บทที่ 755 ลำบากคุณแล้วนะ ที่รัก
“เอาล่ะ ไปนอนบนเตียงซะ”
สุดท้ายบุริศร์ก็ควบคุมความหึงหวงของตัวเองไว้ไม่ได้ เลยดึง แขนของเจตต์ออก แล้วลากเขาไปที่เตียงผู้ป่วย
เจตต์ยังคงอยู่ในอารมณ์แตกตื่นมาก
บริศรบอกให้หมอฉีดยานอนหลับให้เจตต์ เพื่อให้เขาหลับไป
สักพัก
ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็พากันปาดเหงื่อ และรู้สึกนับถือบุรี
ศ มาก
“คุณบุริศร์ครับ วันนี้พวกเราต้องขอบคุณมากจริงๆ
“ขออภัยด้วยครับ คนรักของเขาอยู่บนเครื่องบินไฟท์นั้น พวก คุณช่วยเห็นใจหน่อยนะครับ”
บริศ พูดเบาๆ
“พวกเราเข้าใจครับ เข้าใจ
พอหมอและพยาบาลพูดจบก็จากไป
นรมนเห็นเจตต์เป็นแบบนี้ ก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “นี่เป็นสิ่ง ที่สวรรค์กลั่นแกล้งใช่ไหม ?”
“หรือจะพูดว่าพวกเขามีบุญแต่ไร้วาสนา พวกเขาไม่ควรคู่กันเพียงแต่ว่าเจตต์คงจะต้องเศร้าโศกเสียใจไปสักพักแน่ๆ
บุรีศรัมองดูเจตต์ ถึงแม้จะแสบอยู่ แต่ก็ยังหมวดกันแน่น เขาเข้าใจถึงความรู้สึกของการสูญเสียคนที่รัก ราวกับโลกทั้ง ใบล่มสลาย ไร้ความปรานี
ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะคุณนายตระกูลโตเล็กห้ามเขาเอาไว้ ไม่ปล่อยให้เขาตายไปอย่างไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น บุริศร์ คงตามไปตั้งแต่วินาทีที่รู้ข่าวว่านรมนตายอยู่ในกองเพลิงนั้น แล้ว
เขาถอนหายใจทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ฉันไปจองโรงแรม ก่อน เกรงว่าคงต้องอยู่ที่นี่อีกสักพัก ก่อนที่จะหานิตาเจอ เขาไม่มี ทางไปจากที่นี่หรอก
“ลำบากคุณแล้วนะ ที่รัก”
นรมนมองบุริศร์อย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย
บริศร์ลูบหัวเธอแล้วพูดว่า “อย่าปล่อยให้ร่างกายตัวเองต้อง เหนื่อยล่ะ เรื่องอื่นฉันอดทนได้”
“อืม”
นรมนรู้ดีว่าบุริศร์เป็นห่วงตัวเอง แน่นอนว่าคงไม่กล้าทรมาน ตัวเอง
บริศ ไปจองโรงแรม ส่วนนเมนก็ตามหาคนให้ช่วยตรวจสอบ เรื่องเครื่องบิน เพียงไม่นาน ตำแหน่งของการลงจอดก็ถูกส่งมา
ตอนที่เจตต์ตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาหัว แล้ว
สำหรับเรื่องที่พวกบุริศร์ฉีดยานอนหลับให้เขานั้น เขาไม่ได้มี ความเห็นมากนัก หลังจากตื่นขึ้นมาค่าแรกที่พูดก็คือ “หา ตำแหน่งที่เกิดเรื่องเจอหรือยัง ?
“หาเจอแล้ว แต่ว่านายจะต้องแน่ใจก่อนว่าตัวนายเองมีแรก กายพอที่จะไปที่นั่น ฉันไม่อยากเห็นนายไปเป็นลมล้มพับที่นั่น แล้วต้องแบกนายกลับมาหรอกนะ เรี่ยวแรงของนรมนนายเองก็รู้ ดี ดังนั้นเจตต์ ฉันรู้ว่านายเสียใจ แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยัง ไง นายก็ต้องทำให้ตัวเองสงบเข้าไว้ ถ้าทำได้พวกเราก็จะไปกัน
“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว รีบบอกมา ที่ไหน ?”
สําหรับคําพูดของบริศร์ เจตต์ไม่ได้มีคำชี้แจงที่ชัดเจน
บริศ เข้าใจความรู้สึกของเขา เลยพกยาต้านการอักเสบและ ขึ้นรถไปพร้อมกับพวกนรมนและเจตต์ แล้วเดินทางไปยังจุดที่ เกิดเหตุ
ผู้คนจํานวนมากล้อมรอบสถานที่เกิดเหตุ
ที่นี่มีร่องรอยของเครื่องบินที่ชนภูเขาและตกลงมา
พอเจตต์เห็นฉากที่น่าเศร้านี่แล้ว ตัวเขาก็แหลกสลายไปใน
ทันที
เขาพุ่งเข้าไปราวกับคนบ้า และเริ่มตามหาร่างของนิตา
“เจตต์ นายอย่า…….
นรมนอยากจะดึงเขาเอาไว้ แต่กลับถูกบุริศร์หยุดไว้ก่อน
“ให้เขาไปหาเถอะ ไม่ว่าจะหาเจอหรือไม่ เขาก็ต้องแบกรับทุก สิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวคนเดียวอยู่แล้ว สิ่งที่พวกเราช่วยได้ก็มีแค่ คอยอยู่เคียงข้างเขาเท่านั้น”
ใจของนรมนรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาทันที
“คุณว่าหากฉันไม่ต่อต้านนิตาขนาดนั้น นิตาก็คงไม่ไปจากเจต ใช่หรือเปล่า ? ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงได้นั่งเครื่องบินไฟท์นั้น เพื่อจากไปล่ะ”
พอบริศร์ได้ยินนรมนพูดอย่างนั้น ก็อดรู้สึกปวดใจไม่ได้และ ดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว นี่อาจเป็นโชคชะตา
ของนิตา อย่าเอาเรื่องทุกอย่างมาใส่ตัวเอง ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ
?”
“ฉันก็แค่รู้สึกสงสารเจตต์เท่านั้นแหละ”
“เขาเป็นผู้ชายตัวโตขนาดนั้น แบกรับได้อยู่แล้ว ถึงแม้ขั้น ตอนระหว่างนั้นจะเจ็บปวดอยู่บ้างก็เถอะ
บริศร์มองดูท่าทางบ้าคลั่งของเจตต์ ราวกับมองเห็นตัวเองเมื่อ ห้าปีก่อน
ตอนนั้นเขาเองก็เกือบจะพุ่งเข้าไปในกองเพลิง และตามนรมน
ไป
นรมนมองดูบุริศร์ ก็ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้เหมือนกัน
“เมื่อห้าปีก่อน ตอนที่รู้ว่าฉันถูกฝังอยู่ในเปลวเพลิง คุณเองก็
เป็นแบบนี้เหมือนกันใช่ไหม ? เธอจ้องมองบุริศร์ ถึงแม้พฤกษ์จะเคยบอกเรื่องนี้กับเธอแล้ว
แต่ว่าเธอก็ยังอยากจะได้ยินมันจากปากของบริศร์
บริศ ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่แววตากลับอ่อนโยนขึ้นมาก
“เสี้ยววินาทีนั้นฉันจำอะไรไม่ได้เลย รู้แค่ว่าภรรยากับลูกของ ฉันอยู่ในนั้น ฉันปล่อยให้พวกเขาถูกไฟล้อมรอบเอาไว้ไม่ได้ ดัง นั้นฉันก็เลยคิดที่จะเข้าไป แต่ว่าตอนนั้นมีคนมากมายลากฉันเอา ไว้ไม่ยอมปล่อยฉันเข้าไป ทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันเข้าไป ? ในนั้น มีภรรยากับลูกของฉันอยู่นะ ฉันตะโกนออกไปแบบนั้น แต่กลับ ไม่มีใครฟังฉันเลย สุดท้ายพฤกษ์ก็ต่อยฉันจนสลบแล้วพาตัว กลับ พอฉันตื่นขึ้นมาอีกที ทุกอย่างก็จบสิ้นแล้ว ฉันไปที่นั่นเพื่อ ตามหาอยู่นานแสนนาน แต่กลับหาร่องรอยของเธอไม่พบเลย ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าสีสันของโลกทั้งใบหายไปหมด
มันมืดครึ้ม และหดหู่มาก หดหูจนฉันอยากร้องไห้ แต่ไม่ว่ายัง ไงก็ร้องไห้ไม่ออก”
ฟังบริศ พูดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ในใจของนรมน ก็เริ่มอึดอัดขึ้นมา
เธอกอดบริศ เอาไว้แน่น แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ถ้าฉันไม่ได้รู้ ความจริงเหล่านั้นหลังจากกลับมาในประเทศ คุณไม่กลัวว่าฉัน จะแก้แค้นคุณจริงๆบ้างเหรอ ?”
“แก้แค้นเถอะ ขอแค่เธอยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะให้ฉันต้องลิ้ม รสชาติความทุกข์ทรมานของนรกบนดินแบบไหน ฉันก็เต็มใจ
บริศร์กับนรมนมองตากันแล้วยิ้มออกมา อารมณ์ทั้งหมดต่างก็ ตลบอบอวลไม่หยุด
เจตตามหาอยู่นาน ตามหาจนหมดเรี่ยวแรง ตามหาจนแสง
อาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว แต่ก็ตามหาร่างของนิตาไม่พบ
ที่นี่มีซากของร่างที่แขนขาขาดมากมาย แยกไม่ออกเลยว่า ใครเป็นใคร
เจตคอยปลอบใจตัวเองตลอดเวลา ถ้าหาไม่เจออาจจะยัง เหลือความหวังอยู่ แต่ยิ่งเวลาที่ตามหาผ่านไปนานและเรียมแรก ที่ใช้ไปมากแล้ว ก็ทำให้ความหวังยิ่งริบหรี่
พอบริศร์กับนรมนเห็นเจตต์เป็นแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา “ดื่มน้ำแล้วพักสักหน่อยเถอะ ถ้าหาไม่เจอ อาจจะเป็นข่าวดี
คำพูดของนรมนทำให้เจตต์ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“ถ้าหากรู้แต่แรกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตอนนั้นไม่ว่ายังไง ฉันก็จะไม่ยอมให้เธอจากไปคนเดียวเด็ดขาด”
“นิตานั่งเครื่องบินเพื่อไปที่ไหนเหรอ ?”
นรมนอยากถามตั้งนานแล้ว แต่เพราะรู้สึกว่าไม่ถูกจังหวะ และ สถานที่ที่ไม่เหมาะสมด้วย
เจต ดื่มนํ้าค่าหนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “น้องชายของเธอโทรมา หา บอกว่าป่วย นิตาก็เลยบอกว่าจะไปเยี่ยมน้องชายเธอ ฉัน บอกว่าจะไปกับเธอด้วย เธอบอกว่ายังไม่ได้คุยกับน้องชายเกี่ยว กับเรื่องของฉัน ให้ฉันรอคราวหน้าค่อยว่ากัน เธอไปอย่างรีบ ร้อน ฉันเองก็ไม่ทันได้ทําอะไร แล้วก็ส่งเธอขึ้นเครื่องบินไปทั้ง อย่างนั้น คิดไม่ถึงว่า……..
เจตต์ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจ
คิ้วของบริศ ขมวดแน่นขึ้นมาทันที
“น้องชายของเธอป่วย ? ทำไมพวกเราถึงไม่รู้ล่ะ ?”
“พวกนาย ? พวกนายรู้จักน้องชายของเธอเหรอ ?”
ใช่สิ น้องชายของเธอโสธร พวกเราเพิ่งแยกกันได้ไม่นาน อี กอย่างโสธรก็ไม่ได้ป่วยนะ ตอนที่เขาโทรหานิตา ฉันก็อยู่ข้างๆ ด้วย ตอนที่พวกเขาคุยกันไม่ได้พูดถึงเรื่องอาการป่วยเลย
นรมนคิดอยู่ว่าจะบอกเจตต์เรื่องที่นตาบอกว่าตัวเองไม่มีแฟน แต่ในสถาการณ์แบบนี้ ถ้าเกิดตัวเองพูดออกไป เธอกลัวว่าเจตต์ จะรับไม่ได้
พอเจตต์เห็นนรมนกับบริศร์พูดแบบนี้ ก็รีบพูดขึ้นว่า “งั้นตอน นี้พวกนายติดต่อน้องชายของเธอได้ไหม ? ถามเขาที่ว่านตาไป หาเขาหรือยัง หรือไม่ หรือไม่เธออาจจะไม่ได้ขึ้นเครื่องบินก็ได้”
นี่เป็นสิ่งที่เจตต์จินตนาการไปเอง
แต่ว่าบุริศร์กับนรมนก็ไม่ได้เปิดโปงเขา
“ฉันจะลองโทรไปหาโสธร”
บริศ หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหาโสธร และโทรศัพท์ของโสธรก็โทรติดอย่างรวดเร็ว “ประธานบริศร์ โทรหาผมมีธุระอะไรเหรอครับ ? “พี่สาวของนายไปหานายหรือเปล่า ? บริศ ถามออกไปตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม
โสธรชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ว่าก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ประธานบริศร์รู้ได้ยังไงครับว่าพี่สาวผมจะมาหา ? เธอเพิ่งลง จากเครื่องบิน ผมกำลังเตรียมตัวจะไปรับเธออยู่เลยครับ พอได้ยิน โสธรพูดแบบนั้น เจตต์ก็ลุกขึ้นมาทันที
“พี่สาวของนายติดต่อนายไปเมื่อไหร่”
“คุณคือ……
“นายไม่ต้องสนว่าเป็นใคร ฉันถามนายว่า นิตาติดต่อนายไป ตอนไหน ?”
อารมณ์ของเจตต์แตกตื่นเป็นอย่างมาก
โสธรเลยรีบพูดว่า “สิบนาทีก่อนมั้งครับ มีอะไรเหรอ ?”
สิบนาทีก่อน ?
เจตต์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ๆก็หัวเราะเสียงดังออกมา
“นิตาไม่เป็นไร เธอไม่เป็นไร!”
นรมนกับบุริศร์มองดูเจตต์ที่หัวเราะราวกับคนบ้า ไม่ได้ดีใจ เท่าเขา
บุริศรพูดกับโสธรว่า “ส่งที่อยู่ของนายมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันค่อย โทรหานายอีกที”
“ได้ครับ ประธานบริศร์”
โสธรส่งที่อยู่ของตัวเองไปให้บริศร์ จากนั้นก็วางสายไป เจตต์หัวเราไปหัวเราะมาก็เงียบลง
พอหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วจู่ๆก็เงียบลง ทำให้อากาศ เหมือนจะหยุดนิ่งอย่างกะทันหัน กดดันจนทำให้คนรู้สึกหายใจ ไม่ค่อยออก
นรมนตบบ่าของเจตต์ แล้วพูดปลอบว่า “อย่าเป็นแบบนี้สิ นายควรจะคิดว่า เธอยังสบายดีและมีชีวิตอยู่ นี่ก็เป็นข่าวที่ดี ที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ ?”
“นั่นสิ เธอยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดแล้ว แต่ว่าทำไมเธอ ถึงต้องหลอกฉันด้วย ? ฉันเห็นเธอจองตั๋วเครื่องบินไฟท์นั้นกับตา ตัวเอง แต่ว่าเธอกลับนั่งไฟท์ที่สายกว่านั้น ทำไมเธอต้องกีดกัน ฉันขนาดนั้นด้วย ? ฉันเป็นคนที่ไร้ความสามารถขนาดนั้นเลยเห รอ ?”
เป็นครั้งแรกที่เจตต์รู้สึกหมดความมั่นใจและความกล้าหาญ
นายอย่าเป็นแบบนี้สิ เจตต์ นายยอดเยี่ยมมาก นิดาอาจจะมี เรื่องลำบากที่พูดไม่ได้ กลับไปพอพวกเราเจอกันแล้วค่อยถาม ก็ได้”
คำพูดของนรมนทำให้เจตต์ชะงักไปครู่หนึ่ง
บริศ เห็นเขาเป็นแบบนั้น ก็อดพูดไม่ได้ว่า “ยังจะซื้ออยู่ทำไม ล่ะ ? ขึ้นรถสิ ! วันนี้พวกเราไปหาโสธรเลย ดูสิว่านิตาจะมีลูกไม้ อะไรอีก ไม่ว่านายจะมีความรู้สึกยังไงกับผู้หญิงคนนี้ อย่างน้อยมี อยู่เรื่องหนึ่งที่นายต้องเข้าใจไว้ ผู้หญิงคนนี้คุ้มค่าพอที่นายจะ ทุ่มเทแบบนี้ไหม เจตต์ นายทำตัวให้มันเข้มแข็งหน่อย ฉันกับพร มนจะข้ามเส้นทางนี้ไปกับนายเอง
บริศร์หิ้วเจตต์ขึ้นมา
เจตต์มองดูบุริศร์ แล้วก็ยิ้มอย่างขมขื่นเล็กน้อย
“รู้สึกว่าฉันโง่มากเลยใช่ไหม ? ที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งในหัวแล้ว ยังไม่ยอมแพ้อีก นี่ไม่ใช่สไตล์ของคนอย่างเจตต์เลย
“มนุษย์ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้กันทั้งนั้น อาจจะเป็น เพราะวาสนาของพวกนายไม่มากพอ หรืออาจเพราะวาสนา ต้องการให้พวกนายต้องก้าวข้าม
ขอแค่นายรู้สึกว่ามันคุ้มค่า ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง นั่นก็คือตัว นายเจต
คำพูดของบริศ ทําให้ดวงตาของเจตต์เริ่มเป็นประกาย
นั่นสิ !
เขาจำเป็นต้องรู้ให้แน่ชัด ว่านตาทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่ ? เธอบอเขาเล่นแบบนี้สนุกมากหรือไง ?
ชาญบอกว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเธอ หรือว่าทั้งหมดนี้เป็นคำสั่ง ของคนที่อยู่เบื้องหลัง ?
ดวงตาของเจตต์มีประกายแสงเปล่งออกมา
ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ต้องไปดูให้แน่ชัดว่าทั้งหมดนี้มันคือ อะไรกันแน่ !
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ