บทที่ 772 เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นรมนคิดว่าบุริศร์จะทำร้ายนิตา ตะโกนออกไปอย่างช่วยไม่ ได้ แต่หลังจากเห็นบุริศร์ลงมือ มีดสั้นเล่มหนึ่งก็ถูกเขารับเอาไว้ ทันที
นรมนตกตะลึงเล็กน้อย
นี่มีคนจะฆ่านิตาเหรอ?
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อยทันที รีบคุ้มกันนิตาไว้ด้านหลัง
แววตานิตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในขณะนี้ ร่างหนึ่งก็รีบวิ่งออกมา เพราะเร็วจนเกินไป นรมน กับบุริศร์เห็นไม่ชัดว่าอีกฝ่ายคือใคร
เมื่อบริศ ตั้งใจจะตามไปแต่นรมนขวางเอาไว้
“ไม่ต้องตามไป ตำรวจจะมาถึงแล้ว ให้ตำรวจจัดการดีกว่า ฉันแจ้งตำรวจแล้ว”
เมื่อนรมนพูดประโยคนี้ออกมา นิตาก็รู้สึกซบเซา แต่ครั้งนี้ไม่ ได้ขวาง ให้นรมนแจ้งตำรวจอีก
เห็นนิตาเป็นแบบนี้ นรมนก็ถอนหายใจ ในที่สุดก็ไม่ได้พูด อะไร สำหรับเรื่องซ้ำเติม เธอรังเกียจที่จะทำ
บุริศร์กลัวว่าจะมีใครออกมาอีก จะเกิดผลเสียกับนามน จึงไม่ ได้ตามไป มองนิตา แล้วมองนรมนอีกครั้ง ถามขึ้นเสียงทุ้ม “คุณ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
นรมนส่ายหน้า
ไม่นานรถตำรวจก็มาถึง
เมื่อนิตาถูกหามขึ้นรถพยาบาล บุริศร์ก็รับผิดชอบให้ปากคำ นรมหลังเลอยู่นานมาก ถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาเจตต์
เล่าสถานการณ์ของนิตา ให้เจตต์ฟัง
ไม่นานเจตต์ก็รีบมา
นิตาถูกเอาตัวไปแล้ว
เห็นทุกอย่างตรงหน้า เลือดสดบนพื้น สีหน้าเจตต์ก็มืดมน
“รู้ไหมว่าใครทํา?”
นรมนส่ายหน้า
“เธอไม่ยอมพูด ฉันก็ไม่ได้สืบ เรื่องนี้คุณจะจัดการยังไงก็แล้ว แต่คุณ แต่คุณต้องรับประกันความปลอดภัยของคุณเอง”
“ฉันรู้แล้ว”
เจตต์พยักหน้า
หลังจากบุริศร์และนรมนบันทึกปากคำเสร็จแล้ว ก็ยังเป็นห่วง เจตต์มาก จึงขับรถไปที่โรงพยาบาลทันที
เจตต์นั่งอยู่ประตูห้องฉุกเฉิน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็น นรมนและบริศร์มา ก็พูดเสียงทุ้ม “พวกคุณกลับไปเถอะ เรื่องนี้ ทําให้คุณเดือดร้อน เดี๋ยวฉันจะขอโทษพวกคุณเป็นอย่างดี”
“พูดอะไรน่ะ เราเป็นห่วงคุณนะ เจตต์ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณอย่าทำเรื่องโง่ๆ นะ คุณต้องจำเอาไว้ คุณน้ายังรอให้คุณ กลับไปอยู่
เจตต์มีอารมณ์อย่างไร นรมนก็รู้ถึงนิตาคนคนนี้เธอจะไม่ชอบ มากๆ แต่เจตต์รู้สึกซาบซึ้งกับนิตา เจตต์อันเป็นคนที่เห็นแก่มิตร ภาพเก่าๆ ให้ความสำคัญกับมิตรสหาย ตอนนี้นิดากลายเป็น แบบนี้ ถึงจะช่วยให้รอดได้แล้ว ก็อาจจะพิการและเป็นอัมพาตอยู่ บนเตียงตลอดชีวิต
ผลลัพธ์แบบนี้ นรมนก็ไม่รู้ควรพูดอย่างไร ตอนนี้สิ่งที่เธอกลัว มากที่สุดคือเจตต์จะอารมณ์ร้อน ต้องพยายามหาตัวอย่างสุด ชีวิต
นี่เป็นสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด
บุริศร์เห็นเจตต์อารมณ์หดหู ก็เดินเข้าไปหนึ่งก้าวยื่นบุหรี่ให้ หนึ่งมวนแล้วพูดขึ้น “เรื่องนี้มันไม่ง่ายแบบนั้น ฉันว่าเราต้องสืบ สักหน่อย ตอนแรกฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องของนาย นายจัดการเอง ได้ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายรังควานชีวิตนรมนอย่างเห็นได้ชัด ฉันไม่สน ไม่ได้ เจตต์ ฉันจะบอกนายไว้ก่อน ถ้าฉันสืบเจออะไรบางอย่าง ทําอะไรลงไป นายอย่า…….
“เรื่องนี้ฉันจัดการเอง ฉันมีความคืบหน้านิดหน่อยแล้ว ในปีนั้นก่อนที่พ่อแม่นตาและชาญจะทำภารกิจร่วมกัน เหมือนจะออก ไปพบคนใครสักคน คนคนนี้เป็นใครชาญไม่ยอมบอก แต่ฉัน ต้องสืบได้แน่”
เจตต์ขัดคําพูดบุริศร์ แววตามีความกริ้วโกรธเล็กน้อย บริศ ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า
“โอเค เรื่องนี้นายไปสืบ แต่เรื่องที่มีคนโยนของเข้าไปใน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ฉันจะสืบให้เต็มที่ว่าใครเป็นคนทำ
“อืม! พวกคุณกลับไปเถอะ เรื่องนิตาไม่ควรให้พวกคุณมา ลําบากด้วยอยู่แล้ว ขอโทษด้วยนะ”
“พูดอะไรน่ะ พี่น้องกันเขาไม่พูดเรื่องพวกนี้หรอก”
บุริศร์ซกเจตต์หนึ่งหมัด จากนั้นก็มองนรมน
นรมนรู้ว่าตอนนี้ตัวเองพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอพูด เสียงทุ้ม “เจตต์ งั้นเรากลับก่อนนะ คุณมีเรื่องอะไรก็โทรหาเรา ทางด้านตำรวจอาจจะมาบันทึกปากคำภายหลัง ถ้านิตาไม่พูด ทางที่ดีคุณก็พยายามโน้มน้าวให้เธอพูด ยังไงเธอก็ยังมีน้อง ชาย”
“ฉันรู้แล้ว”
เจตต์เหมือนแก่ลงมากในชั่วข้ามคืน
นรมนมีอารมณ์หนักอึ้ง แต่รู้ว่าตอนนี้คำพูดใดๆ ก็ไม่สามารถ ปลอบเจตต์ได้
เธอและบริศร์ออกมาจากโรงพยาบาล หลังจากขึ้นรถ นรมนก็ยังถอนหายใจ บุริศร์ส่งนมร้อนที่เพิ่งซื้อเมื่อครู่นี้ยื่นให้เธอ “ดื่มสักหน่อย ให้อุ่นท้อง “ซื้อมาตอนไหน? ฉันไม่เห็นเลย
นรมนรับนมมา มันอุ่น ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นบ้าง
บริศ เปิดเครื่องทําความร้อน พูดขึ้นอย่างกังวลเล็กน้อย “คุณ นะ กล้าออกไปข้างนอกดึกๆ อื่นๆ โชคดีที่คุณเรียกฉันด้วย ถ้า คุณคนเดียว ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นิตาก็เหมือนกัน ทำไมยัง ตามคุณไม่ปล่อยเลย? เจตต์ชอบ ใครไม่ชอบ ดันไปชอบเธอ ถ้า ไม่ใช่เพราะคิดถึงเจตต์ ฉันลงมือกับเธอไปนานแล้ว
“ฉันรู้ แต่เรื่องนี้ เพราะฉันมองคนไม่ดีเอง และฉันเป็นคนพา พวกเขามาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เจตต์รู้สึกดีกับนิตา แต่นิตาไม่ใช่ คนรักของเจตต์ คุณไม่รู้ ฉันรู้สึกผิดจะตายอยู่แล้ว เกิดเรื่อง มากมายแบบนี้ อาจจะเป็นผลลัพธ์ที่ฉันเข้าไปจับคู่ซี้ซัวก็ได้”
นรมนรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มานานมาก
“พูดอะไรไร้สาระ คุณแค่ให้โอกาสพวกเขา นิตานิสัยไม่ดี ไม่ เกี่ยวอะไรกับคุณ อย่าโทษตัวเองทุกเรื่อง”
บริศร์รู้ว่าในใจนรมนรู้สึกแย่ จึงต้องเอ่ยปากปลอบโยน นรมนพยักหน้า ถามขึ้น “เรื่องตระกูลโตเล็กจัดการเรียบร้อยหรือยัง?”
“ใกล้แล้ว ยังต้องใช้เวลาอีกสองสามวัน คุณอยู่ต่ออีกหน่อย บะ”
“ไม่เป็นไร ฉันและลูกๆ อยู่ที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาสบายดีมาก แต่ทำไมกานต์ยังไม่กลับมา?”
นรมนคิดถึงลูกชายมากจริงๆ
บุริศร์ลูบหลังมือเธอแล้วพูดขึ้น “ทางด้านกานต์มีฝึกอบรม อาจจะต้องใช้เวลาสักพัก คุณไม่ต้องเป็นห่วงเขา ตอนนี้คนที่ฉัน ค่อนข้างเป็นห่วงก็คือคุณ คุณว่าใครสามารถเข้าออกตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาได้อย่างอิสระ แล้วโยนของเข้าไปในห้องคุณได้ บ้าง?”
“คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”
คำพูดนรมนทำให้บริศร์ขมวดคิ้วอีกครั้ง
“คุณย้ายกลับมาอยู่ดีกว่านะ”
“ถ้าอีกฝ่ายเฝ้าดูฉันจริงๆ ถึงฉันจะย้ายไปสุดขอบฟ้า มหาสมุทรก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีอาสามและอา เล็กอยู่ด้วย ฉันจะไม่เป็นอะไร ตอนนี้ต้องสืบดูก่อน ในตระกูลทวี ทรัพย์ธาดามีใครทำเรื่องแบบนี้กับฉันได้บ้าง เห็นได้ชัดว่าอีก ฝ่ายอยากลอเรา บางทีอาจจะล่อฉันให้มาช่วยนิตาที่ลานฝังกลบ ขยะ ฉันคิดว่าคนคนนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับนิตา งั้นเราสืบ จากคนที่เกี่ยวข้องกับนิตาดีกว่า”
คำพูดนรมนเตือนบริศร์
“ฉันจะให้พฤกษ์ไปสืบ
“ฉันสืบเองดีกว่า”
คำพูดนมันทำให้บริศรชะงักไปสักพัก
“คุณสงสัยพฤกษ์เหรอ?”
“เปล่า แค่อยากสืบเอง”
นรมนยิ้มเรียบๆ แต่บุริศร์มองอะไรบางอย่างออกจากรอยยิ้ม ของเธอ
“พฤกษ์เป็นคนของฉัน เขาไม่ทำแบบนั้นหรอก”
“ฉันไม่ได้บอกว่าเป็นเขา คุณคิดมากไปแล้ว” นรมนยังคงยิ้ม แต่มันค่อนข้างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย บรรยากาศในรถกระอักกระอ่วนเล็กน้อยไปชั่วขณะหนึ่ง และในขณะนี้ โทรศัพท์นรมนก็ดังขึ้น นรมนมอง โทรศัพท์ที่โทรมา ไม่คิดว่าเทย่าจะโทรมา
“ใคร?”
บุริศร์เห็นสีหน้านรมนลังเลเล็กน้อย ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“น้าเทย่า”
นรมนพูดจบก็ถามขึ้นเสียงทุ้ม “ถ้าเธอถามฉันว่ารู้ไหมว่าเจตต์อยู่ที่ไหน ฉันควรตอบว่าไง?”
“คุณก็บอกว่าเจตต์ดื่มเหล้าอยู่บ้านเรา ดื่มไปเยอะมาก คืนนี้ พักที่บ้านเรา”
บริศ รู้ว่านรมนไม่อยากให้เทย่ากังวล ดังนั้นจึงพูดแบบนี้
นรมนก็เข้าใจความหมายของบริศร์แน่นอน ยิ้มขณะพูดขึ้น “ใครสอนภรรยาตัวเองให้โกหกเนี่ย?”
“งั้นจะบอกความจริงเหรอ?
“ช่างเถอะ เอาตามที่คุณพูดดีกว่า” นรมนพูดจบ ก็ยิ้มขณะเลื่อนเปิดปุ่มรับสาย
“น้าเทย่า มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“นรมนอ่า เจตต์อยู่บ้านเธอหรือเปล่า?”
เสียงเทย่าค่อนข้างหอบ
นรมนเหลือบมองบุริศร์ แล้วรีบพูดขึ้น “อยู่บ้านฉันค่ะ แต่เขา กับบริศร์ดื่มกันเยอะมาก คืนนี้พักที่บ้านเรา คุณไม่ต้องรอเขานะ คะ”
“ไม่ใช่ ฉันมีเรื่องอยากเจอเขา เธอให้เขากลับมาได้ไหม?” ดูเหมือนเทย่าจะมีท่าทางกังวลใจ นรมนมองบุริศร์ ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี
บริศร์รีบเอาโทรศัพท์มา
“น้าครับ ผมบุริศร์นะ เจตต์ดื่มไปเยอะมาก ตอนนี้หลับอยู่ มี เรื่องอะไรคุณบอกผมดีกว่า ผมจะดูให้
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ เทย่าก็ถอนหายใจก่อนพูดขึ้น “ก็ไม่ใช่ เรื่องใหญ่อะไร เมื่อกี้ฉันแค่ได้ยินเสียงในบ้าน ตั้งใจจะลงไปดู แต่สะดุดล้ม ตอนนี้ลุกไม่ขึ้น วันนี้คนใช้ในบ้านหลานชายก็เป็น ไข้ เธอไม่อยู่ ฉันก็เลยอยากให้เจตต์กลับมาพาฉันไปหาหมอที่ โรงพยาบาล อาจจะกระดูกหัก
สีหน้าบริศ เครียดทันที
“น้าครับ คุณอย่าขยับไปไหน ฉันกับนรมนจะไปเดี๋ยวนี้”
“โอเค แต่ถ้าเรียกเจตต์ให้ตื่นได้ ก็เรียกเขาดีกว่า อย่ารบกวน พวกคุณเลย”
เทย่าพูดแบบนี้
บุริศร์รีบพูดขึ้น “เขาตื่นมาก็ขับรถไม่ได้ ให้เราไปดีกว่า คุณ
รอก่อนนะ เดี๋ยวเราจะถึงแล้ว
พูดจบ บุริศร์ก็วางสายทันที และทันใดนั้นก็สตาร์ทรถ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“น้าเทย่าสะดุดล้มที่บ้าน
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็พูดขึ้นอย่างหดหูเล็กน้อย “นี่มัน
เกิดอะไรขึ้น? มีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นไม่หยุด “ไปดูก่อนค่อยว่ากันดีกว่า ทางด้านเจตต์ต้องรอนิตาออกมาถึงจะมีผลสรุป ตอนนี้อย่าไปบอกเขา เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เราไปดูกันก่อนไปส่งน้าเทย่าที่โรงพยาบาลก่อนค่อยว่ากัน
“คงต้องเป็นแบบนี้”
นโมนพยักหน้า
บุริศร์มองเธอแล้วพูดขึ้น “ถ้าคุณเหนื่อยก็พักผ่อนสักหน่อย ไม่ ก็เดี๋ยวผมไปคนเดียว ไปส่งคุณกลับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก่อน?”
“ไม่ต้อง ไปดูด้วยกันดีกว่า”
ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ที่บ้านเจต
เมื่อนรมนไปถึง เทย่าก็กำลังจะลุกขึ้นเอง แต่อย่างไรก็ลุกไม่
ขึ้น กลับทำให้ตัวเองล้มไปหนักกว่าเดิม
“คุณน้า คุณอย่าขยับ ฉันจะพยุงคุณให้ค่ะ”
ขณะที่นรมนพูดก็วิ่งไปหาเทย่า แต่ยังไม่ทันถึงตัวเทย่า ทันใด นั้นเธอก็รู้สึกลื่น ราวกับเหยียบอะไรบางอย่าง ร่างล้มลงไปด้าน หลังทันที
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ