แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 779 เพราะรัก จึงได้รับการให้อภัย



บทที่ 779 เพราะรัก จึงได้รับการให้อภัย

“เกิดอะไรขึ้น?”

นรมนเครียดขึ้นมาทันที

เจตต์ให้คนคุ้มครองเทย่าทันที จากนั้นก็มองไปทางห้อง ฉุกเฉินที่ไฟยังคงเปิดอยู่ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “นรมน คุณพาแม่ฉัน ออกไปก่อน

“ฉันไม่ไป ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันจะอยู่ที่นี่จัดการเรื่องนิ ตาให้เสร็จก่อน”

ได้ยินเทย่าดื้อรั้นแบบนี้ เจตต์ก็ค่อนข้างหมดคำจะพูด

“แม่ ผมบอกแล้วไง เรื่องนี้แม่ให้ผมจัดการเองไม่ได้เหรอ?”

“ได้ ลูกจัดการเองได้ แต่ลูกต้องสัญญากับแม่ ห้ามแต่งงาน กับเธอ เราชดเชยให้เธอหรือช่วยเหลือเธอได้ แต่ห้ามแต่งงาน กับเธอ เจตต์ ชีวิตทั้งชีวิตของลูกห้ามอยู่ในน้ำมือผู้หญิงแบบนี้”

เทย่ามีท่าทีเด็ดเดี่ยวอย่างมาก

นรมนเห็นขาสองข้างของเทย่าประคับประคองไม่ค่อยอยู่ จึง อดไม่ได้ที่จะบอกเจตต์ “เท้าของคุณน้าบาดเจ็บรุนแรงมาก”

เจตต์ปวดใจทันที

“แม่ แม่อย่าบังคับผม ผมรู้ดีอยู่แก่ใจ
“ลูกสัญญากับแม่ ไม่งั้นแม่ไม่ไป

เทย่าถือว่ากำลังซื้อเจตต์

เสียงกรีดร้องด้านนอกยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

โฬมเห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็รีบวิ่งออกไป ไม่นานนักก็กลับมา

“คุณนาย มีคนจะกระโดดตึก ตอนนี้แจ้งตำรวจแล้ว คาดว่าอีก สักพักจะมีสื่อข่าวมาที่นี่ เรารีบไปกันเถอะ ถึงตอนนั้นกลัวว่าจะ เกิดปัญหา โดยไม่จําเป็น”

นโมนพอใจอย่างมากกับประสิทธิภาพในการทํางานของโฬม เธอมองเจตต์แล้วพูดขึ้น “รีบแสดงจุดยืนของคุณซะ! ว่าจะเอายัง ไง? สถานะของคุณน้า ถ้าผู้สื่อข่าวจับได้ ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นจะ เขียนซี้ซัวยังไงบ้าง”เจตต์มองนรมน แล้วมองเทย่าอีกครั้ง สุดท้ายก็พูดเสียงทุ้ม “ได้ ผมสัญญาว่าจะไม่แต่งงานกับเธอ โอ เคแล้วใช่ไหม?”

“ลูกพูดแล้วนะ เจตต์ ลูกห้ามหลอกแม่ ถ้าลูกกล้าแต่งงานกับ เธอ หรือตกลงแต่งงานกับเธอ แม่จะออกไปให้รถชนตายเลย!!

“แม่ แม่อย่าพูดอะไรไร้สาระได้ไหม? รีบไปซะ!” นรมนก็ตกใจหวาดกลัวเล็กน้อยเช่นกัน “คุณน้า ห้ามพูดเล่นแบบนี้นะคะ”

สีหน้าเจตมืดมนทันที

เทย่ามองเจตต์อย่างยืนหยัดแล้วพูดขึ้น “ลูกสัญญากับแม่ไหม? ถ้าลูกกล้าหลอกแม่ แม่จะมีจุดจบแบบนี้จริงๆ

“ผมสัญญา ผมสัญญาแล้วแม่ยังไม่โอเคอีกเหรอ?”

เจตต์จําเป็นต้องประนีประนอม

เทย่าเห็นเจตต์ตกลงแล้ว ถึงได้ตามนรมนออกไป

นรมนพูดกับเจตต์ว่า “เรื่องทางนี้ถ้าจัดการเสร็จแล้วมาบ้าน ฉันนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“โอเค”

เจตต์มองนรมน ด้วยสีหน้าซับซ้อน

“แม่ฉันรบกวนคุณดูแลด้วย

“ไม่ต้องเป็นห่วง นี่ก็เป็นน้าเล็กแท้ๆ ของฉัน”

นรมนรับเทย่ามา ประคองเธอเดินกะเผลกออกไปจากห้อง

ฉุกเฉิน

ภายใต้การคุ้มกันของโฬม พวกนรมนก็ออกมาจากโรง พยาบาล แต่ตอนออกไปก็พบกับผู้สื่อข่าวจำนวนมาก ถ้าไม่ใช่ เพราะโฬมฉลาด คาดว่านรมนกับเทย่าจะติดอยู่ด้านใน หลังจากขึ้นรถมา เทย่าก็ดูเหมือนเสียใจเล็กน้อย นรมนวางเท้าเธอไว้บนตักของตัวเองแล้วนวดเบาๆ “อย่าพูดเลย ฉันรู้ว่าเธอเชื่อใจเจตต์ก็เลยบอกเขา แต่นรมน

“คุณน้า ขอโทษนะคะบางครั้งน่ะ ฉันในฐานะแม่ก็ต้องปกป้องเขา โดยเฉพาะเรื่องเส้น ทางความรู้สึก ฉันไม่อยากให้ลูกชายฉันได้รับบาดเจ็บ

การแสดงออกของเทย่าค่อนข้างเศร้าโศก

“ฉันรู้ค่ะ คุณน้า ฉันก็เป็นแม่คนหนึ่งเหมือนกัน บางทีใน อนาคตกานต์เติบโตแล้ว ฉันก็คงเป็นห่วงการเลือกของเขา เหมือนกับคุณ แต่ฉันก็รู้สึกว่าสำหรับเจตต์และนิตา พวกเราเป็น คนนอกตั้งแต่ต้นจนจบ ความรู้สึกระหว่างพวกเขาจำเป็นต้องให้ พวกเขาแก้ไขปัญหากันเองจริงๆ

คำพูดนรมน ครั้งนี้เทย่าไม่ได้คัดค้านอะไร

“นรมน ฉันเหนื่อยมากแล้ว ขอหลับสักพักก่อนนะ ถึงแล้วเรียก ฉันด้วย”

เห็นได้ชัดว่า เทย่าไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกต่อไป นรมนก็ไม่อยากทําให้หงุดหงิด พยักหน้า และจบบทสนทนา กับเทย่า

ไม่นานรถก็ขับมาถึงคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็ก

นรมน ให้คนอุ้มเทย่าออกมา ส่วนตัวเองก็โทรหาแพทย์ประจำ ครอบครัว ให้มาดูเท้าที่ได้รับบาดเจ็บของเทย่าอีกครั้ง

แพทย์ประจําครอบครัวให้ยาแล้วจากไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ เทย่ายังไม่ได้ตื่นเลย

เห็นท่าทางเหนื่อยล้าของเทย่า นรมนก็ไม่อยากเรียกเธอ แต่ในใจนึกถึงบทสนทนาของธัญญาและขณะพล ก็รู้สึกค่อนข้าง กังวลอย่างอดไม่ได้

เธอ โทรหาโพนี่

โพนี่ก็มาอย่างรวดเร็ว

นรมนเล่าเรื่องที่ตัวเองได้ยินกับโพนี่

โพนี่ฉวยโอกาสที่เทย่าหลับอยู่ เจาะเลือดเธอมานิดหน่อย

“นรมน การทดสอบนี้อาจจะต้องใช้เวลาหนึ่งวัน พรุ่งนี้ฉันถึง เอาผลมาให้คุณได้”

โพนี่เก็บเลือดไว้เรียบร้อย

นรมนรีบพูดขึ้น “ไม่เป็นไร แค่มีผลลัพธ์ก็พอ ฉันแค่อยากรู้ว่า ในร่างกายคุณน้ามีคนวางยาพิษจริงๆ หรือเปล่า”

“โอเค คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะให้ผลลัพธ์คุณให้เร็วที่สุด”

โพนีไปแล้ว

นรมนพูดกับโฬมว่า “ตอนนี้นายรีบไปสถานพักฟื้นแล้วพา พยาบาลพิเศษคนนั้นของคุณน้าไปยังที่ที่ปลอดภัย และต้องรับ ประกันความปลอดภัยของผู้หญิงคนนั้น

“ครับ”

โฬมก็ออกไปแล้วเช่นกัน

ความปลอดภัยของคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็กนั้นก็ยังรับประกันได้

หลังจากนรมนจัดการเรื่องทั้งหมดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ ช่วงนี้ตัว เองอาศัยที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตอนนี้ตัวเองออกมาเป็นเวลา นานมากแล้ว และยังไม่ได้โทรหาที่บ้าน ดูเหมือนตอนเที่ยงก็ยัง กลับไปไม่ได้

เธอ โทรหาธรรศ

“อาสาม วันนี้มีธุระนิดหน่อย ตอนเที่ยงกลับไปไม่ได้ พวกคุณ กินข้าวกันได้เลยไม่ต้องรอฉัน พวกเด็กๆ รบกวนพวกคุณช่วย ดูแลหน่อยนะคะ”

“พูดอะไรโง่ๆ รบกวนช่วยดูแลอะไรกัน มันควรทำอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ? เธออยู่ที่ไหน? ไม่กลับมากินข้าวเหรอ?”

ธรรคไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นอาใหญ่ขี้บ่น หรือไม่ก็กลาย เป็นคนอารมณ์แปรปรวน แต่บางครั้งเขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวของ ตัวเองจริงๆ

โชคดีที่นรมนไม่เบื่อหน่ายกับความเป็นห่วงนี้

เธอยิ้มขณะพูดขึ้น “ฉันอยู่ที่คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลโตเล็ก วันนี้มีเรื่องนิดหน่อยต้องจัดการกับบุริศร์ ตอนเที่ยงเลยกลับไป ไม่ได้”“อ๋อ อยู่กับบุริศร์เหรอ งั้นก็ไม่เป็นไร สองสามวันนี้ฉันเห็น เธอวาดรูปทุกวัน กลัวว่าสมองเธอจะเหนื่อยล้า เธอผ่อนคลายให้ เต็มที่นะ พวกเด็กๆ เธอไม่ต้องเป็นห่วง ตอนกลางคืนถ้าจะกลับ มากินข้าวกับบริศร์ ก็บอกฉันล่วงหน้าด้วย
” โอเคค่ะ อาสาม งั้นฉันวางสายก่อนนะ”

นโมนพูดจบก็วางสายไป

มุมปากเธอยิ้มเล็กน้อย

ถึงแม้ธรรคจะขี้บ่นไปหน่อย และไม่ค่อยเหมือนกับธรณี แต่นร มนก็ชอบเขามาก

ความรู้สึกที่ถูกคนห่วงใย โดยเฉพาะความรู้สึกถูกญาติตัวเอง บ่นด้วยความเป็นห่วงมันช่างดีจริงๆ

เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงคิม

และไม่รู้ว่าตอนนี้คิมเป็นอย่างไรบ้าง นรมนโทรหาคม น่าเสียดายที่ยังคงอยู่ในสถานะปิดเครื่อง เธอค่อนข้างไม่สบายใจ คงไม่เกิดอะไรขึ้นจริงๆ หรอกมั้ง?

ในใจนรมนกระวนกระวาย คิดสักพัก ก็โทรหากิมจิ ถึงเธอจะ ไม่อยากติดต่อกับกิมจิก็ตาม

ได้รับสายนรมน กิมจิก็ตื่นเต้นไปทั้งร่าง

“คุณนาย คุณตามหาผมเหรอ?”

“ใช่ ฉันอยากไหว้วานให้นายช่วยฉันตามหาคนคนหนึ่ง หน่อย”

เสียงนรมนค่อนข้างเฉยเมย แต่มันเป็นเรื่องเล็กน้อยสําหรับกิมจิ แค่นรมนต้องการเขา เขาก็พึงพอใจมากแล้ว

“คุณนายพูดได้เลย”

“ช่วงนี้โทรศัพท์แม่ฉันโทรไม่ติดตลอดเลย ฉันอยากให้นาย ใช้อำนาจอาณาจักรรัตติกาลช่วยสืบหน่อย คิมแม่ของฉันเกิด เรื่องอะไรหรือเปล่า”

ได้ยินนรมนูพูดเกรงใจแบบนี้ กิมจิก็รู้สึกแย่มาก

“คุณนาย ทั้งอาณาจักรรัตติกาลเป็นของคุณทั้งหมด อย่าว่า แต่เรื่องไหว้วานเลย ถ้าคุณรู้สึกฉันขวางหูขวางตา ก็สามารถไล่ ฉันออกไปจากอาณาจักรรัตติกาลได้เลย คุณให้คนที่คุณไว้ วางใจเข้าช่วยคุณจัดการได้เลย ฉันไม่มีปัญหา”

คำพูดกิมจิทำให้นรมนส่ายหน้าพูดขึ้น “นายดูแลอาณาจักร รัตติกาลมาหลายปี ฉันเอากลับมาไม่ได้หรอก นายเก็บเอาไว้ เถอะ”

“คุณนาย ฉันรู้ว่าคุณยังไม่ให้อภัยฉันแน่ๆ ฉันก็รู้ว่าครั้งหนึ่ง ตัวเองเคยทําอะไรลงไป แต่อาณาจักรรัตติกาลเป็นอำนาจของ ลโตเล็กจริงๆ ไม่ควรเป็นของฉันคนเดียว ถ้าคุณรู้สึกฉันอยู่ ตระกูลโ ที่นี่แล้วไม่สบายใจจริงๆ ฉันไปก็ได้ ไม่ว่าจะพูดยังไง ฉันก็หวังว่า คุณจะได้รับการปกป้องดูแลที่ดีที่สุด”

“กิมจิ บางเรื่องถ้าทำลงไปแล้ว มันก็เหมือนกระจกแตกร้าว ถึง จะติดมันขึ้นมาใหม่ รอยร้าวนั้นก็ยังอยู่ ไม่มีทางกลับไปเป็น เหมือนเดิมได้ ฉันบอกไม่ได้ว่า ให้อภัยหรือไม่ให้อภัยนาย ฉัน ทําได้แค่พูดว่าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”
คำพูดนรมนทำให้กิมจิรู้สึกแตกสลาย

“ทำไมล่ะ? ทำไมกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ล่ะ? ประธานบุรี ศร์กับคุณก็เคยมีเรื่องเข้าใจผิดกันมากมาย คุณคิดด้วยซ้ำว่าเขา อยากเผาคุณให้ตาย ทำไมคุณยังให้อภัยเขาได้? แต่ฉันแค่ยืน ผิดฝั่งตอนที่ต้องเลือกข้างเท่านั้น มันเลวร้ายมากเลยเหรอ? ไม่ สามารถให้อภัยฉันได้ตลอดชีวิตเลยเหรอ? คุณนาย คุณทําแบบ นี้มันไม่ยุติธรรมกับฉัน!”

ได้ยินคำพูดกิมจิ นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ

เธอพูด “กิมจิ โลกใบนี้มีแค่บุริศร์คนเดียว และฉันก็รักแค่เขา เพราะความรัก ฉันสามารถให้อภัยความผิดใดๆ ของเขาได้ แน่นอนว่าจำเป็นจะต้องห้ามแตะต้องส่วนสำคัญที่สุดของฉัน นายเข้าใจความหมายฉันไหม?”

กิมจิตกตะลึงทันที

“คุณหมายความว่า เพราะรัก ก็เลยได้รับการให้อภัย ที่คุณให้ อภัยฉันไม่ได้ ก็เพราะไม่ได้รักฉันใช่ไหม?”

“นายเข้าใจความรักยังไงก็แล้วแต่นาย เรื่องที่ฉันไหว้วานนาย นายช่วยได้ก็ช่วย ถ้าไม่ได้ฉันก็จะหาคนอื่นมาช่วย

นรมนพูดจบก็จะวางสายไป แต่กิมจิเรียกเอาไว้

“ฉันช่วย ไม่ว่ายังไง คุณก็เป็นนายหญิงของฉัน ไม่ว่าคุณจะให้ อภัยฉันหรือไม่ ฉันก็จะบริการคุณ! ตั้งแต่วันที่คุณเป็นนายหญิง คุณก็เป็นพระเจ้าของฉันแล้ว หลังจากทำเรื่องนี้สำเร็จ ฉันจะออกไปจากอาณาจักรรัตติกาล ถึงตอนนั้นฉันจะส่งมอบอาณาจักร รัตติกาล ให้คุณทั้งหมด

พูดจบ กิมจิก็วางสายทันที

ได้ยินเสียงสัญญาณโทรศัพท์ นรมนก็เศร้าในชั่วขณะหนึ่ง ครั้งหนึ่งเธอได้เป็นเพื่อนกับกิมจิด้วยความจริงใจ น่าเสียดาย

ที่เขาไม่ได้หวงแหนมัน ความรู้สึก โดนเพื่อนทรยศหักหลังมันไม่ดีมากๆ มันแย่มาก

และเธอไม่อยากเจอแบบนี้อีกครั้ง

หลังจากไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว นรมนก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเอง ยังไม่โทรหาบุริศร์เลย และไม่รู้ด้วยว่าเขาตามหาเบญจมินทร์เจอ หรือยัง พบเจออันตรายใดๆ หรือไม่ขณะที่คิดแบบนี้ นรมน หยิบโทรศัพท์ออกมา ตั้งใจจะส่งข้อความหาบุริศร์ ก็พบว่า โทรศัพท์ตัวเองมีข้อความหนึ่งเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เมื่อเธอเปิด ข้อความ สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ