับคิมอยู่ข้างๆ ตน กำลังร้องเพลงกล่อมให้เธอนอนหลับ

ดวงตาเธอเปียกชื้นอย่างอดไม่ได้

ขณะที่ศีรษะมึนงง นรมนรู้ว่าบางทีปาณีอาจจะใส่ยาเพิ่มให้ตน แต่เธอไม่ได้มีปัญหาอะไร ต้องการพักผ่อนพอดีเลย

เธอเหนื่อยมาก ต้องการพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่คิดอะไรทั้งนั้น ไม่ ถามอะไรทั้งนั้น หลับให้เต็มที่เหมือนเด็ก สิ่งที่ปาณีนั้นกลับ ช่วยตน

นรมนหลับไปอย่างไม่ว้าวุ่นใจ

เธอหลับสบายทั้งคืน ปาณีและคุณท่านพรโสภณกลับนอน หลับไม่สนิท

คุณท่านพรโสภณตื่นตอนกลางคืนมาหลายครั้ง เมื่อมาถึง ด้านนอกห้องนรมน ก็เห็นปาณียังไม่หลับเช่นกัน จึงถามเสียงเบา “ด้านในเป็นยังไงบ้าง?

“ฉันเข้าไปดูแล้ว หลับลึกมาก หายใจสม่ำเสมอ ไม่เป็นอะไร

ได้ยินปาณีพูดแบบนี้ คุณท่านพรโสภณก็วางใจ

ในที่สุดเมื่อถึงเช้าตรู่ คุณท่านพรโสภณก็ทนไม่ไหวแล้ว

“โอเคแล้ว เธอไปนอนเถอะ ฉันว่าเด็กคนนี้คงไม่ตื่นอีกสักพัก รอหล่อนตื่นค่อยว่ากัน
ปาณีก็หาวเช่นกัน รู้สึกเปลือกตากำลังต่อสู้

ในที่สุดทุกคนก็หลับไป

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า นรมนก็ตื่นแล้ว

เธอหลับสบายสดชื่นมาก มองดูเวลา แค่ตีห้ากว่าเอง

ทั้งตระกูลพรโสภณเงียบสงบ ทุกคนกำลังนอนหลับ

นรมนลุกขึ้นเท้าเปล่า ตอนที่เปิดประตูห้อง ก็เห็นปาณีนอนขด ตัวที่ประตูทางเข้า แต่บอดี้การ์ดหน้าห้องได้ถูกถอนไปตั้งนาน แล้ว

เธอไม่รู้ว่านี่มันหมายความว่าอย่างไร แต่นรมนก็ยังเดินมาที่ ห้องคุณท่านพรโสภณอย่างเงียบๆ

คุณท่านพรโสภณเพิ่งเข้าสู่ช่วงหลับสนิท ไม่ได้รู้สึกถึงการมา ของนรมนเลย ด้วยเหตุนี้จึงไม่เห็นนรมน นรมนเปิดโต๊ะหัวเตียง เบาๆ หยิบของบางอย่างออกมาจากด้านใน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ